ตอนที่ 100 วิทยาลัยเอจิส

หลังจากที่ซู่เจินบินมาได้ไม่นาน เขาก็มาถึงยานบินของ SHIELD เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งซู่เจินก็ไม่จําเป็นที่จะต้องทักทายเมย์เหมือนครั้งที่แล้วอีกต่อไป เพราะทันทีที่ซู่เจินมาถึงประตูด้านหลังของยานก็เปิดออกทันที และเมื่อเขาเข้ามาด้านในเขาก็พบว่าตอนนี้คนอื่น ๆ กําลังยืนคุยอะไรบางอย่างกันอยู่

และเมื่อทุกคนเห็นว่าซู่เจินปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นสกายก็รีบวิ่งไปกระโดดกอดซู่เจินอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่พวกเขากอดกันจนหายคิดถึงแล้ว สกายก็เดินไปควงแขนของซู่เจินเอาไว้ ซึ่งในใจของสกายนั้น ซู่เจินเป็นคนที่เธอให้ความสําคัญมากกว่าตัวของเธอเองซะอีก

” พวกคุณกําลังคุยอะไรกันอยู่นั้น ? หรือว่าจะมีภารกิจ ? ” ซู่เจินถามคนอื่น ๆ ขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

“ใช่” ฟิทซ์พยักหน้าเล็กน้อยและพูดต่อว่า “มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในสถาบันฝึกสอนของ SHIELD อยู่ดี ๆ น้ำในสระว่ายน้ำมันก็ดันกลายเป็นน้ำแข็ง และเมื่อพวกเราลองตรวจสอบดูก็พบว่ามีอุปกรณ์อะไรบางอยู่ในสระว่ายน้ำ ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มันก็เคยเป็นสิ่งที่ฉันเคยวิจัยมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เป็นคนทําเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างแน่นอน และฉันก็ไม่เคยคิดด้วยว่าเจ้าสิ่งนี้มันจะเกิดขึ้นมาได้จริง ๆ ดังนั้นตอนนี้พวกเราจึงจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกต่อไป!”

“ดังนั้น ”

ซู่เจินพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ ซึ่งเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่ามันจะเป็นเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้ เมื่อเขามาถึงมันก็มีเรื่องเกิดขึ้นทันที ? และดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างคุ้นเคยกับเหตุการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือเขาสามารถเอาคืนใครบางคนพร้อมกับขยายอิทธิพลของเขาให้กว้างขวางมากขึ้น!

“แล้วชุดออกรบที่ผมบอกกับคุณเอาไว้ครั้งก่อนมันเป็นยังไงบ้างตอนนี้?”

”เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยที่ฉันอ้างอิงมันเป็นสไตล์เดียวกับของคุณ แต่ฉันไม่ได้ทําผ้าคลุมไหล่ให้ เพราะถึงยังไงคุณก็เป็นหัวหน้าของพวกเขา มันคงจะดีถ้าเกิดว่ามีความแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งฉันก็ไม่ค่อยรู้ขนาดตัวของลูกน้องคุณสักเท่าไหร่ ทําให้ฉันลองสร้างขึ้นมาสองสามชุดโดยมีขนาดแตกต่างกันออกไป!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฟิทซ์ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แน่นอนว่าซู่เจินก็เช่นเดียวกัน ทําให้เขารีบเดินตามฟิทซ์ไปที่ห้องทดลองอย่างรวดเร็ว และเมื่อเขามองไปที่ชุดที่ฟิทซ์หยิบออกมา มันก็ทําให้เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมากพร้อมกับตบไปที่ไหล่ของฟิทซ์เบา ๆ และพูดว่า “ขอบคุณ!”

“ฉันใช้แค่ความพยายามเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น” ฟิทซ์พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับก้มหัวลงเล็กน้อย

“งั้นผมเอาชุดพวกนี้ไปเลยนะ” เมื่อซู่เจินพูดจบ เขาก็เอาชุดพวกนี้เก็บเข้าไปในมิติเก็บของทันที

ฟิทซ์มองไปที่ซู่เจินด้วยความสงสัยว่าชุดพวกนั้นมันหายไปไหน ? ซู่เจินกระพริบตาเล็กน้อยด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเขาก็หันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรให้ฟิทซ์ฟังแม้แต่น้อย

วิทยาลัยเอจิส

เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่สระว่ายน้ำกลายเป็นน้ำแข็งเกิดขึ้น ทําให้พวกนักเรียนในตอนนี้รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากเรื่องความปลอดภัยของพวกเขา ซึ่งการที่มีอุปกรณ์อะไรบางอย่างถูกติดตั้งไว้ในสระว่ายน้ำแบบนั้น คนทําจะต้องมีเจตนาอะไรบางอย่างแอบแฝงอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้

และเนื่องจากที่อุปกรณ์ตัวนี้มันเป็นการออกแบบของฟิทซ์และเจมมา ทําให้พวกเขาได้รับเชิญให้ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่วิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งในอีกแง่มุมหนึ่งก็เพื่อทําให้นักเรียนของที่นี่รู้สึกสบายใจ และในทางกลับกันก็เป็นการตรวจสอบไปในตัวด้วยว่าใครที่เป็นคนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ในตอนนี้ ซู่เจิน , สกาย, เจมมา และฟิทซ์ ได้เดินทางมาถึงที่วิทยาลัยเอจิสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนโคลสันและเมย์ กําลังติดภารกิจอย่างอื่นอยู่ ทําให้พวกเขาไม่สามารถมาที่นี่ได้

” ที่นี่คือวิทยาลัยเอจิสอย่างงั้นหรอ ? มันดูไม่ค่อยแตกต่างจากวิทยาลัยทั่วไปเลย” สกายมองไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะเธอสังเกตเห็นว่ากําลังมีนักเรียนเดินพูดคุยกันอย่างสนุกสนานผ่านหน้าของเธอไป หรือนั่งเล่นกันเป็นกลุ่มอยู่ตรงใต้ต้นไม้บ้าง ซึ่งมันไม่ค่อยแตกต่างจากวิทยาลัยทั่วไปเลยแม้แต่น้อย

“มันก็ไม่ค่อยแตกต่างกันจริง ๆ นั่นแหละ แต่การที่คุณจะเรียนจบปริญญาเอกจากที่นี่ได้นั้น คุณจะต้องมีไอคิวไม่ต่ำกว่าเลขสองหลัก!” ฟิทซ์พูดขึ้นมาเบา ”ซึ่งถ้าเกิดว่าคุณต้องการจะเรียนต่อผมก็คิดว่าคุณน่าจะเรียนที่นี่ได้อย่างไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”

แน่นอนว่าไอคิวของสกายไม่ได้ต่ำเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะทักษะการแฮ็กของเธอ ไม่งั้นเธอก็คงจะไม่ได้เป็นที่ปรึกษาของ SHIELD อย่างแน่นอน

ในขณะที่พวกเขากําลังยืนคุยกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาจากระยะไกล เป็นผู้หญิงผิวสีที่สวมใส่ชุดอย่างเป็นทางการ!

” พวกคุณมาแล้วงั้นหรอ ฉันดีใจที่ได้พบเจอพวกคุณ!” หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับจับมือของพวกเขาออกมาเขย่าทีละคน

เจมมาพูดขึ้นมาอย่างมีความสุขว่า ” คุณยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ”

“เธอคนนี้คือหัวหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ แอนน์ วีเวอร์”

เจมมาพูดอธิบายขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เห็นได้ชัดว่าสกายและซู่เจินรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

“มีผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ครั้งนี้บ้างหรือไม่ ?” สกายถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

แอนน์ วีเวอร์พยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ และพูดว่า “จากการทดสอบเรื่องสติปัญญาในการที่จะประดิษฐ์อุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมาได้นั้น มันจะต้องเป็นคนที่มีสติปัญญาหรือไอคิวที่สูงมากอย่างแน่นอน ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ดีที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้!”

“พวกเราขอลองคุยกับคนที่ได้รับบาดเจ็บได้ไหม ? ”

“ไม่มีปัญหา แต่มันจะต้องเป็นเวลาหลังจากที่เซธเลิกเรียนแล้ว” แอนน์ วีเวอร์พูดตอบขึ้นมา “แต่ตอนนี้ฟิทซ์และเจมมา พวกเธอจะต้องไปที่ห้องประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมสําหรับการกล่าวสุนทรพจน์”

“ไม่คิดว่าพวกเราจะเป็นที่นิยมมากขนาดนี้ ? “

สกายและซู่เจินเดินตามหลังของฟิทซ์และเจมมาไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในระหว่างทางที่พวกเขาเดินก็มีนักเรียนหลายคนที่ล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขา เพื่อพูดคุยกับฟิทซ์และเจมมา

“อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เคยเป็นนักเรียนชั้นนําของวิทยาลัยเอจิสมาก่อน ทําให้เวลาพวกเขาเดินผ่านพวกนักเรียน พวกเขาก็เปรียบเสมือนกับไอดอลของเด็กพวกนั้น ซึ่งนาน ๆ คนแบบพวกเขาจะปรากฏตัวสักครั้งหนึ่ง” ซู่เจินพูดขึ้นมากับสกายด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่พวกเขาเดินเข้าไปด้านในวิทยาลัยเอจิสได้ไม่นาน พวกเขาก็พบเข้ากับกําแพงที่เต็มไปด้วยรายชื่อมากมาย ซึ่งกําแพงอันนี้ก็คือรายชื่อของวีรบุรุษผู้กล้าหาญที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ทําให้ซู่เจินและสกายยืนมองไปที่กําแพงอันนี้อยู่สักพักหนึ่ง ในขณะเดียวกัน สกายก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้ซู่เจินกําลังจ้องมองไปที่รายชื่อหนึ่งอยู่ ทําให้เธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปที่รายชื่ออันนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“บัคกี้ บาร์นส์ ?”

“เขาคือเพื่อนสมัยเด็กของกัปตันอเมริกา ตอนที่กัปตันอเมริกายังไม่ได้เป็นกัปตันอเมริกา แต่เป็นสตีฟ โรเจอร์ ซึ่งตอนแรกเขาก็สมัครเข้าร่วมกับกองทัพ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เข้าร่วมกับหน่วยคอมมานโดคําราม แต่หลังจากที่เขาได้ไปทําภารกิจกับกัปตันอเมริกาและได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ทําให้เขาตกลงไปที่หน้าผา และไม่มีที่รู้ชะตากรรมของบัคกี้ได้อย่างแน่ชัด” ซู่เจินพูดอธิบายขึ้น มาให้กับสกายฟังคร่าว ๆ ซึ่งเขาก็อยากรู้จริง ๆ เหมือนกันว่าถ้าเกิดกัปตันอเมริการู้ว่าบัคกี้ยังมีชีวิตอยู่ และปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าของเขาในฐานะของวินเทอร์โซลเจอร์ มันจะเป็นอย่างไร ?

และเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาบัคกี้หรือวิทเทรย์โซลเจอร์ ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของซู่เจินเช่นกัน

เพราะว่าร่างกายของเขาได้รับการดัดแปลงจากไฮดร้า ซึ่งมีความสามารถคล้าย ๆ กับของกัปตันอเมริกา แถมเขายังมีแขนกลที่ช่วยยกศักยภาพทางร่างกายของเขาให้ใกล้เคียงกับความแข็งแกร่งของกัปตันอเมริกาได้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้เขาก็น่าจะได้รับการดัดแปลงเป็นครั้งที่สองแล้ว … แน่นอนว่าตอนนี้เขายังถูกควบคุมโดยคนของไฮดร้าให้กลายเป็นเครื่องจักรสังหารอยู่

“เขามีอะไรบางอย่างที่พิเศษใช่ไหม ? คุณถึงได้สนใจในตัวของเขามากขนาดนี้ ? “ สกายถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ซู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า ”อย่างน้อย

มันก็ยังไม่ใช่ตอนนี้!”

“ยังไม่ใช่ตอนนี้?”

สกายรู้สึกมึนงงเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา ซู่เจินก็ลากตัวของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินทางมาถึงห้องประชุม

ตอนนี้ในห้องประชุมเต็มไปด้วยผู้คนกําลังนั่งอยู่เต็มไปหมด ในขณะเดียวกันแอนน์ วีเวอร์ก็เดินขึ้นมาบนเวทีเพื่อพูดเปิดงานพร้อมกับเชิญฟิทซ์และเจมมาขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งหลังจากที่ซู่เจินและสกายเดินเข้ามาด้านในเขาก็เห็นว่าผู้คนกําลังตบมือดังสนั่นเต็มไปหมด ทันใดนั้นซู่เจินก็ชําเลืองมองไปท่ามกลางผู้คนที่อยู่ในห้องประชุม

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็จ้องไปที่คน ๆ หนึ่ง

เด็กหนุ่มผมสั้น

ดอนนี่ จิลล์ ดอนนี่

ทันใดนั้นมุมปากของซู่เจินก็ยกขึ้นเล็กน้อย

“แปะ ๆ”

หลังจากที่ฟิทซ์และเจมมากล่าวสุนทรพจน์จบ ทันใดนั้นก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

ซู่เจินหันไปมองหน้าของเจมมาและฟิทซ์บนเวทีด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย เพราะดูเหมือนว่าเนื้อหาในการกล่าวสุนทรพจน์ของพวกเขามันจะต้องดีมาก ๆ อย่างแน่นอนแม้ว่า

ซู่เจินจะไม่ได้ฟังมันก็ตาม

” พระเจ้า! เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ช่วยฉันด้วย!”

ทันใดนั้นก็มีคนลุกขึ้นยืนพร้อมกับตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก เพราะว่าตอนนี้ใต้เท้าของพวกเขากําลังมีน้ำแข็งค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา ทําให้ขาของเขาถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วและหลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มลามขึ้นมาบนร่างกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว!