บทที่ 56 จูบ

คิงดราก้อน

ถังเทียนหวาเจ็บปวดจนมีเหงื่อเย็นไหลออกมา

“เซียวหยาง คุณทำอะไร ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ !”

เย่หยุนซูที่เห็นเหตุการณ์ ก็รีบห้ามเซียวหยางเอาไว้

หากถังเทียนหวาเป็นอะไรไปในบริษัทหยุนซู ตระกูลถังไม่ปล่อยบริษัทหยุนซูเอาไว้แน่ แม้แต่ตระกูลเย่ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

เซียวหยางยกยิ้ม คลายมือออก นัยน์ตามีเพียงความเย็นชา

“ไม่ว่านายจะเป็นใคร หากยังมาตามราวีเย่หยุนซู ฉันไม่เกรงใจแน่ ”

ถังเทียนหวาสะบัดมือไปมา แม่งเอ๊ย กระดูกแตกแล้วแน่ๆ !

ดีมากเจ้าเด็กน้อย ลงมือได้เหี้ยมมาก

“นี่ไอ้หนู กล้าลองดีกับฉันเหรอ ?”

“นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร กล้ามาเป็นศัตรูกับฉัน แล้วยังกล้ามาแย่งเย่หยุนซูกับฉันอีก ?”

“ฉันเป็นทายาทของตระกูลถัง ทรัพย์สมบัติตระกูลถังเป็นพันล้าน…”

เซียวหยางพูดขัดจังหวะเขา “ฉันคือสามีของเย่หยุนซู ……”

“ฉันอายุ18ปีสอบเข้ามหาวิทยาลัยเยินชิงได้ และอายุ21ปีก็ไปเรียนต่อที่ยุโรป มีปริญญาสองใบสาขาเศรษฐศาสตร์การจัดการและนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต!จบปริญญาเอก!”

“ตระกูลถังของฉันมีสาขาอยู่ห้าสิบแห่งในเมืองหยินโจว ธุรกิจครอบคลุมไปทั่วทุกเขต!”

“ฉันคือสามีของเย่หยุนซู”

“เงินที่ผ่านมือฉัน มีนับไม่ถ้วน ประเทศที่ฉันเคยไป ทั่วทุกมุมโลก โลกทัศน์และประวัติอย่างย่อของฉัน ทั้งชีวิตนี้ของนายก็ยากที่จะเทียบได้……”

“ฉันคือสามีของเย่หยุนซู!”

ท่าทีของถังเทียนหวาดูจองหอง ก้าวร้าวเผด็จการ อยากให้เซียวหยางอายจนแทรกแผ่นดินหนี แต่กลับถูกเซียวหยางพูดปิดปากไป

จะพูดให้ดีเลิศ ประวัติสูงส่งสักแค่ไหน แล้วยังไง? ก็ไม่พ้นคำคำนี้ ความชอบธรรม!

ถังเทียนหวาแทบจะกระอักเลือดเพราะคำพูดของเซียวหยาง!

“ต่อให้เย่หยุนซูจะเป็นภรรยาของนาย ฉันถังเทียนหวาก็สามารถแย่งมันมาได้เช่นกัน!”

ถังเทียนหวาแสยะยิ้ม น้ำเสียงก็เยือกเย็นขึ้นมา

“นายเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง ไร้ประโยชน์ เย่หยุนซูผู้หญิงที่เพียบพร้อมแบบนี้ นายคู่ควรเหรอ ?”

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ สามปีมานี้ เย่หยุนซูไม่เคยมองนายเลยสักครั้ง!แม้แต่ภรรยายังดูถูก นายยังจะเสแสร้งอะไรอีก ?”

ถังเทียนหวาหันมองไปที่เย่หยุนซู ยิ้มแล้วพูดว่า“เย่หยุนซู ผมไม่ได้พูดผิดใช่ไหม สามปีมานี้ เรือนหอก็ไม่เคยเข้าเลยมั้ง”

“อันนี้……”

เย่หยุนซูไม่สามารถโต้แย้งได้ เพราะสิ่งที่ถังเทียนหวาพูดนั้นถูกต้องหมดทุกอย่าง

ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมาสามปี มากสุดก็แค่จับมือกันเท่านั้น เนื้อแนบชิดกันก็แทบไม่เคย ยิ่งเป็นเรื่องพรรค์นั้นแล้ว จะเป็นไปได้ยังไง ?

ถังเทียนหวาเห็นปฏิกิริยาของเย่หยุนซู ก็รู้ว่าพูดจี้จุดให้แล้ว ทันใดนั้นก็พึงพอใจขึ้นมา หัวเราะเยาะเสียงดัง

“หมาวัดยังไงก็คือหมาวัด จะเด็ดดอกฟ้าลงมาได้ยังไง ฮ่าฮ่าฮ่า……”

จ๊วบ!

ทันทีที่พูดจบ เซียวหยางก็คว้าไปที่เอวบางของเย่หยุนซู จากนั้นก็จูบไปที่ใบหน้าสวยๆของเธอ

“นี่ไงเด็ดลงมาได้ไหม?”

ทันใดนั้น เปลวไฟในดวงตาของถังเทียนหวาก็ลุกโชน !

สารเลว!

เมื่อเห็นเซียวหยางจูบเย่หยุนซู ถังเทียนหวาก็กำหมัดแน่น นัยน์ตาแฝงความอาฆาตแค้นออกมาอย่างชัดเจน

เขาถังเทียนหวาที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาแต่กำเนิด ผู้หญิงที่เขาอยากได้ ไม่เคยมีคนไหนที่จะไม่ได้ และเย่หยุนซูก็ไม่ยกเว้น

แต่ว่า วันนี้เซียวหยางเมินเฉยต่อคำเตือนของเขา แล้วยังจูบเย่หยุนซูต่อหน้าเขา

เขาที่ไม่เคยได้สัมผัสแม้แต่มือของเย่หยุนซู!

แม่ง แค่มดตัวหนึ่ง ที่คอยจะล้ำเส้นเขาอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างไม่กลัวตายจริงๆ

ถังเทียนหวาโกรธมาก ผลที่ตามนั้นร้ายแรงแน่นอน!

และในตอนนี้ ใบหน้าที่สวยงามของเย่หยุนซูก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ราวกับผลแอปเปิลสุก สีแดงสด

เธอตกใจมากที่เซียวหยางจูบเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่รู้ทำไม ในใจเธอก็ไม่ได้รังเกียจ

เย่หยุนซูที่กำลังจะต่อต้าน เซียวหยางที่คว้าเอวบางของเธออยู่ก็สะกิดไปที่ก่อนเนื้อสองครั้ง ส่งสัญญาณให้เธออย่าต่อต้าน

เย่หยุนซูรู้สึกเขินอาย เหลือบมองไปที่เซียวหยางแวบหนึ่ง เธอรู้ว่าเซียวหยางจงใจทำให้ถังเทียนหวาดู แต่เขาก็ควรเว้นระยะห่างด้วย

“ไอคนบ้า รอให้ถังเทียนหวาไปก่อน แล้วฉันจะคิดบัญชีกับคุณ !”

“มองอะไร สามีหอมแก้มภรรยามันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ภรรยาผมยังไม่พูดอะไรเลย นายจ้องทำแป๊ะยิ้มอะไร ?”เซียวหยางยิ้มแล้วมองไปที่ถังเทียนหวา

สิ่งที่เซียวหยางทำให้คนที่มีอารมณ์โมโห ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก คือการที่เขายิ้มหวาน ด้วยท่าทียียวนยั่วยุ และมันก็ทำให้ถังเทียนหวาอยากที่จะพุ่งเข้าใส่ !

“ได้ ได้!ถือว่านายมันแน่ เจ้าเด็กน้อย เรามาคอยดูก็แล้วกัน !”

ถังเทียนหวาเค้นเสียงออกตามไรฟัน จากนั้นก็หยิบการ์ดเชิญออกจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เย่หยุนซู

“เย่หยุนซู ดอกกุหลาบไม่รับเอาไว้ก็ไม่เป็นไร แต่การ์ดเชิญนี้คุณต้องรับมันไว้ ไม่งั้นก็เท่ากับไม่ไว้หน้าถังเทียนหวาคนนี้แล้วล่ะ ”

“อีกสามวัน ที่เรือยอชต์Queen Anna งานค็อกเทลปาร์ตี้ของผม วันงานเจอกันนะ !”

พูดจบ ก็จากไปพร้อมสีหน้าที่บึ้งตึง

ทันทีที่ออกมาพ้นประตูได้ ถังเทียนหวาก็เห็นบอดี้การ์ดทั้งสองคนนอนทับซ้อนกันอยู่บนพื้นทางเดิน

ถังเทียนหวาเดินมาตรงหน้า แล้วเตะไปที่พวกเขาคนละที“ ไร้ประโยชน์สิ้นดี เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ไปได้แล้ว !”

“คุณชาย เจ้าเด็กนั่นทำยังไงดี จะปล่อยมันไปแบบนี้เหรอครับ ? ”บอดี้การ์ดที่ไว้ทรงสกินเฮดลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก พูดอย่างผูกพยาบาท

ถังเทียนหวาแสยะยิ้ม “ปล่อยมันเหรอ? จะเป็นไปได้ยังไง คนที่กล้ามีเรื่องกับฉัน ล้วนถูกโยนลงแม่น้ำเป็นอาหารปลาไปแล้ว”

“หาคนที่ฝีมือดี จัดการกับเจ้านั่นให้พิการก่อนค่อยว่ากัน ฉันอยากจะค่อยๆเล่นมันอย่างช้าๆ!”

“ครับ คุณชาย!”

……

หลังจากที่ถังเทียนหวาไปแล้ว เซียวหยางก็ยังคงกอดเอวบางของเย่หยุนซูเอาไว้ จมูกฟึดฟัดไปมา แม่เจ้า นี่มันคือกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเย่หยุนซู

สูดดมครั้งแรกเสียวไปถึงกระดูก ครั้งที่สองถึงกับสยิว และครั้งที่สาม ราวกับจะลอยขึ้นบนท้องฟ้าได้!

มือลูบไปมาที่เอวบางนั้นอยู่สองสามครั้ง สัมผัสที่อ่อนอุ่น ละมุนและเรียบเนียน!

เขาคิดไปถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ นึกขอบคุณถังเทียนหวาขึ้นมา หากไม่ใช่เพราะเขา ตัวเองก็คงไม่ได้จูบเย่หยุนซู

“ลูบคลำพอหรือยัง ?”เสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นมา

“ไม่เคยได้ลูบคลำมาก่อน ขออีกนิดหนึ่ง ”เซียวหยางพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว

“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไม่รู้จักพอเลยใช่ไหม ?”

เย่หยุนซูตีไปที่มือของเซียวหยางจนหลุด สายตาจับจ้องมองไปที่เขาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ ช่างลื่นไหลจริงๆ คนก็ไปแล้วยังไม่ยอมปล่อยมืออีก

เซียวหยางยิ้มเยาะ ถูมือไปมา แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย พูดออกไปว่า “เย่หยุนซู ทิ้งการ์ดเชิญไปซะเถอะ งานเลี้ยงอะไรนั้นเราไม่ต้องไปกันหรอก ”

เย่หยุนซูมองการ์ดเชิญที่อยู่บนโต๊ะ ยิ้มแห้งอย่างขมขื่น

“ไม่ไปคงไม่ได้ คุณไม่รู้นิสัยของถังเทียนหวา วันนี้ก็ไม่ไว้หน้าเขาแล้ว หากยังไม่ไปงานเลี้ยงอีก เขาคงจะใช้อิทธิพลอำนาจของตระกูลถังมากดดันบริษัทหยุนซูแน่นอน ”

“บริษัทหยุนซูอยู่ในช่วงสำคัญ จะไปงัดข้ออะไรกับตระกูลถังไม่ได้อีก ”

เซียวหยางขมวดคิ้ว “ถังเทียนหวา ตระกูลถัง!”

“งั้นก็ได้ อีกสามวัน ผมจะไปกับคุณ ผมก็อยากจะดูเหมือนกัน ว่าถังเทียนหวาคิดจะมาไม้ไหนอีก”

หากถังเทียนหวากล้าทำอะไรกับเย่หยุนซู ตระกูลถังในเมืองหยินโจว ก็ไม่จำเป็นต้องมีอยู่อีกต่อไป

เมื่อวีรบุรุษชักดาบ โศกนาฏกรรมร่วมสิบปีก็หนีไม่พ้น

เซียวหยางไม่อยากสร้างความปั่นป่วนให้เมืองหยินโจว แต่เย่หยุนซูเป็นสิ่งต้องห้ามของเขา

ถ้าหากมันจำเป็น เซียวหยางก็ไม่ปฏิเสธที่จะบั่นคอผู้ร่ำรวยและมีอำนาจของเมืองหยินโจว!