ตอนที่ 52 โลลิอยากลองเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เปลือย ๆ อย่างละเอียด

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

52 เจาะลึกเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่างละเอียด

 

“――ขอแสดงความคิดเห็นได้หรือไม่เพคะ?”

 

หลังจากช่วงเวลาความเงียบมาเยือนอีกครั้ง

สาวใช้ร่างสูงซึ่งทำหน้าที่เป็นบริกรของเรเลียเรด และรออยู่ที่ด้านหลังในตอนนี้

 

“ได้สิ เชิญเลย”

 

ฮิลเดโทร่าอนุญาตอย่างไม่ลังเล เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า

 

“มีเรื่องราวเกี่ยวกับนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งซึ่งได้รับการยอมรับในทักษะและความสำเร็จของเขา และดูเหมือนจะได้รับการสนับสนุนจากขุนนางด้วยเพคะ

กล่าวอย่างเป็นรูปธรรมคือ หมายความว่าเราสามารถขอรับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับกิจกรรมได้เพคะ”

 

ฟุมุ

เราสามารถขอรับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับกิจกรรมได้สินะ

 

“กล่าวอีกนัยหนึ่ง――ในความคิดอันต่ำต้อยของหม่อมฉัน การเพิ่มยอดขายของเมจิกวิชั่นให้สูงขึ้นไม่การันตีว่าจะสามารถขอความช่วยเหลือ การสนับสนุน หรืองานจากผู้คนได้

 

เพื่อการเผยแพร่เมจิกวิชั่นแล้ว ท้ายที่สุดแล้วการเพื่มความนิยม และชื่อเสียงของเมจิกวิชั่นให้เป็นที่จดจำนั้นเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเพคะ”

 

……หืม?

 

“เข้าใจล่ะ”

 

ดูเหมือนฮิลเดโทร่าจะเข้าใจแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่สาวใช้พยายามพูด ยังไงก็ตามเรเลียเรดมีใบหน้าจริงจังเช่นกัน ทำท่าเหมือนเข้าใจ แต่ฉันบอกได้เลยว่าเธอก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

 

――ฮิลเดโทร่าหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นฉันทำสายตาว่างเปล่าจ้องมองไปที่เรเลียเรดซึ่งจู่ ๆ ก็ทำสีหน้าจริงจังที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่งดงาม

 

“แน่นอนว่าจุดขายของเมจิกวิชั่น คือ เพื่อฉายภาพสะท้อน

 

ในระยะสั้น หากเราฉายภาพสะท้อนน่าสนใจ ภาพสะท้อนที่สร้างความสนุกสนาน ภาพสะท้อนที่ให้ความรู้ ที่ผู้คนอยากชม และแสดงให้เห็นว่าได้รับการตอบรับอย่างมากมาย ผู้คนจะออกมาสนับสนุนและบริจาคให้กับพวกเราเอง”

 

เข้าใจล่ะ หมายความว่าแบบนั้นเอง

 

……ฟุมุ

 

“กำลังจะบอกว่าภาพสะท้อนที่ฉายอยู่ตอนนี้ ดีไม่พอเหรอ?”

 

“เราไม่สามารถพูดได้เต็มปากหรอกนะ แต่――เราก็สงสัยว่ายังสามารถมีอะไรมากกว่านี้ได้อีกไหม ยังมีอะไรบางอย่างให้สำรวจได้อีกไหม ไม่สามารถถ่ายภาพสะท้อนที่น่าสนใจมากกว่านี้ได้อีกแล้วหรือ

แทนที่จะคิดเกี่ยวกับแผนการแปลก ๆ สู้พัฒนาไปในทิศทางโจมตีแบบซึ่ง ๆ หน้าเสียจะดีกว่า นั่นคือความคิดเห็นของเรา”

 

……งั้นเหรอ อย่างงั้นเองสินะ

 

เช่นเดียวกับที่ฉันต้องการดูเรื่องราว นักผจญภัย การสำรวจเกาะลอยฟ้า และการต่อสู้ที่เลือดสาดกับสัตว์อสูร ฉันคิดว่าก็น่าจะเป็นความคิดที่ดีที่จะแสดงภาพสะท้อนที่กระตุ้นความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้ น่าจะเป็นอย่างงั้น

 

“แล้วรายการที่คนส่วนใหญ่น่าจะให้ความสนใจรับชมคือ เรื่องแบบไหนเหรอ สงสัยจังว่าคืออะไร”

 

เรเลียเรดกอดอก――ริโนกิสที่ยืนอยู่ข้างหลังฉัน เข้ามากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของฉัน

 

“――คุณหนูคะ เรื่องความรักไงคะ ความรักคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่สนใจ คนเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่แสวงหาคนด้วยกัน เรื่องราวความรักและความเกลียดชังเกิดขึ้นมามากมายนับตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้วค่ะ และในปัจจุบันก็ยังคงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ จะคนที่มีเหตุผล จะคนที่มีแต่สัญชาตญาณ หรือจะคนที่ทำตัวไม่ต่างจากสัตว์ ในเบื้องหลังพวกเขาล้วนต้องการใครสักคนอยู่ดีค่ะ ละครเรื่องแรกที่คุณหนูแสดงเองก็เป็นเรื่องแบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ”

 

ยาวสมกับที่เงียบไปนาน

 

แต่ก็พูดมีประเด็น

ถ้าเป็นเรื่องรักที่ไม่หวือหวา ไม่อ้อมค้อม ฉันก็สามารถให้อภัยได้

 

“สงสัยจะเป็นเรื่องความรักล่ะมั้ง”

 

“ม๊าๆๆ”

 

“เอ๋~ ความรักน่าเบื่อง่ะ”

 

ไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดยืดยาวเหมือนริโนกิส ดังนั้นฉันจึงพูดสั้น ๆ ฮิลเดโทร่าดูประทับใจดี แต่เรเลียเรดแสดงปฏิกิริยารังเกียจ

 

“เหรอค่ะ? เรื่องราวโรแมนติกนั้นเป็นที่นิยมของผู้คนมานานแล้ว ลองคิดดูแล้ว ละครเรื่องแรกที่เนียปรากฏตัวก็เกี่ยวกับความรักเหมือนกัน”

 

อะ พึ่งนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ได้ยินจากคุณปูมาว่า ฮิลเดโทร่ามาชมการแสดงในรอบสุดท้ายของ『หญิงสาวในห้วงรัก』ด้วย

 

“ฮิลเด้มาชมการแสดงในรอบสุดท้ายใช่ไหม? ขอบคุณมากเลย”

 

“ค่ะ เรายินดีด้วยนะคะที่การแสดงออกมาสมบูรณ์เช่นนั้น”

 

ถ้าชอบก็ดีแล้ว

 

“แต่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ก็น่าเบื่อจริง ๆ ไม่ใช่เหรอคะ พวกผู้ใหญ่ทั้งที่มีอายุมากกันขนาดนั้นแล้วแท้ ๆ ก็ยังเอาแต่ช้กช้า ยืดยาด กระสับกระส่ายไร้ความหมาย น่าหงุดหงิด ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ควรตัดสินใจให้เด็ดขาดสิ”

 

เข้าใจเลย เข้าใจดี เข้าใจถ่องแท้ ฉันเองก็หงุดหงิดจนอยากเข้าไปต่อยทิ้งเหมือนกัน

 

“นั่นก็เพราะสถานการณ์ที่หลากหลายทำไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว นั่นคือสิ่งที่ผู้ใหญ่เป็น

 

ความรักของผู้ใหญ่เริ่มต้นด้วยประกายไฟที่จั๊กจี้――และเมื่อจุดไฟของกันและกันได้แล้วก็จะลุกโชกขึ้นในพริบตาไงล่ะคะ?”

 

ล่ะคะ เหรอ

 

“เรเลีย ดูสิเด็กแปดขวบตรงนั้นกำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่ล่ะ”

 

“นั่นสิ ไม่รู้เลยว่าราชวงศ์ปัจจุบันจะเป็นแบบนี้ ดูสีหน้าที่แสดงตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญความรักนั่นสิ ทั้ง ๆ ที่น่าจะยังไม่เคยมีความรักเลยแท้ ๆ”

 

“――ฟังดูดีเลย เรามาลองวิเคราะห์กัน!ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่คะ!”

 

ม๊า ฮิลเดโทร่าลุกขึ้นยืนเขย่งตัวใส่

 

 

 

“ฉันคิดว่าเป็นเรื่องจริงที่หลายคนสนใจเรื่องความรัก ผู้ใหญ่ต่างชอบเรื่องแบบนี้โดยไม่เกี่ยวว่าเด็ก ๆ จะคิดยังไง”

 

นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของฉัน แต่ดูเหมือนทั้ง เรเลียเรด และ ฮิลเดโทร่า จะไม่คัดค้านความคิดเห็นนี้

ดังนั้นโดยยึดความคิดเห็นก่อนหน้าเป็นเกณฑ์

 

“……หรือก็คือ หากคิดถึงเรื่องราวความรักที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจอย่างจริงจังแล้วล่ะก็――ก็ต้องเป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกลามกยังไงล่ะ”

 

“เอ๊ะ!?เนีย!?”

 

เรเลียเรดถึงกับมีสีหน้าประหลาดใจว่า หล่อนกำลังพูดอะไรอยู่กันย่ะ ฮิลเดโทร่าตามมาติด ๆ

 

“ได้โปรดรอเดี๋ยวก่อนสิ เนีย! ชะ ช่วยยกตัวอย่างระดับความลามกที่ว่าออกมาที!? ในใจคุณตั้งใจไว้ระดับไหนคะ!?”

 

“ระดับ? อื~ม……”

 

ถึงจะให้บอกว่าระดับไหน……ฉันก็ไม่ได้สนใจระดับไหนอะไรเท่าไหร่ แต่

 

“เปลือย?”

 

“เปลือย!?”

 

“เปลือยกาย?”

 

“เปลือยกาย!?”

 

“ผู้ชายกับผู้หญิงเปลือยกายนัวเนียกันบนเตียง――”

 

“หยุดเลยน๊า!เรื่องแบบนั้นยั่วยวนเกินไปค่ะ!”

 

อะ เหรอ? ทั้งที่รู้สึกเหมือนพูดแบบเดียวกับฮิลเดโทร่าเมื่อกี้ แต่ดูเหมือนรอบนี้จะไม่ได้ล่ะ

 

“หากคุณฉายเรื่องแบบนั้นบนเมจิกวิชั่น คุณจะถูกบดขยี้ภายใต้แรงกดดันจากบรรดาขุนนางทั่วทุกทิศค่ะ!? ต่อให้เป็นแผนการที่สร้างเงินได้มหาศาลกว่าปกติมากแค่ไหนก็ตาม! เราก็ไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลในการทำลายศึลธรรมของสังคมที่คงเหลืออยู่ได้หรอกนะคะ!”

 

แบบนั้นก็เป็นปัญหาจริง ๆ ล่ะนะ

 

“เรื่องความรักถูกระงับชั่วคราวค่ะ! มาคิดเรื่องอื่นกันเถอะค่ะ!”

 

……เรื่องอื่นเหรอ เป็นคำถามที่ยากจริง ๆ

 

“เนีย ระ เรื่องเปลือย เรื่องกะ กอด เธอไม่ควรพูดแบบนั้นง่าย ๆ สิ!”

 

“แต่ก็สนใจไม่ใช่เหรอ? อยากเห็นเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”

 

“ใครจะไปอยากเห็นกันย่ะ!”

 

 

 

 

ปล.แถวบ้านเริ่มหยุดวันสงกรานต์ด้วยการเปิดเพลงกันกระหึ่ม อยากดื่มอะไรเย็นๆ(ฟรีๆ)บ้างจังน้อ ฮา