ตอนที่ 24 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (24)
สวี่หลิงอวิ๋นเดินออกไปข้างนอกหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ จากนั้นจึงพบว่าท้องฟ้านั้นมืดสนิท และไร้ซึ่งแม้แต่แสงจันทร์ มีเพียงแสงระยิบระยับจากในห้วงอวกาศเท่านั้น
“อีกเพียงสามวันเท่านั้น เราก็สามารถเดินทางกลับได้แล้ว” โอคาซีเดินมาเคียงข้างสวี่หลิงอวิ๋น และมองดูท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยสีสันอันหลากหลาย
“ครั้งนี้คงต้องขอบคุณท่าน” โอคาซีกล่าวขอบคุณด้วยเสียงแผ่วเบาขณะจ้องมองเธอ “ยังไงก็ขอบคุณจริง ๆ”
“ไม่เป็นไร ฉันแค่ปกป้องตัวเองน่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นโบกมือแล้วเริ่มเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่ คืนนี้ท่านกินอาหารไม่เยอะนะ”
“ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่” โอคาซีตอบ
ทั้งสองยืนนิ่งเคียงข้างกันและไม่เอ่ยอะไรออกมาอีก
“ไม่รู้ว่าทำไม แต่ฉันว่าองค์หญิงสามก็เหมาะกับท่านพลเอกของเราเหมือนกันนะ!”
แม้บรรยากาศจะเงียบสงบ และไร้ซึ่งเสียงสนทนาระหว่างทั้งสองบุคคล ทว่าพวกเขากลับให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน
ราวกับว่าพวกเขาเคียงข้างกันมายาวนาน จึงมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี
“ฮึ่ม! เธอคู่ควรกับท่านพลเอกมากแค่ไหนเชียว? ฉันว่าลูตี้เหมาะสมมากกว่าอีก!”
ลูตี้คือดาราสาวแห่งขอบฟ้าดวงดาวที่จบการศึกษาจากสถาบันการทหารของจักรวรรดิชิงเหย้า เธอสวยมาตั้งแต่กำเนิดและเป็นนักแสดงฝีมือดีที่คู่ควรกับท่านพลเอกโอคาซี
ลูตี้มีแฟนคลับที่รักเธออยู่ทั่วโลก เพราะเธอเป็นคนใจบุญ และที่สำคัญไปกว่านั้น ทุกคนต่างรู้ดีว่าเธอมีรักอันขมขื่นกับท่านพลเอก เมื่อเทียบกับองค์หญิงสามผู้แสนโหดเหี้ยมแล้ว ทุกคนต่างลงความคิดเห็นกันว่าลูตี้ต่างหากที่เป็นคนที่คู่ควรกับท่านพลเอก
แม้ว่าการถ่ายทอดสดจะทำให้พวกเขาเห็นว่าองค์หญิงสามมีลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิม แต่ความปลาบปลื้มที่พวกเขามีต่อลูตี้จะแปรเปลี่ยนในระยะเวลาอันน้อยนิดได้อย่างไร? โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูตี้ที่มีแฟนคลับอย่างล้นหลาม
พระราชารู้สึกโกรธจัดเมื่อเห็นความคิดเห็นเหล่านั้น!
“ลูกสาวของเราช่วยชีวิตทหารทั้งหลาย ทั้งทำอาหาร ทั้งต่อสู้กับเอเลี่ยน เธอยังไม่ดีเท่านักแสดงสาวนั้นอีกหรือ?”
“ลูตี้คนนี้เป็นคนยังไง!” แน่นอนว่าพระราชาไม่ได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับวงการบันเทิง ดังนั้นจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูตี้ ก่อนจะออกคำสั่งให้องครักษ์ไปตามสืบเรื่องราวทั้งหมดให้เขาภายในคืนนี้ ยิ่งอ่านความคิดเห็นเหล่านั้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกโกรธนังผู้หญิงเลวคนนี้มากขึ้นเท่านั้น เธอดีกว่าลูกสาวของเขาอย่างไร!
ฮึ่ม!
เมื่อเขาลืมคำนึงถึงหลักการด้านเหตุผล และต้องการสืบหาข้อมูลของลูตี้ พระราชินีก็ห้ามปรามเขาในทันที
“เสด็จพี่กำลังทำอะไร?” พระราชินีเหลือบมองพระสวามี
“พี่กำลังทำให้ลูกสาวไม่เป็นกังวลไง!” พระราชายังคงโกรธจัด!
“เสด็จพี่จะไม่ทำให้ลูกเป็นกังวล! แต่เสด็จพี่กลับกำลังสร้างปัญหาให้กับลูกของเรา นอกจากนี้ เสด็จพี่เป็นพระราชา ถ้าผู้คนข้างนอกรู้ว่าท่านสนใจดาราสาวคนนี้ พวกเขาจะไม่หัวเราะเยาะเอาหรือ? ยังไงทุกคนก็ต้องได้เห็นด้านดีงามของลูกสาวเรา เสด็จพี่ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก!”
คำพูดของพระราชินีล้วนมีเหตุมีผล เมื่อได้ยินดังนั้น พระราชาจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากล้มเลิกความคิดของเขา ทว่ายังคงเก็บแผนที่ชั่วร้ายนี้เอาไว้ เผื่อวันใดวันหนึ่งนังผู้หญิงเลวมามีปัญหากับลูกสาวสุดที่รักของเขา ในฐานะพ่อ…เขาต้องการทำให้ลูกสาวของเขาไร้ซึ่งอุปสรรคและมารผจญใด ๆ!
สวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้อ่านข้อความแสดงความคิดเห็นเหล่านั้น หรือถึงแม้ว่าจะมองเห็นมัน เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพรรค์นี้มากนัก มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาคู่ควรกับใคร แต่อยู่ที่ว่าเขาชอบใครต่างหาก…
แม้ว่าทุกคนจะบอกว่าสวี่หลิงอวิ๋นเป็นเพียงคนเดียวที่คู่ควรกับโอคาซี แต่ถ้าโอคาซีไม่ได้ชอบเธอ คำว่า ‘คู่ควร’ จะไปมีประโยชน์อะไร
“พรุ่งนี้พวกปลาหมึกเอเลี่ยนอาจจะบุกมาหาพวกเราโดยตรง ช่างเทคนิคคำนวณเวลาและคาดว่ามันจะมาถึงประมาณช่วงบ่าย”
ไม่เพียงแต่พวกปลาหมึกที่เหลืออยู่ แต่ปลาหมึกยักษ์จากพื้นที่อื่นก็จะบุกมาที่นี่เช่นกัน
“ไม่มีสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์บนโลกใบนี้เหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นถามขึ้นกะทันหัน
“มีครับ แต่ว่าทางขั้วโลกเหนือมีอากาศหนาวจัด และแทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เลย นอกจากนี้ แม้แต่เอเลี่ยนก็ยังอาศัยอยู่ที่นั่นไม่ได้ บางพื้นที่ถูกสงวนเอาไว้สำหรับผู้ที่หนีเอาชีวิตรอด แต่มันก็นานมาแล้ว และผมไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่รอดในวันที่ไม่มีอาหารกินได้ยังไง”
โอคาซีกล่าว
“ฉันอยากไปดูจัง” สวี่หลิงอวิ๋นกล่าว “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นั่นเป็นยังไง?”
“ท่านอยากไปดูไหมครับ?” โอคาซีจ้องมองเธอ “ถ้าท่านอยากไป ผมจะไปกับท่าน”
“เอ๊ะ? ฮะ?” สวี่หลิงอวิ๋นไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเขาจะไปดูด้วย!
“ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า?!”
“แน่นอนว่าไม่!” โอคาซีหยิบปุ่มมิติกักเก็บของเขาออกมา “อยากไปไหมครับ?”
ผู้ชมต่างตกตะลึง!
ผู้ชมที่บอกว่า ท่านพลเอกโอคาซีเหมาะสมกับลูตี้ ก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
หญิงสาวสง่างามคนหนึ่งนั่งอยู่หน้ารายการถ่ายทอดสด เฝ้ามองชายที่เธอรักยื่นมือออกไปหาผู้หญิงอื่น เธอก็รู้สึกโกรธจัดและจิกเล็บแน่นจนเล็บสีแดงสดหักคามือ แต่เธอกลับไม่สนใจด้วยซ้ำแม้ว่าเลือดจะไหลออกมา
“เขากล้าดียังไงถึงจับมือผู้หญิงคนอื่น?! เขาถึงกับโอบกอดยัยโง่นั่นตอนเย็นด้วย ก็ไปคบกับเธอเลยสิ!”
ลูตี้รู้สึกไม่พอใจ เธอหยิบแก้วน้ำและขว้างมันออกไปหาใบหน้าของสวี่หลิงอวิ๋นโดยตรง ทว่านี่คือรายการถ่ายทอดสด ข้างหน้าของเธอเป็นเพียงโทรทัศน์เท่านั้น จึงทำให้ใบหน้าของคนในจอไม่ได้รับความเสียหายอะไร
“ฉันไม่สวยเท่าองค์หญิงสามเหรอ?” ลูตี้หันไปถามผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ
ผู้ช่วยที่กำลังยุ่งอยู่กับการค้นหาอุปกรณ์รักษาแผล ตอบคำถามของลูตี้ว่า “จะเป็นไปได้ยังไง! องค์หญิงสามจะมาเทียบอะไรกับคุณได้! ยังห่างกันอีกไกล!”
“แล้วทำไมโอคาซีถึงเอาแต่มองผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่ฉัน!”
“อาจจะเป็นเพราะองค์หญิงสามช่วยเหลือเขา!” ผู้ช่วยตอบออกมาอย่างเร่งรีบ
ใบหน้าของลูตี้เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด ก่อนจะยื่นมือออกไปจิกใบหน้าผู้ช่วยขณะที่เขาเข้ามาทำแผลให้เธอ เธอบีบใบหน้าผู้ช่วยและประจันหน้าโดยตรง!
“ไหนเธอบอกฉันมาสิว่าผู้หญิงคนนั้นมีดีอะไร?! เพราะว่าเธอสูงส่งงั้นเหรอ? เพราะแบบนี้ฉันจะพลาดโอกาสที่จะได้แต่งงานกับโอคาซีใช่ไหม? ฉันไม่ยอมหรอก!”
หัวใจของผู้ช่วยเต้นรัวด้วยความเจ็บปวด ทว่าเธอยังทำท่าใจดีสู้เสือและไม่แสดงท่าทีไม่พอใจเมื่อมองไปที่ลูตี้ ก่อนจะพูดปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ลูตี้ ชื่อเสียงขององค์หญิงสามมีแต่เรื่องไม่ดี โอคาซีไม่แต่งงานกับเธอหรอก ในสายตาของชาวเน็ต คุณต่างหากที่เป็นคนที่คู่ควรกับท่านพลเอกโอคาซี ถ้าชาวเน็ตยังมั่นใจในตัวคุณ คุณก็อาจจะได้แต่งงานกับเขาในไม่ช้า!”
“อย่างนั้นเหรอ?” ลูตี้สัมผัสใบหน้าของผู้ช่วยอย่างอ่อนโยนทันทีที่เห็นเลือดของเขาไหลออกมา “ฉันขอโทษ คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ!”
ทว่าผู้ช่วยกลับด่าทอเธอในใจ เธอไม่ได้ตั้งใจอะไรล่ะ เธอตั้งใจทำแบบนี้! เธอมันนังบ้า!
ถึงเวลาแล้วที่ชาวเน็ตจะต้องรู้เสียทีว่าตัวตนของผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างไร! เทพธิดาอย่างนั้นเหรอ? ไม่ใช่เพราะพึ่งใบบุญของ ‘พ่อ’ หรือไง?
ลูตี้ถูกรับมาเลี้ยงเป็นลูกสาวบุญธรรมเพราะความสวยของเธอตั้งแต่ยังเยาว์วัย ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก เธอมีใบหน้าราวกับตุ๊กตา และถูกพ่อบุญธรรมส่งไปกองละคร ตั้งแต่นั้นมา เธอก็เริ่มเดินสายเป็นนักแสดงเต็มตัว
ถึงกระนั้นความสวยเพียงอย่างเดียวกลับไม่เพียงพอ แม้เธอจะสวยแต่กำเนิด แต่ใครจะรู้ว่าความคิดของเธอกลับถูกแต่งแต้มมากมายแค่ไหน
ในวันหนึ่ง เธอก็ริเริ่มปีนป่ายเตียงของนายกเทศมนตรี และป่าวประกาศต่อสาธารณชนว่าพบพ่อผู้ให้กำเนิดแล้ว จากนั้นชีวิตของเธอก็เริ่มโลดแล่นไปด้วยดี
ทุกคนต่างมองว่าเธอเป็นนักสู้ แต่ใครจะรู้ว่าคนเราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่ได้ตั้งใจ?!