ตอนที่ 52 ใครเป็นพี่ชายเธอ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 52 ใครเป็นพี่ชายเธอ

ผลลัพธ์จากการประลองไม่เพียงทำให้ผู้ชมรู้สึกประหลาดใจเท่านั้น แม้แต่ผู้ประลองทั้งสองฝ่ายอย่างซย่าโหวโซ่วและเย่ว์จือกวงเองก็คิดไม่ถึง

เสมอ! ไม่คิดเลยว่าจะจบลงที่การเสมอกัน!

ซย่าโหวโซ่วหัวเราะและตบไหล่กว้างของเย่ว์จือกวง “พ่อหนุ่ม เธอเก่งมากจริงๆ!”

ด้วยอายุที่ยังน้อยของเขา แต่กลับสามารถต่อสู้ได้เสมอกับคนที่ฝึกวรยุทธ์มาตลอดชีวิต หากไม่นับเสี่ยวเยาเยา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจอมยุทธ์ที่มากพรสวรรค์เช่นนี้

“ดูเหมือนจะเสมอกัน แต่ผมแพ้แล้วครับ”

ด้านกำลังภายใน เขาสู้ซย่าโหวโซ่วไม่ได้ จึงต้องอาศัยความเร็วและความเป็นหนุ่มของเขา ดังนั้นผลการต่อสู้จึงดูเหมือนเสมอกัน

“สมกับที่เป็นพี่…คนของเผ่าพระจันทร์!” เกือบจะหลุดปากพูดว่า ‘พี่ชายของเสี่ยวเยาเยา’ ไปแล้ว!

ซย่าโหวโซ่วหยุดได้ทันเวลา

อืม จะยอมรับเขาว่าเป็นพี่ชายของลูกศิษย์ตัวน้อยเพียงเพราะความชื่นชอบในตัวผู้มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธไม่ได้!

ลูกศิษย์คนดียังไม่ยอมรับ เขาจะรับแทนไม่ได้เด็ดขาด!

“เธอเพิ่งอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น เมื่ออายุเท่าฉัน วรยุทธของเธอคงแซงหน้าฉันไปไกลลิ่ว แต่ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอเคลื่อนไหวคล้ายกับกระบวนท่าที่เสี่ยวเยาเยาสร้างขึ้นเล่า”

คล้ายกับเคล็ดวิชาเก่าแก่โบราณที่ทั้งงดงามและใช้สู้ได้จริง!

“หืม น้องสาว…เสี่ยวเยาเยา ก็สามารถสร้างกระบวนท่าขึ้นมาได้เองเหมือนกันเหรอครับ”

ซย่าโหวโซ่วตบไหล่เขา “เธอประเมินลูกศิษย์ตัวน้อยของฉันต่ำเกินไปแล้ว! ฉันบอกได้เลยว่าในจำนวนหนึ่งพันกระบวนท่าที่เธอสู้เสมอกับฉัน ไม่ถึงกระบวนท่าที่หนึ่งร้อยฉันก็แพ้ให้เธอแล้ว!”

เย่ว์จือกวง “!”

เขาต้องพยายามให้หนักขึ้นแล้ว ไม่งั้นคงปกป้องน้องสาวไม่ได้!

“ความเร็วของเธอคือข้อได้เปรียบ ในโลกการต่อสู้ สิ่งเดียวที่ทำลายไม่ได้คือความเร็ว”

“ความเร็วถือเป็นข้อได้เปรียบของเผ่าพระจันทร์เราครับ ที่ผมสามารถเสมอกับอาจารย์ซย่าโหวได้ เป็นเพราะอาศัยร่างกายที่ยังหนุ่มและความเร็วเป็นหลัก”

ดังนั้นถึงดูเหมือนว่าจะเสมอกัน แต่จริงๆ แล้วเขาพ่ายแพ้

ซย่าโหวโซ่วพยักหน้า เป็นเช่นนั้นจริงๆ

เขาใช้พลังภายในไปเพียงแปดส่วนเท่านั้น ถ้าเขาใช้เก้าส่วน เย่ว์จือกวงจะไม่สามารถยับยั้งได้อย่างแน่นอน

“เธอเคลื่อนไหวรวดเร็วไม่มีที่ติ เพียงแต่กำลังภายในของเธอยังขาดแรงอยู่ แต่ด้วยอายุของเธอ ก็นับเป็นอัจฉริยะในด้านการฝึกยุทธที่หายากมากๆ แล้ว!”

เย่ว์จือกวงที่ถูกชมไม่ได้ดีใจมากขนาดนั้น เพราะเขายังห่างไกลจากน้องสาวมากเกินไป!

เป็นแบบนี้แล้วจะปกป้องน้องสาวได้อย่างไร

“ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวเยาเยาเป็นอัจฉริยะเหนืออัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ ฉันก็ไม่เคยเห็นคนที่มีพรสวรรค์แบบนี้มาก่อน!” แม้แต่ลูกชายของเขาซย่าโหวเจี๋ยเฟยที่แทบจะเรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อฝึกวรยุทธ ก็ยังด้อยกว่าเย่ว์จือกวงอยู่เล็กน้อย!

หากไม่เปรียบเทียบกับเสี่ยวเยาเยา เขาก็ค่อนข้างพอใจกับลูกชายคนนี้ทีเดียว ตอนนี้…เขารู้สึกเพียงแต่ว่าลูกชายและหลานชายของเขายังต้องถูกทรมานโดยลูกศิษย์ตัวน้อยให้มากๆ!

“คือว่า…เย่ว์จือกวง คุณ…”

ถังถังต้องการเข้าสู่เขตป่าชั้นในจริงๆ แต่ด้วยทักษะของเธอเอง…คงไม่สามารถขอให้คุณปู่อายุแปดสิบกว่าปีเข้าไปตะลอนๆ และตั้งแคมป์ในป่ากับเธอได้

เนื่องจากเธอไม่คุ้นเคยกับเย่ว์จือกวง ทำให้กระดากปากเกินกว่าจะขอให้เขาตามเธอเข้าไปเผชิญอันตรายในป่า จึงได้แต่อึกอักอยู่แบบนี้

เย่ว์จือกวงมองท่าทีของถังถัง ไม่ต้องให้พูดเขาก็รู้ว่าเธอต้องการอะไร

“ขอโทษครับ แต่ผมไม่คิดเข้าป่า” เขาไม่อยากเสียเวลาในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชาวบ้านไปโดยเปล่าประโยชน์

“เอ่อ…คุณไม่อยากเข้าไปดูดอกไม้และสัตว์ป่าแปลกๆ ข้างในเหรอ พวกมันสวยและน่ารักมากจริงๆ นะ!”

ยิ่งพิษร้ายแรงก็ยิ่งสวย ยิ่งดุดันป่าเถื่อนก็ยิ่งน่ารัก!

“เห็นมาเยอะแล้วครับ!” ที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ ของแบบนี้มีให้เห็นมากจนเขาเบื่อแล้ว!

“เอ่อ…พี่ชาย…” ถังถังเปิดใช้สกิลการแสดงของเธอ หวังใช้ความน่ารักพิชิตใจ

“ใครเป็นพี่ชายของเธอ อย่ามาเรียกมั่วๆ!” เขาเป็นพี่ชายของอิ๋งเอ๋อร์คนเดียวเท่านั้น!

ถังถัง “…”

หยวนเหยี่ยหัวเราะร่วน “เสี่ยวถังถัง ถ้าเธอต้องการเข้าไปในป่าจริงๆ ก็หวังได้แต่พ่อหนุ่มจากตระกูลเย่ว์คนนี้แล้ว พวกเราแก่แล้วน่ะ เสี่ยวเยาเยายังกำชับนักหนาว่าห้ามไม่ให้เข้าไปในเขตป่าชั้นในเด็ดขาด”

ซย่าโหวโซ่วพยักหน้าตามแล้วจึงพูดว่า “ด้วยทักษะวรยุทธ์ของพ่อหนุ่มเย่ว์กับพิษของเธอ สามารถออกจากป่าได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”

ถังถังวิ่งขึ้นไปอยู่ข้างๆ เย่ว์จือกวง กระตุกชายเสื้อสีดำของเขาเบาๆ เรียกด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนภรรยากำลังอ้อนสามี “พี่เย่ว์ขา”

เย่ว์จือกวงมุมปากกระตุก รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

ผู้อาวุโสทั้งสามทิ้งทั้งสองคนไว้ข้างหลังแล้วเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับหัวเราะ

เย่ว์จือกวงถลึงตาจ้องถังถัง ดึงชายเสื้อของเขากลับคืนมาพร้อมปัดมือเธอลง ขายาวก้าวไปที่ประตูทันที

เขายังต้องออกไปพูดคุยทำความรู้จักกับคนแก่ในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำงานยังต้องไปคุยกับเด็กเล็กๆ ที่ยังไม่ได้ไปโรงเรียน จะมีเวลาเข้าป่าไปตั้งแคมป์กับเธอได้ยังไง!

รอจนกระทั่งเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้านแล้ว ถึงจะสามารถมาที่นี่ได้บ่อยๆ ได้!

ถังถังตามเขาไป

เมื่อเย่ว์จือกวงหันกลับมามองเธอ ก็ยิ้มเชื่อฟังอย่างประจบเอาใจ

ผู้ช่วยหยางอวี่ของเย่ว์จือกวงและบอดี้การ์ดชั่วคราวและคนขับรถของถังถังกำลังเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อพวกเขาเห็นภาพนี้จึงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ

เมื่อเช้าก่อนออกไปเดินเที่ยวรอบหมู่บ้าน สองคนนี้ยังดูไม่สนใจกันอยู่เลย แต่ไหงผ่านมาแป๊บเดียว ดูเหมือน…

อืม จักรพรรดินีจอเงินถังถังแสดงออกอย่างกับว่าเป็นแฟนคลับตัวเล็กๆ?

เกิดอะไรขึ้น!

ถังถังโบกมือบอกให้บอดี้การ์ดและคนขับรถไปทำอะไรที่อยากทำโดยไม่ต้องมาติดตามเธอ

หมู่บ้านนี้ดีจะตาย!

แม้ว่าหลายคนจะเคยเห็นเธอในทีวีบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ต้องแจกลายเซ็นหรือถ่ายรูปหมู่กับแฟนๆ ข้างนอกตลอดเวลา ไม่ต้องรู้สึกเหมือนเป็นลิงในสวนสัตว์ให้ทุกคนมามุงดู จึงไม่ต้องให้บอดี้การ์ดคอยตามติดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนตอนอยู่ข้างนอกนั่น…

รู้สึกดีมาก!

เธอเข้าสู่วงการภาพยนตร์เมื่ออายุสิบแปดปี จากนั้นครูของเธอก็แนะนำให้เธอรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แนวเทพเซียนเรื่องหนึ่งในบทของตัวประกอบหญิงอันดับสามซึ่งสร้างความรู้สึกอันดีกับผู้ชม เธอจึงกลายเป็นที่นิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตลอดระยะเวลาห้าปีจนถึงปัจจุบัน เธอเคยชินกับความรู้สึกที่ถูกห้อมล้อมราวกับเป็นพระจัทร์ท่ามกลางหมู่ดวงดาว จนเกือบลืมไปแล้วว่าการเป็นคนธรรมดานั้นเป็นอย่างไร

ตอนนี้เมื่อเธอมาถึงหมู่บ้านเถาหยวนซาน เธอก็ตระหนักได้ว่าการเป็นคนดังทำให้ความสนุกของเธอในฐานะคนธรรมดานั้นสูญเสียไป

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงสนใจในการแสดงอยู่ ดังนั้นคงจะอยู่ในวงการไปก่อน ไว้เบื่อแล้วค่อยกลับไปสืบทอดกิจการของตระกูลต่อ

“พี่เย่ว์คะ…”

ผู้ช่วยหยางอวี่ตัวสั่น

จักรพรรดินีถังถังคนนี้เป็นอะไรไปแล้ว ในหนึ่งหรือสองชั่วโมงที่พวกเขาละสายตาไปเธอถูกผีเข้าสิงหรือยังไง

นอกจากนี้ หากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตถูกต้อง แสดงว่าเธอแก่กว่าเจ้านายหนึ่งวัน!

พี่ชาย…คำนี้มัน…

เย่ว์จือกวงไม่สนใจถังถังที่ถูกผีนักแสดงเข้าสิง มองเมินเธอไปโดยสิ้นเชิง จากนั้นก็หันไปถามหยางอวี่ที่ตามหลังเขาอยู่หนึ่งก้าวว่า “มีสถานที่ที่เหมาะสมหรือไม่”

“มีครับ แถวชายป่ารอบนอกมีพื้นที่ต่ำอยู่ พอจะสร้างเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้”

“อืม แล้วสถานที่ที่เหมาะจะสร้างที่พักที่ใกล้กับบ้านของน้อง…บ้านของหมอเทวดาหยวนล่ะ มีไหม”

“…ยังหาไม่เจอเลยครับ ดูเหมือนชาวบ้านจะไม่ค่อยยินดีให้คนนอกเข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่…”

ถังถังวิ่งไปหาเย่ว์จือกวงด้วยความสนใจ ก่อนจะถามว่า “คุณอยากสร้างบ้านพักตากอากาศที่นี่เหรอ ฉันเอาด้วย! เรามาสร้างวิลล่าด้วยกันเถอะ จะลงชื่อว่าเป็นของคุณก็ได้นะ!”

หลังจากได้รับประโยชน์จากเธอแล้ว ก็คงยากจะปฏิเสธไม่เข้าไปในป่ากับเธออีก!

เมื่อนึกถึงเจ้าตัวน้อยน่ารักในป่าที่กำลังรอเธออยู่ ถังถังก็อดหัวเราะมีความสุขไม่ได้

หยางอวี่ “…”

ถังถัง ผมจะบอกให้ว่าความคิดแบบนี้ของคุณอันตรายมาก!

แม้ว่าเขาจะเชื่อในตัวของเจ้านาย แต่การที่ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยปากขอสร้างบ้านกับชายที่ไม่รู้จัก แถมยังอยากจะอยู่ในบ้านเดียวกันอีก แบบนี้มันได้เหรอ

คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตัวเองเป็นดาราดัง ไม่กลัวว่าพวกเขาจะเอาเรื่องนี้ไปโพสต์บนอินเทอร์เน็ตบ้างเหรอ

ไม่รู้ว่าจักรพรรดินีจอเงินคนนี้น่ารักใสซื่อหรือมั่นใจในตัวเองมากเกินไปกันแน่

เย่ว์จือกวงขมวดคิ้วเล็กน้อย กังวลอยู่ลึกๆ ว่าไอคิวของน้องสาวเขาจะลดลงหรือไม่หากปล่อยให้เธอเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้มากเกินไป

ถังถังกับเย่ว์จือกวงคิดกันไปคนละทิศละทาง เมื่อเธอเห็นเขาขมวดคิ้ว ก็คิดไปว่าเขากำลังลำบากใจอยู่ ดังนั้นเธอจึงชูสามนิ้วขึ้นขึ้นสาบาน “พี่เย่ว์คะ แม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน แต่ฉันสาบานว่าจะไม่เรียกร้องในตัวคุณหรือวางยาพิษคุณเด็ดขาด!”

หยางอวี่ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี

ที่แท้คุณก็เป็นจักรพรรดินีจอเงินแบบนี้!

เย่ว์จือกวงนวดหว่างคิ้วของเขา ตัดสินใจว่าจะต้องกันเธอให้ห่างจากน้องสาวของเขา เพื่อไม่ให้สมองเธอติดเชื้อบ้าๆ นี้มา!

“พี่คะ…”

หยางอวี่ “คุณถังครับ คือว่า…เจ้านายของผมอายุน้อยกว่าคุณหนึ่งวัน…”

ถังถัง “…” อ๊า นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว!

อย่างไรก็ตาม เธอผู้ยึดมั่นในหลักการที่ว่า ‘เธอไม่อาย คนอื่นก็จะอายแทน’ เปลี่ยนบททันทีหลังปรับสีหน้าได้แล้ว เรียกไปอีกครั้งว่า “น้องเย่ว์…”

หยางอวี่สะดุดอากาศ แทบจะล้มทั้งยืนเสียเดี๋ยวนั้น