บทที่ 15 พิสูจน์ความบริสุทธิ์

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 15 พิสูจน์ความบริสุทธิ์

“เหอะ คุณหมอหลี่ คุณไม่จำเป็นต้องไปโต้เถียงกับคนอย่างไอ้ขยะ แบบนี้มันเสียเวลาเกินไปแล้ว” เจียงมู่หลงเดินไปส่งหลี่น่อง พูดเยาะเย้ย

“เจียงหว่าน ในที่สุดเธอก็มา”

แม่ของเจียงมู่หลงเฉินเสว่พูดอย่างเย็นชา

“เรื่องหาหมอให้คุณปู่ ไม่เอะใจเลยสักครั้ง”

“เธอคิดว่าทุกคนจะเหมือนกับเจียงมู่หลงที่มีอนาคตสดใส ใช้เงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อเชิญหมอชื่อดังมาดูคุณปู่! จากที่ฉันดู ทายาทรุ่นต่อไปของตระกูลคงเป็นใครไปได้นอกจากเขา”

“นั่นมันแน่นอน ไม่เหมือนใครบางคน ขโมยสัญญาไป แถมยังจงใจหาวิธีเอาคืน”

คนที่ตามเจียงมู่หลงมาพูด พี่น้องตระกูลเจียงล้อมรอบเข้ามา พูดจาเสียๆหายๆ แม้แต่ท่านสามยังขมวดคิ้ว สายตาเผยความรังเกียจและหยิ่งผยอง

เขาพูดออกมาก่อน นำสัญญาของบริษัทมู่หรานส่งให้เจียงมู่หลง ผลลัพธ์เธอยังหาวิธีแย่งกลับมา ถึงแม้จะดูเหมือนความประสงค์ของบริษัทมู่หราน แต่หากไม่มีความเกี่ยวข้องกับเจียงหว่าน เขาไม่มีทางเชื่อโดยเด็ดขาด

“คุณปู่ ไม่เหมือนที่ท่านคิดแบบนั้นนะคะ”

ใบหน้าของเจียงหว่านนิ่ง เขาคิดไม่ถึง เจียงมู่หลงจะน่ารังเกียจมาฟ้องแบบนี้!

“เหอะๆๆ หรือว่าเธออยากจะพูดว่าเพราะเธอเขียนแผนดี ถึงได้รับการสนับสนุนจากบริษัทมู่หราน?” เจียงมู่หลงตัดบทของเจียงหว่าน “แผนของพวกเราทั้งสอง ทุกคนต่างมองออกชัดเจนว่าฉันเขียนดีกว่า อีกอย่างกลุ่มคนของเธอ ก็หายไปเกือบครึ่งหนึ่ง!”

“ดังนั้นเจียงหว่าน ต้องเล่นสกปรกอย่างแน่นอน ไม่แน่อาจขายตัวก็ได้ ถึงเอาสัญญาฉบับนี้มาได้”

เห็นได้ชัดว่าเจียงมู่หลงต้องการเอาเรื่องสกปรกโยนใส่เจียงหว่าน เพื่อระบายความโกรธที่โดนแย่งสัญญาไป

พี่น้องของตระกูลเจียงที่ยืนอยู่ในห้อง ได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง หากเจียงหว่านไม่ได้ใช้วิธีอะไรเลย เธอจะทำให้บริษัทมู่หรานเลือกเธอมาเป็นผู้รับผิดชอบได้ยังไงกันล่ะ?”

บริษัทมู่หรานนี้ไม่ใช่เจียงหว่านเป็นคนเปิดนะ!

“เจียงหว่าน เธอรู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้ มันจะทำให้ตระกูลเจียงของเราขายหน้า!”

“ใช่แล้ว ปกติแกล้งทำตัวบริสุทธิ์ผุดผ่อง คิดไม่ถึงว่าสัญญาฉบับนี้จะได้มาด้วยวิธีแบบนี้ นี้มันจะต่างอะไรกับผู้หญิงขายตัวข้างนอกพวกนั้นล่ะ?”

“ไอ้ขยะ ฉันเริ่มรู้สึกสงสารนายอยู่บ้างแล้ว เกาะผู้หญิงกินก็ยังได้ ตอนนี้ยังถูกสวมเขาอีก หากฉันเป็นนาย คุกเข่าตายซะดีกว่า ฮ่าๆๆ………”

พี่น้องตระกูลเจียงเริ่มปั่นป่วน เยาะเย้ยเจียงหว่านอย่างไม่ใส่ใจ เสียงแสบหูอย่างมาก

เจียงหว่านโกรธจนร้องไห้แล้ว “ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นสักนิด นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงฉันแบบนี้!”

“ไม่มี? ฮ่าๆ เรื่องนี่มีใครจะยอมรับล่ะ?” เจียงมู่หลงหัวเราะ

“เจียงหว่านเรื่องนี้ตกลงมันเป็นมายังไงกันแน่? เธออธิบายให้ฉันฟังอย่างชัดเจน!” เสียงเย็นชาของท่านสามพูดขึ้น

สำหรับเขาเรื่องที่ทำลายชื่อเสียงเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด! หากเจียงหว่านทำมันออกมาจริงๆ แน่นอนว่าเขาจะไล่เธอออกจากตระกูลเจียง!

“คุณปู่ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ คุณปู่ได้โปรดเชื่อใจฉัน!” เจียงหว่านพูดด้วยใบหน้าแดง “แม้ฉันจะโดนแย่งสัญญาไป ฉันก็ไม่มีทางทำเรื่องพวกนี้แน่!”

“งั้นเธอพูดมา เธอใช้วิธีอะไรกันแน่ ทำให้บริษัทมู่หรานเลือกเธอเป็นผู้รับผิดชอบ” เจียงมู่หลงใบหน้าไม่ยอม

ในใจของเขาก็สงสัยเช่นกัน ตกลงเพราะอะไรถึงทำให้ผู้จัดการเฝิงเลือกเจียงหว่านมาเป็นผู้รับผิดชอบ

“เป็นฉันเอง”

ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ในเวลานี้เองมู่เซิ่งก็เดินขึ้นมายืนอยู่ข้างหน้าเจียงหว่าน

“นาย?”

“ฮ่าๆๆ……”

มองดูมู่เซิ่งยืนขึ้นมา กลุ่มคนกลับพากันหัวเราะ เจียงมู่หลงชี้ไปที่มู่เซิ่งและพูด “เจียงหว่าน เธอจะหาเหตุผลก็ต้องหาที่มันดูคล้องจองกันหน่อยไหม? เธอพูดว่ามันเกี่ยวข้องกับมู่เซิ่ง ถึงทำให้บริษัทมู่หรานเลือกเธอเป็นผู้รับผิดชอบ?”

“ทุกคนต่างรู้ดี ไอ้ขยะใช้ไม่ได้หนึ่งอย่างมู่เซิ่ง ทุกวันอยู่แต่บ้าน ทำเป็นเพียงซักผ้าทำกับข้าว คนที่ไร้ค่าแบบนั้น จะมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทมู่หรานได้ยังไง?”

“นายบอกว่าเขาเป็นยามของบริษัทมู่หราน ฉันยังพอเชื่อ”

กลุ่มคนพากันหัวเราะ เจียงหว่านเพื่อผลักความรับผิดชอบแม้แต่มู่เซิ่งยังพูดขึ้นมา ช่างน่าขำสิ้นดี

“วันนี้คนที่เลือกสัญญาเป็นผู้จัดการเฝิงใช่ไหม? หากนายไม่เชื่อ ฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้” มู่เซิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา น้ำเสียงเย็นชา

เจียงหว่านถูกกลุ่มคนพวกนั้นทำให้ร้องไห้แบบนี้ ทำให้ใจของเขาทนไม่ได้จริงๆ

“ไอ้ขยะ ระวังถูกตบหน้านะ!” เจียงมู่หลงพูดเหยียดหยาม

มู่เซิ่งมองไปที่เขาอย่างไร้อารมณ์ และโทรหาผู้จัดการเฝิงทันที

เห็นว่ามู่เซิ่งกล้าโทรหา กลุ่มคนต่างเงียบลง แม้แต่เจียงหว่านยังหยุดเสียงร้องไห้ น้ำตาไหลอาบมองไปยังโทรศัพท์ที่โทรออกอยู่

เธอก็อยากรู้ เพื่อนที่เขาพูดถึงตกลงเป็นเรื่องจริงหรือหลอก

“ฮัลโหล คุณคือ?” ไม่นานเสียงในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“นี้มันเสียงของผู้จัดการเฝิงจริงๆ” ตอนเช้าเพิ่งคุยกัน แม้จะถูกปฏิเสธ แต่เจียงมู่หลงยังคงจำน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้ “แต่ว่าผู้จัดการเฝิงเหมือนจะไม่รู้จักนายนะ?”

“ผู้จัดการเฝิง ฉันคือมู่เซิ่ง” มู่เซิ่งไม่ได้สนใจเจียงมู่หลง และพูดต่อไป

“อ๋อ เป็นพี่มู่เองมีเรื่องอะไรไหม?”

น้ำเสียงในโทรศัพท์ดูอารมณ์ดี

ขยะ!

สัญญาฉบับนี่ท่านสวีถึงกับลงมาจัดการด้วยตัวเอง ให้เขาทำให้สำเร็จ แถมยังกำชับกำชาอย่างดี ห้ามทำผิดกับคนที่ชื่อมู่เซิ่งเป็นเด็ดขาด เฝินหนานความคิดล้ำลึกอย่างมาก ดังนั้นจึงแลกเบอร์กับเขาไว้ตั้งแต่แรก ตอนนี้มีโทรศัพท์โทรเข้ามา แน่นอนเขาต้องช่วยอยู่แล้ว

“ผู้จัดการเฝิง สัญญาเมื่อเช้าของคุณ อาจจะทำให้ตระกูลเจียงของพวกเราเกิดเรื่องเข้าใจผิด รบกวนคุณช่วยอธิบายเหตุผลให้ฟังอีกสักรอบ” มู่เซิ่งพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องซ้ำอีกครั้ง

หลังจากพูดจบ อีกฝั่งก็เงียบลงทันที

ไม่นาน ผู้จัดการเฝิงถึงเปิดปากพูด แต่เป็นน้ำเสียงที่เย็นชาเหมือนเดิมของเขา พร้อมกับความโกรธ “ฮ่าๆๆ น่าตลกสิ้นดี! ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกคุณถึงคิดแบบนี้ แต่ว่าฉันมีภรรยาแล้ว ฉันและเธอรักกันดี!”

“ฉันจะพูดซ้ำอีกครั้ง เพราะฉันเห็นแก่หน้าคุณชายมู่เซิ่ง รวมถึงแผนของคุณเจียงหว่าน ถึงเลือกเธอมาเป็นผู้รับผิดชอบ มีเพียงแค่สองข้อนี้ ไม่มีอย่างอื่นแล้ว”

“ข่าวลือแบบนี้ ฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินเป็นครั้งที่สอง จากปากใครก็ตาม! หากเข้าไปถึงหูภรรยาฉัน พวกนายตระกูลเจียงก็รอหมายศาลจากพวกเราบริษัทมู่หรานเถอะ! พวกสมองตาย!”

เสียงของผู้จัดการเฝิงตัดไป คนทั้งห้องต่างเงียบลงอย่างน่ากลัว

คำพูดของอีกฝั่ง ความหมายชัดเจน ผู้จัดการเฝิงทำเพราะเห็นแก่หน้ามู่เซิ่ง ถึงเลือกเจียงหว่านเป็นผู้รับผิดชอบ แม้แต่คนโง่ยังฟังออก ไม่เกี่ยวกับเจียงหว่าน

เป็นใบ้ไร้คำพูด!

หัวของเจียงมู่หลงแสบร้อนจนปวด

ใบหน้าของท่านสามดำลึกไม่น่ามอง ที่จริงเมื่อกี้ ผู้จัดการเฝิงก็ด่าเขาเข้าไปด้วย

“เป็นไงบ้าง สามารถพิสูจน์สิ่งที่ฉันพูดได้ไหม?” มู่เซิ่งพูด

“ถึงจะเป็นเรื่องจริงแล้วยังไงล่ะ? คุณปู่เลือกฉันให้เป็นผู้รับผิดชอบในสัญญาแล้ว นายยังจะแย่งไป เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นตระกูลเจียงอยู่ในสายตา!”

เห็นเจียงมู่หลงเสียหน้า แม่ของเขาเฉินเสว่ก็พูดขึ้นมา ชี้ไปที่มู่เซิ่งและพูดเสียงเย็นชา

“เป็นความจริงที่พวกเราใส่ร้ายเจียงหว่าน แต่นั้นก็เพราะพวกเราไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง”

“แต่นายล่ะ?”

“นายขโมยสัญญา หากคนภายนอกรู้เข้าอาจคิดว่าพวกตระกูลเจียงสู้นายยังไม่ได้!”

เจียงมู่หลงก็พูดอย่างเย็นชา “แย่งธุรกิจของตระกูลไป เจียงหว่าน เธอทำผิดกฎของตระกูลแล้ว!”

“ใช่แล้ว”

กลุ่มคนมองไปที่มู่เซิ่ง ต่างพูดกันต่อว่าเขาว่าคิดไม่ซื่อ

“ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น” เจียงหว่านพูด แต่อยู่ต่อหน้าคนปากหมาสิบกว่าคนรู้สึกเพียงว่าไร้เรี่ยวแรง

“ไม่ต้องพูด!”

ท่านสามใบหน้าเย็นชา พูดอย่างรังเกียจ “ในเมื่อเธอสามารถทำให้บริษัทมู่หรานเลือกเธอ คิดแบบนั้นเธอต้องมีอะไรดี ต่อจากนี้ไปของและแรงสนับสนุนจากตระกูลเจียงลดลงครึ่งหนึ่ง จากนี้บริษัทของเธอ เธอพัฒนามันเอง!”

“คุณปู่……” พริบตาใบหน้าของเจียงหว่านขาวซีดลงเหมือนกระดาษ

แม้บริษัทของเขาจะเอามาได้ แต่นั้นเพราะมีแรงสนับสนุนจากตระกูลเจียง หากไม่มีตระกูลเจียง แม่เขาจะมีสัญญาแผนการของบริษัทมู่หราน ก็อยากที่จะผลักดันบริษัทต่อไป ต้องรู้ว่าส่วนใหญ่มาจากแรงสนับสนุนและพลังจากตระกูลเจียง

“ฮ่าๆ คุณปู่ให้โอกาสเธอพัฒนาบริษัทคนเดียวแล้ว ยังไม่รีบขอบคุณอีก?”

เจียงมู่หลงหัวเราะเย็นชา ในใจรู้สึกภูมิใจอย่างมาก ภูมิใจที่สุด

เธอกล้าแย่งสัญญาฉันไป ตอนนี้ฉันก็ให้คุณปู่มาต่อกรกับเธอ ดูว่าเธอจะทำยังไง!

“มีบางคนก็เป็นแบบนี้ ดื่มน้ำแต่ลืมคนขุดบ่อ ตอนแรกฉันบอกไว้แล้ว ไม่ควรแบ่งเงินเยอะขนาดนั้นให้เจียงหว่าน ตอนนี้เงินหายไปครึ่ง แบบนี้สมควรโดน!”

ดวงตาขาวโหดเหี้ยม “ช่างไม่ดูกำลังตัวเองเสียจริง ยังมาแย่สัญญาของพวกเราอีก”

แม่ของเจียงมู่หลงเฉินเสว่พูดเยาะเย้ย

“แม่อย่าโมโหไป โกรธคนแบบนี้เสียสุขภาพเสียเปล่า” เจียงมู่หลงตบหลังปลอบแม่เขา

กลุ่มคนพากันหัวเราะ ห้องโถงที่เคยเงียบกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง

นิ้วมือของของเจียงหว่านสั่น “พวกนาย……”

เป็นคนของตระกูลเจียงเหมือนกัน เธอพัฒนาบริษัทตระกูลเจียงก็ให้เงินสนับสนุนเธอเพียงห้าล้าน ส่วนเจียงมู่หลงได้ถึงห้าสิบล้าน! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอลำบากลำบนแลกด้วยชีวิตมาจะมีวันนี้ได้ไง?

ตอนนี้บริษัทได้สัญญาแล้ว กลับเอาเงินและแรงสนับสนุนออกไปครึ่งหนึ่ง!

ทำไมกัน ความต่างของคนสองคนถึงได้ต่างขนาดนี้!

“ยังมีนาย ไอ้ขยะ เรื่องของตระกูลเจียง จะให้คนนอกอย่างนายเข้ามายุ่งได้ยังไงกันห้ะ?”

เจียงมู่หลงยื่นมือชี้ไปที่มู่เซิ่ง พูดอย่างโกรธ

“ยังไม่คุกเข่าขอโทษ หรือว่าต้องรอคุณปู่พูดหรือไง?” เฉินเสว่พูดเย็นชา ใบหน้าดูซะใจไม่น้อย

แม้นายจะรู้จักคนใหญ่คนโตของบริษัทมู่หรานแล้วยังไง?

ขอแค่พวกเราพูด นายก็ต้องคุกเข่าลง

มู่เซิ่งหัวเราะ รอยยิ้มสดใส โลกใบนี้คนอ่อนแอถือเป็นบาปเสียจริง

หากเป็นเมื่อก่อน เขาต้องยอมก้มหัวรับผิด แม้จะถูกเหยียบย่ำก็ไม่สน แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางถอยแล้ว

ยิ่งถอยยิ่งทำให้อีกฝ่ายเข้ามาอีก และไม่มีทางปกป้องคนข้างๆได้

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจียงหว่าน ไม่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากพวกนายตระกูลเจียง!”

มู่เซิ่งกุมมือของเจียงหว่าน หมุนตัวออกไป!