บทที่ 49 ภารกิจของหัวหน้าหมู่บ้าน

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 49 ภารกิจของหัวหน้าหมู่บ้าน

บทที่ 49 ภารกิจของหัวหน้าหมู่บ้าน

เพราะรางวัลยิ่งใหญ่ อู๋ฝานจึงกระหายคิดทำภารกิจให้สำเร็จ

เพียงแต่ เขาทราบดีว่ายิ่งรางวัลภารกิจยอดเยี่ยมเพียงใด ความยากของภารกิจก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น คิดทำภารกิจให้สำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย ปัจจุบันเขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขุนเขาสวรรค์มีตัวตนอยู่หรือไม่ ต่อให้มีอยู่จริง ก็ไม่ทราบว่าอยู่แห่งหนใด และไม่ทราบด้วยซ้ำว่าจะมีอันตรายอะไรรอคอยอยู่บ้าง

ตามปกติแล้ว แม้ว่ารางวัลภารกิจจะเลิศล้ำ และอู๋ฝานกระหายจะทำมันให้สำเร็จเพียงใด เขาก็ไม่อาจเร่งรีบ เพราะเร่งรีบไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

ภายหลังกล่าวลาอาจารย์ปรุงยาหลี่ อู๋ฝานจึงวางแผนออกจากหมู่บ้าน แต่กลับถูกเรียกเอาไว้โดยหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรา

“หัวหน้าหมู่บ้าน ต้องการอะไรจากผมเหรอครับ?” อู๋ฝานมองหัวหน้าหมู่บ้านด้วยความสงสัย

ยกเว้นเมื่อครั้งแรกที่หัวหน้าหมู่บ้านมอบหมายภารกิจให้ ภายหลังอู๋ฝานเป็นฝ่ายเข้าหาไปสอบถามอยู่บ่อยครั้งกลับไม่เคยได้รับภารกิจใด หรือวันนี้ดวงตะวันขึ้นทางทิศตะวันตก?

“มีเรื่อง เป็นเรื่องดี!” หัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรากล่าวด้วยท่าทีลึกลับ

“ภารกิจเหรอครับ?” อู๋ฝานเกิดดีใจ

วันนี้ถือเป็นวันอะไรกัน? ตามปกติที่ยากจะได้รับภารกิจแม้หนึ่งภารกิจ เหตุใดวันนี้ถึงได้รับภารกิจแล้วภารกิจเล่ากัน?

ในหมู่บ้านมีคนอยู่ไม่มาก อีกทั้งอู๋ฝานก็เข้าใจดี ว่าตนเองคงไม่ได้รับภารกิจเสียทุกวัน แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าหนึ่งวันจะได้รับถึงสองภารกิจเช่นนี้

“ภารกิจ? จะว่าอย่างนั้นก็ได้” หัวหน้าหมู่บ้านตอบรับ “เจ้าน่าจะทราบเรื่องพลังงานอสูรที่กำลังรุกรานกระมัง?”

“ก็พอได้ยินมาบ้างครับ” อู๋ฝานตอบรับ

หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าตอบรับ “โลกอสูรนั้นแท้จริงก็เหมือนดังโลกของพวกเรา พวกมันมีอารยธรรม เพียงแต่โลกของพวกมันเต็มไปด้วยพลังงานอสูร ที่พร้อมจะทำให้ผู้คนและสัตว์กลายเป็นกระหายเลือด ตรงเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน เมื่อปีก่อน พลังงานอสูรบางส่วนจากโลกอสูรหลุดรั่วมายังโลกของพวกเรา จนทำให้สัตว์เกิดการกลายพันธุ์ เกิดความกระหายเลือดและดุร้าย ในป่าตรงหน้าหมู่บ้าน ก็มีสัตว์ที่ติดเชื้อจากพลังงานอสูรอยู่เช่นกัน”

อู๋ฝานพยักหน้ารับ ภารกิจแรกที่เขาได้รับในโลกแห่งนี้คือการสังหารกระต่ายอสูร มันคือกระต่ายที่ติดเชื้อจากพลังงานอสูร

“ไม่นานมานี้สถานการณ์ยิ่งรุนแรง” หัวหน้าหมู่บ้านบอกเล่าต่อ “สิ่งที่มาจากโลกอสูร มันไม่ได้มีเพียงพลังงานอสูร แต่ยังมีคนจากโลกอสูร พวกมันมาเพื่อสร้างเมืองในโลกของพวกเรา เพื่อขยับขยายถิ่นฐานของพวกมัน”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมเหรอครับ? คงไม่ใช่ให้ผมไปบุกตีเมืองที่คนจากโลกอสูรสร้างขึ้นหรอกใช่ไหม? ต่อให้ใช่ ผมก็ไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ” อู๋ฝานกล่าวตอบ

อู๋ฝานทราบดีถึงความแข็งแกร่งของตนเอง ตัวเขาเป็นเพียงมือใหม่เลเวลสาม สัตว์ติดเชื้อพลังงานอสูรยังถือว่าอันตราย นับประสาอะไรกับคนจากโลกอสูรที่ใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่เต็มแน่นไปด้วยพลังงานอสูร?

อย่างน้อยก็ต้องเป็น ‘มอนสเตอร์’ ที่มีเลเวลหลายสิบ เรียกได้ว่าไม่ใช่อะไรที่ตัวเขาในปัจจุบันจะไปเทียบเปรียบ

“ข้าย่อมทราบดีว่าเจ้าไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น” หัวหน้าหมู่บ้านมองอู๋ฝานด้วยท่าทีค่อนแคะ “และนั่นก็เป็นเรื่องของกองทัพจากราชสำนักต้องลงมือ แต่ก็เพราะการรุกรานจากโลกปีศาจ ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทางราชสำนักจึงต้องการรับสมัครกำลังทหารเพิ่มขึ้น”

“ก็เลยอยากส่งผมไปเข้าร่วมกองทัพเหรอครับ?” อู๋ฝานใช้นิ้วชี้หน้าตัวเองพร้อมถาม “นั่นก็ไม่ใช่ว่าต้องให้ผมไปสู้กับคนของโลกอสูรอยู่ดีหรอกเหรอ ผมไม่ไปหรอก”

อู๋ฝานไม่ใช่คนโง่ ปัจจุบันตัวเขายังไม่มีพละกำลังใดทั้งนั้น เขาย่อมไม่คิดไปเป็นเหยื่อสนามรบอย่างแน่นอน การฟาร์มอยู่ที่นี่ดีกว่าเป็นไหน ว่างก็ไปสังหารมอนสเตอร์ และนำผลประโยชน์ไปใช้กับที่โลกแห่งความเป็นจริง

“ไม่ไปไม่ได้หรอกนะ! ข้าสมัครให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว” หัวหน้าหมู่บ้านเผยยิ้มออกมา

“อะไรนะ? ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน? ไม่ถามความเห็นผมแม้แต่น้อย คุณอยากไปก็ไปเองสิ ผมไม่ไปด้วยแน่” อู๋ฝานกล่าวตอบ

“หากเจ้าไม่ไป เช่นนั้นข้าไม่ให้เจ้าเช่าด้านหลังของภูเขา ยังไงเจ้าก็ยังไม่ได้จ่ายเงิน ดังนั้นมีแต่ต้องขายตัวใช้หนี้แล้ว” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวตอบอย่างไม่แยแส

“นี่…” อู๋ฝานพยายามอดกลั้น

ด้านหลังของภูเขามีความสำคัญต่ออ๋าน ไม่เพียงแต่เพาะปลูกผัก ผลไม้ และเลี้ยงเนื้อสัตว์เอาไว้ใช้ในโลกความเป็นจริง แต่ยังมี ‘กำแพงโลหะ’ ที่ไม่อาจประเมินมูลค่า อู๋ฝานไม่มีทางปล่อยมันไปอย่างแน่นอน

หัวหน้าหมู่บ้านราวกับเชื่อว่าอย่างไรอู๋ฝานก็ต้องยอม ดังนั้นจึงไม่เกรงอู๋ฝานจะปฏิเสธ “ราชสำนักกำหนดมาว่าสิบครัวเรือนจะต้องคัดเลือกหนึ่งคน หากว่ามีน้อยกว่าสิบครัวเรือนเช่นหมู่บ้านของพวกเรา ก็นับว่าเป็นสิบครัวเรือน ดังนั้นต้องมีหนึ่งคนถูกส่งตัวไปเป็นทหาร นอกจากเจ้าแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้มีคนหนุ่มอยู่หรือยังไง? หากเจ้าไม่ไป เช่นนั้นใครไป?”

อู๋ฝานคิดตาม สถานการณ์ของหมู่บ้านก็เป็นเช่นที่ว่าจริง นอกจากตัวเขาแล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสมจะส่งไปเข้ากองทัพอีก

เพียงแต่ การถูกบีบบังคับให้เข้าร่วมกองทัพเช่นนี้ อู๋ฝานย่อมไม่ยินดีและไม่เต็มใจ

เจ้าอย่าได้มีท่าทีเช่นนั้นไป” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวปลอบ “ทหารเช่นเจ้าที่ยังไม่ได้รับการฝึกฝนมากมายอะไรย่อมไม่ถูกส่งตัวไปยังสนามรบ อย่างมากก็เป็นทหารลำเลียง เคลื่อนย้ายเสบียงทรัพยากร หรือไม่ก็ทำงานจิปาถะ”

“ยังไงมันก็อันตรายไม่ใช่เหรอครับ จะให้ผมไปอยู่อย่างสุขกายสบายใจและปลอดภัยเหมือนที่นี่ได้ยังไง?” อู๋ฝานตอบรับอย่างหงุดหงิด

“เจ้าจะถือเป็นตัวแทนของหมู่บ้านพวกเราไปรับใช้กองทัพ พวกเราย่อมตอบแทนเจ้าไม่แย่” หัวหน้าหมู่บ้านตอบกลับ “ข้าจะอนุญาตให้เจ้าขยายสัญญาค่าเช่าด้านหลังภูเขา และจ่ายเงินเพียงแค่ครึ่งปี หรือก็คือปีละ 2500 เหรียญทอง นอกจากนี้แล้ว ก่อนเจ้าเดินทางไป ข้าจะขอให้ช่างตีเหล็กซุนและคนอื่นช่วยเตรียมชุดเครื่องไม้เครื่องมือที่เหมาะสมกับเจ้า เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้”

“จริงหรอครับ?” อู๋ฝานพลันเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา

สัญญาค่าเช่าด้านหลังของภูเขาจะลดลงเหลือจ่ายแค่ครึ่งหนึ่ง และระยะเวลาการจ่ายเงินยังถูกยืดออกไป ดังนั้นแรงกดดันที่อู๋ฝานจะต้องหาเงินมาจ่ายจึงลดเลือนลงไปมหาศาล นอกจากนี้แล้ว ช่างตีเหล็กซุนยังเป็นถึงช่างตีเหล็กระดับปรมาจารย์ เพียงสร้างอะไรบางอย่างตามเรื่องราว สำหรับอู๋ฝานก็ถือว่าเป็นของคุณภาพชั้นเลิศแล้ว แม้ว่าเขาสามารถสร้างด้วยตนเองได้ กระทั่งว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาสร้างไปไม่ใช่น้อย แต่สิ่งที่เขาสร้างก็ยังไม่อาจเทียบกับของช่างตีเหล็กซุน ที่แทบจะรับประกันความสำเร็จในทุกอุปกรณ์ที่ลงมือสร้าง

“แน่นอน ข้าจะโกหกเจ้าได้ยังไงกัน?” หัวหน้าหมู่บ้านตอบรับ

อู๋ฝานลังเลไปครู่หนึ่ง สุดท้ายจึงตอบ “ก็ได้ครับ ผมไปก็ได้ แล้วต้องไปเมื่อไหร่กัน?”

แท้จริงแล้ว ตอนที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดขู่อู๋ฝานเรื่องด้านหลังภูเขา อู๋ฝานก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว มีแต่ต้องไป ตอนนี้ยังจะได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมอีก หากพิจารณาก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่พอสมควร

ที่สำคัญยิ่งกว่า คือตัวเขาเป็น ‘ผู้เล่น’ อย่างไรก็ไม่มีทางตายจริง การเดินทางครั้งนี้ย่อมสามารถสร้างผลกำไรได้สักทางหนึ่ง

“รายงานตัวกับสำนักปกครองมณฑลภายในสามวัน” หัวหน้าหมู่บ้านตอบกลับ

“ก็ได้ เข้าใจแล้วครับ” อู๋ฝานตอบรับ “แล้วต้องรับใช้กองทัพนานแค่ไหนกันครับ?”

การรับใช้กองทัพชั่วคราว มันไม่ใช่การเป็นทหารอาชีพ ดังนั้นจึงมีเวลาอย่างจำกัด เมื่อใดครบกำหนดเวลา เมื่อนั้นจะสามารถกลับมาได้

“สามเดือน” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวตอบ “แน่นอนว่า บางทีระยะเวลาอาจมีการปรับเปลี่ยน มันอาจยืดยาวขึ้น หรือว่าหดสั้นลงก็ได้”

“สามเดือนนะครับ? ทราบแล้วครับ” อู๋ฝานตอบรับ

สามเดือนไม่ใช่ระยะเวลาที่ยาวหรือว่าสั้น ดังนั้นจึงถือว่ายอมรับได้

แน่นอนว่า อย่างไรตัวเขาในตอนนี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่น มีแต่ต้องยอมรับชะตากรรม