ตอนที่ 47 ความคิดของหยุนเคอ

สามีข้า คือพรานป่า

เฉินเถียนเถียนยังคงอยู่ในดินแดนแห่งความฝันอันแสนหวาน นางไม่รู้เลยมีคนเข้ามาในโรงเก็บไม้และจ้องมองนางเป็นเวลานาน!

หลินชวนฮวาสำรวจโรงเก็บไม้นี้อย่างระมัดระวังเพื่อค้นหาว่าเถียนเถียนเก็บซ่อนอาหารไว้บ้างหรือไม่ แต่หลังจากค้นอยู่นานแล้วไม่พบสิ่งใดจึงจากไปพร้อมกับฟืนเต็มอ้อมแขน

ปกติแล้วเถียนเถียนมักจะถูกเรียกใช้อยู่ตลอดเวลา นางจึงตื่นตัวเสมอ แต่วันนี้นางหลับสนิทจนอดไม่ได้ที่จะเคลือบแคลงใจ… อีกทั้งห้องนี้ยังไม่เหมาะแก่การนอนยิ่ง

เมื่อก่อนตอนที่เฉินผิงอันเรียกเฉินเอ๋อออกมารับประทานอาหาร หลินชวนฮวามักจะอ้างเสมอว่าเด็ก ๆ ควรนอนหลับให้นานเพื่อให้ตัวสูงขึ้น

ดังนั้นวันนี้เขาจึงไม่เรียกลูกชายออกมากินข้าวและเขาไม่รู้ว่าหลินชวนฮวากำลังทำอะไรอยู่จึงออกไปเล่นการพนันอย่างสบายใจ

ปีก่อน… เฉินผิงอันจะคอยดูแลพืชผักในทุ่งนา แต่ว่าหลังจากมีบ่อนมาเปิดในหมู่บ้าน เขาก็ไม่เคยเข้าไปดูทุ่งนาของตนอีกเลย

บ่อนที่นี่น่าสนใจมาก ไม่ว่าใครก็สามารถเดิมพันได้และไม่จำเป็นต้องใช้เงิน อีกทั้งยังไม่มีการเดิมพันใหญ่ ๆ ชาวบ้านจึงรู้สึกว่าเข้าถึงได้และชื่นชอบนัก

แม้ผู้เฒ่าในหมู่บ้านจะไม่ชอบใจแต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปิดมัน…

เป็นเพราะผู้เป็นพ่อไม่สนใจ ดังนั้นเมื่อเฉินเอ๋อตื่นขึ้นเขาจึงไม่มีอาหารเช้ากิน!

วันนี้ก็เป็นดังเช่นเคย… หลินชวนฮวานั่งแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง นางบอกกับเฉิงผิงอันว่าจะเข้าเมืองตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปตรวจสอบดูว่าผู้ใดสามารถรับเฉินเฉิงเยี่ยเป็นศิษย์ได้หรือไม่!

แม้จะสายแล้ว แต่นางก็ยังคงหวีผมอย่างแช่มช้า

เด็กน้อยตื่นมาพร้อมกับความหิวโหยจึงเดินไปหาผู้เป็นแม่อย่างระมัดระวัง เขาเอ่ยปากพูดอย่างอ้อนวอน “แม่… ข้าหิว”

หลินชวนฮวากลอกตาไปมาและไม่สนใจเขาอย่างสมบูรณ์

เฉินเฉินรู้สึกว่าอย่างไรซะเขาก็เป็นลูกชายของนาง เช่นนี้แม่คงจะไม่โหดร้ายกับเขานัก

เขาจึงก้าวไปด้านหน้าก่อนจะกระตุกแขนเสื้อของผู้เป็นแม่เบา ๆ “แม่ได้ยินหรือไม่… ข้าหิว”

แต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ หลินชวนฮวาก็ทุบตีเด็กน้อยอย่างรุนแรง “ทุกวันนี้นอกจากหิวและหิว เจ้าสามารถทำอะไรได้บ้าง? ไปให้พ้นหน้าข้าซะ!”

เฉินเฉินตื่นตระหนกจนตัวสั่นและรีบถอยออกมา

เมื่อหลินชวนฮวาเห็นท่าทางของเด็กน้อยก็ยกยิ้มด้วยความภูมิใจ นางเดินไปหาลูกชายพร้อมกับหยิกคางของเขาอย่างข่มขู่ แม้มันจะไม่ได้เจาะลงไปสุดแต่เขาย่อมเจ็บแน่!

“ตอนนี้พ่อของเจ้ากำลังกลายเป็นผีพนัน เขาต้องใช้เงินเพื่อเล่นไพ่ทุกวันแล้วข้าจะเอาเงินที่ไหนมาซื้ออาหารให้เจ้ากิน?!”

หลินชวนฮวาเผยสีหน้าเกลียดชังออกอย่างไม่ปกปิด แต่เฉินเฉินยังไม่เชื่อคำของผู้เป็นแม่เพราะเมื่อวานพ่อยังเรียกให้เขาออกมากินข้าวและยังมีเนื้อบนโต๊ะอาหารด้วย!

อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่กล้าที่จะขัดขืนแม่ของตนจึงทำได้เพียงร้องไห้และวิ่งออกไป

หลินชวนฮวาไม่สนใจเด็กชายอีกต่อไป นางลุกขึ้นช้า ๆ ก่อนที่จะไปรอเกวียนวัวมารับ

ยังไงซะหมู่บ้านนี้ก็มีเกวียนวัวรับส่งเพียงหนึ่งคันเท่านั้น นางจึงจำเป็นต้องขึ้นเกวียนไปพร้อมกับพรานป่าและหมูครึ่งตัว… กลิ่นหอมของมันโชยมาตามลมตลอดเวลา

แม้ว่าชายผู้นั้นเป็นคนที่นางเกลียด แต่เนื้อหมูก็ทำให้นางน้ำลายสอ!

“นี่! พี่หยุน… จะเอาหมูนี้ไปขายที่ตลาดหรือ?”

หยุนเคอเผยสีหน้าเย็นชาพร้อมไม่ตอบคำใดกลับ

แม้ว่าหลินชุนฮวาจะสังเกตเห็นความเย็นชาในตัวบุคคลนี้ แต่กลิ่นอันเย้ายวนของเนื้อค่อนข้างจูงใจนางมาก

“น้องหยุน เจ้าก็อายุมากแล้วและยังอาศัยอยู่ในถ้ำเพียงคนเดียว ไม่รู้เลยว่าเวลาทุกข์ยากใครจะอยู่เคียงข้าง ข้าอยากให้เจ้าแต่งงานกับลูกสาวของข้า แม้นางจะยังเด็ก… แต่ก็ได้รับการฝึกฝนจากข้ามาเป็นอย่างดีและนางยังสามารถมีลูกได้!”

หยุนเคอกลอกตาอย่างเหยียดหยาม หญิงผู้นี้ต้องการให้ลูกสาวแต่งงานกับใครก็ตามที่รับผิดชอบชีวิตของทั้งครอบครัวนี้ได้… นางเป็นแม่แบบไหนกัน?

“แม้ว่าสินสอดเจ้าสาวจะแพงไปหน่อย แต่นางก็เป็นผู้หญิงที่ดี! ถ้าเจ้าไม่แต่งงานกับนาง ข้าเกรงว่าจะไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานและเข้าไปอยู่ในถ้ำกับเจ้าอีกแล้ว!”

หลินชวนฮวาได้แต่พร่ำบ่นในใจอย่างหงุดหงิดเมื่อหยุนเคอไม่ตอบกลับแม้เพียงครึ่งคำ ส่วนหยุนเคอก็กำลังอดทนต่อตนเองอย่างมากที่จะไม่ถีบหญิงวัยกลางคนให้ตกเกวียน!

หากเชื่อเจ้า… หมูคงพูดได้แล้ว!

แน่นอนว่าคนที่นั่งเกวียนมาด้วยกันทั้งหมดคือคนของหมู่บ้านเทพธิดา หยุนเคอทนไม่ไหวจึงจำเป็นต้องเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมบทเรียนที่ผ่านมาหมดสิ้นแล้วสินะแม่นางหลิน เจ้าต้องการถูกผู้เฒ่าลงโทษหรือไร? ลูกติดของเจ้าก็สมควรที่จะแต่งงาน แล้วเจ้าต้องการจะกินทรัพย์สมบัติไปนานแค่ไหน? นางก็ยอมเจ้าจนสุดทางแล้ว ไม่รู้สึกรักใคร่นางบ้างงั้นหรือ?”

คำพูดของหยุนเคอทำให้หลินชวนฮวารู้สึกหดหู่แต่ก็ไม่กล้าที่จะกล่าวคำใดตอบ

หลังจากถึงที่หมาย ทุกคนลงจากเกวียนและหยุนเคอสังเกตเห็นว่าหญิงคนนี้เดินเข้าไปในตรอกเดิมอีกครั้ง เขาไม่ได้สนใจอะไรจึงเดินเอาหมูป่าครึ่งตัวไปขายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

หลังจากที่ขายหมูเสร็จแล้วเขาซื้อไวน์ขวดเล็กก่อนจะเดินทางกลับไปที่ภูเขา

จู่ ๆ เขาก็พลันนึกถึงเด็กสาวตัวน้อย ‘เมื่อวานเถียนเถียนพยายามขนหมูอีกครึ่งตัวลงภูเขาอย่างยากลำบาก นางไม่ได้เอากลับไปที่บ้านงั้นหรือ? ดูเหมือนว่าแม่เลี้ยงนั้นจะไม่รู้เรื่อง… แล้วนางเอาหมูไปซ่อนไว้ที่ใด? ยังไงซะนางก็เป็นเพียงเด็กสาวตัวน้อยในหมู่บ้าน ทั้งยังไม่รู้วิธีเอาตัวรอดแต่เหตุใดจึงกระทำตัวลึกลับนัก?’

ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดที่หลินชวนฮวาเอ่ยปากอยากให้บุตรสาวของตนแต่งงานกับเขาก็ยังดังลั่นอยู่ในหัว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หยุนเคอสะบัดศีรษะแรง ๆ พร้อมกับหยุดคิดทุกสิ่งทันที

ด้วยสถานะปัจจุบันของตัวเองเขาคงไม่สามารถดูแลใครได้ แม้แต่เด็กสาวตัวน้อยคนนั้นก็ตาม… เขาเกรงว่าจะทำให้นางเดือดร้อนเสียเปล่า

แต่ยังไงซะเมื่อเมล็ดพันธุ์บางอย่างหยั่งรากลึกลงในจิตใจ ท้ายที่สุดมันก็จะเติบโตแตกหน่อและกลายเป็นต้นไม้สูงตระหง่าน!

ตอนนี้เถียนเถียนหลับสนิทอยู่ในโรงเก็บไม้ นางไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าแม่เลี้ยงของตนพยายามขายนางให้กับหยุนเคอ!

เมื่อวานเฉินเถียนเถียนทั้งเหนื่อยและเพลีย นางต้องการพักผ่อนยิ่ง เมื่อเห็นเด็กชายตัวน้อยเข้ามาก่อกวนจึงอดไม่ได้ที่จะบ่น

“เหตุใดจึงส่งเสียงดังนัก? เจ้าจะไม่ให้ข้าหลับนอนเลยหรือ?”

เฉินเฉินร้องไห้พร้อมกับกุมท้องเอาไว้อย่างน่าสงสาร เถียนเถียนมองท่าทางของเด็กชายแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ดูเหมือนว่าหลินชวนฮวาจะไม่ให้เขากินข้าวอีกแล้ว!

“อะไรกัน? แม่ของเจ้าไม่ได้ให้เจ้ากินอาหารอีกแล้วเหรอ?”

เฉินเฉินพยักหน้าพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย

“พี่สาว! ข้าหิวมาก แต่แม่ไม่สนใจข้าเลย หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป… ข้าต้องอดตายแน่!”

ในที่สุดเฉินเถียนเถียนก็ทนไม่ไหว นางสงสารเด็กชายจับใจจึงรีบลุกขึ้นและจูงมือเด็กน้อยไปที่ริมธาร อีกทั้งนางยังไม่ลืมที่จะนำหม้อต้มใบหนึ่งติดมือมาด้วย

ขอยืมใช้ก่อนเดี๋ยวตอนค่ำจะนำมาคืนแล้วกัน…