ฉินเสี่ยวหยุนเคยตรวจสอบภูมิหลังของซูฟานแต่ก็ถูกชูเทียนฉีสกัดไว้
และฉินเสี่ยวหยุนไม่รู้ว่าเธอถูกสกัดกั้น สิ่งที่เธอเห็นคือข้อมูลของซูฟานที่เป็นคนธรรมดาไม่มีภูมิหลังอะไร
หากเป็นกรณีนี้โจวกั๋วผิงจะไม่ฆ่าซูฟานเอาเหรอ?
ซูฟานรู้ดีว่าแรงจูงใจของฉินเสี่ยวหยุนในการพูดเรื่องนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเขาเอง
นี่เป็นการเตือนตัวเองว่าอย่าประมาทศัตรู
และเขารู้เกี่ยวกับภูมิหลังของโจวกั๋วผิงอย่างเพียงพอแล้ว
ผู้ชายคนนี้น่าทึ่งจริง ๆ และฉินเสี่ยวหยุนไม่ได้พูดเกินจริงเลย
ซูฟานวางถ้วยลงหลังจากยกขึ้นจิบ
ฉินเสี่ยวหยุนกังวลเมื่อเห็นว่าเขาเงียบ
“คุณจะไม่บอกอะไรฉันหน่อยเหรอหรือว่าจะติดต่อใคร เมื่อโจวกั๋วผิงเจอคุณปัญหาก็จะยิ่งร้ายแรงนะ”
ซูฟานยกยิ้มจาง ๆ
“เขาจะสร้างปัญหาให้ผมทําไม”
ซูฟานถามฉินเสี่ยวหยุนจนเธองุนงงกับคําถามงี่เง่านี้
แต่ในไม่ช้าเธอก็ตอบสนอง
“ถามแบบนี้ได้ไง คุณจับโจวฟูเหิงและโจวกั๋วผิงก็เป็นพ่อของเขา!”
“ผมไม่ได้จับกุมเขา ผมจะมีอํานาจแบบนั้นได้ยังไง ก็แค่เขาก่ออาชญากรรมและถูกตํารวจพาตัวไปแบบนั้นเขาจะมาลงที่ผมได้ยังไง มันไม่มีเหตุผลเลยใช่ไหม?”
ซูฟานยังคงแสร้งทําเป็นโง่
“คุณอย่ามาล้อฉันเล่นนะ โจวฟูเหิงสร้างปัญหามาหลายปีแล้ว ฉันได้ยินมาเยอะแล้ว”
“ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ แม้ว่าตํารวจจะเห็นเขา พวกเขาก็แค่เดินออกไปจากสถานการณ์และปล่อยพวกนั้นไปและไม่เคยจับกุมพวกเขาเลย”
“แต่แล้ววันนี้ล่ะ พอคุณออกไปโทรศัพท์ โจวฟูเหิงก็ถูกจับ
ฉินเสี่ยวหยุนพูดอย่างมีอารมณ์ร่วม
ซูฟานมองไปที่ฉินเสี่ยวหยุนด้วยใบหน้าที่จริงจัง
“ผมคิดว่าคุณคิดผิดนะ ผมขอถามคุณว่าโจวฟูเหิงก่ออาชญากรรมใช่ไหม?”
“ใช่”
“ข้อกล่าวหานั้นของตํารวจจับคนร้ายได้หรือไม่?”
“ใช่…”
“แล้วโจวฟูเหิงก่ออาชญากรรมที่นี่ก็มีคนเรียกตํารวจมาจับเขา?”
“ใช่…โอ้ นี่มันอะไรกันเนี่ย”
ฉินเสี่ยวหยุนตกตะลึงกับซูฟาน!
เธอตระหนักว่าซูฟานไม่ได้ตั้งใจบอกความจริงกับเธอ
แม้ว่าเธอจะรู้สึกอึดอัดแต่เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ฉินเสี่ยวหยุนก็ถามซฟานอย่างตรงไปตรงมา
“พ่อแม่คุณทํางานอะไร”
“พวกเขาเป็นคนงานธรรมดาและจะติดต่อมาหาได้ปีละครั้ง”
“คุณลืมมันไปซะเถอะ”
ฉินเสี่ยวหยุนไม่ต้องการถามซูฟานอีกต่อไป
สิ่งเดียวที่เธอสามารถทําได้ในตอนนี้คือช่วยซูฟานจัดการเรื่องนี้
“อืม ให้ฉันโทรหาโจวกั๋วผิงก่อน ฉันคุยกับเขาได้ถ้ามันไม่ไหวฉันจะขอให้พ่อช่วย”
หลังจากพูดฉินเสี่ยวหยุนก็จะโทรหาโจวกั๋วผิง
ซูฟานจับโทรศัพท์ของฉินเสี่ยวหยุนไว้
“ไม่ต้องเป็นห่วง รอสักครู่เถอะ”
ซูฟานพูดด้วยรอยยิ้ม
รูปลักษณ์ลึกลับของเขาดูกล้าหาญมาก
แต่ฉินเสี่ยวหยุนยังคงไม่สบายใจ
น่ารําคาญเกินไป!
ฉินเสี่ยวหยุนถอนหายใจอย่างแรง
อีกด้านหนึ่ง ในสํานักงานของโจวกั๋วผิง
โจวกั๋วผิงได้ฉีกข้อมูลของซูฟาน
โจวกั๋วผิงจดจําทุกอย่างเกี่ยวกับซูฟานได้แล้ว
พ่อแม่ของเด็กคนนี้ไม่ได้ร่ำรวยและไปทํางานที่ต่างประเทศตลอดทั้งปี
ยิ่งกว่านั้นทั้งพ่อและแม่ก็หย่าขาดจากกันและพวกเขาก็ไม่ได้กลับไปหาซูฟานเป็นเวลานาน
ครอบครัวแย่ ๆ แบบนี้…ความพิเศษมันอยู่ตรงไหน?
โจวกั๋วผิงยังคงไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่ทําให้เขางงมากขึ้นคือไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลบัตรธนาคารของซูฟานได้
ดูเหมือนว่ามีใครบางคนปกปิดไว้และคนเดียวที่ทําได้คือสํานักงานใหญ่
สําหรับผู้ที่สามารถสั่งทางสํานักงานใหญ่ได้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่จะเป็นใครล่ะ?
โจวกั๋วผิงมองไปที่ข้อมูลของซูฟานอย่างงงงวย
ไม่นานเหลาจินก็มาที่สํานักงานอีกครั้ง
“คุณโจวมีข่าวล่าสุด”
“ผมพบว่าซูฟานและคังหมินฟูรู้จักกัน แถมคังหมินฟูยังสนับสนุนโรงเรียนของซูฟานเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วด้วย”
“หือ พูดมา…”
โจวกั๋วผิงเริ่มเล่า
ประมาณครึ่งเดือนก่อนซูฟานและคังหมินฟูมาทานอาหารเย็นร่วมกัน
คังหมินฟูเคยพูดไว้ว่าแม่ของเขาเกือบตกอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าแม่ของเขาได้รับการช่วยเหลือจากนักศึกษาวิทยาลัยคนหนึ่งแต่นักศึกษาคนนั้นปฏิเสธที่จะรับเงินตอบแทน
เพื่อแสดงความขอบคุณ คังหมินฟูจึงได้บริจาคอาคารให้กับโรงเรียนในนามของนักเรียนคนนั้น
ถ้าถูกต้องคนที่ช่วยแม่ของคังหมินฟูน่าจะเป็นซูฟาน..
ไม่มีเบาะแสอื่นใดแล้วโจวกั๋วผิงจึงโทรหาคังหมินฟู
“ประธานคัง สวัสดีนี่ฉันโจวกั๋วผิง”
“เอ่อ…คุณโจวงั้นหรือ มีอะไรล่ะ?”
“เป็นแบบนี้…ผมมีอะไรจะถามคุณ…คุณรู้จักนักเรียนชื่อซูฟานไหม”
“ซูฟาน? เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”
คังหมินฟูชะงักเมื่อได้ยินชื่อซูฟาน เขาหยุดมือที่กําลังเขียนเอกสารและฟังคําพูดของโจวกั๋วผิงอย่างระมัดระวัง
“รู้จักใช่ไหม! เยี่ยมมาก! คือแบบนี้ลูกชายตัวน้อยของผมมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับซูฟานน่ะ”
“คุณก็รู้ว่าฟูเหิงของผมนิสัยเสียแต่ก็ไม่รู้ถึงกับสร้างความรุนแรง…ดูเหมือนเขาไปทําอะไรบางอย่างที่ทําให้ซูฟานขุ่นเคือง”
“ตอนนี้ลูกชายของผมถูกจับโดยตํารวจ ผมสงสัยว่าผมจะขอให้คุณออกมาพูดกับซูฟานเพื่อเคลียร์ความเข้าใจผิดนี้ได้ไหม”
“แน่นอน ผมไม่ได้ขอร้องให้ลืมเรื่องลูกชายของผม เขาควรถูกลงโทษที่ทําผิด ผมจะจ่ายค่าชดเชยให้ซูฟานอย่างแน่นอน ผมจะขอให้ตํารวจกักตัวฟูเหิงไว้สองสามวันเพื่อสอนบทเรียนเขา! แต่นี่เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด เป็นเรื่องของเด็ก ๆ การถูกพิพากษาแบบนี้คุณว่ามันไม่คู่ควรหรือเปล่า?”
โจวกั๋วผิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม
คังหมินฟูขมวดคิ้ว
ซูฟานคนนี้ยอดเยี่ยมมาก สามารถจับกุมลูกชายของโจวกั๋วผิงได้ด้วย
ทั้งหมินฟูรู้จักโจวกั๋วผิง ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายไร้ความสามารถของเขา โจวกั๋วผิงจะไม่มาขอร้องเขาอย่างน่าอับอายแบบนี้
จากความรู้สึกของโจวกั๋วผิงที่น่าสงสารในฐานะพ่อแม่ คังหมินฟูตกลงตามคําขอของเขา
แต่เขาบอกโจวกั๋วผิงว่าจะลองโน้มน้าวให้เท่านั้น
ท้ายที่สุดเรื่องของเขาเมื่อสองสามวันก่อนเองก็ได้กระตุ้นซูฟานไปแล้ว
เมื่อโจวกั๋วผิงได้ยินดังหมินฟูพูดว่าเขาทําได้เพียงช่วยโน้มน้าว หัวใจของเขาก็เย็นยะเยือก
ในตอนแรกเขาคิดว่าคังหมินฟูจะช่วยซูฟานเพื่อขังลูกชายของเขาไว้
ดูเหมือนว่าคงหมินฟูจะไม่ทําอะไรได้มากและมีโอกาสมากที่ซูฟานจะไม่สามารถโน้มน้าวได้
“เฮ้ ประธานคังอันที่จริงผมยังมีคําถาม คุณ…คุณรู้เรื่องภูมิหลังของซูฟานไหม”
โจวกั๋วผิงถามอย่างไม่มั่นใจ
“ภูมิหลังของเขาครอบครัวค่อนข้างธรรมดา แต่จู่ ๆ ฉันก็รู้ข่าวมาเมื่อวานนี้”
“คุณรู้ไหมว่าชูเทียนฉีเพิ่งรับลูกชายบุญธรรม”
เมื่อทั้งหมินฟูพูดแบบนี้ โจวกั๋วผิงก็จําได้
แม้ว่าเขาและชูเทียนฉีจะเป็นคนชั้นสูง แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลจากกันมาก
เขาไม่มีโอกาสได้ติดต่อแต่เขารู้ข่าวลือของชูเทียนฉี
เมื่อได้ยินคําพูดของคังหมินฟูนี้โจวกั๋วผิงก็เดาได้ทันที
ลูกชายบุญธรรมของชูเทียนฉีควรเป็นซูฟานคนนี้!
โจวกั๋วผิงตกใจเล็กน้อย ไม่น่าแปลกใจที่ผู้กํากับจะบอกว่าลูกชายของเขากําลังมีปัญหา…
แต่ซูฟาน เด็กหนุ่มธรรมดาคนนี้ติดต่อกับซูเทียนฉีที่เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดได้อย่างไร?