บทที่ 74 : การบรรลุข้อตกลง

“ฝ่าบาท!” รองเสนาบดีสํานักหมอหลวง หมอเฉินก้าวเข้าอย่างรีบ ตั้งใจจะรักษาองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุย

พระสนมฉินก้าวออกมาจากด้านหลังฉากกั้นและหยุดรองเสนาบดีสํานักหมอหลวง หมอเฉินไว้

“ท่านรองเสนาบดี หมอเฉินให้การรักษาต่อฝ่าบาทมาเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ไม่เห็นการปรับปรุงใดๆ คุณหนูซูมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมและเพิ่งเอาชนะเด็กฝึกของท่านได้ ให้คุณหนูซูเข้ามารักษาฝ่าบาท!”

จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยเกือบจะหมดสติลงแล้ว นอนอยู่บนบัลลังก์มังกร

เซี่ยโฮวโม่ยืนขึ้นและก้าวออกมา “ฝ่าบาทอาการแย่แล้ว ท่านเสนาบดี ท่านอาจะต้องถอย”

เมื่อรู้ว่าการปรากฏตัวของพวกเขาไม่ได้รับการต้อนรับอีกต่อไป เสนาบดีจึงลุกขึ้นและถอยกลับ

ถูกขัดขวางจากสนมฉิน หมอเฉินรู้สึกรําคาญ “พระสนม ฝ่าบาทได้รับการรักษาจากหม่อมฉัน โปรดหลีกทางด้วย การรักษาอาการประชวรของฝ่าบาทไม่สามารถล่าช้าได้!”

รองเสนาบดี หมอเฉินกล้าที่จะมีปากเสียงกับสนมฉินอย่างโผงผางเพราะเขารู้ว่าเซี่ยโฮวรุยจะไม่ยอมให้คนอื่นดูแลรักษาเขา

มองไปที่หมอเฉิน สนมฉินปฏิเสธที่จะยอมแพ้และหัวเราะเยาะ “ข้าบอกแล้ว่าฝ่าบาทไม่ได้ทรงมีพระวรกายดีขึ้นหลังจากที่ท่านให้การดูแลพระองค์มาช้านาน ท่านไม่สามารถรักษาพระองค์ให้ดีขึ้นได้ จึงควรที่จะหลักทางให้ผู้อื่น” แล้วนางก็หันไปหาซูมู่เก๋อ “คุณหนูซู มานี่ หากเจ้าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของฝ่าบาทได้ เจ้าจะได้รับรางวัลมากมายอย่างแน่นอน”

ซูมู่เก๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย ตระหนักจึงจุดประสงค์ของนางสนมฉินในการกล่าวร้ายนางก่อนหน้านี้

ไม่มีใครในวังหลวงที่จะแสดงความโปรดปรานของพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลหรือผลประโยชน์ องค์จักรพรรดิมักจะรักษาสภาพของพระองค์จากผู้อื่น นางสนมฉินต้องการใช้ซูมู่เก๋อเพื่อตรวจสอบสภาพอาการของเขา เมื่อนางก้าวไปข้างหน้า เซี่ยโฮวรุยจะถือว่านางเป็นพรรคพวกของสนมฉินโดยปริยาย หลังจากทรงฟื้นสติ ซูมู่เก๋อไม่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

“รองผู้อํานายการสํานักหมอหลวง หมอเฉินได้ให้การดูแลรักษาองค์จักรพรรดิมาช้านาน ดังนั้นเขาจึงรู้สภาพอาการของพระองค์ดีกว่าหม่อมฉัน ขอโปรดอภัยแก่หม่อมฉันด้วย พระสนมฉินเพค่ะ”

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่สนมฉินอย่างลึกซึ้งและก้าวเข้าไป แต่เซี่ยโฮวคุณหยุดเขาไว้

“น้องเก้า มันไม่ใช่ธุระกงการของเจ้า เจ้าไม่อยากให้ท่านพ่อทรงประชวรเช่นนี้ ใช่หรือไม่?”

“หลีกไป” เซี่ยโฮวโม่ผลักเซี่ยโฮวคุณออกไป

เซี่ยโฮวคุณเกือบสะดุดล้ม เขาจ้องมองด้านหลังเซี่ยโฮวโม่และกัดฟันด้วยความแค้น

“เซี่ยโฮวโม่!”

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่สนมฉินอย่างเย็นชา ทําให้นางตัวสั่นเมื่อเห็นความเยือกเย็นจากรูม่านตาสีดําสนิทคู่นั้น

“องค์ชายเก้า ท่านไม่ได้ยินในสิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไปหรือ?”

เซี่ยโฮวโม่ดึงรองผู้อํานวยการสํานักหมอหลวง หมอเฉินไปที่เซี่ยโฮวรุยโดยตรง

“ท่านรออะไรอยู่ หมอเฉิน!?”

หมอเฉินฟื้นสติรู้สึกตัวและรีบไปตรวจรักษาองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุย

สนมฉินโกรธมาก หลังจากแผนการมากมาย นางถูกทําลายจากเซี่ยโฮวโม่!

นางไม่เชื่อว่าเซี่ยโฮวโม่ไม่สนใจสภาพร่างกายของเซี่ยโฮวรุย เขาอาจจะรู้เขาจึงขัดขวางนางทุกวิธีทาง!

ซูมู่เก๋อสังเกตว่าวิธีการปฐมพยาบาลของหมอเฉินยังคงเหมือนกับครั้งที่แล้ว ท้ายที่สุดมันเป็นวิธีแก้ปัญหาในการจัดการกับอาการ แต่ไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง ดังนั้นมันทําให้จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยคงอยู่ต่อไปในสภาพที่แย่ลงเรื่อยๆ

หลังจากการปฐมพยาบาลของหมอเฉิน ผิวของเซี่ยโฮวรุยค่อยๆดีขึ้นและลมหายใจของเขาก็คงที่ แต่ตาของเขายังคงปิดสนิทโดยไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นขึ้นมา

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่ขันทีอี ซึ่งเป็นกังวลอย่างมาก “นําส่งฝ่าบาทเสด็จกลับที่ตําหนักของพระองค์”

“พะย่ะค่ะ”

ออกจากท้องพระโรง ซูมู่เก๋อเห็นเสนาบดีหลายคนอยู่ด้านนอกรวมทั้งซูหลุน

เมื่อเห็นซูมู่เก๋อ ซูหลุนรีบก้าวเข้ามาหา

“ฝ่าบาททรงเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อมองไปที่ใบหน้าของเขา ซูมู่เก๋อก็นึกถึงฉากในท้องพระโรง นางกําลังจะถูกตัดนิ้ว แต่ซูหลุนไม่มีความตั้งใจที่จะยืนหยัดเพื่อขอร้องให้กับนาง แม้ว่านางจะไม่มีความคาดหวังจากเขาเช่นนั้น แต่นางก็ยังคงรู้สึกผิดหวังในตอนนี้

“รองเสนาบดีสํานักหมอหลวง หมอเฉินเป็นผู้ให้การดูแลต่อฝ่าบาท”

ขณะที่ซูมู่เก๋อกําลังจะออกจากวังหลวง คนในวังก็วิ่งมาหานาง

“คุณหนูซู รอสักครู่ องค์จักรพรรดิทรงฟื้นแล้วและต้องการพบท่าน ได้โปรดมากับข้า”

เซี่ยโฮวรุยฟื้นแล้วงั้นเหรอ?

“โปรดนําทางด้วย”

ซูหลุน ไม่แปลกใจ แค่กระซิบบอกซูมู่เก๋อว่าอย่าทําให้เกิดเรื่องขุ่นเคืองจากองค์จักรพรรดิ

ตําหนักในห้องบรรทมขององค์จักรพรรดิเงียบมาก นางกํานับและขันทีทุกคนระมัดระวังไม่ให้ส่งเสียงดัง

“คุณหนูซู ฝ่าบาททรงอยู่ด้านใน โปรดเข้าไปเถิด”

ทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องของจักรพรรดิ

ซูมู่เก๋อเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับกลิ่นยาจาง ๆ ที่ลอยอยู่ภายใน

หลังจากผ่านฉากกั้นที่มีลวดลายดอกพลัมในหิมะ ซูมู่เก๋อก็เห็นเซี่ยโฮวโม่ทันที เขานั่งอยู่บนเก้าอี้

จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยนอนอยู่บนเตียงไม้พะยูงซึ่งน่าจะตื่นแล้ว

หลังจากที่ซูมู่เก๋อเข้ามา ขันที่อีซึ่งรับใช้อยู่ข้างๆ โค้งคํานับเล็กน้อยและถอยออกไป

ซูมู่เก๋อประหลาดใจเล็กน้อย สงสัยว่าเซี่ยโฮวโม่ตั้งใจจะทําอะไร นางก้าวไปข้างหน้าอย่างใจเย็น“ฝ่าบาท”

“เมื่อไหร่ที่เจ้าจําข้าได้?”

คําพูดลอยๆของเขาอาจไร้สาระสําหรับคนอื่น แต่ซูมู่เก๋อเข้าใจความหมายของเขา

ก่อนหน้านี้เขามักจะปรากฏตัวในฐานะ “ใต้เท้าเซี่ย” ปลอมตัวและไม่เคยเปิดเผยตัวตนต่อหน้าซูมู่เก๋อ

เซี่ยโฮวโม่ปลอมตัว แต่ลูกน้องรอบตัวเขาไม่ได้ไปไหน มันยากแค่ไหนกันที่จะรู้

ซูมู่เก๋อกลอกตาอย่างลับๆ ในใจ

“ฝ่าบาทมีกฎระเบียบของพระองค์ในการทําสิ่งต่างๆ ซึ่งหม่อมฉันมิอาจถามหรือแทรกแซงได้ เพค่ะ” แต่เนื่องจากเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดเผยตัวตนของเขา นางจึงต้องแสร้งทําเป็นไม่รู้ ท้ายที่สุดเขาเป็นองค์ชายเก้าและราชาแห่งจิน

เซี่ยโฮวโม่หัวเราะด้วยเสียงต่ำ

เสียงที่น่าพอใจของเขา เหมือนเสียงของการเชลโล กวาดไปทั่วหัวใจของนางเบาๆ

“ฝ่าบาท หม่อมฉันสงสัยว่าพระองค์ทรงต้องการให้หม่อมฉันทําสิ่งใดเพค่ะ?”

“ดังที่สนมฉินกล่าว หมอที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ดีกว่าเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการรักษาอาการประชวรของเสด็จพ่อ”

ซูมู่เก๋อขมวดคิ้ว เซี่ยโฮวโม่ขอให้นางรักษาองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยที่ยังไม่ได้สติ มันจึงไม่ใช่ความตั้งใจขององค์จักรพรรดิที่ให้นางรับช่วงต่อในการรักษา

เมื่อนึกถึงการต่อต้านของเซี่ยโฮวรุยในครั้งสุดท้ายนั้น ซูมู่เก๋อลังเลอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ตอบรับ

ถ้าเซี่ยโฮวรุยตําหนินางหลังจากฟื้นขึ้นมา นางคงถึงคราวเคราะห์เป็นแน่

เมื่อเห็นความกังวลของนาง เซี่ยโฮวโม่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “มั่นใจได้ ข้าจะทําให้เจ้าปลอดภัย”

ซูมู่เก๋อรู้ดีว่าตราบใดที่นางทําตามที่เซี่ยโฮวโม่พูด นางจะถูกมองว่าเป็นพรรคพวกของเซี่ยโฮวโม่ในสายตาคนอื่นแม้ว่านางจะไม่คิดอย่างนั้นก็ตาม

นางอยากจะเชื่อในเซี่ยโฮวโม่มากกว่าสนมฉิน แต่เนื่องจากเป็นกรณีนี้ ซูมู่เก๋อรู้สึกว่าจําเป็นต้องชี้แจงบางอย่างกับเซี่ยโฮวโม่

“หม่อมฉันมีข้อกําหนดสองข้อเพค่ะ”

เซี่ยโฮวโม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดว่านางกล้าที่จะเจรจากับเขาด้วยซ้ำ

“บอกข้ามา”

“ข้อแรก หม่อมฉันจะไม่ละเมิดจริยธรรมทางการแพทย์และทําสิ่งชั่วร้าย ข้อสอง หม่อมฉันหวังว่าพระองค์จะสามารถให้ความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของมารดาและน้องชายของหม่อมฉันเพคะ ฝ่าบาท”

“อืม ข้าให้สัญญากับเจ้า”

“ขอบพระทัยเพคะ ฝ่าบาท”

บรรลุข้อตกลงแล้ว ซูมู่เก๋อเดินเข้าไปหาองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุย

ผิวขององค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยแย่กว่าที่เขาอยู่ในท้องพระโรงเสียอีก ใบหน้าของพระองค์ดูไร้ชีวิตไม่อาจคาดเดาได้

นางอดสงสัยไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุย

นางจับชีพจรขององค์จักรพรรดิ

ตัดสินจากชีพจร นางพบว่าองค์จักรพรรดิเซี่ยโฮวรุยมีเสียงของไตที่อ่อนแอมาก นางรู้สึกได้ถึงเสียงปอด หัวใจเต้นเร็ว หัวใจขาดเลือดอาจหัวใจวายเฉียบพลันได้ ไตอยู่ในภาวะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง ความแห้ง-ร้อนในหัวใจ และความร้อนในร่างกายส่วนบนและร่างกายส่วนล่างเย็น มันเป็นเรื่องยุ่งมาก!

หากสภาพของพระองค์ยังคงดําเนินต่อไปเช่นนี้ องค์จักรพรรดิไม่สามารถดํารงอยู่ได้ในเดือนนี้

“ฝ่าบาท องค์จักรพรรดิทรงเริ่มประชวรตั้งแต่เมื่อใด เพค่ะ?”

“ครึ่งปีที่แล้ว”

เซี่ยโฮวโม่ขอให้ตงหลินนําหนังสือเล่มเล็กมาให้ด้วย ซึ่งได้บันทึกประวัติทางการแพทย์ของเซี่ยโฮวรุยไว้อย่างชัดเจน

ตอนแรก เซี่ยโฮวรุยรู้สึกเหนื่อยง่ายและเขาคิดว่าเป็นเพราะสถานการณ์ที่หนักหน่วง หมอเฉินจึงสั่งปรุงยาบํารุงเพื่อให้ความอบอุ่นกับเขา

ยาบํารุงเหล่านี้เป็นเหมือนยากระตุ้นชั่วคราว ซึ่งสามารถใช้ได้ผลในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สุขภาพของเซี่ยโฮวรุยกลับแย่ลงเรื่อยๆ

จนเมื่อสองเดือนมานี้ จู่ๆ เขาก็ตกอยู่ในอาการโคม่าเป็นครั้งคราว

บํารุงไต – ฉีเพื่อรักษาภาวะไตบกพร่อง และขับสารพิษที่สะสมอยู่ในปอด ใบสั่งบาของรองเสนาบดีสํานักหมอหลวง หมอเฉินไม่มีปัญหา

ซูมู่เก๋อหยิบเข็มเงินออกมาจากชุดเครื่องมือแพทย์ของนาง เจาะปลายนิ้วของเซี่ยโฮวรุยและบีบเลือดออกมาหนึ่งหยด

เมื่อนางกําลังจะเปิดขวดกระเบื้องลายครามเพื่อเก็บตัวอย่างเลือด นางพบว่าสีของหยดเลือดสลัว

ซูมู่เก๋อคิดว่าดวงตาของนางพร่ามัว นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาแล้วหยดเลือดลงไป หลังจากหยดแล้วมันแพร่กระจายบนผ้าเช็ดหน้าสีขาวทันที

นางเดินไปที่หน้าต่างพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าเพื่อดูใกล้ๆ

นางขมวดคิ้ว แทงเข็มเงินเข้าที่ปลายนิ้วของตัวเองทันทีและบีบเลือดหนึ่งหยดลงบนผ้าเช็ดหน้าอีกผืน

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนาง เซี่ยโฮวโม่ก็ลุกขึ้นยืน

“เจ้ากําลังทําอะไร?”

ซูมู่เก๋อถือผ้าเช็ดดหน้าสองผืนยื่นต่อหน้าเซี่ยโฮวโม่

“ฝ่าบาท โปรดทอดพระเนตรผ้าเช็ดหน้าสองผืนนี้เพคะ พระองค์ค้นพบความแตกต่างระหว่างผ้าสองผืนนี้ได้หรือไม่?”

ผ้าเช็ดหน้าทั้งสองผืนเปื้อนเลือด มองแวบแรกไม่มีความแตกต่าง แต่หากสังเกตดีๆ อาจพบแสงสีฟ้าจางๆ บนหนึ่งในนั้น

“ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มีปัญหาหรือเปล่า?”

“เลือดของคนปกติจะไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้เพค่ะ องค์จักรพรรดิอาจถูกวางยาพิษ”

ดวงตาของเซี่ยโฮวโม่มืดลง “ได้รับพิษ?”

“เพค่ะ”

ซูมู่เก๋อหยิบยาล้างพิษออกมาจากชุดแพทย์ของนางและส่งให้เซี่ยโฮวโม่

“นั่นคืออะไร?”

“นั่นคือยาล้างพิษที่หม่อมฉันปรุงขึ้นเพค่ะ สามารถบรรเทาการแพร่กระจายของพิษได้ หากพระองค์ทรงตื่นขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากรับประทานยาล้างพิษแสดงว่าร่างกายของพระองค์มีพิษที่เป็นอันตราย”

ในตําหนักจ้าวเหอ

สนมฉินอยู่ในอารมณ์ที่น่ากลัว ทําให้นางกํานัลในห้องกลัวจนไม่กล้าหายใจ

“ถวายบังคมเพค่ะ องค์ชายสอง”

เซี่ยโฮวคุณยกม่านและเข้าไปในห้อง โบกมือ ทุกคนรู้ในทันทีและถอยออกจากห้องไป

“เสด็จแม่ หม่อมฉันได้ยินว่าเสด็จพ่อทรงฟื้นแล้วและเรียกหาตัวซูมู่เก๋อ” เซี่ยโฮวคุณนั่งลงและกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางสนมฉินก็ขมวดคิ้ว “เร็วขนาดนี้! สิ่งที่เราได้ทําในวันนี้ผูกพันพอที่จะทําให้องค์จักรพรรดิระคายเคืองได้ ไปสารภาพกับพระองค์กันเถอะ” ขณะพูดสนมฉินก็ลุกขึ้นยืน

“เสด็จแม่ ท่านทําไปเพราะนึกถึงสุขภาพของเสด็จพ่อ พระองค์จะตําหนิท่านได้อย่างไร?”

สนมฉินหัวเราะเยาะ “เขาเคยปกป้องพวกเรา! มากับข้า อย่าทําให้ใครใช้โอกาสนี้ซ้ำเติมเราได้”

เซี่ยโฮวคุณไม่สามารถทําอะไรได้นอกจากพยักหน้า “ได้ เสด็จแม่”