บทที่ 109 ทางเลือก PART 1

“ฮี่ฮี่ พวกหน้าใหม่มาอีกแล้วสินะ” เสียงแหลมสูงของพ่อมดลีโอได้ดังขึ้นมา ดวงตาสีแดงสดตรงกลางหน้าผากของเขาจ้องมองตรงมาที่เมอร์ลิน

เมอร์ลินรู้สึกสั่นกลัวทันทีที่ดวงตาจ้องมาที่เขา เขารู้สึกได้ถึงพลังงานที่มองทะลุตัวเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับว่าไม่มีสิ่งใดสามารถหลบซ่อนจากดวงตาสีเดงนั่นได้

“เป็นเด็กหนุ่มที่หน่วยก้านดี เจ้าชื่อเมอร์ลินสินะ”

เมอร์ลินที่ได้ยินชื่อของเขา เขารีบพยักหน้าและตอบอย่างรวดเร็ว “ใช่ขอรับ อาจารย์ลีโอ ผมชื่อเมอร์ลิน วิลสันขอรับ”

“คืองี้นะเมอร์ลิน พอดีข้าติดการทดลองบางอย่างอยู่ดังนั้นในฐานะที่เจ้าเป็นสมาชิกคนใหม่ของดินแดนมนต์ดํา เจ้าจะได้รับโอกาสได้รับโครงสร้างเวทมนต์ระดับศูนย์แบบฟรีๆ เอาล่ะ เจ้าอยากได้คาถาแบบไหน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่เซ็ง ๆ ดูเหมือนเขาอยากจะให้พวกเมอร์ลินไปให้พ้นหน้าเขาไว ๆ

เมอร์ลินคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ สําหรับสมาชิกใหม่แต่เขาไม่รู้จะเอาคาถาแบบไหนดีดังนั้นเขาจึงตอบไปว่า

“อาจารย์ลีโอขอรับ ผมขอเวลาคิดก่อนได้มั้ย”

พ่อมดลีโอโบกมืออย่างรําคาญทันที “ งั้นเจ้าก็ไปจากที่นี่ซะ หากเลือกได้เมื่อไหร่ก็มาหาข้าล่ะกัน”

จากนั้นพ่อมดลีโอก็ใช้พลังจิตส่งพวกเมอร์ลินออกไปนอกประตูอย่างรวดเร็วและประตูได้ปิดไล่หลังแทบจะทันทีที่พวกเขาออกไป

เมอร์ลินยังคงมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาหันไปมองเลอแรนก้า เธอแสดงสีหน้าปั้นยากออกมา

“พ่อมดเมอร์ลิน คุณพอจะเดาได้มั้ยว่าทําไมพ่อมดชุดเทาถึงส่งพวกเรามาหาพ่อมดลีโอ”

เมอร์ลินเองก็สงสัยในเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน แม้ว่าพ่อมดลีโอจะมีพลังที่แข็งแกร่งมากแต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีอารมณ์มสั่งสอนพวกลูกศิษย์สักเท่าไหร่

เลอแรนก้าถอนหายใจยาวและพูดว่า

“เกือบสามปีแล้วที่ฉันได้มาที่หอคอยแห่งนี้ พ่อมดลีโอวัน ๆ อยู่แต่ในหอคอยไม่ออกไปไหน เขาไม่คยออกไปไหนเลยดังนั้นพวกเราจึงไม่ได้รับความรู้ใด ๆ ที่มาจากเขาเลย”

เลอแรนก้าก็ทําอะไรไม่ถูกเหมือนกัน เธอรู้ว่าผู้ที่ถูกส่งมาที่หอคอยพ่อมดลีโอส่วนจะเป็นพวกที่มีคุณสมบัติต่ำกว่ามาตรฐาน ลําพังตัวของพวกเขาก็แย่อยู่แล้วยังจะต้องมาเจอาจารย์ที่ไม่ค่อยใส่ใจพวกลูกศิษย์อีก

“จริงสิ พ่อมดลีโอได้ให้โอกาสฉันได้เลือกคาถาระดับศูนย์ทั้งสามแบบ ฉันเลยจะหาข้อมูลของพวกมันสักหน่อยเพื่อในประกอบการตัดสินใจ คุณพอจะรู้มั้ยว่ามีที่ไหนจะสามารถให้ข้อมูลพวกนี้ได้” เมอร์ลินถาม

“โดยปกติแล้วพวกคาถา อุปกรณ์เวทมนต์และน้ำยาต่าง ๆ จะอยู่ทั่ว ๆ ดินแดนมนต์ดําแต่สถานที่เหล่านั้นต้องเป็นสมาชิกถึงจะเข้าไปได้แต่มีที่แห่งหนึ่งที่ฉันจะแนะนํา เอาล่ะ ตามฉันมาสิ ฉันจะพาคุณไปที่หอสมุดที่นั่นมีทุกอย่างที่คุณต้องการ”

จากนั้นเมอร์ลินเดินตามเลอแรนก้าอย่างใกล้ชิดและออกจากหอคอยพ่อมดลีโอไป

หลังจากพวกเขาเดินทางมาพักใหญ่ พวกเขาก็มาถึงหอสมุด หอคอยแห่งนี้ดูแตกต่างจากหอคอยอันอื่นมาก ขนาดของมันไม่สูงเกินไปแต่พื้นที่ภายในนั้นกว้างมากและมีคนจํานวนมากเดินเข้าออกไปมาในหอคอย

เมอร์ลินรีบเข้าไปในหอสมุดทันที เขาได้ตรงไปหาพ่อมดชุดเทาที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์และกระซิบถามเบา ๆ ว่า “ตําราเวทมนต์อยู่ที่ไหนขอรับ?”

พ่อมดชุดเทาหันมาตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ตําราเวทมนต์อยู่บนชั้นสอง”

เมอร์ลินโค้งคํานับเล็กน้อยและมุ่งหน้าไปที่ชั้นสอง

บรรยากาศของที่นี่มันดูคล้ายกับตอนที่เขาอยู่ในโลกเก่าเลย ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชั้นหนังสือมากมายและหนังสือได้ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ

เมอร์ลินเดินเข้าไปที่ชั้นหนังสือและหยิบหนังสือออกมาแบบสุ่ม

มันเป็นหนังสือที่หนามากและด้ายพันรอบตัวของมัน บนปกมีตัวอักษรรูนปรากฏอยู่ เขาได้ลองเปิดมันกลับพบว่าเขาไม่สามารถทําได้ราวกับมีบางอย่างปิดผนึกมันไว้

“บางที่อาจต้องใช้แหวนในการเปิดมัน”

เมอร์ลินจําสิ่งที่เลอแรนก้าบอกเขาไว้ก่อนหน้านี้ว่า แหวนมนต์ดําเป็นของที่สําคัญในการอาศัยอยู่ในดินแดนมนต์ดํา กิจกรรมทุกอย่างจําเป็นต้องใช้แหวนในการเป็นสื่อกลางในการดําเนินการแทบทั้งสิ้น

เขาจึงวางมือบนหน้าปกและส่งพลังจิตลงไปในแหวน ทันในนั้นแสงสว่างก็ได้ปรากฏขึ้นหน้าปกของหนัวสือ

“เปลวเพลิงสีชาด คาถาระดับศูนย์ สามารถโจมตีเป้าหมายในระยะ 100เมตร ใช้ใช้แต้มสนับสนุน 2แต้ม”

นี่เป็นคาถาระดับศูนย์ที่สามารถโจมตีเป็นวงกว้างได้ อย่างไรก็ตามเมอร์ลินไม่เข้าใจว่าแต้มสนับสนุนมันคืออะไร

เขาได้เงยหน้าหันไปมองรอบ ๆ เขามองเห็นแม่มดร่างอวบซึ่งเธออยู่ไม่ไกลจากเขา เธอได้ถูกผมเปียทั้งสองข้าง เธอดูเป็นหญิงสาวที่เงียบขรึม ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

เมอร์ลินได้เดินไปหาเธอและถามอย่างสุภาพ

“ผมต้องอภัยที่ต้องรบกวนคุณ พอดีผมมีเรื่องอยากจะถามคุณสักหน่อยได้มั้ยขอรับ”

แม่มดได้ชำเลืองหันมามองเมอร์ลิน เธอได้มองสํารวจเมอร์ลิน จากนั้นรอยยิ้มอันอ่อนโยนได้ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ได้สิ คุณอยากรู้เรื่องอะไร”

เมอร์ลินได้ยื่นหนังสือเล่มเมื่อกี้ขึ้นมาและพูดว่า “แต้มสนับสนุนที่เขียนไว้บนหน้าปก มันหมายถึงอะไรเหรอขอรับ”

แม่มดร่างอวบได้ยิ้มจาง ๆ ลักยิ้มทั้งสองไปปรากฏขึ้นบนแก้มที่อวบของเธอ จากนั้นก็ได้ตอบด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยนว่า

“แต้มสนับสนุนเป็นหน่วยวัดที่ใช้แลกเปลี่ยนสิ่งของภายในดินแดนมนต์ดํา โดยหนึ่งหมื่นเหรียญทองจะมีค่าเท่ากับหนึ่งแต้มสนับสนุน คุณสามารถนําเหรียญทองไปแลกได้ที่พ่อมดชุดเทาที่อยู่ในห้องโถงภารกิจ ตราบใดที่คุณแต้มจํานวนที่มากพอ คุณก็จะได้ของที่คุณต้องการ”

เมอร์ลินรับฟังข้อมูลจากเธออย่างตะลึง ด้วยจํานวนเงินอันมหาศาล เขาอาจต้องใช้เงินถึงแสนเหรียญทองเพื่อให้ได้คาถาระดับหนึ่งมา

แม้เขาจะเกิดในตระกูลขุนนางแต่เขาก็ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น

ราวกับว่าแม่มดร่างอวบจะคาดเดาความคิดของเมอร์ลิน เธอได้กระซิบบอกไปว่า

“นอกจากจะใช้เหรียญทองในการแลกเปลี่ยนแต้มสนับสนุน เรายังสามารถได้รับแต้มจากการทําภารกิจซึ่งภายในห้องโถงมีภานกิจมากมายให้คุณเลือก ฉันไม่รู้ว่าคุณจะรู้เรื่องนี้รึยัง พวกสมาชิกใหม่ของดินแดนมนต์ดจะได้รับแต้มสนับสนุนทันที 10แต้ม คุณลองตรวจที่แหวนของคุณสิ”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นและเดินออกไป เธอทิ้งให้เมอร์ลินอยู่เพียงลําพังเพื่อให้เขาย่อยข้อมูลที่เขาเพิ่งได้รับ

“10แต้มสนับสนุน?”

เมอร์ลินตรวจสอบที่แหวนบนนิ้วของเขาทันที จากนั้นมันก็ส่องแสงคําว่า “สิบ” ขึ้นมาเป็นภาษามอลต้า ตอนนี้เขามีแต้มอยู่ในมือ 10แต้มแล้ว

จากนั้นเมอร์ลินก็ได้ยังชั้นหนังสือ เขาได้เลือกหยิบหนังสือออกมาดู มันทําให้เขาได้พบว่าพวกคาถาทั่วไปจะต้องใช้แต้มสนับสนุน 2หรือ3แต้ม แต่ก็มีบางอันที่ต้องใช้ถึง 5แต้ม ยิ่งคาถามีความพิเศษมากเท่าไหร่ แต้มที่ต้องใช้ก็สูงมากขึ้นเท่านั้น

เขายังได้พบคาถาลูกไฟด้วย มันต้องใช้สองแต้มในการได้มันมา นี่แสดงว่าคาถาลูกไฟเป็นเพียงคาถาทั่วไปเท่านั้น

เมอร์ลินได้มองดูคาถามากมายพวกนี้อย่างเงียบ ๆ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจไม่เลือกพวกมัน เขาได้เปลี่ยนความสนใจไปหาตําราเทคนิคการทําสมาธิแทน

สําหรับเมอร์ลินในตอนนี้นั้น เขาต้องการเทคนิคการทําสมาธิมากกว่าคาถาพวกนี้ซะอีก