เมื่อได้ยินเสียงเตือนของระบบ เย่เฉินก็เหมือนตกอยู่ในห้องของความฝันเล็กน้อย

เดิมทีกุยแกน่าจะเข้าร่วมเมืองหลุนฮุย พูดให้ถูกต้องเขาแค่อาศัยอยู่ในเมืองหลุนฮุยแทนที่จะสวามิภักดิ์เย่เฉิน

แต่ความจริงก็คือสิ่งที่เย่เฉินคิดกลับกลายเป็นเรื่องตลก กุยแกยอมรับลอร์ดอย่างเขาโดยไม่ลังเล

เย่เฉินกำลังวางแผนที่จะทำให้กุยแกยอมรับเขา แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว

“นายท่านของข้าทำไมเขาถึงเซ่ออย่างนี้” กุยแกยิ้มจากนั้นก็จิบเหล้าสกปรกในมือของเขา

“แน่นอน” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

“ข้ากลัวว่าท่านลอร์ดจะต่อราคาค่าตัวข้า … ” กุยแกกลืนเหล้าจากนั้นก็ถอนหายใจยาว

เมื่อเย่เฉินได้ยินเช่นนี้เขาก็ตกตะลึง จากนั้นใบหน้าของเขาก็แข็งทื่อ : “ฮ่าฮ่าฮ่า … พูดเรื่องอะไรกัน … ไปดื่มกันเถอะ!”

ในขณะนั้นเองเสียงประกาศทั่วโลกก็ดังขึ้น

“ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน เป็นคนแรกที่ได้รับการสวามิภักดิ์จากข้าราชการในประวัติศาสตร์ระดับพิเศษ กุยแก และมอบรางวัลชื่อเสียง 5 ล้านและ 10 ล้านเหรียญทอง”

“ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน เป็นคนแรกที่ได้รับการสวามิภักดิ์จากข้าราชการในประวัติศาสตร์ระดับพิเศษ กุยแก และมอบรางวัลชื่อเสียง 5 ล้านและ 10 ล้านเหรียญทอง”

ในขณะที่เสียงประกาศก้องโลกดังขึ้นช่องแชทโลกที่พึ่งเงียบไปไม่นาน ก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง

“ฉันเพิ่งจะปิดแชทไป ให้คนอื่นเล่นอย่างมีความสุขบ้างได้มั้ย!บ้าเอ้ย เจ้าเย่เฉินคนนี้ต้องโกงแน่ ๆ !”

“ถูกต้อง! เย่เฉินโกงอย่างแน่นอน เขาเพิ่งได้รับเตียนอุยไป ผ่านไปไม่นานเขาได้รับกุยแกไปอีกคนแล้ว!”

“เขาโกงแน่ๆฉันมั่นใจ! ฉันไม่เชื่อว่าเย่เฉินจะโชคดีขนาดนี้ฉันจะประท้วง! ถ้าไม่มีใครสนใจฉันจะไม่เล่นเกมห่วยๆนี้อีกแล้ว!”

“โง่จริง ๆ ปู่คนนี้ไม่เชื่อว่าแกจะไม่เล่นเกมนี้อีก ตราบใดที่แกกล้าที่จะเลิกเล่นเป็นเวลาหนึ่งปี ถ้าฉันยังมีชีวิตอยู่ฉันจะกินขี้ให้ดู!”

“ให้ตายเถอะคุณสุดยอดมากพี่ชายที่กำลังเถียงกัน ว่าจะเล่นหรือไม่ รีบออฟไลน์ไปแสดงให้เขาเห็นไปเลย แล้วค่อยกลับมาในอีก 1 เดือน เราอยากดูการถ่ายทอดสดคนกินขี้!”

“พวกแกโง่รึเปล่า ฉันแค่จะระบาย ใครจะโง่ไม่เล่นเกมต่อ!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าเขาเป็นคนดังจริงๆ บอสเย่เฉินน่ากลัวอย่างแท้จริง ถึงพวกเจ้าจะไม่อยากยอมรับแต่พวกเจ้าก็ต้องยอมรับอยู่ดี!”

“ ทั้งกุยแก ทั้งเตียนอุย บ้าเอ้ย! เย่เฉินกำลังขโมยคนของโจโฉ พวกคุณคิดว่าถ้าโจโฉรู้เขาจะโกรธไหม เย่เฉินคงจะโดนแทงด้วยมีดเจ็ดดาวของโจโฉแน่ๆ”

“ มารดาเถอะ เจ้าต้องหาเย่เฉินให้พบก่อน อย่าพูดถึงโจโฉเลย ถ้าเจ้ารู้ว่าเย่เฉินอยู่ที่ไหนก็บอกด้วย!”

“ คุณจะฆ่าเขาเหรอ?”

“คุณคิดว่าเตียนอุยเป็นสัตว์กินพืชหรอ หรือกุยแกเป็นแค่เครื่องประดับเหรอ”

“ อย่าพูดเลย แม้ว่าคุณจะพบเย่เฉิน แต่คาดว่าจะมีคนไม่มากที่กล้าโจมตีเขา อย่าลืมว่าเย่เฉินเป็นผู้บัญชาการทหารระดับราชานั่นเป็นสิ่งที่พิเศษ และอีกอย่าเขาไปถึงขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว ฉันอยากรู้ว่าเขาในโลกแห่งความจริงจะยอดเยี่ยมมากแค่ไหน “

“ความแข็งแกร่งในโลกแห่งความจริงนั้นจะถูกลดลงจากในเกมส์ ฉันไม่เชื่อว่าในโลกแห่งความจริงกองกำลังใหญ่เหล่านั้นจะไม่สามารถต่อสู้กับเย่เฉินได้ .”

ในช่องแชทโลก ผู้เล่นต่างพูดคุยกันต่างๆนาๆ แต่ในวันนี้กองกำลังทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กมีความสอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดและไม่มีใครพูดอะไรเลย

โลกที่ดูเหมือนจะสงบสุขนั้นมีคลื่นใต้น้ำอยู่ ก่อนหน้านี้บางคนหาเย่เฉินในโลกความจริงและบางคนก็หาที่เมืองใหญ่ ๆ ในโลกของเกม

มันง่ายมากที่จะที่จะหาเย่เฉิน แค่ต้องยืนยันที่ตั้งของอาณาเขตของเย่เฉินให้ได้ก่อน

แต่ตอนนี้เป้าหมายของทุกคนคือเมืองใหญ่ ๆ และเมืองต่างๆพวกเขาต้องการผู้บัญชาการทหารและข้าราชการที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

เย่เฉินได้รับการสวามิภักดิ์จากบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ระดับพิเศษถึงสองคนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ได้กระตุ้นกองกำลังหลักทั้งหมดอย่างรุนแรง

ถ้าเย่เฉินสามารถทำได้และพวกเขาก็ทำได้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มดำเนินการ พวกเขาต้องการควบคุมผู้บัญชาการทหารในประวัติศาสตร์ข้าราชการในประวัติศาสตร์ไว้ในมือของพวกเขาให้มากที่สุด

น่าเสียดายที่หลาย ๆ อย่างถูกมองข้ามไป อย่างไรก็ตามหลายคนก็ยังไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้เลย

เมืองหลุนฮุย ห้องโถงรับสมัครงาน

ดวงตาของกุยแกสว่างขึ้นเมื่อเย่เฉินชวนเขาไปดื่มแล้วก็พูดว่า:

“ นายท่านข้าจะไม่มีความสุขถ้าไม่มีเหล้า แต่ข้าชอบดื่มเหล้ารสเลิศเท่านั้น!”

เย่เฉินผงะไปชั่วขณะและอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เหยือกเหล้าสีขุ่นครึ่งเหยือกในมือของกุยแก

“ท่านลอร์ดของข้านี่เป็นเหล้าชั้นเลิศ อย่ามองแต่ภายนอกมันมีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร” กุยแกเห็นดวงตาของเย่เฉิน และดื่มเหล้าต่อโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าจากนั้นกล่าวด้วยความมึนเมา

ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นเหล้าผสมน้ำข้าก็คงจะเชื่อจริงๆ …

เย่เฉินมุมปากกระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วกล่าวว่า “ซ่าวซิงเจียพานเป็นเหล้าของเมืองหลุนฮุยหลังจากที่เจ้าดื่มแล้วเจ้าจะไม่คิดถึงเหล้าอื่นอีกต่อไป”

“ จริงเหรอ!” กุยแกผงะไปครู่หนึ่งแล้วถามด้วยแววตาที่สดใส

“ เจ้าคิดว่าข้าจะหลอกเจ้าหรือ?” เย่เฉินเลิกคิ้วและถาม

“ ข้าจะได้ชิมจริงๆใช่ไหม” กุยแกหัวเราะอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินเช่นนี้

“ อย่างไรก็ตามเหล้าชั้นเลิศชนิดนี้มีความพิเศษและยังไม่สามารถทำขึ้นได้ชั่วคราวแต่ถึงกระนั้นเหล้าชั้นดีที่ผ่านการกลั่นในตอนนี้ เหล้าด้านนอกนั้นก็ไม่สามารถเทียบไม่ได้เลย” เย่เฉินหัวเราะและกล่าว

กุยแกผงะไปชั่วขณะและถามด้วยความสงสัย: “ข้าไม่สามารถหมักเองได้ หรือเหล้านี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง?”

เย่เฉินยิ้มและพยักหน้าและกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องจริง”

“นายท่าน ข้าอยากชิมเหล้ารสเลิศตอนนี้เลย!” กุยแกกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินดังนั้นจึงรีบกล่าว

“งั้นไปกัน!” เย่เฉินหัวเราะแล้วพากุยแกไปยังโรงเตี๊ยม

ทันทีที่เข้าประตู เย่เฉินก็บอกกับเจ้าของโรงเตี๊ยมทันที: “ไปเอาเหล้าที่ล้มเหลวมา”

“ ครับท่านลอร์ด!” เจ้าของโรงเตี๊ยมรีบโค้งคำนับจากนั้นก็วิ่งไปนำเหล้าที่ล้มเหลวจากการผลิตของการต้มเหล้าซ่าวซิงเจียพาน

เหล้ามีไม่มากนักมีเพียงหม้อเดียว

แต่ก่อนที่ฝาจะเปิดออกกลิ่นหอมของเหล้าก็ลอยออกมาทำให้รู้สึกสดชื่น ทั้ง เย่เฉินและ กุยแก ต่างสูดหายใจเข้าลึก ๆ

“ ท่านลอร์ด! เหล้านี่ล้มเหลวจริงๆเหรอ?” กุยแกหลับตาลงอย่างมึนเมา แล้วลืมตาขึ้นมาสักพักก่อนจะถามออกมาด้วยความตื่นเต้น