บทที่ 50 ความรักดุจคริสทัล

คิงดราก้อน

เพราะว่าพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์อาทิตย์หยุดเรียนพอดี เซียวหยางเลยพาสองแม่ลูกกลับไปส่งที่บ้าน

“เซียวหยาง ขึ้นไปนั่งด้วยกันหน่อยเถอะ เมิ่งนีชอบคุณมากนะ” เสิ่นอ้าวจุนเชิญขึ้นไปนั่งข้างบน

เซียวหยางมองท่าทีที่สวยงามของเสิ่นอ้าวจุน เหมือนกับเป็นผลไม้สุกงอม ก่อนจะตอบตกลงโดยที่ยิ้มหรี่ตา ก่อนจะนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

เลยหยิบโทรศัพท์ออกมา ให้ตายเถอะ โทรศัพท์มันปิดอยู่

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

เสิ่นอ้าวจุนดูนาฬิกา “สิบโมง ทำไมเหรอ?”

“แย่แล้ว จะเกิดเรื่องแล้ว!”

เซียวหยางตบขา ก่อนจะรีบโบกมือให้เสิ่นอ้าวจุน พลางตรงไปที่บริษัทหยุนซู

เมื่อถึงบริษัทหยุนซู ก็พบว่าประตูของบริษัทมันถูกล็อกแล้ว เซียวหยางเลยลงจากตึกแล้วกลับบ้านไป

เมื่อเขาเห็นไปของบ้านยังเปิดอยู่ ก็ถอนหายใจ

เขาค่อยๆ เปิดประตูเบาๆ ก่อนจะพบว่าใบหน้าของเย่หยุนซูกำลังมาสก์หน้าอยู่ และกำลังเล่นแท็บเล็ต

เย่หยุนซูไม่ได้หันมามอง พลางพูดด้วยความเย็นชา “รู้ว่าต้องกลับมาด้วยเหรอ ฉันคิดว่าคืนนี้คุณจะนอนข้างนอกเสียอีก”

เซียวหยางยิ้มอย่างอึดอัดใจ เลยมาหาเย่หยุนซูพลางพูด “โทรศัพท์แบตหมดแล้ว มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย เลยลืมดูเวลาไป”

“คุณเป็นเซลล์ขายของ จะมีเรื่องอะไรมากขนาดนั้นเหรอ?”

“อ๋อ วันนี้ได้เป็นกระแสกับตำรวจสาว กลางคืนก็ต้องฉลองกันหน่อย”

เมื่อได้ยินเย่หยุนซูพูดอย่างไม่เบา เซียวหยางก็ยิ้มอย่างขมขื่น เขารู้ว่า ตอนที่เย่หยุนซูพูดอย่างนิ่งๆ ก็เหมือนจะระเบิดออกมาได้แล้ว

พูดไป ทั้งสองคนแต่งงานกันมาจนถึงตอนนี้ เซียวหยางไม่เคยกลับมาดึกขนาดนี้เลย

เย่หยุนซูคิดแล้วก็โกรธ บอกว่าจะไปรับไปส่งตัวเองทุกวัน แต่เซียวหยางน่ะ เมื่อวานตอนเช้าก็มาสาย วันนี้ยิ่งกว่าเดิม ถึงกับทิ้งตัวเองไว้ที่บริษัทเลยล่ะ

ปิดโทรศัพท์ แถมยังขับรถออกไป เธอใช้หัวแม่โป้งคิดยังรู้เลย ว่าคนคนนี้เอารถตัวเองไปรับสาวแน่นอน

ใช้ได้เลย ความกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เลย

“เย่หยุนซู คุณเข้าใจผิดแล้ว เรื่องมันเป็นแบบนี้……”

“พอแล้ว!เซียวหยาง คุณไม่ต้องอธิบายแล้ว คนดีก็ดีไป คนเลวก็เลวไม่เลิก ถ้าคุณไม่อยากทำแล้ว ออกจากบริษัทไปได้เลย ฉันจะไม่ห้ามคุณ!”

เซียวหยางตบหัว เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ภรรยารู้สึกดีกับตัวเอง แต่นี่มันกลับหายวับไปหมดเลย

เย่หยุนซูโยนหน้ากากลงไปในถังขยะ เลยเดินขึ้นตึกไป โดยที่ไม่ได้สนใจเซียวหยาง

ดิ๊งด่อง……

โทรศัพท์ของเซียวหยางดังขึ้น พลางก้มหน้ามอง ก่อนจะรับเอาไว้โดยที่ไม่สบอารมณ์

“มีเรื่องอะไรก็พูดมา อยากจะโม้อะไรก็พูดมาเถอะ!”

กาเบรียลอึ้งไป “ให้ตายเถอะ!พี่ใหญ่ ใครยั่วโมโหคุณ กล้ามาทำให้คุณโกรธ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วมั้ง!”

เซียวหยางยิ้มอย่าจนปัญญา แต่ไม่ได้พูดอะไร

กาเบรียลที่เพลิดเพลินกับการนวดของสาวสวย แล้วก็ชิมโรมานี คอนติไปด้วย จู่ๆ ก็นั่งขึ้นมาในทันที

“พี่ใหญ่ คุณทำให้พี่สะใภ้โกรธหรือเปล่า”

“เห้อ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย คุณเป็นถึงเจ้าของสำนักดราก้อนที่มีชื่อเสียงระดับโลก ทำไมถึงมาอยู่ในที่เล็กๆ อย่างหยินโจว แล้วมายอมอยู่บ้านของฝ่ายหญิงเล่า?”

กาเบรียลไม่พอใจแทนเซียวหยาง เขาเป็นคนขาว สูงส่ง ผู้หญิงในสายตาเขานั้น เป็นเหมือนของที่เปลี่ยนได้เรื่อยๆ การเปลี่ยนผู้หญิงถึงเรียกได้ว่าเป็นชายชาตรี

เซียวหยางนั่งกางขา พลางโทรศัพท์ “คุณจะไปรู้อะไร นี่มันคือความรัก!จะบอกคุณให้นะ ถ้ายังว่าร้ายพี่สะใภ้อีก ฉันจะใช้บาร์เร็ตต์ยิงคุณให้กระจุยเลย!”

กาเบรียลรู้สึกปวดขึ้นมาทันทีที่ได้ฟัง จากนั้นก็ยิ้มหรี่ตาพลางพูด “พี่ใหญ่ พวกเราไปดื่มกันหน่อยไหม?ฉันถึงที่หยินโจวแล้ว”

“วันนี้เจ้าหญิงของราชวงศ์สวีเดนโทรมาหาฉัน บอกว่าไม่ว่าอย่างไรก็อยากเจอคุณ ถ้าคุณตกลง ตอนนี้เธอจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาหา”

เซียวหยางพูดด้วยความไม่สบอารมณ์ “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็วางสายเถอะ ฉันมีภรรยาแล้ว ราชวงศ์สวีเดนอะไรนั่น ไสหัวไป”

กาเบรียลรู้ว่าพี่ใหญ่นั้นรักเย่หยุนซูมาก “งั้นเอาแบบนี้ พี่ใหญ่ ฉันเสนออะไรหน่อย รับรองว่าพี่สะใภ้จะต้องกลับมายิ้มได้เหมือนเดิม”

“ได้สิ ใช้คำว่ายิ้มได้เหมือนเดิมได้เลยล่ะ เรียนรู้มาจากสาวจีนที่ไหนเนี่ย บอกมานะ ว่าเป็นความคิดอะไรกัน”

กาเบรียลหัวเราะแหะๆ “ผู้หญิงน่ะ ชอบอะไรมากที่สุด ซื้อของไง ฉันรู้มาคำหนึ่ง ว่า “กระเป๋า” รักษาได้ทุกอย่าง”

เซียวหยางตาเป็นประกาย แม่ว่าคนนี้จะเพ้อเจ้อมาได้ทันวัน แต่ก็ถือว่าเข้าประเด็นได้แล้ว

“โอเค ฉันรู้อยู่แล้ว ต้องให้คุณมาบอกอีกเหรอ?วางล่ะนะ”

เซียวหยางวางสายไป จากนั้นก็เริ่มคิดเรื่องที่จะบอกว่าจะพาภรรยาไปเดินเที่ยวอย่างไรดี เดินเล่นและหาอะไรกินน่าจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนชอบ

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เซียวหยางยิ้มมุมปากออกมาเบาๆ

……

วันที่สอง เพราะว่าเป็นวันหยุด เย่หยุนซูเลยไม่ได้ไปทำงาน เย่หยุนซูเลยลงมาข้างล่าง ตอนเที่ยงๆ

เซียวหยางเห็นเย่หยุนซูแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ เลยเข้าไปต้อนรับ

“เย่หยุนซู คุณจะไปไหน?”

“มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยล่ะ?”

อีกไม่นานต้องไปร่วมงานเลี้ยง เธอต้องเลือกเครื่องประดับที่เหมาะกับงาน ดังนั้นเลยจะไปเดินดูสักหน่อย

“ต้องสนใจสิ คุณลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้ฉันเป็นคนที่คอยปกป้องคุณนะ” เซียวหยางพูดพลางยิ้มตาตี่

เย่หยุนซูเบ้ปาก แต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร อย่าเพิ่งพูดเรื่องฆาตกรเลย ถ้าเกิดเจอชายที่อนาถา เซียวหยางก็ถือเป็นไพ่ที่ดีเหมือนกัน

“ฉันอยากจะไปเดินเที่ยว ถ้าอยากไปก็ตามมา”

เซียวหยางตาเป็นประกาย ใจตรงกัน มันคือแบบนี้แหละ

“ได้เลย รออะไรอยู่ล่ะ จะไปเดี๋ยวนี้เลย”

เย่หยุนซูมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยความรังเกียจ

“ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ อย่าแต่งตัวอย่างนี้เลย มันดูไม่มีราคาหมด”

เซียวหยางตอบรับ จากนั้นก็รีบไปอาบน้ำ เมื่อเขาโผล่มาอีกครั้ง ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดแล้ว

เย่หยุนซูดูเวลา ก็พูดด้วยความแปลกใจ “นี่ไม่นาน ทำไมคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วล่ะ? “

เซียวหยางยิ้มขึ้นมา “ถ้ามีปืนจ่ออยู่ ช้าก็ตายสิ ใครๆ ก็ต้องทำได้แหละ”

เย่หยุนซูกลอกตาใส่เขา จากนั้นก็พูดสิ่งที่ไม่เป็นจริง สามปีมานี้ เธอไม่รู้เลยว่าได้ยินมาเท่าไหร่แล้ว ได้ยินจนเบื่อแล้ว

เวลาราวๆ บ่ายสองแล้ว เซียวหยางกับเย่หยุนซูขับรถ มาที่ถนนธุรกิจที่เจริญที่สุดในหยินโจว

เมื่อลงจากรถ ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในห้าง

เดินหยุดๆ ในตอนนี้ เย่หยุนซูหยุดเดิน ก่อนจะตาเป็นประกาย

สิ่งที่อยู่ต่อหน้าเซียวหยางกับเย่หยุนซู คือร้านสร้อยคริสทัลที่สวยงาม

มันสวยประณีต ส่องแสงประกายออกมา ทำให้เย่หยุนซู เลยเผยอารมณ์ที่ตื่นตาตื่นใจขึ้นมา

“เย่หยุนซู สร้อยคริสทัลมันสวยมากใช่ไหม?” เซียวหยางถาม

เย่หยุนซูพยักหน้าให้

“งั้นเราสองคนเดินเข้าไปดูหน่อยเถอะ”

เย่หยุนซูตอบรับ จากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไป