บทที่ 19 ไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 19 ไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน

ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิท ทั้งเมืองเจียงหนานก็มีแสงไฟสีสันตระการตา

หน้าประตูเหลืองอร่ามแวววาวย่านการค้า

รถผ่านไปผ่านมา เสียงผู้คนพลุกพล่าน มีหญิงสาวหน้าตาสละสลวยไม่น้อยยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า รถบีเอ็มสีแดงค่อยๆขับมา หยุดลงหน้าประตูทางเข้า

ประตูรถเปิดออก มู่เซิ่งและเจียงหว่านปรากฏตัว ดึงดูดสายตาคนที่เดินผ่านไปมาอย่างมาก เดรสเซ็กซี่บวกกับเรียวขายาวขาว เพิ่งลงจากประตูรถดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน

“ผู้หญิงคนนี้เป็นนางแบบหรือเปล่า? รูปร่างดูดีมาก สวยเสียจริง”

“เดาว่าผู้ชายข้างๆคงเป็นแฟนของเธอนะ?”

“แม้จะใส่ชุดธรรมดา ย๊า แต่ว่ามองดีๆ ก็หล่อใช้ได้เลยนะ”

คนที่เดินผ่านไปผ่านมารู้สึกทึ่ง แต่ว่าไม่นาน พวกเขาก็หันสายตาไปอีกฝั่งหนึ่ง สาวสวยที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายดอกไม้ และรองเท้าสีน้ำตาลยาวเดินมาอีกฝั่งหนึ่ง

“พี่หว่าน พี่มาแล้วหรอ?”

มองเห็นเจียงหว่าน เสิ่นหยิงเซี่ยก็เดินโบกไม้โบกมือเข้ามา

เจียงหว่านยื่นมือไปกอดเสิ่นหยิงเซี่ยเบาๆ ยิ้มและพูด “หยิงเซี่ย ตั้งแต่มัธยมที่เธอไปต่างประเทศ ฉันก็ไม่เคยเจอเธออีกเลย คิดไม่ถึงว่าเธอจะสวยขึ้นได้ขนาดนี้”

“พี่หว่าน พี่ก็ไม่ต่างนะ”

เสิ่นหยิงเซี่ยยิ้ม จากนั้นสายตาก็สังเกตเห็นมู่เซิ่งที่อยู่ข้างๆ :

“คุณคือมู่เซิ่ง?”

สายตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

ตอนเธออยู่ต่างประเทศก็ได้ยินมาแล้ว เจียงหว่านแต่งงานกับผู้ชายที่มาอยู่บ้านภรรยา ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ไร้ความสามารถ แถมวันๆอยู่แต่บ้านเกาะผู้หญิงกิน คิดไม่ถึงว่าออกมาครั้งนี้ เจียงหว่านจะพาเขามาด้วย

และมองไปที่การแต่งตัวแบบข้างถนนของเขา เดาว่าแพงสุดก็แค่สองร้อยแหละ แค่ต่างหูข้างเดียวของเจียงหว่านยังซื้อไม่ได้มั่ง?

มู่เซิ่งพยักหน้า พูดเสียงเรียบ “สวัสดี”

เสิ่นหยิงเซี่ยไม่สนใจเขา ค่อยๆเดินไปด้านข้างลากเจียงหว่าน พูดถาม “พี่หว่าน พี่ทำไมถึงได้มากับไอ้ขยะได้ล่ะ?”

ได้ยินประโยคนี้เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอรู้เพื่อนคนนี้สนิทกันอย่างดี แต่มู่เซิ่งเป็นสามีของเธอ ตอนนี้คือความจริง อีกอย่างไม่กี่วันมานี้มู่เซิ่งช่วยเธอได้ไม่น้อย หากไม่ใช่มู่เซิ่ง แม้ยังไม่ยอมรับเขาแต่เจียงหว่านในตอนนี้ เริ่มที่จะจริงจังกับความสัมพันธ์ระหว่างมู่เซิ่งแล้ว

“เขาไม่ใช่ไอ้ขยะ อย่างน้อยก็ตอนนี้ เขายังเป็นสามีของฉัน” เจียงหว่านเสียงดังขึ้น ใบหน้าเผยความโกรธ

“พี่……พี่คงไม่ได้เห็นเขาเป็นสามีจริงๆแล้วใช่ไหม?” เห็นเจียงหว่านแบบนี้ เสิ่นหยิงเซี่ยเหมือนเห็นผี

“ไม่มี แต่ฉันกำลังพยายาม” เจียงหว่านพยักหน้าตั้งใจ “ซูเสี่ย จางเหม่ยก็ถึงกันแล้ว แฟนของเธอคงนั่งสั่งอาหารอยู่ข้างในแล้วใช่ไหม? พวกเรารีบเขาไปอย่าให้พวกเขารอนาน”

เห็นเจียงหว่านที่ไม่อยากคุยเรื่องนี้เยอะ เสิ่นหยิงเซี่ยทำได้เพียงพยักหน้าไร้หนทางและพูด “เอาเถอะ”

มู่เซิ่งที่อยู่ด้านหลังกำลังจะเดินตาม อยู่ดีๆเสิ่นหยิงเซี่ยที่ยืนอยู่ด้านหลังเจียงหว่านก็หันตัวกลับมา ใบหน้าเย็นชายืนขว้างอยู่หน้ามู่เซิ่ง

“มู่เซิ่ง ฉันหวังว่านายจะรีบหย่ากับเจียงหว่านทันที อย่ามาทำให้พี่สาวแสนดีของฉันต้องเสียเวลา!”

น้ำเสียงของเสิ่นหยิงเซี่ยเย็นชาผิดปกติ “คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ที่จริงไม่มีสิทธิ์ได้แต่งงานกับเจียงหว่านด้วยซ้ำ”

มู่เซิ่งพูดเสียงเรียบ “ฉันจะแต่งงานกับใคร เหมือนว่ามันจะไม่เกี่ยวกับเธอนะ?”

“เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน แน่นอนว่าต้องเกี่ยว!”

เสิ่นหยิงเซี่ยพูด “ทั้งชีวิตนี้ฉันและเพื่อนสนิทของฉัน มาจากคนชั้นสูงจากอีกโลกหนึ่ง ที่จริงนายแทบไม่มีสิทธิ์ และไม่คู่ควรที่จะอยู่กับเจียงหว่าน!”

“นายแทบไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับนายต่างกันเยอะ ก็เหมือนกับฉันซื้อรถคันหนึ่ง เกรงว่าทั้งชาตินี้นายก็คงไม่เคยได้นั่งสักครั้งไหม!”

เสิ่นหยิงเซี่ยชี้ไปยังรถมาเซราตีสีดำของเธอ สีหน้าแสดงออกดูสูงส่งมองมาที่ต่ำ เหมือนว่าเธอและเขาเป็นคนจากโลกสองโลกที่ต่างกัน

“ดังนั้นฉันขอนาย รีบหย่ากับเธอซะ จะได้ขายหน้าน้อยลงหน่อย!”

“ฉันไม่เหมาะ? เดิมฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะเขามาในโลกของพวกเธอ?”

มู่เซิ่งมองเสิ่นหยิงเซี่ย ริมฝีปากโค้งยิ้มอย่างตลก

“เธอไม่รู้สึกว่าคำพูดของเธอมันดูน่าตลกไปหน่อยหรือไง?”

เมื่อพูดออกไป ท่าทางทั้งตัวของมู่เซิ่งก็เปลี่ยนไป สีหน้าเหมือนเทพเจ้าแห่งสงครามที่ผ่านทะเลและภูเขาซากศพมา คิ้วขมวดอย่างโหดร้ายจ้องไปอย่างเปิดเผย ทำให้เท้าทั้งสองของเสิ่นหยิงเซี่ยหนักอึ้งเหมือนมีตะกั่ว

“นายคิดว่าความภูมิใจของนาย ในสายตาฉันแทบจะไม่มีค่าให้พูดถึง!”

“หากไม่ใช่เพราะเจียงหว่าน นายก็ไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่คุยกับฉันสักประโยคหนึ่ง!”

เขามองกวาดนิ่งไปรอบ มู่เซิ่งหันหลังเดินเข้าไปในร้านอาหาร ทิ้งไว้เพียงเสิ่นหยิงเซี่ยที่แข็งทื่อเหม่อลอยอยู่

ได้ยินที่มู่เซิ่งพูดใส่เธอเมื่อกี้ นิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับกลับมา เสิ่นหยิงเซี่ยตะลึง พูดและยิ้มเย็นชาในหัวมีความโกรธ “เฮอะ มู่เซิ่ง ฉันไม่รู้ว่านายไปเอาความกล้านี้มาจากไหน พูดแบบนี้กับฉัน วันนี้ฉันจะทำให้เธอได้เห็นและผิดหวังในตัวนายจนหมดสิ้น!”

คำพูดหลุดออกไป เสิ่นหยิงเซี่ยกัดฟัน และเดินตามเข้าร้านอาหารไป

“เจียงหว่าน ทางนี้!”

“ไม่เจอกันนานเลยนะ เจียงหว่าน”

ซูเสี่ยและจางเหม่ยนั่งอยู่ตรงนี้มานานแล้ว เห็นเจียงหว่านโบกมือทักทายและส่งสัญญาณว่าอยู่นี้

“โย่ว เพื่อนสนิทของหยิงเซี่ยมาแล้ว ฉันชื่อเย่เวิน เป็นแฟนของเธอ”

“สวัสดี นี่เป็นสามีของฉัน มู่เซิ่ง” เจียงหว่านแนะนำ

“สวัสดีประธานมู่”

ชายสวมชุดสูทนั่งอยู่บนเก้าอี้รีบลุกขึ้นยืน จับมือมู่เซิ่งและทักทาย เห็นเจียงหว่านที่สวยขนาดนี้ สามารถที่จะแต่งกับเขาได้แน่ ยังไงก็คงไม่ใช่คนธรรมดาหรอกนะ?

ตอนนั้นเองเย่เวินเตรียมที่จะทำความรู้จักกับมู่เซิ่ง เพื่อนเพิ่มลู่ทางให้เยอะขึ้น

มู่เซิ่งจับมืออย่างมีมารยาท พูด “สวัสดี แต่ว่าฉันไม่ใช่ประธาน เรียกฉันว่ามู่เซิ่งก็พอ”

“ประธานมู่ถ่อมตัวเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าคุณบริหารบริษัทไหนอยู่?” เย่เวินที่สวมแว่นตาถามต่อ

“เขาก็แค่เกาะผู้หญิงกิน มีสิทธิ์ให้เรียกประธานมู่ด้วยหรอ?”

เวลานี้เอง เสียงเย็นชาดังขึ้นทางด้านหลัง เย่เวินหันกลับไป ที่แท้ก็เป็นแฟนของเขาเสิ่นหยิงเซี่ย

“หยิงเซี่ย เธออย่าพูดเล่นซิ ถ้าประธานมู่ไม่มีกำลัง จะสามารถแต่งงานกับภรรยาที่สวยขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ?” เย่เวินฟังออกถึงความผิดปกติ แต่ก็ยังคงถามต่อ

มู่เซิ่งก็ค่อยๆขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร

“เดิมที่ก็เป็นแค่ไอ้ขยะ เกาะผู้หญิงกิน ทั้งเมืองเจียงหนานมีใครไม่รู้บ้าง? นายเรียนอยู่ที่เมืองนอกเลยไม่เคยได้ยินเท่านั้นเอง”

เสิ่นหยิงเซี่ยยิ้มพูดเย็นชา ในใจรู้สึกเกลียดแค้นมากถึงมากที่สุด ยังไงเธอก็นึกไม่ถึงแค่เยาะเย้ยไม่กี่คำ ลูกเขยคนหนึ่งจะกล้าแหกหน้าเธอตรงหน้าประตูแบบนี้

ต้องรู้ไว้ แม้เสิ่นหยิงเซี่ยจะสู้เจียงหว่านไม่ได้ เป็นตระกูลระดับสอง แต่ให้พูดยังไงก็ยังมาจากตระกูลที่สูง พ่อมีเงินเกินหมื่นล้าน เอาเงินออกมาเล็กน้อยก็สามารถบดขยี้มู่เซิ่งคนไอ้ขยะให้ตายได้

แค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งมีสิทธิ์อะไรมาท้าทายเธอ?

เธอต้องทำให้มู่เซิ่งอับอาย ดังนั้นเธอจึงเปิดโปงมู่เซิ่งต่อหน้าแฟนของเธออย่างไม่ถนอมน้ำใจ

“นี่………”

เห็นเสิ่นหยิงเซี่ยแฟนสาวพูดแบบนี้ เย่เวินรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

มู่เซิ่งกลับตรงไปตรงมา พยักหน้าตอบรับ “ฉันเป็นลูกเขยแต่งเขาบ้าผู้หญิงไม่ผิด”

“ห้ะ นี่เรื่องจริงหรือเนี่ย!”

เย่เวินไม่สามารถทนต่อไปได้ รีบใช้แรงปัดมือ ใครจะรู้ว่าไอ้ขยะที่ซักผ้าทำอาหารอยู่ที่บ้าน สองมือนี้จะสกปรกแค่ไหน?”

อีกอย่าง คนที่เกาะผู้หญิงกินจับมือกับเขา ยิ่งเป็นการลดทอนฐานะของตัวเอง สีหน้าเย่เวินเผยความไม่พอใจ ท่าทางที่ทำไปเมื่อกี้ เรียกได้ว่าเสียเวลาของเขา

เวลานั้นเพื่อนสนิทสองคนที่นั่งอยู่อีกด้านต่างใช้สายตาแปลกประหลาดมองไปที่มู่เซิ่ง สายตาจ้องไปที่มู่เซิ่ง พูดเสียงเบา

“เจียงหว่านทำไมเรื่องมันเป็นยังไงกัน? ทำไมต้องหาคนไร้ประโยชน์ด้วย?”

“ใช่แล้ว เจียงหว่านในตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยเป็นถึงดาวมหาลัยที่โด่งดัง คนที่จีบเธอต่อแถวยาวทะลุประตูแล้ว ทำไมตอนนี้ สายตาถึงตกต่ำแบบนี้?”

“มู่เซิ่งเป็นคนที่พ่อของเจียงหว่านเลือกให้แต่งงานด้วย เอ๋ เจียงหว่านผู้น่าสงสาร ชีวิตที่ดีกลับถูกไอ้ขยะทำให้เสียเวลาแบบนี้ได้”

หญิงสาวอีกสองคนซุบซิบกันไม่หยุด เหมือนกำลังรู้สึกสงสารเจียงหว่านมาก สายตามองไปที่มู่เซิ่ง เหมือนกับมองสุนัขข้างถนนแบบนั้น แทบไม่มีแม้แต่ความเคารพนับถือ

“ไม่เป็นไร แม้เขาจะเป็นสามีของเจียงหว่าน แต่ไม่นานก็ต้องหย่าแล้ว”

สายตาเสิ่นหยิงเซี่ยมองเยาะเย้ยมู่เซิ่ง พูดเย็นชา “ขอเพียงถึงเวลา เจียงหว่านก็สามารถถีบนายออกได้ตลอดเวลา!”

“เสิ่นหยิงเซี่ย!”

เจียงหว่านขมวดคิ้ว แม้เสิ่นหยิงเซี่ยจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ แต่คำพูดนี้มันแรงเกินไปแล้ว

“ฉันพูดผิดหรือไง?” เสิ่นหยิงเซี่ยจ้องไปอย่างไม่ยอม เธอคิดไม่ถึงว่าเจียงหว่านจะโกรธเคืองเธอเพราะคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ใบหน้าแดงก่ำขึ้น “เขาแทบทำอะไรไม่เป็น เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง!”

“ไม่ เขาไม่ได้ไร้ประโยชน์! อย่างน้อยมู่เซิ่งเขาก็เคยเป็นทหารพิเศษ และฝีมือต่อสู้เก่งกาจอย่างมาก” เจียงหว่านโกรธนั่งลงอยู่ข้างมู่เซิ่ง พูดแทนมู่เซิ่งอย่างไม่พอใจ

อีกอย่าง

มู่เซิ่งยังปกป้องเธอต้องหลายครั้งแล้วนะ