ตอนที่ 60 กลับมาแล้ว

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 60 – กลับมาแล้ว

ยามวิกาล ชิ่งเฉินไปซื้อหม้ออัดแรงดันใบใหม่ให้ตนเอง เพราะว่าต้องต้มเนื้อวัว ไม่มีหม้ออัดแรงดันไม่ได้จริง ๆ

บ้านเล็ก ๆ บนถนนสิงสู่ไม่มีคนดูแลมานานเกินไปแล้ว หม้ออัดแรงดันรั่ว เครื่องซักผ้าก็พังแล้ว

ตอนนี้เขาหยิบทองมาจากโลกภายใน ย่อมอยากจะเปลี่ยนของบางอย่างใหม่

ตอนที่เขากำลังเตรียมจะก้าวออกจากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จู่ ๆ มองเห็นว่ามีเครื่องซักผ้าไฮเออร์กำลังลดราคา

ชิ่งเฉินลังเลนิดหน่อย สุดท้ายยังคงไม่ได้ซื้อ

ณ ขณะนี้เอง หวังอวิ๋นและไป๋หว่านเอ๋อร์กำลังเป็นแขกในบ้านเจียงเสวี่ย

ครั้งนี้ทั้งสองคนไม่ได้ซื้อของขวัญที่แพงแต่ไม่มีประโยชน์อย่างแชมเปญ,วิสกี้ ทว่าทำตามคำชี้แจงของหูเสี่ยวหนิว ซื้อผักสดที่เรียบง่ายมีประโยชน์มาเยือนถึงประตู

ตอนที่เจียงเสวี่ยทำอาหาร ทั้งสองคนอยู่เป็นเพื่อนหลี่ถงอวิ๋นดูการ์ตูนอย่างกับเป็นพี่สาวคนโต

ตอนที่ PAW Patrol ฉายจบไปหนึ่งตอน หวังอวิ๋นยิ้มถามหลี่ถงอวิ๋นว่า “เพื่อนตัวน้อย พี่สาวถามคำถามหนูสักข้อได้ไหมจ๊ะ”

หลี่ถงอวิ๋นกล่าวอย่างน่ารักน่าชังว่า “งั้นหนูตอบคำถามแล้วมีลูกอมกินได้ไหมคะ”

“ย่อมได้จ้า” หวังอวิ๋นยิ้มแล้วรีบล้วงช็อกโกแลตจากในกระเป๋ามอบให้เธอ “อันนี้ได้ไหม”

หลี่ถงอวิ๋นยิ้มแฉ่งกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะพี่สาว หนูชอบกินช็อกโกแลตที่สุดเลย”

“งั้นพี่สาวถามหนูนะ” หวังอวิ๋นคิดแล้วกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉินเป็นอย่างแม่ของหนูรึเปล่า ก็คือเป็นนักท่องเวลาน่ะ ประเภทที่เท่เป็นพิเศษเลย”

หลี่ถงอวิ๋นแสดงสีหน้ามึนงงแล้วส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่รู้ค่ะ”

“เพื่อนตัวน้อยเคยถามเขารึเปล่า” ไป๋หว่านเอ๋อร์ถาม เธอรู้สึกว่าของหลี่ถงอวิ๋นมีปฏิกิริยานี้จึงปกติ ถ้าโพล่งอย่างมั่นใจว่าชิ่งเฉินไม่ใช่ งั้นตนเองกลับจะระแวงหน่อยแล้ว

อีกอย่าง เพื่อนตัวน้อยอายุสิบขวบจะโกหกได้อย่างไร

หลี่ถงอวิ๋นเอียงศีรษะทบทวนความทรงจำว่า “หนูเคยถามพี่ชิ่งเฉิน แต่เขาไม่ได้พูดว่าตัวเองเป็นนักท่องเวลารึเปล่า เขาแค่บอกกับหนูว่า แทนที่จะคิดถึงเรื่องทะลุมิติที่เพ้อเจ้อ ยังไม่สู้ตั้งใจเรียนแล้วเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ เลย”

“เขายังพูดอะไรอีก” หวังอวิ๋นถาม

“เขาพูดว่า นักท่องเวลาพวกนั้นก็ไม่เห็นจะยอดเยี่ยมอะไรเลย” หลี่ถงอวิ๋นกินช็อกโกแลตอย่างน่ารักน่าชังแล้วกล่าว

ไป๋หว่านเอ๋อร์กับหวังอวิ๋นเหลือบมองกัน ในสีหน้าล้วนเจือความยินดีเศษเสี้ยวหนึ่ง

อันที่จริงหลี่ถงอวิ๋นไม่ได้ตอบพวกเธอตรง ๆ เลย แต่พวกเธอรู้คำตอบแล้ว

ถ้าชิ่งเฉินเป็นนักท่องเวลาจริง ๆ จะพูดคำพูดประเภท “นักท่องเวลาก็ไม่เห็นจะยอดเยี่ยมอะไรเลย” ได้อย่างไร

นี่คล้ายกับความอิจฉาและริษยาในบริบทหนึ่ง รวมทั้งการปลอบตัวเองชนิดหนึ่ง

เวลานี้ไป๋หว่านเอ๋อร์ก็ล้วงช็อกโกแลตออกมาจากในกระเป๋า เธอลูบศีรษะหลี่ถงอวิ๋น “เสี่ยวอวิ๋นเด็กดีจริง ๆ”

ว่าแล้ว ทั้งสองคนลุกขึ้นบอกลาเจียงเสวี่ย

พวกเธอออกจากประตูแล้วจึงลดเสียงลงกล่าวว่า “เธอรู้สึกว่าสิ่งที่หนูน้อยพูดเป็นความจริงไหม”

“หนูน้อยที่น่ารักน่าชังขนาดนี้ สิ่งที่พูดต้องเป็นความจริง อีกอย่างหนูน้อยก็ปั้นเรื่องประเภทนี้ออกมาไม่ได้หรอก” ไป๋หว่านเอ๋อร์วิเคราะห์

“ดูท่า ชิ่งเฉินไม่ใช่นักท่องเวลาจริง ๆ” หวังอวิ๋นกล่าว “ทีนี้หูเสี่ยวหนิวก็วางใจได้แล้ว”

พวกเธอไม่เห็นว่าพริบตาที่ประตูปิดลง หลี่ถงอวิ๋นถุยช็อกโกแลตในปากใส่ถังขยะเงียบ ๆ จากนั้นกลอกตาขึ้นฟ้า

อันที่จริงเธอไม่ชอบรสชาติของช็อกโกแลต

ก่อนหน้านี้พ่อชอบซื้อช็อกโกแลตให้เธอเสมอ แต่ตั้งแต่ที่เธอเห็นพ่อตีแม่ก็เกลียดชังรสชาตินี้สุดจิตสุดใจ

แต่ว่ายังมีช็อกโกแลตหนึ่งก้อนที่เธอไม่ได้ทิ้ง แค่สอดเข้าไปในกระเป๋าเหมือนไร้เรื่องไร้ราว

……

ตกดึก ชิ่งเฉินกลับถึงบ้านไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

เขาเปิดประตูแล้วหลีกทางให้หลี่ถงอวิ๋น “เข้ามาคุยเถอะ เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ”

หลี่ถงอวิ๋นมองกล่องหม้ออัดแรงดันที่เขากำลังแกะ “พี่ให้แม่หนูช่วยต้มเนื้อวัวก็ได้นี่นา บ้านหนูมีหม้ออัดแรงดัน เนื้อวัวที่แม่หนูต้มอร่อยมากเลย”

“ไม่เป็นไร ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ชิ่งเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นี่ อันนี้ให้พี่” หลี่ถงอวิ๋นเอาช็อกโกแลตในกระเป่าใส่มือเขากล่าวว่า “พี่สาวสองคนนั้นวันนี้มาถามหนูว่าพี่เป็นนักท่องเวลารึเปล่า วางใจเถอะค่ะ หนูช่วยพี่หลบเลี่ยงไปแล้ว แต่พี่ชิ่งเฉินต้องระวังหน่อยนะ จะต้องมีรายละเอียดอะไรที่ทำให้พวกเขาเกิดความระแวงแน่ ๆ เลย”

“อืม” ชิ่งเฉินทราบชัดมาก เป็นเพราะเรื่องของครูต่างประเทศ “เธอไปเอาช็อกโกแลตมาจากไหน”

หลี่ถงอวิ๋นกล่าวด้วยใบหน้าไม่เปลี่ยนสีว่า “หนูซื้อให้พี่สิ ให้เป็นของขวัญของพี่”

“ขอบใจ” ชิ่งเฉินหัวเราะ

ด้วยเห็นว่าเพื่อนตัวน้อยหลี่ถงอวิ๋นช่วยเหลือ ชิ่งเฉินก็เลยตอบแทนกลับไปหน่อย “จากที่ฉันสังเกต คนพวกนี้สร้างศัตรูที่เมืองหมายเลข 7 จริง ๆ ชื่อเฉินเล่อโหยว น่าจะเป็นคนของตระกูลเฉิน”

“ดังนั้นที่พวกเขาวิ่งจากเมืองหมายเลข 7 มาไกลขนาดนี้คือต้องการหลบหนีขอบเขตอิทธิพลของตระกูลเฉิน” หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยอย่างครุ่นคิด “แต่ว่า หนูไม่ต้องการข่าวประเภทนี้”

“งั้นเธอต้องการอะไร” ชิ่งเฉินเอ่ยอย่างอยากรู้

“หนูต้องการศักดิ์ฐานะของพี่ชิ่งเฉิน” หลี่ถงอวิ๋นกะพริบตาปริบ ๆ กล่าวออกมา

“ไม่ได้” ชิ่งเฉินปฏิเสธอย่างไร้ปรานี

“งั้นพี่ชิ่งเฉิน พี่ช่วยหนูทำการบ้านเถอะนะคะ” หลี่ถงอวิ๋นมองเขาอย่างกระตือรือร้น

“ก็ไม่ได้” ชิ่งเฉินปฏิเสธในคำเดียว ตนเองโตตั้งขนาดนี้แล้ว จะสามารถทำเรื่องที่ไร้อนาคตขนาดนี้ได้ยังไง!

“น่าเบื่อจริง!” หลี่ถงอวิ๋นรู้สึกเสียดาย “พี่ชิ่งเฉิน คนพวกนี้อาศัยอยู่ข้าง ๆ คอยจ้องพวกเรา น่ารำคาญอะ ต้องคิดวิธีอะไรมาไล่พวกเขาไปดีไหมคะ”

“ไล่ไม่ง่ายหรอก กลับกันคือมีความเสี่ยงจะเปิดเผยตัวเองเสียอีกต่างหาก” ชิ่งเฉินกล่าว “อีกอย่าง รู้สึกอยู่ตลอดว่าสี่คนนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้”

ถูกอีกฝ่ายระแวงเป็นเรื่องรบกวนจริง ๆ แต่เรื่องประเภทนี้ไปซ่อนแต่ยิ่งเด่นกลับไม่เหมาะสม หนทางที่ดีที่สุดคือ……เบี่ยงเบนจุดโฟกัส

อีกฝ่ายเดิมทีมาเพราะหลิวเต๋อจู้ งั้นย่อมต้องใช้หลิวเต๋อจู้ย้ายความสนใจของอีกฝ่ายกลับไปใหม่

ไม่ได้เป็นแค่ปัญหาของการย้ายความสนใจ บนตัวของทายาทรุ่นที่สองหูเสี่ยวหนิวสี่คนนี้ยังมีเงินทองและอำนาจโลกภายนอกที่เขาต้องการอย่างเร่งด่วน

ดูท่า ทะลุมิติครั้งหน้าเขาต้องไปคุยกับหลิวเต๋อจู้ดี ๆ หน่อยแล้ว

“จริงด้วยพี่ชิ่งเฉิน อีกไม่กี่วันก็วันชาติแล้ว พวกเราออกไปเล่นกันเถอะ” หลี่ถงอวิ๋นมองไปทางชิ่งเฉินย่างคาดหวัง

ชิ่งเฉินงุนงงนิดหน่อย “ทำไมจู่ ๆ พูดเรื่องออกไปเล่นขึ้นมาล่ะ อันนี้ฉันต้องนึกดูสักหน่อย ยังไงอีกหลายวันค่อยว่ากันดีไหม”

“ได้ พี่ต้องนึกดูแน่ ๆ นะ” หลี่ถงอวิ๋นพูดจบก็ขึ้นชั้นบนไปอย่างมีความสุข

ดึกดื่นค่อนคืน ชิ่งเฉินใช้โทรศัพท์มือถือเล่นบนเรียนภาษาญี่ปุ่นพลางออกกำลังกายอย่างขมขื่นพลาง

……

ในเวลานับถอยหลังที่เหลืออยู่ โลกภายนอกก็ไม่ได้มีคลื่นลมอีกแล้ว โลกคล้ายกับเงียบสงัดลงไปในทันใด ทุกคนล้วนรอคอยการทะลุมิติครั้งต่อไป รอคอยให้กลุ่มแชตของเหอเสี่ยวเสี่ยวตระเตรียมเรียบร้อย

ในช่วงเวลานี้ ชิ่งเฉินติดตามคดีการกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยผิดกฎหมายมาตลอด ผู้ต้องสงสัยที่หลบหนีอยู่เก้าคนนั้นยังคงไม่ได้ถูกจับกุม

ทุก ๆ คนอยู่ในอันตราย

นับถอยหลัง 00:00:10

ชั่วขณะสุดท้าย ชิ่งเฉินเอา USB ที่บันทึกการเดินหมากท้ายเกมเอาไว้ใส่เข้าไปในปาก และเปิดใช้วิชาลมหายใจในเวลาเดียวกัน มือขวากำมีดทำครัวหนึ่งเล่ม

เขารอคอยโลกแตกสลายและความมืดมิดมาเยือนเงียบ ๆ

10

9

8

7

6

5

4

3

2

1

ความมืดมิดสลายไปอีกครั้ง ชิ่งเฉินลืมตามองเห็นหลี่ซูถงและเยี่ยหว่านที่อยู่ข้างหน้ายังยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา คล้ายกับว่าตนเองไม่เคยได้จากไปเลย

หลี่ซูถงยิ้ม “กลับมาแล้วเหรอ”

“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า “กลับมาแล้วครับ”

เขาสังเกตเห็นว่ามีดทำครัวในมือตนเองเหลือเพียงด้ามมีด

การทดลองครั้งนี้มีผลสัมฤทธิ์ อย่างน้อยเขารู้แล้วว่าสรุปตนเองสามารถแบกสิ่งของได้ใหญ่แค่ไหน

……………………………..

โดนเด็กหลอกต้มเต็มเปาจ้า เรื่องนี้น้องเสี่ยวอวิ๋นนี่แหละที่เนียนสุดแล้ว

ตอนที่ 61 – พาเธอไปชมทิวทัศน์