ตอนที่ 46 ไม่ใช่กลิ่นนี้

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 46 ไม่ใช่กลิ่นนี้

ไป๋เยี่ยคิดไว้ตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องแล้ว

นี่คือการหลอกเอาเงินชัดๆ!

วินาทีนั้นที่กลิ่นเหล้าโชยออกมา ไป๋เยี่ยแค่ดมก็รู้แล้วว่ามันไม่เหมือนกลิ่นเหล้าเหมาไถเลยสักนิด!

ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะดูไม่ออกก็ได้ แต่เพราะว่าเถ้าแก่ไป๋ชอบเหล้าเหมาไถมาก ตอนเด็กๆ ไป๋เยี่ยมักจะแอบดื่มมันอยู่หลายครั้ง เขาจึงคุ้นเคยกับกลิ่นของมันเป็นอย่างดี!

ตั้งแต่ที่หน้าที่การงานของเถ้าแก่ไป๋รุ่งเรืองขึ้น เหล้าที่เขาดื่มก็หนีไม่พ้นเหล้าเหมาไถ ถ้าหากถามว่าไป๋เยี่ยคุ้นเคยกับเหล้าอะไรมากที่สุด ก็คงเป็นเหล้าเหมาไถนั่นแหละ

เพราะฉะนั้นหลังจากที่ไป๋เยี่ยลองพิจารณาดูแล้ว เขาก็ใช้ความคิดอย่างรอบคอบ และเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นโดยทันที!

เมื่อเห็นว่าไป๋เยี่ยไม่มีท่าทีร้อนรน ชายคนนั้นก็เอ่ยเสียงต่ำพร้อมกับใบหน้าเคร่งขรึม “ถ้าคุณไม่จ่าย ผมจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย ถึงตอนนั้นเรื่องก็คงไม่จบแค่ที่สองหมื่นหยวนหรอกนะ!”

ไป๋เยี่ยส่ายหัวแล้วตอบเสียงเรียบ “งั้นคุณก็แจ้งสิ!”

ชายคนนั้นชะงักไป เขานึกไม่ถึงเลยว่าไป๋เยี่ยจะเล่นบทนี้! หรือว่าจะถูกจับได้แล้วจริงๆ ไม่มีทางหรอกน่า! เขามีประวัติการอาชญากรรมที่นี่ แค่สอบสวนดูก็รู้แล้วว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องนี้แค่ครั้งสองครั้ง!

เขาจึงหันไปพูดกับคนข้างๆ “ทุกคนคิดว่าไงครับ เขาเดินชนขวดเหล้าผมจนแตกกระจาย เหล้าหกเต็มพื้นไปหมด แถมยังไม่คิดจะชดใช้ค่าเสียหายอีก! ทุกคนว่าผมควรจะทำยังไงดี!”

“จ่ายเงินสิ! ไม่จ่ายก็อย่าคิดหนี!” ทันใดนั้นก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งเดินตรงมายังชายหัวโล้นด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด

“ใช่! มีสิทธิ์อะไรถึงไม่จ่าย!”

อันที่จริงไป๋เยี่ยไม่ได้อยากใส่ใจเลย แต่คนก็เอาแต่ส่งเสียงโหวกเหวกมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงกดโทรหนึ่งหนึ่งศูนย์หาตำรวจทันที

ทว่าในขณะที่ไป๋เยี่ยกำลังโทรหาตำรวจ ชายคนนั้นก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์เขาไป

“คุณจะเรียกคนมาเหรอ! อย่าคิดเรียกใครมาเชียว จ่ายเงินมาซะดีๆ!” ชายคนนั้นขู่

ไป๋เยี่ยจึงกล่าวด้วยสีหน้าที่นิ่งเรียบ “คุณกำลังหลอกผมอยู่ และคุณจะต้องถูกจับ!”

ชายคนนั้นตะโกนเสียงดังด้วยความมั่นใจ “ผมเนี่ยนะหลอกคุณ ล้อกันเล่นหรือเปล่า คุณทำของของผมแตกก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผมสิ! วันนี้คุณต้องจ่ายผมมาห้าหมื่น ห้ามขาดไปแม้แต่หยวนเดียว!”

ผู้คนรอบๆ เริ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้

ไป๋เยี่ยส่ายหัวไปมา “ได้! ในเมื่อคุณบอกว่านี่คือเหล้าเหมาไถล่ะก็ ผมจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่ามันไม่ใช่!”

ไป๋เยี่ยพูดพร้อมกับหยิบขวดเหล้าที่ยังมีเหล้าเหลืออยู่ขึ้นมา “จะหลอกคนทั้งทียังไม่หัดลงทุนหน่อยเลย! อย่าว่าแต่เหล้าเหมาไถเลย เหล้านี่ไม่ใช่เหล้าธัญพืชด้วยซ้ำ นี่มันก็แค่เหล้าผสมเท่านั้นเอง!”

ชายคนนั้นได้ยินก็โกรธจนควันออกหู “เหลวไหล! มันใช่เหล้าผสมซะที่ไหนกัน นี่แหละเหล้าเหมาไถ”

ไป๋เยี่ยไม่ได้โต้ตอบ แต่กลับพูดกับตนเองแทน “เหล้าเหมาไถเป็นเหล้าหอมที่ให้กลิ่นหอมเข้มข้นชนิดหนึ่ง แต่เหล้าของคุณน่ะ…อะแฮ่ม แค่หอมสดชื่นอย่างเดียว นี่คุณหลอกคนทั้งทีก็ไม่คิดจะลงทุนหน่อยเหรอ”

“กระบวนการหมักของเหล้าเหมาไถนั้นซับซ้อนมาก อีกทั้งชนิดของไขมันที่เกิดขึ้นจากกระบวนการหมักข้าวฟ่างและข้าวสาลีนั้นยังซับซ้อนจนแยกกลิ่นได้ไม่ชัดเจน กลิ่นที่ได้จึงเป็นกลิ่นหอมที่เข้มข้นมากยังไงล่ะ”

“แต่เหล้าบนพื้นน่ะมีกลิ่นหอมสดชื่น ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นกลิ่นของเอทิลอะซิเตตและเอทิลแลคเตตผสมกันต่างหาก…อีกอย่าง…มันไม่เหมือนกลิ่นเหล้าเหมาไถเลยสักนิด!”

“แค่กลิ่นเหล้าเหมาไถคุณยังไม่รู้เลย แล้วยังคิดจะหลอกคนอื่นอีกเหรอ”

ชายคนนั้นหน้าถอดสี ไม่หลงเหลือท่าทีสงบนิ่งในตอนแรกแล้ว “แกมันเพ้อเจ้อ! ฉันไม่เคยเปิดเหล้าขวดนี้เลย! เถียงคำไม่ตกฟากชะมัด!”

ไป๋เยี่ยจึงชูขวดเหล้าในมือขึ้นมา “ไม่เคยเปิดงั้นเหรอ เหอะๆ! ได้ งั้นผมจะโชว์ให้เห็นเองว่านี่คืออะไร!”

พูดจบไป๋เยี่ยก็หยิบขวดเหล้าที่ส่วนฐานแตกไปแล้วขึ้นมาให้ทุกคนได้ดู “ทุกคนดูนี่ดีๆ นะ มาดูว่าเขาทำเหล้าเหมาไถปลอมกันยังไง!”

ฉลากบนขวดเหล้าชื้นจนไป๋เยี่ยฉีกมันออกได้อย่างง่ายดาย

บนขวดสีขาวมีจุดสีเล็กๆ จุดหนึ่ง

จุดจุดนั้นเล็กมาก มีขนาดประมาณหัวเข็มฉีดยาเท่านั้น ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็คงมองไม่เห็นเลย ไป๋เยี่ยเอ่ยขึ้น “นี่ไง วิธีที่คุณใช้ก่อคดีน่ะ”

พูดจบก็หันไปหาคนอื่นๆ “ทุกคนดูนี่ครับ มีการเจาะรูใต้ฉลากของเหล้าขวดนี้ เขาเปลี่ยนเหล้าเดิมออกเป็นเหล้าปลอม แล้วใข้กาวอุดรูไว้ คุณน่ะมีอะไรจะพูดอีกไหม”

ต่างคนต่างหยิบขวดเหล้าขึ้นมาดู

“จริงด้วย! มีรูเล็กๆ จริงด้วยแฮะ ของปลอมชัดๆ!”

“ไม่คิดเลยว่าเหล้าที่ยังไม่ได้เปิดขวดก็เป็นของปลอมได้ด้วย! น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

ชายคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันที ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้ต้มคนซะแล้ว แต่สุดท้ายดันเป็นเขาเองที่โดนต้ม!

ถือว่าชายคนนั้นโชคร้ายมาก!

เพราะว่าเมื่อตอนไป๋เยี่ยยังเด็ก เถ้าแก่ไป๋ชอบดื่มเหล้าเหมาไถมาก และมักจะซื้อกลับมาบ่อย ทว่าก็มีบ่อยครั้งที่เขาซื้อของปลอมกลับมา

เขาโดนหลอกมามากจนมันหล่อหลอมกลายเป็นประสบการณ์ เถ้าแก่ไป๋บอกว่าวิธีการทำเหล้าปลอมนั้นมีอยู่สามวิธี ได้แก่ เปลี่ยนฉลาก ซีลด้วยฟิล์ม และเจาะรู!

นั่นล้วนเป็นประสบการณ์ที่เถ้าแก่ไป๋หามาได้ด้วยการเสียเงิน! ไป๋เยี่ยจึงเรียนรู้มันไว้

จู่ๆ ก็มีเสียงดังแว่วมาจากด้านนอก “ทุกคนถอยไป ตำรวจมาแล้ว!”

ผู้ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถมาพร้อมกับชายในชุดตำรวจสามคน เขาเบิกตากว้างทันทีที่เห็นชายหัวโล้น “แกอีกแล้วเรอะ! ครั้งที่เท่าไหร่ของเดือนแล้วล่ะ เปลี่ยนสถานที่แล้วยังจะก่อเรื่องอีก พาตัวเขาไป!”

ชายหัวโล้นเห็นดังนั้นก็ยิ้มแห้งๆ พร้อมกับรีบพูดแก้ตัว “เข้าใจผิดแล้ว คุณตำรวจเหอ นี่มันเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ จริงๆ นะ ผมไม่ได้หลอกใครเลย!”

ตำรวจแทรก “ใครอนุญาตให้แกไป ยืนนิ่งๆ เดี๋ยวนี้!”

พูดจบเขาก็เดินมาข้างๆ ไป๋เยี่ย “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”

สุดท้ายชายหัวโล้นก็ถูกพาตัวไป ไป๋เยี่ยก็ได้โทรศัพท์คืน ฝูงชนก็พากันแยกย้าย ทว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยกลับเห็นว่ามีชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งกำลังมองมาทางเขาด้วยรอยยิ้ม

ไป๋เยี่ยรู้สึกคุ้นหน้าชายคนนี้มาก จึงเดินเข้าไปหา “คุณเป็นคนแจ้งตำรวจใช่ไหม ขอบคุณมากนะครับ!”

ชายหนุ่มโบกมือ “ผมรู้จักคุณ คุณคือไป๋เยี่ยสินะ”

ไป๋เยี่ยผงะ “คุณคือ…”

ชายหนุ่มยิ้มตอบ “ผมชื่อหยางเจ๋อ หยางเจ๋อที่ได้ที่สองน่ะ”

จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็ระลึกขึ้นได้ เขาคืออันดับที่สองจากการแข่งขันความรู้แพทย์แผนจีน หยางเจ๋อจากเมืองจิงตูนั่นเอง!

ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเขาที่นี่!

ชายหนุ่มเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มานั่งด้วยกันสิ ดื่มอะไรหน่อยไหม”

ไป๋เยี่ยคิดอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเขาไป

ทั้งสองคนไปหาที่นั่งที่ร้านกาแฟใกล้ๆ หยางเจ๋อสูงกว่าไป๋เยี่ยไม่มากนัก แต่เขาดูหล่อเท่มาก เขาสวมชุดสูทราคาแพงและนาฬิกาข้อมือรุ่นจักรราศีจากแบรนด์ลองจินส์