ซ่าวซิงเจียพานเป็นหนึ่งในเหล้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคโบราณ มันไม่ใช่เหล้าธรรมดา เย่เฉินได้รับมันมาโดยบังเอิญ

แม้ว่ากระบวนการผลิตจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่คุณภาพของ ซ่าวซิงเจียพานที่ล้มเหลวนี้ก็ดีกว่าเหล้าชั้นดีที่มีขายปกติ

ยิ่งไปกว่านั้นกุยแกเป็นคนที่ชอบดืมเหล้าเป็อย่างมากและมันจึงยากที่จะต้านทานเสน่ห์ของซ่าวซิงเจียพาน

เย่เฉินย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่กุยแกแสดงออกเช่นนี้

กุยแกมีความสุขมากเพราะเย่เฉินสัญญาว่าจะมอบเหล้าให้เขา แต่ทันใดนั้นเขาก็ผงะ หลังจากกลับมามีสติสัมปชัญญะเขาก็รีบถามเย่เฉินว่า

“ นายท่านต้องการตำแหน่งที่ถูกแต่งตั้งโดยทางการใช่หรือไม่?”

“หืม? กุยแก เจ้ารู้ได้อย่างไร?” เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ

เย่เฉินมั่นใจมากเขาไม่ได้พูดอะไรก่อนหน้านี้ แต่กุยแกกลับพูดถึงแผนการของเย่เฉิน ที่ต้องการได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการซึ่งมันทำให้เย่เฉินงงงวยมาก

แน่นอนว่ามากกว่านั้น แต่นี้ก็ทำให้เย่เฉินมีความเข้าใจชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความเก่งกาจของกุยแก

มันไม่น่ากลัวไปเหรอ? หลังจากที่พวกเขาพบกันเย่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่กุยแกก็มองความคิดของเย่เฉินออก

“ นายท่าน! ท่านต้องการจะเดินทางไปลกเอี๋ยงเหรอ?” สีหน้าของกุยแกเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาได้คิดถึงเรื่องนี้และแทนที่จะตอบเย่เฉินเขากลับถามออกมาอย่างเป็นกังวล

กุยแกกับมองออกว่าฉันจะไปลกเอี๋ยง

นี้คือ … บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ … ทุกคนไม่ธรรมดาจริงๆ …

แต่ … ทำไมกุยแกถึงได้กังวลนัก …

เป็นไปได้ไหม … ว่าการเดินทางไปลกเอี๋ยง …

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งไปชั่วขณะ แล้วก็พูดว่า:

“ เดิมทีข้าวางแผนจะไปลกเอี๋ยงก่อน แต่เจ้ามาที่นี้และ … ”

ก่อนที่เย่เฉินจะพูดจบกุยแกก็รีบโค้งคำนับและพูดว่า:

” ท่านลอร์ดการจะไปลกเอี้ยงสำหรับท่านแล้วมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีจะพึ่งพาซึ่งกันและกัน ข้าหวังว่าท่านจะคิดทบทวนให้ดี”

เมื่อเย่เฉินได้ยินดังนั้น หัวใจของเขาก็ดิ่งลงอีกครั้ง

เนื่องจากกุยแกยอมรับเขาในฐานะลอร์ดและกลายเป็นคนที่ภักดีต่อเขา จึงเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่คำพูดของเขาจะเป็นการหลอกลวงหรืออวดดี

“เจ้าสามารถมองเห็นอันตรายอย่างนั้นหรอ?” เย่เฉินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถาม

“ ท่านจำเป็นต้องไปลกเอี๋ยงเวลานี้เลยหรอ?” กุยแกเหลือบมองไปเย่เฉินและถาม

“ใช่ ข้าต้องรีบไป เวลาไม่คอยถ้า ข้าต้องได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ มิฉะนั้นมันจะส่งผลต่อแผนการของข้า” เย่เฉินพยักหน้าและตอบ

เย่เฉินต้องไปลกเอี๋ยงและเขาก็ต้องได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเช่นกัน

นี่คือการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของเย่เฉิน ในการต่อต้านกบฏโพกผ้าเหลืองที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาต้องไปและไม่ว่าเขาจะมีอันตรายแค่ไหนเขาก็ต้องไป

“ ท่านลอร์ดสามารถบอกข้าเกี่ยวกับแผนการที่จะไปลกเอี๋ยงได้หรือไม่?” กุยแกเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถาม

เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่เฉินก็อธิบายแผนการของเขาออกไปโดยไม่ลังเล

ถ้าเป็นคนอื่นเย่เฉินจะไม่มีทางบอกเพราะมันเกี่ยวข้องกับขันทีพวกนั้น แต่กุยแกนั้นแตกต่างออกไป

เขายอมรับเย่เฉินและภักดี 100%

หลังจากฟังแผนของเย่เฉิน กุยแกก็เดินไปมาอยู่สักพักก่อนจะหยุด จากนั้นมองไปที่เย่เฉินและพูดว่า:

“ นายท่านของข้า การที่ท่านปราบปรามโจรนั้นยากที่จะปกปิดต่อชาวเมืองธรรมดา แต่เพราะท่านได้ฝังโจรเหล่านั้นไว้และตอนนี้เกรงว่าศพพวกมันจะเน่าเสียหมดแล้ว แม้ว่าจะมีโจรที่มีประกาศจับจากทางการ หากศพถูกขุดขึ้นมาในขณะนี้ก็ไม่สามารถระบุตัวตนของพวกมันได้ “

งานปราบโจร …

เย่เฉินผงะไปชั่วขณะ แต่เขาไม่รู้ว่ากุยแกนั้นรู้ว่าเขาจะอ้างผลงานในการปราบปรามโจรได้อย่างไร

แต่คำพูดของกุยแกก็เตือนเย่เฉินเช่นกัน

“กุยแกก่อนที่เจ้าจะมาข้านั้นได้ฆ่าทหารม้าอูหวนหนึ่งหมื่นห้าพันคน ผลงานนี้เพียงพอหรือไม่” เย่เฉินมองไปที่กุยแกและถาม

เมื่อกุยแกได้ยินเช่นนี้เขาก็ตกตะลึงมองไปที่เย่เฉินด้วยความตกใจเล็กน้อยและถามว่า “ท่านลอร์ดฆ่าทหารม้าอูหวนหมื่นห้าพันคน?”

เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวว่า “เป็นเรื่องจริงข้าตั้งกองกำลังซุ่มอยู่ในป่าและกวาดล้างทหารม้า 15,000 นาย”

“งั้นเรื่องนี้ก็ง่ายขึ้นมาแล้ว!” กั๋วเจี๋ยได้ยินสิ่งนี้ดวงตาของเขาสว่างขึ้นจากนั้นก็กล่าวด้วยความประหลาดใจ หลังจากพูดเขาถามว่า:

“ ท่านลอร์ดรู้หรือไม่ว่านอกจากขันทีที่ตายไปแล้ว ยังมีอีกคนในลกเอี๋ยงที่มีอำนาจมากกว่า?”

“ เจ้าหมายถึง … แม่ทัพคนไหน?” เย่เฉินผงะไปชั่วขณะแล้วถาม

กุยแกส่ายหัวจากนั้นยกนิ้วชี้ไปที่ตนเอง

“เจ้าหมายถึง … ” เย่เฉินเห็นท่าทางของกุยแกจึงรู้ได้ทันทีว่ากุยแกกำลังพูดถึงใคร

กุยแกพยักหน้าแล้วกล่าวว่า:

“แน่นอน ท่านลอร์ดเรื่องนี้หากได้รับการจัดการอย่างถูกต้องบางทีท่านลอร์ดจะไม่มีการสูญเสียใด ๆ “

“รีบบอกเร็ว!” ดวงตาของเย่เฉินสว่างขึ้นทันทีเมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้จากนั้นเขาก็พูด

กุยแกมองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร เขาก็กระซิบแผนกับเย่เฉินอีกครั้ง

หลังจากฟังแผนของกุยแก เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็มองขึ้นไปบนฟ้าและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง:

“กุยแก ด้วยความช่วยเหลือของเจ้า ข้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอะไรอีก!”

“นายท่านเรื่องนี้ต้องทำทีละขั้นตอน และจะต้องไม่มีข้อผิดพลาดไม่เช่นนั้น … ” กุยแกหัวเราะอย่างขมขื่นแล้วกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

“ข้าเข้าใจ!” ดวงตาของเย่เฉินเป็นประกายแวววาว

“ ข้าแค่อยากเสียม้าไปสักตัว และข้าหวังว่าท่านลอร์ดจะไม่ตำหนิข้า” กุยแกโค้งคำนับและกล่าวอย่างหมดหนทาง

“ฮ่าฮ่าฮ่า … มันก็แค่ม้าศึกนอกจากมันยังมีอีกมากมาย และอีกไม่นานก็จะมีม้าศึกจำนวนมากกว่านี้” เย่เฉินหัวเราะและกล่าวออกมา