ตอนที่ 53 SGS บทที่ 53 – จงปล่อยตัวโลลิในมือแกลงเดี๋ยวนี้!!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

“มิโคโตะ ฮินางิคุพวกเธอรับผิดชอบพวกหมาไป ฉันจะจัดการไอ้พวกหน้าอัปปรีนี้เอง!” วู่หยานหันไปพูดกับสองสาวเสียงเบาๆ แล้วก็ค่อยๆดึง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ออกจากฝัก

 

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลฮินางิคุให้เอง!” เมื่อเห็นสายตาที่เขามองมา มิโคโตะก็เข้าใจได้ทันที พยักหน้าตอบ

 

“อะไรกันเล่า….” ได้ยินคำพูดมิโคโตะ ฮินางิคุหน้างอเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่ใช่เด็กซะหน่อย จำเป็นต้องให้ดูแล้วด้วย?…”

 

วู่หยานพูดด้วยสีหน้าอ่อนใจ “โถ่ ท่านประธานครับ นี่ก็เพื่อตัวเธอเองทั้งนั้นนะ ด้วยเลเวลของเธอในตอนนี้ รอจนเลเวลเธอสูงมากพอ ถึงเวลานั้นเธออยากทำอะไรก็ไม่มีใครห้ามหรอก แต่ตอนนี้ได้โปรดเชื่อฟังและรวมมือกับมิโคโตะด้วย”

 

“รู้แล้วน่า ไม่ใช่ฉันไม่เข้าใจซะหน่อย” ฮินางิคเดินมาข้างๆมิโคโตะ แล้วเอ่ยดว้ยน้ำเสียงไม่พอใจ “อย่างน้อยก็เหลือให้ฉันจัดการด้วยตัวเองบ้างสิ ฉันเองก็อยากช่วยนะ!”

วู่หยานกับมิโคโตะมองหน้ากัน ก่อนจะพงกหัว

 

“ได้ เธอเลือกเอาไปเลยหนึ่งตัว จะได้มีประสบการณ์การสู้จริงๆด้วย” ถ้าแค่ตัวเดียวด้วยความสามารถของฮินางิคุก้น่าจะจัดการได้ ถึงแม้เธอจะแรงค์2และไอ้หมาแรงค์3 แต่มันก็สู้มนุษย์ในด้านไหวพริบและความเฉลียวฉลาดไม่ได้

 

วู่หยานใช้ไปหนึ่งหมื่อแต้มไอเท็มเพื่อซื้อยาลมหายใจแห่งชีวิต เขายื่นให้ฮินางิคุและพูดเตือนไปด้วยว่า

 

“ถ้าเธอเจออันตราย ดื่มนี่ซะ ห้ามฝืนตัวเองเด็ดขาด!”

 

“ไม่จำเป็น ฉันน่ะ….”

 

“อย่าดื้อสิ!” วู่จ้องมองตรงเข้าไปในดวงตาสีเหลืองของเธอ แล้วพูดเน้นย้ำทุกคำด้วยสีหน้าจริงจังว่า “สำหรับฉัน ตัวเธอมีค่ามากกว่าไอ้ยานี่อีก ไม่ต้องพูดถึงแค่10,000แต้มไอเท็มเลย ต่อให้มากกว่านี้อีก100เท่า1,000เท่า มันก็เทียบไม่แม้แต่เลือดหยดเดียวของเธอ!!”

 

มองใบหน้าจริงจังของวู่หยาน หน้าฮินางิคุแดงก่ำ ยื่นมือรับขวดยามา แล้วกำแน่นในฝ่ามือ

 

ใกล้ๆกันนี่ มิโคโตะก็ตื่นตะลึงกับประโยคหวานๆของวู่หยาน เธอเป็นแค่เด็กสาวอายุ14ปี แล้วเธอจะไปเคยได้ยินประโยคชวนเลี่ยนแบบนี้ได้จากไหนล่ะ? เธอเขินอายเล็กน้อยและยังรู้สึกอิจฉาด้วย มองไปที่วู่หยานด้วยแววตาอ่อนโยนและไม่พอใจผสมปนเปกันไป

 

“โฮ่ง!โฮ่งง!” จู่ๆก็มีสัยงเห่าถี่ยิบดังขึ้น ทำให้พวกวู่หยานทั้งสามสะดุ้งโหยง พวกหมายังคงเห่าต่อไม่หยุด

 

ตอนนี้เองฝูงสุนัขเขี้ยวอสูรก็รวมตัวกันเห่ามาทางที่พวกซ่อนตัว ก่อนจะวิ่งตรงเข้ามาด้วยปากที่มีลายไหลย้อยเป็นทาง ดูทุเรศสุดๆ

 

“ใครกัน!!” เห็นหมาตัวเองเห่า พวกมันต่างก็ยกอาวุธขึ้น ชี้มาทางพวกวู่หยาน

 

เทียนลี่ก็ตกใจเหมือนกัน พอได้สติก็วางขวดเหล้าในมือลงกับพื้น จากนนั้นวิ่งไปอยู่ข้างๆลิลิน โดยไม่สนใจเธอที่กำลังดิ้นรน อุ้มตัวเธอขึ้นมา ก่อนจะมองไปทิศทางที่หมาเห่าด้วยท่าทางตื่นตัว

 

เผชิญหน้ากับหมาที่น่ารังเกียจใกล้ๆ ทำวู่หานแทบอยากจะอ้วก โดยไม่รอให้เขาลงมา ด้วยสีหน้ามีความสุข มิโคโตะสร้างตาข่ายไฟฟ้าและลากหมาทุกตัวไปอีกทาง

 

จะไม่ให้เธอมีความสุขได้ไงล่ะ? ทั้งสามได้แบ่งงานให้กันและกันแล้ว วู่หยานรับหน้าที่สับคน ส่วนเธอและฮินางิคุรับหน้าที่ฆ่าหมานี่ แต่ปัญหามันอยู่ที่พวกหมามันกลับเอาแต่อยู่ข้างๆทหารรับจ้าง และขณะที่เธอกำลังนั่งคิดแผนการล่อพวกหมาออกมา

 

มันก็กลับเสนอวิ่งเข้ามาเอาเอง ดังนั้นเธอจึงทำแค่จับกุมมันทุกตัวด้วยตาข่ายไฟฟ้า และดึงพวกมันไปเชือดทิ้งอีกทางหนึ่ง

 

ฮินางิคุเองในมือถือชิโระซากุระ วิ่งเข้าหมาตัวหนึ่ง และเริ่มสงครามกัน

 

“พวกแกเป็นใคร!” ปากถามแบบนั้น แต่มือกลับถืออาวุธวิ่งเข้าใส่ฮินางิคุกับมิโคโตะ เห็นได้ชัดว่าเมื่อกี้มันแค่ถามไปงั้นๆ ยังไงมันก็คิดจะฆ่าอยู่แล้ว

 

เมื่อเทียนลี่เห็นรูปร่างหน้าตาของสองสาวนัยน์ตามันก็ลุกโชนขึ้นทันที ในใจกำลังคิดหาวิธีจับเป็น

 

เมื่อเห็นสายตาที่เทียนลี่ใช้มองฮินางิคุกับมิโคโตะ แน่นอนว่าวู่หยานที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก(?) ย่อมดูออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ เขาหัวเราะเยาะ ก่อนจะพุ่งตัวไปทางทหารรับจ้างที่กำลังตรงวิ่งเขาหาสองสาวด้วยความเร็วสูง

 

ในความคิดของเขา คนกลุ่มนี้ก็คือคนตาย!

 

โดยไม่รอให้พวกมันมาถึงตัวฮินางิคุและมิโคโตะ วู่หยานตวัดมือเกิดเป็นเส้นแสงเต้นระบำในอากาศราวกับหิ่งห้อยที่ปรากฏขึ้นในพริบตาและหายไป แต่น่าเสียดายที่เมื่อกี้ไม่ใช่หิ่งห้อย แต่เป็นเส้นแสงเย็นเยียบของใบดาบ

 

“อึก…” เหล่าทหารรับจ้างหยุดวิ่ง พวกมันคนหนึ่งหันไปมองหน้าเพื่อนๆตนเอง แต่ก่อนที่มันจะได้ทันถามว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น มันก็กรีดร้องแล้วทิ้งอาวุธลงพื้น

 

ยกมือกุมคอตัวเองเบิกตากว้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความกลัว ทันใดนั้นเลือดก็ไหลออกมาจากคอมัน ย้อมมือคู่นั้นจนแดงฉาน ตาเหลือบมองไปที่คนอื่นพยายามขยับปาก ราวกับว่าจะพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ความพยายามนั่นมันไร้ค่า ก่อนที่มันจะค่อยๆล้มลงบนพื้นโดยไร้สัญญาณชีวิต

 

ทหารรับจ้างคนนี้หรือพูดให้ถูกก็คือ ชายวัยกลางคนที่ซึ่งเมื่อกี้กำลังพูดอยู่กับเทียนลี่!

 

“อ้ากก!!” ก่อนที่ทหารรับจ้างคนอื่นจะได้เปิดปากกรีดร้อง ก็มีเสียงโหยหวนดังออกมาก่อน ทหารรับจ้างคนหนึ่งมองไปที่หน้าอกตัวเองที่ดาบเสียบไว้อยู่ด้วยความไม่อยากเชื่อ ทหารรับจ้างคนนั่นทรุดตัวแล้วหลับตาลง เป็นการหลับตาที่ไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกอย่างถาวร

 

ดึง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ออกมา วู่หยานถอยกรูดหลบเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาจากแผล ก่อนจะกลายเป็นภาพติดตามาโผล่ตรงหน้าทหารรับจ้างอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาสิ้นหวัง ก่อนจะตวัดดาบลงไปอีกครั้ง

 

ระบำดาบแห่งความตายเริ่มขึ้น ในพริบตาก็คร่าชีวิตทหารรับจ้างไปแล้วสามคน แม้แต่หน้าของคนฆ่าตัวเองก็ยังเห็นไม่ชัดเจน ที่เห็นก่อนตายมีเพียงแค่ประกายดาบสีเงิน และหลังจากนนั้นตัวมันก็มายืนรายงานตัวกับผู้หญิงผมแดงถือเคียวที่แม่น้ำซันซึ

เพื่อนที่ใช้ชีวิตด้วยกันในอดีตล้มตายไปสามคน ร่างของวู่หยานถึงปรากฏขึ้นมาในครรลองจักษุ พวกมันถึงรู้สึกตัวว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

 

วู่หยานก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาหนึ่งก้าว ทำให้พวกทหารรับจ้างรีบถอยหลังด้วยความกลัว พวกมันต่างก็ยกอาวุธในมือชี้ไปทางวู่หยาน แต่กลับไม่มีใครสักคนที่กล้าโจมตี

 

เทียนลี่ดึงสายตาตัวเองออกมาจากฮินางิคุกับมิโคโตะ หันมองลูกน้องตัวเอง และคนที่ตายบนพื้น โดยไร้ซึ้งความเสียใจหรือโทสะ เทียนลี่ตะโกนใส่ว่า “พวกแกยืนทำบ้าอะไรอยู่! ยังไม่รีบฆ่ามันอีก!”

 

เหล่าทหารรับจ้างหันมองหน้ากันเลิกลั่กกลืนน้ำลาย ภายใต้สายตาคุกคามของรองหัวหน้าทำให้พวกมันมีความกล้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะตะโกนปลุกใจตัวเองแล้ววิ่งเข้าใส่วู่หยาน

 

วู่หยานเห็นเทียนลี่ไม่คิดจับ โลลิน้อยลิลิน เป็นตัวประกันเขาก็โล่งอก ถ้าเกิดมันจับลิลินมาขู่เขาล่ะก็ เขาคงไร้ทางเลือก ได้แต่หันไปพึ่งมิโคโตะ ใช้ความต่างของพลังชิงตัวลิลินมา ซึ่งมีความสี่ยงสูงมาก ดีแล้วที่มันไม่ทำ!

 

เมื่ออาวุธของพวกทหารรับจ้างใกล้ถึงตัว วู่หยานก็ยกยิ้มเล็กน้อย มือตวัด นิเอโทโนะ โนะ ชานะ หลังจากเกิดเสียง ‘เคร้ง’ ขึ้นหลายรอบ อาวุธในมือพวกมันก็โดนฟันขาดครึ่งร่วงลงพื้นหมด

 

“ยุทธภัณฑ์หลัก!” เทียนลี่อุทานเสียงดัง ก่อนที่สายตาจะเต็มไปด้วยความโลภ

 

การที่สามารถตัดอาวุธที่ทำมาจากวัสดุชั้นเยี่ยมแบบนี้ได้ ย่อมต้องเป็นยุทธภัณฑ์ในตำนานแน่นอน!

 

ถึงแม้ตัวเทียนลี่จะแรงค์5 แต่ตัวมันก็ยังไม่มียุทธภัณฑ์หลักเลย ตอนนี้มันก็กำลังเก็บเงินซื้ออยู่ ทว่าตอนนี้กลับมีคนมายื่นให้มันถึงที่ซะงั้น!!

 

ในสายตาเทียนลี่ ดาบที่วู่หยานถือได้มีชื่อของมันสลักเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และอีกไม่นานมันก็จะมาอยู่มือมัน!

 

“พวกแกยังไม่รีบจัดการมันอีกเรอะ!” เทียนลี่หันไปตะคอกลูกน้องเสร็จ ก็หันมามอง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ด้วยสายตาน่ารังเกียจ

 

มันชมชอบสาวงามก็จริง แต่มันสามารถได้มาเมื่อไหร่ก็ได้ ตราบใดที่มันยังมีพลัง เพราะงั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปกังวลว่าจะไม่มีสาวงาม และยุทธภัณฑ์หลักนั่นสามารถเพิ่มพลังให้มันได้!

 

แถมตอนนี้ไม่ใช่แค่มียุทธภัณฑ์หลักมาส่งถึงที่ ยังมีสาวงามถึงสองคนด้วย เทียนลี่คิดว่าวันนี้ช่างเป็นวันแห่งโชคของมันแท้ๆ ตราบใดที่จัดการเจ้าหนุ่มนั่นได้ ทุกๆอย่างก็ตกเป็นของมัน!

 

ด้วยพลังแรงค์5ของมัน แล้วพวกเจ้าหนูที่ดูยังไงก็ยังไม่โตด้วยซ้ำ จะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้ยังไง! ด้วยความคิดนี้ความมั่นใจเทียนลี่ก็พุ่งทะยานเทียมฟ้า สิ่งที่ขาดหายไปตอนนี้ก็คงมีแค่ ‘ฉันต้องการมัน’ ไม่ได้เขียนอยู่บนใบหน้า

 

เทียนลี่ที่โดนความโลภบังตา มันจึงลืมคิดไปว่า คนธรรมดาหรือจะมี ยุทธภัณฑ์หลัก ใช้น่ะ?…..

 

จริงๆจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด เพราะหน้าตาวู่หยาน ฮินางิคุ และมิโคโตะ ดูเด็กมาก ถึงแม้วู่หยานจะอายุ20ปีแล้ว แต่ด้วยใบหน้าที่ดูโง่ๆนี่กลับทำให้ผู้คนคิดว่าเขายังเป็นไอ้หนูอยู่ แถมในสายตาเทียนลี่อายุ20ปีก็ยังอยู่ในวัยบ่มเบาะ เว้นแต่จะเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ แล้วแบบนี้ไอ้หนุ่มนี่จะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือ?

 

แล้วยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงฮินางิคุกับมิโคโตะเลย ด้วยร่างกายเล็กๆนั่นกับหน้าตาที่ดูยังไงก็ยังเด็กน้อยอยู่ชัดๆ

 

แต่เทียนลี่คิดผิด อายุไม่ใช่ตัวตัดสิน ความสูงก็ไม่ใช่ปัญหา เด็กสาวและผู้ชายตรงหน้ายกเว้นแต่ฮินางิคุ ต่อให้มันอยากชนะแค่ก็เป็นไปไม่ได้ และถ้าฮินางิคุกินยาลมหายใจแห่งชีวิต ก็สามารถฆ่ามันได้อยู่ดี

 

ได้ยินเทียนลี่ตะโกน ‘ยุทธภัณฑ์หลัก’ วู่หยานหัวเราะเยาะ

 

ยุทธภัณฑ์หลักเหรอ? ตูไม่ใช้แล้วโว้ยย นิเอโทโนะ โนะ ชานะ เป็นยุทธภัณฑ์ดินต่างหาก

 

ยุทธภัณฑ์หลักตูก็มีเฟ้ย อยู่ในแหวนมิตินี้ไง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครอยากใช้สักคน

 

วู่หยานก็ไม่พูดมาก เคลื่อนร่างกายไปหาเหล่าตัวประกอบทหารรับจ้าง กวัดแกว่ง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ เกิดเป็นเส้นแสงสวยงาม ทุกๆดาบจะต้องมีคนตาย เลือดไหลนอง

 

วู่หยานเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงดุจภูตผีหายไปมาใจกลางกลุ่มทหารรับจ้าง และกว่าที่มันจะรู้ตัวเลือดก็พุ่งกระฉูดแล้ว ก่อนจะล้มลงด้วยความเสียใจ

 

เสียง นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ทะลวงร่างกายมนุษย์ดังออกมาไม่หยุดจนเกิดเป็นเสียงจังหวะ ตอนแรกจะมีเสียงเบาๆก่อนจะตามด้วยเสียงหนักเป็นแบบนี้ไปประมาณ30วินาทีถึงเงียบไป ทหารรับจ้างทุกคนก็ล้มลงไปหมด ไม่อาจจะยืนขึ้นมาได้อีกเป็นครั้งที่สอง

 

“ติ๊ง! เควส2สำเร็จ! ได้รับ แต้มอุปกรณ์ แต้มไอเท็ม แต้มอบิลิตี้ และแต้มอัญเชิญ 7,000แต้ม!”

 

นักรบแรงค์สอง ยี่สิบคนตายเรียบ เควสสองของวู่หยานก็สำเร็จ ความตายของพวกมันทำประโยชน์ให้เขาได้

วู่หยานมองศพที่เกลื่ยนกลาดใต้เท้า ก่อนจะหันมาแสยะยิ้มเยาะเย้ยใส่เทียนลี่ที่ตัวแข็งทื่อ ใบดาบ นิเอโทโนะ โนะ ชานะ อาบไปด้วยเลือดสดๆ เขาสะบัดหนึ่งทีมันก็กลับมาเปล่งประกายสีเงินเหมือนเดิม

 

วู่หยานมือถือดาบเดินมาทางเทียนลี่ที่กำลังจับลิลินน้อยซึ่งดิ้นไม่หยุด วู่หยานยก นิเอโทโนะ โนะ ชานะ ชี้ไปที่เทียนลี่แล้วตะคอกเสียงดังว่า

 

“เฮ้! จงปล่อยโลลิน้อยในมือแกลงเดี๋ยวนี้!”