บทที่ 5 ความโกลาหลครั้งใหญ่ในตระกูลหลิน

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม

บทที่ 5 ความโกลาหลครั้งใหญ่ในตระกูลหลิน

“กลับบ้าน”

เหยาซูไม่ได้สนใจสิ่งที่แม่หวังพูด เมื่อเดินออกไปไกล นางก็ยังคงได้ยินเสียงด่าทอและคร่ำครวญของแม่สามี หาว่านางอกตัญญู ทำให้นางยิ้มน้อย ๆ อย่างเย็นชาอยู่ในใจ

อกตัญญูอย่างนั้นหรือ? ใช่สิใครกันจะอยู่กับนางได้นอกจากลูกชายของนาง!

ตลอดทาง เหยาซูอุ้มลูกน้อยเอาไว้ในอ้อมอก พยายามอดทนต่อความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้น นางค่อย ๆ เดินออกจากหมู่บ้านตระกูลหลินไปทีละก้าว

จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตูตระกูลเหยา นางก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เมื่อเห็นสตรีผู้หนึ่งเดินออกมา จึงเอ่ยเรียกตามสัญชาตญาณว่า “ท่านแม่”

จากนั้นนางก็สลบไป…

เมื่อเหยาซูลืมตาอีกครั้ง นางก็เห็นห้องที่สว่างด้วยตะเกียงน้ำมันและเห็นสตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียง

“ท่านแม่…”

เหยาซูพลันรู้สึกถึงอารมณ์ผูกพันของร่างนี้ พร้อมกับความโศกเศร้าที่ไม่อาจควบคุมได้

นางส่งเสียงสะอึกสะอื้น โดยที่สตรีนางนั้นโอบกอดนางเอาไว้ “ลูกสาวของแม่ ทำไมจึงกลายเป็นเช่นนี้…”

เหยาซูพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เมื่อได้ยินมารดาสอบถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น หญิงสาวทำได้เพียงปลอบแม่ของตนเบา ๆ “ท่านแม่อย่าร้องไห้อีกเลย ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”

แม่เฒ่าเหยายังคงร้องไห้ไม่หยุด “ต้องโทษที่พ่อกับแม่ไม่ได้ไปเยี่ยมลูกเลยในหลายปีที่ผ่านมา เอาแต่คิดว่าเจ้านั้นใช้ชีวิตสุขสบาย แล้วเหตุใดจึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมลูกสาวสุดที่รักของข้าถึงกลายเป็นแบบนี้!”

“ท่านแม่ ไม่ใช่ว่าตอนนี้ข้ากลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ? ต่อไปข้าจะอยู่ที่นี่กับท่านและไม่กลับไปบ้านหลังนั้นอีก”

หญิงชราปาดน้ำตา “แม่รู้ว่าลูกโกรธและดื้อรั้น แต่เหตุใดถึงไม่ยอมติดต่อครอบครัวมา…หากไม่ใช่เพราะอาจื้อบอกเล่า แม่คงไม่รู้ว่าเจ้าได้รับความคับข้องใจเพียงใด”

แม้ว่าเหยาซูจะไม่ใช่เหยาซูเจ้าของร่างเดิม แต่ก็สามารถรู้สึกถึงความสัมพันธ์อันดีกับมารดาของนางได้ “ท่านแม่…ข้าผิดไปแล้ว”

ในตอนนี้แม่เฒ่าเหยาได้แต่ปวดใจ ไหนเลยเหยาซูจะโทษนาง “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ และพี่รองของเจ้าพาอาจื้อไปร้องขอความเป็นธรรมให้พวกเจ้าแล้ว เจ้าวางใจเสียเถิด พ่อกับแม่จะไม่ยอมให้ใครมารังแกเจ้าง่าย ๆ อีกต่อไป เสี่ยวซือกำลังพักผ่อนอยู่กับพี่สะใภ้รองของเจ้า เจ้าวางใจเถิด”

เหยาซูพยักหน้า และกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านแม่…”

แม่เฒ่าเหยาได้ยินลูกสาวที่นางตามใจมาตลอดกล่าวขอบคุณในการกระทำของนาง ก็ทำให้ในใจรู้สึกขมขื่นยิ่งนัก

…..

ตอนนี้ตระกูลหลินกำลังเกิดความวุ่นวาย

บิดาของเหยาซูมีบารมีมากมายเหลือล้นในหมู่บ้านตระกูลเหยา เมื่อได้ยินว่าลูกสาวของหัวหน้าหมู่บ้านถูกรังแก ชาวบ้านจากหมู่บ้านตระกูลเหยาก็พากันไปที่ตระกูลหลินเพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรม

“หลินเจิ้ง ออกมาเดี๋ยวนี้!”

บิดาของเหยาซูตะโกนเสียงดัง เขายืนอยู่หน้าประตูที่ทรุดโทรมของตระกูลหลินและตะโกนออกมาว่า “พวกเจ้าทุกคนมีแต่จะรังแกลูกสาวข้า แต่กลับไม่ยอมออกมารับผิดอย่างนั้นหรือ?”

“คนตระกูลหลินออกมา!”

หลังจากตะโกนอยู่นาน ก็ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ เขาทำได้เพียงเตะประตูใหญ่ของตระกูลหลิน

พลันใดนั้นหลินเจิ้งก็เดินออกมา “โอ๊ย! นี่มันอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้นค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จาเถิด”

บิดาของเหยาซูเอ่ยออกมาอย่างโกรธเคืองว่า “คนกันเองหรือ? ลูกสาวของข้าแต่งงานเข้าตระกูลของเจ้าเป็นเวลา 6 ปี ให้กำเนิดลูกชายสองคนและลูกสาวอีกหนึ่งคน แต่ยังต้องเป็นคนซักผ้า ทำอาหาร ตักน้ำ ตัดฟืน พวกเจ้าไม่ได้ดูแลนางให้ดีพอ ตอนนี้ที่นางพึ่งคลอดลูกคนที่สาม ร่างกายยังอ่อนเพลีย ยังบังคับให้นางออกมาทำงานอีก! นี่มันจะเกินไปแล้ว!”

แม่โจวที่เป็นสะใภ้รองบ้านหลินแอบอยู่หลังพ่อสามี ตอบเสียงแหลม “ลูกสาวของท่านแตะต้องไม่ได้เลยหรืออย่างไร แม้แต่ทำไร่ทำสวนก็ไม่ได้ ไม่ทำกับข้าวไม่ตัดฟืนแล้วใครจะทำกัน!”

ทุกคนที่มาจากหมู่บ้านตระกูลเหยาต่างเกิดอาการตกตะลึง…

ในหมู่บ้านตระกูลเหยาพวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้หญิงจะต้องลงไปทำงาน แม้แต่งานหนักอย่างตัดฟืน ตักน้ำ ล้วนแต่เป็นงานของผู้ชายทั้งนั้น

บิดาของเหยาซูโกรธจัดจนไม่อาจทนได้ “ลูกสาวของข้านำสินสอดทองหมั้นมา 300 ตำลึงเงิน! อย่าว่าแต่งานทำไร่ทำนาเลย ต่อให้พวกเจ้ายกนางเป็นนางฟ้านางสวรรค์ก็ไม่เกินจริง!”

300 ตำลึงเงิน หากคำนวณจากค่าใช้จ่ายประจำปีของครอบครัวชาวนา ครอบครัวหนึ่งใช้ต่อปีละ 10 ตําลึง ตระกูลหลินจะสามารถใช้จ่ายได้ถึง 30 ปี!

ตอนนี้เรื่องราวเล่านี้ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว แม้แต่คนในหมู่บ้านตระกูลหลินก็เริ่มชี้นิ้ว มองไปที่หลินเจิ้งและแม่โจวด้วยสายตาแปลก ๆ

แม่โจวรีบเอ่ยขึ้น “นาง นางแต่งงานกับลูกชายคนโตสกุลหลิน หากไม่ใช่เพราะนาง ลูกชายคนโตจะถูกจับไปเป็นทหารได้อย่างไร….”

เพื่อนบ้านของตระกูลหลินบางส่วนที่กำลังมุงดูอยู่นั้นต่างประชดประชันว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่พวกเขาจะเรียกนางว่าตัวซวยอยู่ทุกวัน นี่สินะเหตุผลที่แท้จริง!”

พ่อเฒ่าเหยารีบถาม “น้องชายท่านนี้ ท่านรู้เรื่องภายในงั้นเหรอ?”

“มิกล้า มิกล้า” คนผู้นั้นกล่าวต่อ “ลูกชายคนที่สามของตระกูลหลินต่างหากที่เป็นคนสร้างปัญหา! ข้าเคยได้ยินมาว่าขอเพียงจ่าย 3 ตำลึงเงิน ลูกชายคนโตของตระกูลหลินก็ไม่ต้องไปเป็นทหารแล้ว แต่ตระกูลหลินที่เก็บรวบรวมเงินมาหลายปี เงินทั้งหมดนั้นก็ยกให้ลูกชายคนที่สามที่กำลังเรียนหนังสือจนหมด เช่นนี้จะไปหาเงินจากที่ใดมาปฏิเสธการเกณฑ์ทหารของลูกชายคนโตได้เล่า!”

บิดาของเหยาซูรู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แม้แต่ลูกชายคนโตกับลูกชายคนรองของตระกูลเหยายังอดไม่ได้ที่จะหยิบไม้ออกมาแล้วพุ่งเข้าไปในบ้านตระกูลหลิน ไม่สนใจว่าจะเป็นใคร พวกเขาต่างรุมทุบตีกันอลหม่าน

เสียงก่นด่า ร้องไห้ และเสียงกรีดร้องดังขึ้นที่หน้าประตูตระกูลหลิน

……………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

บ้านทางแม่ของนางเอกนี่สายแทงค์กันทั้งนั้นเลย หักเป็นหักอะ

ไหหม่า(海馬)