ตอนที่ 13 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (13)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 13 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (13)  

ปิ๊บ…ปิ๊บ…

ทันใดนั้นเสียงเครื่องตรวจจับก็ดังขึ้น

สวี่หลิงอวิ๋นขมวดคิ้วแน่น มีอะไรอยู่ใต้ล่างนี้กันแน่? ทำไมสัญญาณแจ้งเตือนถึงเปลี่ยนเป็นสีดำ?

ผู้ชมทั้งหลายเอนตัวไปด้านหน้า ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างลุ้นระทึก!

“พระเจ้า! สัญญาณแจ้งเตือนเปลี่ยนเป็นแสงสีดำเหรอ?! นั่นแปลว่าภายใต้พื้นที่แห่งนี้มีแร่พลังงาน!”

“รีบไปซ่อมทางเชื่อมมิติซะ! อย่าให้พวกเอเลี่ยนมาเจอมันเด็ดขาด!”

“ขอบคุณนะเจ้าพริก! ไม่อย่างนั้นแร่พวกนี้คงถูกพวกมันกัดกินไปจนหมด!”

……

ดาวเคราะห์รกร้างแห่งนี้ทำให้ผู้ชมตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขาค้นพบแร่พลังงาน!

พระราชาทรงมีคำสั่งให้ช่างทุกคนรีบเข้าไปซ่อมแซมทางเชื่อมมิติโดยทันที หากเป็นเมื่อก่อนรัฐมนตรีการคลังคงกล่าวค้านโดยให้เหตุผลว่าการใช้คนจำนวนมากเป็นความสิ้นเปลืองทรัพยากรทางการคลัง ทว่าในตอนนี้รัฐมนตรีการคลังกลับไม่กล่าวเช่นนั้น แถมยังบอกอีกว่าจำนวนช่างของจักรวรรดิมีไม่มากนัก

พวกเขาจึงเรียกร้องให้จัดตั้งวิทยาลัยช่างเทคนิคเพิ่มอีกสองแห่ง

ทุกคนต่างให้ความสนใจกับแร่อันล้ำค่านี้

“ความโชคดีขององค์หญิงสามมีมากจนเหลือล้น ว่าไหม? ก่อนหน้านี้เธอออกสำรวจและพบเข้ากับอาหารมากมาย แล้วตอนนี้ยังพบแร่พลังงานที่หาเจอได้ยากอีกด้วย ฮึ่ม! หรือบางทีฉันควรจะเชื่อคำทำนายของโหรหลวง”

“จริงด้วย!”

………

ท่านพลเอกโอคาซีได้รับการแจ้งเตือน และสั่งให้เหล่าทหารหยุดเก็บพริกในทันที โดยพริกเหล่านี้สามารถป้องกันเอเลี่ยนได้

สวี่หลิงอวิ๋นรื้อฟื้นเรื่องราวในความทรงจำของตัวเอง และตระหนักได้ว่าแร่พลังงานนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

แร่พลังงานคือชิ้นส่วนสำคัญที่เหล่าทหารใช้ผลิตเครื่องจักรกล เพียงแค่แร่ขนาดเล็กก็สามารถช่วยให้เครื่องจักรกลมีอายุลากยาวถึงหนึ่งปี มันทั้งทรงพลังและมีประสิทธิภาพ นี่คือแร่พลังงานที่เหล่านักรบภายใต้เครื่องจักรกลใฝ่หามาโดยตลอด

มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นพบแร่พลังงาน ก่อนหน้านี้แร่ชนิดนี้มีไม่เพียงพอต่อทหารทุกคน มีเพียงทหารอาวุโสเท่านั้นที่สามารถครอบครองมันได้

“ผลการตรวจสอบเป็นยังไงบ้าง?” พลเอกโอคาซีถามออกไปด้วยท่าทีวิตกกังวล

“ท่านพลเอกครับ จากการตรวจสอบเบื้องต้น เราสามารถขุดเพื่อใช้ประโยชน์จากแร่พลังงานนี้ได้เป็นเวลาหนึ่งปี!” ชาร์ลเองก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน!

หนึ่งปี! เพียงปีเดียวก็เพียงพอสำหรับการใช้งานของเหล่านักรบทั้งจักรวรรดิเป็นเวลาสามปีแล้ว!

นี่เป็นข่าวที่น่ายินดี!

สวี่หลิงอวิ๋นไม่สนใจการขุดแร่มากนัก เธอเพียงกังวลแต่เรื่องอาหารเท่านั้น

เนื่องจากพระราชาทรงเป็นห่วงความปลอดภัยของพระธิดาเป็นอย่างมาก เขาจึงแอบติดตั้งแร่พลังงานหลายก้อนให้เธออย่างลับ ๆ ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะทำให้เธอใช้มันได้อย่างสิ้นเปลือง

โอคาซีจ้องมององค์หญิงสามที่กำลังมองดูบริเวณโดยรอบและเดินไปมา ก่อนจะกล่าวว่า “คราวนี้ผมต้องขอบคุณท่านจากใจจริง”

“ไม่เป็นไร ฉันแค่เจอมันโดยบังเอิญเท่านั้นแหละ” แร่พลังงานเป็นทรัพยากรของจักรวรรดิ ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่เธอค้นพบจะตกไปเป็นของจักรวรรดิแต่เพียงผู้เดียว

เนื่องจากมันไม่ใช่ของเธอ ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่สนใจมันมากนัก

“ผมสั่งให้กองกำลังทหารล้อมพื้นที่แห่งนี้ไว้หมดแล้ว เราจะปิดล้อมมันไว้อย่างแน่นหนาจนกว่าจะซ่อมทางเชื่อมมิติเสร็จ” โอคาซีกล่าว

“ดีมาก!” สวี่หลิงอวิ๋นตอบก่อนจะบิดขี้เกียจเล็กน้อย “คุณคงยุ่งมาก ถ้าอย่างนั้นฉันไปหาอาหารก่อนนะ”

“ผมจะไปกับท่าน!” โอคาซีอดเป็นห่วงเธอไม่ได้

“ไม่ต้อง! ท่านดูแลแร่พลังงานของเราไว้ให้ดีก็พอ ถ้าเอเลี่ยนบุกมา ท่านจะได้จัดการพวกมันได้เลย ทหารยังคงหวาดกลัวอยู่ พวกเขารับมือไม่ไหวหรอก” สวี่หลิงอวิ๋นพยายามพูดให้เขาคล้อยตาม “ไม่ต้องห่วง ถ้าฉันเห็นพวกเอเลี่ยน ฉันจะรีบวิ่งหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ให้พวกมันจับฉันได้หรอก!”

“ใช่! องค์หญิงสามไม่เป็นอะไรหรอกครับ ท่านพลเอก ท่านมาดูแลแร่ของเราเถอะครับ!”

ประโยคนี้ตามมาด้วยจำนวนกดถูกใจที่ยาวเหยียด!

เพียงแค่นี้ก็ทำให้สวี่หลิงอวิ๋นขุ่นเคืองมากพอแล้ว! เจ้าพวกบ้า ถ้าวันนี้เธอไม่ได้กินของอร่อย เธอคงจะฆ่าพวกเขาเสียให้หมด อย่าให้เธอได้เปลี่ยนนามสกุลล่ะ!

เธอเข้าไปในเครื่องจักรกลและเคลื่อนตัวออกไปอย่างขุ่นเคือง ขณะที่โอคาซียังคงรู้สึกกังวล

เมื่อชาร์ลเห็นคิ้วที่ขมวดเป็นปมแน่นของท่านพลเอก เขาจึงกล่าวว่า “ท่านพลเอก ถ้าท่านเป็นห่วงองค์หญิงสามก็ตามไปดูแลเธอเถอะครับ! ยังไงพวกเราก็ยังมีพริกอยู่ แถมทหารที่มีพละกำลังระดับหกดาวก็อยู่ที่นี่ พวกเรารับมือได้อยู่แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ผมจะส่งข้อความไปแจ้งท่านเอง”

โอคาซีมองดูชาร์ลด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง “งั้นฉันจะให้นายดูแลที่นี่แทน”

สวี่หลิงอวิ๋นไม่รู้ตัวว่าพลเอกหนุ่มกำลังตามเธอมา แม้ว่าเธอจะโดดเดี่ยวแต่กลับรู้สึกมีความสุข

แม้ว่าผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดจะรู้สึกโกรธเคืองเธอ ทว่าพวกเขากลับส่งข้อความปลอบโยนเธอ แต่มันกลับเป็นคำปลอบโยนที่เธอไม่ต้องการ!

“ในที่สุดองค์หญิงสามก็คิดได้สักทีว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ ทุกคนอย่าต่อว่าองค์หญิงสามเลย!”

บัดซบ! ใครบ้างจะไม่โกรธเมื่อได้ยินคำพูดหลอกลวงพวกนั้น?!

สวี่หลิงอวิ๋นหยุดอยู่บนพื้นที่โล่งกว้างและเหลือบเห็นร่องรอยของรากพืชบนพื้น เธอเอื้อมมือออกไปขุดมัน ก่อนจะพบว่ามันเป็นเพียงรากต้นไม้ที่ไร้ประโยชน์เท่านั้น

ทว่าหญิงสาวก็ไม่ยอมแพ้ คั้นน้ำที่อยู่ภายในรากไม้ออกมาเล็กน้อยแล้ววางบนเครื่องตรวจจับ

“ปลอดสารพิษ! อุดมไปด้วยวิตามินที่ร่างกายต้องการ…”

สวี่หลิงอวิ๋นเห็นคำว่าปลอดสารพิษบนจอแสดงผล นอกจากนี้ยังมีสารอาหารยังอยู่ในรากไม้

เธอลิ้มรสมันและพบว่ารสชาติของมันคล้ายกับหญ้าแห้งบนโลก ลืมมันไปเสียเถอะ ทว่ายังไม่แน่ใจนักว่ามันมีประโยชน์อย่างไร

“พระเจ้า! องค์หญิงสามกินรากไม้ที่เหี่ยว ๆ อย่างนั้นได้ยังไง? มันมีประโยชน์อะไรเหรอ?”

“เจ้าพวกบ้าหยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!” สวี่หลิงอวิ๋นพูดขณะโบกรากไม้ในมือของเธอ “ฉันจะใช้มันทำอาหารอร่อย ๆ ทีหลัง อย่าโง่นักเลย!”

“อุ๊บ!” ผู้ชมเงียบไปครู่หนึ่ง

เมื่อวานนี้พวกเขาได้รับประสบการณ์จากอาหารขององค์หญิงสามแล้ว ทั้งส่วนผสมเหล่านั้นและขั้นตอนการปรุงรสชาติปลาหมึกล้วนเป็นความคิดขององค์หญิงสาม ใครจะรู้ว่ารากไม้ที่เหี่ยวเฉาขององค์หญิงสามอาจกลายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศก็ได้

ฉะนั้นหุบปากเสีย!

“องค์หญิงสามผู้แข็งแกร่ง! ท่านทำตามใจชอบเถอะครับ! อย่าไปสนใจพวกโง่เขลาเลย!”

บนหน้าจอถ่ายทอดสดเต็มไปด้วยกำลังใจมหาศาลอีกครั้ง หากองค์หญิงสามเพลิดเพลินกับอาหารอันโอชะเพียงลำพังโดยไม่แบ่งปันรสชาติพวกนั้นให้แก่ผู้ชม พวกเขาจะไม่เศร้าโศกจนตายเลยหรือ?!

พวกเขาทำได้เพียงจ้องตาเป็นมัน โดยไม่สามารถรับรู้รสชาติได้!

สวี่หลิงอวิ๋นเดินอย่างเชื่องช้าพลางมองดูบริเวณโดยรอบอย่างระมัดระวัง เธอขุดค้นพบสิ่งของเป็นครั้งคราวแต่กลับไม่พบอะไร มีเพียงรากไม้ที่ไร้ประโยชน์นี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ความน่าเบื่อหน่ายนั้นช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย เธอหยิบดาบเลเซอร์ออกมาก่อนจะลงมือแกะสลักรากไม้

“ผลงานชิ้นเอกเสร็จสมบูรณ์แล้ว!” ในโลกที่แล้ว สวี่หลิงอวิ๋นชื่นชอบการแกะสลักเป็นอย่างมาก และยังมีความสามารถนั้นติดตัวอยู่

สวี่หลิงอวิ๋นแกะสลักตามรากไม้ เธอแกะสลักเป็นรูปชายชรากำลังนั่งยอง ๆ ตกปลาอยู่ รวมถึงสายน้ำที่คดเคี้ยว

รูปแบบการแกะสลักของเธอดูหยาบกระด้าง แต่มันกลับเผยให้เห็นถึงความเป็นอิสระและความกล้าหาญ

“พระเจ้า! องค์หญิงสามทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย! แม่คะ! ฉันจะไปล้างตาที่โรงพยาบาล!”

“แม่ของฉันถามว่าทำไมฉันถึงนั่งคุกเข่าดูวิดีโอนี้ ฉันอยากจะตอบเธอว่ามันควรค่าแก่การนั่งคุกเข่าดูเท่านั้น”

“องค์หญิงสามผู้สูงศักดิ์! กระผมมีความปรารถนาอยากจะซื้อผลงานชิ้นนี้ของท่าน ท่านจะมอบความปรารถนานั้นให้กระผมได้ไหมครับ?” นักธุรกิจผู้มีความสนใจทางด้านศิลปะเสนอราคาอย่างรวดเร็วหลังจากเล็งเห็นโอกาสทางด้านธุรกิจ

จากนั้นผู้ชมทั้งหลายจึงเริ่มตอบโต้ ตั้งคำถาม และเสนอราคา