46 ในเวลาเดียวกัน ที่อีกด้านหนึ่ง
“――เนียซามะเป็นคนแบบไหนเหรอคะ?”
หลังการถ่ายทำหัวข้อเครื่องแบบใหม่เสร็จสิ้นอย่างปลอดภัย ในสถานที่อีกแห่งที่ไม่ใช่ร้านอาหารที่พี่น้องตระกูลซิลเวอร์และเนียลิส・ตันกำลังรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่
แม้ว่าจะเป็นบริเวณใกล้เคียงที่สามารถเห็นร้านอาหารได้ แต่ร้านที่เหมือนร้านกาแฟที่พวกเราเข้ามานั้นมีบรรยากาศแตกต่างจากที่นั่นอย่างชัดเจน และเลือกนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างกับสาวใช้ที่ไม่รู้จัก
ริโนกิส สาวใช้ส่วนตัวของเนีย・ลิสตัน
และ เอซูเอลา สาวใช้ส่วนตัวของเรเลียเรด・ซิลเวอร์
เอซูเอลา・แบลงคิท
เธอเป็นสาวใช้ร่างสูงที่คอยรับใช้ตระกูลซิลเวอร์มาจนในปีนี้ก็ได้ถูกแต่งตั้งให้ดูแลเรเลียเรด・ซิลเวอร์
ในตอนนี้ แม้ตระกูลแบลงคิทจะถือว่าเป็นขุนนางระดับขั้นที่แปด แต่ลูกสาวคนที่สามนั้นมีสถานะแทบจะไม่ต่างจากสามัญชน
เมื่อห้าปีที่แล้ว หลังจากจบการศึกษาจากแผนกมัธยมต้นของสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ เธอก็ถูกส่งไปเป็นเด็กฝึกงานของคนรู้จักในตระกูลซิลเวอร์ตามคำสั่งของหัวหน้าตระกูลผู้เป็นพ่อ
เมื่อห้าปีก่อน ――ในระหว่างชีวิตการเรียน เอซูเอลาได้อุทิศตนเพื่อศิลปะการต่อสู้ที่เรียกว่าสำนักทลายสวรรค์ ด้วยเหตุผลบางประการ เธอจึงสอนทลายสวรรค์ให้กับลูกสาวคนที่สามของตระกูลซิลเวอร์
และในตอนนี้ เธอก็กำลังสอนให้กับเรเลียเรด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เธอสามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นอาจารย์ของบุตรีคนที่สาม ลิลิมิ・ซิลเวอร์ และบุตรีคนสุดท้อง เรเลียเรด
“――คุณหมายถึงอะไร? คำถามของคุณมีความหมายว่ายังไง?”
ในฐานะสาวใช้ของตระกูลขุนนาง ความผิดพลาดใด ๆ จะถือเป็นความอับอายของตระกูล
สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นเพียงการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจบลงด้วยการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญได้
แม้พวกเราสาวใช้จะลงเอยด้วยการมากินอาหารด้วยกันเนื่องจากไหลตามกระแสของผู้เป็นนาย แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เวลาพักผ่อน
ตระกูลซิลเวอร์และตระกูลลิสตัน
เดิมทีผู้อาวุโสของทั้งสองตระกูลนั้นมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แต่เนื่องจากผู้นำตระกูลลิสตันเกษียณอายุก่อนกำหนด ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงจำกัดอยู่เพียงการทักทายตามฤดูกาลกันทางจดหมายเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งสองได้ติดต่อกันอย่างใกล้ชิดเนื่องจากการตั้งสถานีออกอากาศของเมจิกวิชั่น
ต้องขอบคุณการแลกเปลี่ยนนั้นที่ทำให้เปิดโอกาสให้เนีย・ลิสตันสามารถมีส่วนร่วมในการถ่ายทำพิธีเปิดในดินแดนซิลเวอร์ที่พึ่งก่อตั้ง
หากไม่นับเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้ว หากทั้งสองตระกูลไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เรื่องนี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง
“――ท่านผู้นั้นแข็งแกร่งนะคะ ดูไม่ปกติเลยนะคะ”
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ และรออาหารมาถึง――เอซูเอลาก็พูดถึงหัวข้อดังกล่าว
“――คุณเป็นคนสอนเหรอคะ?”
เนีย・ลิสตันอายุหกขวบ
เหมือนอย่างที่คาดไว้ เอซูเอลาไม่เชื่อว่าเธอจะแข็งแกร่งมาตั้งแต่แรก แต่ในความเป็นจริงที่เอซูเอลาไม่รู้คือเธอแข็งแกร่งมาตั้งแต่แรก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม จึงเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีสาวใช้ที่ฝึกปรือมาเป็นอย่างดีอยู่เคียงข้างเช่นเดียวกับที่ตนเองได้รับหน้าที่ เธอคิดอย่างนั้น
เนียแข็งแกร่ง แต่ริโนกิสก็แข็งแกร่งเช่นกัน
ถ้าเราต่อสู้กัน เอซูเอลาคิดว่าพวกเธอน่าจะสามารถมีการแข่งขันที่ดีทีเดียว ถ้าเป็นแบบนั้นจะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งทัดเทียม
ในความเป็นจริงไม่มีทางเลยที่จะมีคนที่เชื่อว่าเด็กอายุหกขวบแข็งแกร่งกว่าริโนกิส แม้จริง ๆ แล้วเธอต่างหากที่เป็นเหมือนลูกศิษย์
“――ม๊า ก็เป็นการคาดเดาที่ดีล่ะนะ”
เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายเรื่องต่าง ๆ และถึงจะบอกความจริงไปก็ไม่มีทางเชื่อกันอยู่แล้ว ริโนกิสจึงพูดให้คลุมเครืออย่างเหมาะสม
“――ฉันเองก็สงสัยเกี่ยวกับเรเลียเรดซามะเหมือนกันค่ะ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้มองคุณหนูเนียเป็นคู่แข่งมากขนาดนั้นกันคะ……?”
“――อืม คุณหนูดูจะเกิดความรู้สึกตราตรึงบางอย่างในตอนที่ได้เห็นการปรากฏตัวของเนียซามะบนเมจิกวิชั่นเป็นครั้งแรกค่ะ”
“――ความรู้สึกตราตรึง งั้นเหรอคะ……”
“――『ฉันน่ารักกว่า』หรือ『ฉันทำได้ดีกว่า』หรือบางสิ่งทำนองนั้น……”
“――อะ?”
“――นั่นเป็นเรื่องที่ฉันคิดว่าคุณหนูจะพูดคะ แต่โปรดอย่าเข้าใจผิดนะคะ”
เอซูเอลาส่งใบหน้าเย็นชาให้กับริโนกิสซึ่งเปล่งเสียงต่ำออกมา
“――เพราะฉันเองก็คิดเช่นนั้น”
ไม่มีใครเข้าใจว่าคำพูดนั้นแฝงความหมายว่ายังไง แต่คำพูดเหล่านั้นจุดไฟในใจของริโนกิสอย่างแน่นอน
“――ห๊า? คุณหนูของฉันน่ารักกว่ายัยผมแดงไร้มารยาทนั่นเป็นร้อยเท่า?”
“――นั่นก็แค่ความคิดของคุณไม่ใช่ แค่ของคุณ แต่ความคิดของโลกล่ะ”
“――นึกว่าสุนัขจรจัดที่เห่าใส่คนที่พี่งได้เจอกันเป็นครั้งแรกอย่างไร้มารยาทแบบนั้นนี่น่าเอ็นดูรึไง? โลกของคุณน่าจะพิสดารน่าดูชม”
“――ไม่น่าขนลุกรึไงกับเด็กที่ยังอายุแค่หกขวบ แต่กับนิ่งเฉยได้ผิดปกติเด็กขนาดนั้น? ดูเหมือนคนแก่มากกว่าที่จะเป็นเด็ก เด็กนั่นยังเป็นเด็กจริง ๆ อยู่เหรอ”
………..
สองสาวใช้ต่างจ้องหน้ากัน โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าลูกค้าที่นั่งอยู่รอบโต๊ะได้ถอยห่างออกไปแล้ว ไม่เพียงแค่จ้องเท่านั้น แม้แต่ตาก็ยังไม่กระพริบ
ทั้งคู่มีสิ่งหนึ่งในใจที่ตรงกัน
――สักวันหนึ่งฉันจะตัดสินชี้ขาดกับยัยนี้ และจะแสดงให้เห็นว่าคุณหนูน่ารักแค่ไหนด้วยกำปั้นของฉัน
สองสาวใช้ทานอาหารจนเสร็จโดยไม่หยุดคุย ออกจากร้านโดยไม่พูดอะไร กลับไปที่ร้านอาหารชั้นสูงที่คุณหนูของแต่ละฝ่ายอยู่โดยไม่เปิดปาก
ขณะที่กำลังรับประทานของหวานกันอยู่ รัฟฟิน ลูกสาวคนโตของตระกูลซิลเวอร์ก็กำลังอยู่ในระหว่างสร้างโอกาสการพูดคุยเพื่อเสนอขายความต้องการให้ทดลองเสื้อผ้าที่เธอเป็นผู้ออกแบบเอง
――เนียยังไม่เคยดูช่องของดินแดนซิลเวอร์จึงไม่รู้ว่าเรเลียเรดที่ปรากฎตัวบนเมจิกวิชั่นมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่น
ทั้งดูน่ารัก มีสไตล์ ทำให้ใส่เสื้อผ้าที่เหมือนกับเธอ
อย่างที่คาดไว้ไม่มีใครกล้าบอกกับเนียด้วยตัวเอง
ตอนที่รัฟฟินอยู่ที่ตระกูลซิลเวอร์ ทุกครั้งที่เธอเห็นเนียก็จะเอาแต่พึมพำว่าเชย เชย
ยังไงก็ตาม ชุดส่วนใหญ่ของเนียในการถ่ายทำมักจะเป็นชุดที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป หรือบางทีก็เป็นชุดทำงานของอาคันตุกะที่ถูกเตรียมไว้
แต่ก็เป็นรูปลักษณ์ที่เห็นแล้วสามารถบอกได้ทันทีว่านี่คือ บุตรีตระกูลลิสตัน
แทนที่จะเรียกว่าเชย ต้องบอกว่าเป็นชุดของหญิงสาวทั่วไปที่สามารถเห็นได้โดยทั่วไปมานานแล้ว ดังนั้นจึงอาจเรียกได้ว่าเป็นคนที่แค่ไม่น่าสนใจสิ่งใหม่ ๆ มากกว่า
“――คุณหนูคะ หากทานเสร็จแล้ว……”
รีบกลับกันเถอะค่ะ
ริโนกิสกระซิบกับเนียเช่นนั้น ก่อนที่เนียจะตอบกลับ
“ฉันถูกขอให้ออกไปช้อปปิ้งกับพวกเขาน่ะ วันนี้คงไปวัดร่างกายไม่ได้แล้วล่ะ”
“……งั้นเหรอคะ”
แม้สาวใช้จะเข้ากันได้ไม่ดี แต่ก็ไม่จำเป็นที่เหล่าคุณหนูจะเข้ากันไม่ได้
หมายถึงหากขัดแย้งกันอย่างจริงจัง จะไม่ช่สถานการณ์ความขัดแย่งระหว่างสาวใช้อีกต่อไป
ถึงพึ่งได้พบกันวันนี้ แต่เหล่าคุณหนูก็ดูเหมือนจะสามารถมีปฏิสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีต่อกัน
ในรูปการนี้ เว้นแต่จะมีปัญหาร้ายแรง คงไม่มีเรื่องยุ่งยากในอนาคต
แบบนี้ไม่เป็นไร
แบบนี้
ทันใดนั้นริโนกิสก็เงยหน้าขึ้น และประสานตากับเอซูเอลาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้านหลังโต๊ะของเหล่าคุณหนูของเธอ
“――……”
“――……”
พวกเธอกำลังคุยกันด้วยสายตา
――สักวันหนึ่งต้องทำให้ได้ ฉันจะซัดความน่ารักและความวิเศษของคุณหนูใส่หน้าหล่อนให้รู้ซึ้ง
ปล.โดนทั้งฝุ่นทั้งฝนที่ตกกระปริบประปรอยจนฝุ่นบนพื้นฟุ้งแทนเล่นงาน ตอนนี้เลยภูมิแพ้ขึ้นน้ำมูกไหลไม่หยุดปวดหัวเป็นช่วงๆด้วย ฮา