บทที่ 40 ขายไก่ป่า

บทที่ 40 ขายไก่ป่า

“พี่สาว พวกเราไปร้านที่ท่านป้าจางไปคราวก่อนเถอะ ที่นั่นเชี่ยวชาญด้านสินค้าพื้นเมือง” กู้หนิงผิงพากู้เสี่ยวหวานไปร้านที่ท่านป้าจางขายไก่ป่าในครั้งที่แล้ว

แม้เขาจะมาที่นี่เพียงครั้งเดียว แต่กู้หนิงผิงก็มีความทรงจำเป็นเลิศ หลังเดินผ่านร้านรวงมากมาย ช่วงเวลาเพียงพริบตาเด็กชายก็หาร้านนั้นจนพบ

กู้เสี่ยวหวานมองร้านแห่งนี้ ที่นี่ขายข้าว บะหมี่ น้ำมัน และของจิปาถะอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีของแห้งมากมาย สินค้ามีค่อนข้างหลากหลาย

ชายชราอายุราวห้าสิบที่ดูเหมือนเถ้าแก่ร้าน ยืนสูบกล้องยาสูบด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอยู่หน้าประตู ครั้นมองเห็นเด็กสองคนเดินตรงเข้า ชำเลืองสายตามองพลางเอ่ยถาม “เจ้าเด็กน้อยทั้งสองจะซื้ออะไร?”

“คุณลุงรับซื้อไก่ป่าไหมเจ้าคะ?” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถามเสียงอ่อนหวาน หากพูดจาอ่อนหวานเมื่อทำธุระข้างนอก ทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี

ครั้นเถ้าแก่ได้ยินเช่นนี้ก็พลันมีความสุข ท่าทางของเขาดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย “รับสิ พวกเจ้ามีไก่ป่ามาขายอย่างนั้นหรือ ไหนเอามาให้ข้าดูหน่อย!”

“ไก่ป่าตัวอวบอ้วน ท่านลุงลองดูก่อนเถอะ” กู้เสี่ยวหวานส่งสัญญาณให้กู้หนิงผิงหยิบไก่ออกมาให้เขา

“ท่านลุง ท่านลองดูเถอะ พวกเราจับไก่ป่าตัวนี้ได้เมื่อวาน มันยังมีชีวิตอยู่ สด ๆ ใหม่ ๆ เลยเจ้าค่ะ” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยเสียงหวาน

ชายชราพยักหน้ารับรู้ “อื้ม ไม่เลวเลยจริง ๆ เจ้าเอาไก่ตัวนี้ไปวางไว้บนตาชั่งตรงนู้น และทิ้งมันไว้บนนั้นซะ”

กู้เสี่ยวหวานลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ปรากฏว่าสิ่งนี้สามารถขายได้จริง ๆ!

กู้หนิงผิงถือไก่เข้าไปอย่างรวดเร็ว ส่งมันให้กับลูกจ้างในร้านชั่งน้ำหนัก

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้ตามเข้าไป แต่นางกลับกวาดสายตาสำรวจวัตถุดิบภายในร้านรับซื้อสินค้าท้องถิ่น ไม่เพียงแต่กู้เสี่ยวหวานที่นำไก่มาขาย ยังเห็นคนนำกระต่ายมาขายอีกด้วย

อีกทั้งยังมีเห็ดหูหนูแห้ง เห็ดหลินจือต่าง ๆ รวมทั้งขิง กระเทียม พริกแห้ง และอื่น ๆ ถ้ากล่าวกันในเรื่องสินค้า ภายในร้านแห่งนี้นับว่ายังความหลากหลายน้อยอยู่ ซึ่งแตกต่างจากร้านของชำในยุคปัจจุบันที่มีกระทั่งหน่อไม้แห้ง ปลาแห้ง เนื้อรมควัน กุนเชียง ผักดองแห้งทุกชนิด วันธรรมดาทั่วไปเหล่าแม่บ้านจะสามารถซื้อถั่วฝักยาวตากแห้ง หัวไชเท้าแห้ง สับเปลี่ยนรสชาติได้ทุกวัน

กู้เสี่ยวหวานไม่รู้ว่าเหตุใดคนในยุคสมัยนี้ แม้แต่อาหารพื้นฐานในการกินถึงไม่รู้จักกิน เป็นเช่นนี้ก็ดี ในเมื่อพวกเขาไม่รู้วิธีการกินแต่กู้เสี่ยวหวานรู้ นางก็จะได้เป็นที่หนึ่ง และนางต้องทำเงินได้อย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่ากู้หนิงผิงยังอยู่ข้างใน กู้เสี่ยวหวานก็เริ่มพูดคุยกับชายชรา “ท่านลุง ข้าเห็นว่าสินค้าท้องถิ่นในของร้านท่านลุงยังมีไม่เยอะเท่าไรนักนะเจ้าคะ!”

ทันทีที่ชายชราได้ยิน ก็รู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็กคนนี้ไม่ชอบร้านเล็ก ๆ ของเขา จึงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “สาวน้อยคนนี้ เจ้าคงจะมาที่เมืองนี้เป็นครั้งแรกสินะ ถึงคิดว่าภายในร้านข้ามีของน้อย เจ้าลองเดินออกไปถามใครต่อใครดูเถิด ร้านขายสินค้าท้องถิ่นหมินโถวของข้าเป็นร้านเก่าแก่ที่สุดในเมืองนี้แล้ว ร้านของข้ามีของป่ามากมาย เจ้ายังจะบอกว่าน้อยอีกหรือ หากเจ้าเจอร้านที่มีสินค้ามากกว่าร้านของข้า ข้าจะให้ราคาไก่ของเจ้าในราคาสองชั่ง” ดูเหมือนว่าชายชราจะมั่นในว่าร้านของตัวเองมีสินค้ามากสุดในเมือง

ดวงตาของกู้เสี่ยวหวานเป็นประกายเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายชราพูด

ตามคำบอกเล่าของชายชราผู้นี้ ผู้คนภายในเมืองแห่งนี้บริโภคสิ่งของเพียงไม่กี่อย่าง หากตอนนั้นตนเองสามารถเพิ่มของได้อีกหลายอย่าง มันจะดีหรือไม่

เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อทุกคนรู้ว่าสิ่งของเหล่านี้สามารถขายได้ เมื่อสินค้ามีจำนวนมากขึ้น แน่นอนว่าไม่สามารถขายได้ในราคาที่ดี ดังนั้นการทำกิจการต้องทำในสิ่งที่ทุกคนไม่รู้ เช่นนั้นแล้วจะทำเงินได้ไว

กู้เสี่ยวหวานพลันตื่นเต้น เมื่อเวลานั้นมาถึง หากนางสามารถทำของแห้งมาขายได้ นางคงจะทำเงินได้จำนวนมากอย่างแน่นอน

“ท่านลุง ข้านำอาหารแห้งมาขายให้คุณลุงได้หรือไม่เจ้าคะ?” ฤดูหนาวนี้ ดูเหมือนจะไม่มีเห็ดหูหนู เห็ดหลินจือจำพวกนั้น ทำได้เพียงบอกว่ารอฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ก็จะมีผลผลิตพวกหน่อไม้และปลาในสระลึกออกมา หากสามารถทำปลาแห้งได้ ต้องขายได้ดีอย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่อีกยี่สิบวันก็ปีใหม่แล้ว ไม่รู้จะทำเสร็จทันหรือไม่

“ได้แน่นอน” ตาเฒ่าหมินโถวดูมีความสุข “ถ้ามีอะไรก็ส่งมาให้ข้าได้ ที่นี่รับซื้อสิ่งของทุกชนิด เจ้าไม่ต้องห่วง เรื่องราคาสามารถพูดคุยกันได้” ตาเฒ่าหมินโถวเป็นคนในวงการสินค้าท้องถิ่น แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก และบางคนจะขายมันให้กับร้านอาหารโดยตรง

ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ชายชราเคยเป็นนายพราน แต่หาได้เงินเพียงเล็กน้อย รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเขายังเปิดร้านขายของในตัวเมืองอีกด้วย การเริ่มต้นกิจการเป็นไปได้ด้วยดี แต่ในไม่ช้าก็มีร้านขายของท้องถิ่นเปิดตัวมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีสินค้าเพียงไม่กี่อย่างที่นำมาซื้อขายที่ร้าน ลูกค้าจำนวนมากจึงหายไป กิจการเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ

“สาวน้อย เจ้าบอกว่าร้านนี้มีสินค้าเพียงไม่กี่อย่าง ข้าสัญญากับเจ้าว่า หากเจ้าสามารถส่งสิ่งที่ข้าไม่มีในร้านนี้มาได้ ข้าจะซื้อมันในราคาที่สูงอย่างแน่นอน” โทสะของตาเฒ่าหมินโถวมลายหายไป แม้เด็กหญิงตัวเล็กจะดูเด็ก นางกลับสามารถเห็นปัญหาในร้านของเขาได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้ชายชรารู้สึกประหลาดใจ และไม่กล้าที่จะดูถูกเด็กหญิงคนนี้อีก

“ถ้าอย่างนั้นท่านลุงบอกราคามาเถอะ ข้ามีราคาอยู่ในใจแล้ว” กู้เสี่ยวหวานไม่ได้โง่เขลา แม้ว่านางจะบอกว่าไม่ได้นำของมา แต่นางรู้ว่าตนเองจะต้องได้กำไรกลับไป

“สาวน้อย เจ้าช่างฉลาดเสียจริง ๆ” เหมือนว่าอารมณ์ของตาเฒ่าหมินโถวจะดีขึ้นไม่น้อยจึงหัวเราะร่วน “ตาแก่คนนี้จะป่าวประกาศให้เจ้าเอง หากมีร้านอื่นที่ให้ราคาสูงกว่าของข้า ข้าจะให้เพิ่มอีกสิบเหรียญต่อชั่ง เจ้าคิดว่าอย่างไร” ตาเฒ่าหมินโถวดูเหมือนจะอ่านความคิดของกู้เสี่ยวหวานออก จึงไม่ได้บอกราคาเจาะจง แต่บอกอ้อม ๆ ว่าถ้ามีร้านอื่นให้ราคาสูงกว่าร้านตน กู้เสี่ยวหวานก็วางใจได้ว่าเขาจะจ่ายมากกว่าร้านอื่นสิบเหรียญ

ราวกับหวาดกลัวว่าจะสูญเสียลูกค้าอย่างกู้เสี่ยวหวาน ในที่สุดตาเฒ่าหมินโถวจึงเอ่ยโอ้อวด “สาวน้อย ถ้าเจ้ามีของแห้งส่งให้ข้า ราคาของตาเฒ่าหมินโถวนั้นยุติธรรมอย่างยิ่ง ร้านค้าในเมืองหลิวเจียไม่ทางให้ราคาสูงกว่าข้าแน่นอน”

เมื่อได้ฟัง กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ในเวลานี้ ไก่ป่าที่อยู่ตรงนั้นก็ถูกชั่งน้ำหนักเสร็จเรียบร้อย ลูกจ้างในร้านจึงเอ่ยขึ้น “เถ้าแก่ หนึ่งร้อยเก้าสิบสองเหรียญ”

ผู้เฒ่ามินโบกมืออย่างมีความสุขและพูดว่า “เอาล่ะ ให้พวกเจ้าสองร้อยเหรียญ”

ในเมื่ออีกฝ่ายให้เพิ่มอีกแปดเหรียญ กู้เสี่ยวหวานจึงรับมาอย่างไม่เกรงใจ แล้วพูดอย่างมีความสุขว่า “ท่านลุง ขอบคุณเจ้าค่ะ!”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เสี่ยวหวานจะรวยแล้ว เอาไก่มาขายครั้งแรกก็ได้ไปแล้วสองร้อยเหรียญ ไม่นับของที่จะส่งมาขายหลังจากนี้อีก

ไหหม่า(海馬)