ตอนที่ 70 – เสียงที่ชั้นบน

หลี่ถงอวิ๋นขณะนี้อยู่กับเจียงเสวี่ย

หลังจากคุนหลุนส่งข้อความอัตโนมัติแจ้งนักท่องเวลาที่ลงทะเบียนไว้ทุกคน เจียงเสวี่ยก็ไปรับหลี่ถงอวิ๋นที่โรงเรียน เก็บตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้า

ครุ่นคิดแผนการตอบสนอง

แถมเจียงเสวี่ยยังซื้อโทรศัพท์มือถือให้หลี่ถงอวิ๋นเป็นพิเศษ เพื่อให้สะดวกต่อการติดต่อในยามปกติ

ปัจจุบันนี้โลกเปลี่ยนเป็นอันตราย มีโทรศัพท์มือถือจะสะดวกกว่ามาก

หลี่ถงอวิ๋นเอาข้อความที่คุนหลุนส่งให้เจียงเสวี่ยก๊อบปี้ให้ชิ่งเฉินอย่างไม่คลาดเคลื่อนสักคำ

ชิ่งเฉินวิเคราะห์ตัวหนังสือทีจะคำทีละประโยค พยายามทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ในข่าวสาร คุนหลุนย้ำเตือนเป็นพิเศษว่านักท่องเวลาสามคนของเมืองลั่วที่หายตัวไปแล้วล้วนเคยเปิดเผยข้อมูลของตนเองบนอินเตอร์เน็ตโดยไม่ตั้งใจ อาจจะนำไปสู่การเปิดเผยที่อยู่บ้าน

นักท่องเวลาสองร้อยกว่าคนของเมืองลั่วตอนนี้มีเกือบหนึ่งในห้าที่มีความเสี่ยง หวังว่าภายหลังทุกคนจะไม่เปิดเผยข้อมูลง่าย ๆ จะต้องใส่ใจกับความปลอดภัย

คุนหลุนไม่ได้พูดว่าจะมอบความคุ้มครองให้กับทุกคนเลย ดูท่ากำลังคนไม่เพียงพอ

ชิ่งเฉินครุ่นคิดว่า : คิดไม่ถึงว่านักท่องเวลาที่ลงทะเบียนมากขนาดนี้แล้ว คนที่ซ่อนตัวในความมืดจะต้องมากยิ่งกว่า

คนเหล่านั้นที่มาเมืองลั่วอย่างรีบร้อน ไม่มีเวลาจะสืบข่าวสารที่ละเอียดยิ่งกว่านี้ ดังนั้นขอแค่ไม่อยู่บ้าน อีกฝ่ายก็จะหาเป้าหมายในการลงมือไม่เจอแล้ว

อย่างเช่นพวกเขารู้ที่อยู่บ้านของเจียงเสวี่ย จึงได้มาลักพาตัวเจียงเสวี่ย

แต่เจียงเสวี่ยไม่อยู่บ้าน พวกเขาอย่างมากที่สุดก็ได้แค่สามารถลักพาตัวเสียเปล่า……

ไม่อาจไม่พูดว่าไอเดียนี้ของหลี่ถงอวิ๋นเหมาะสมเป็นที่สุด ชิ่งเฉินยังอยากจะชมเธอเลย

แต่ว่า…… อีกฝ่ายมาอยู่ที่บ้านตนเอง เหมาะสมไหม……

ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้ หลี่ถงอวิ๋นเอ่ยปากขอมาแล้ว พวกเขายังมีความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรในเงามืดกันอีกด้วย อนาคตที่โลกภายในจะมีการพบปะกันมากมาย ธุระเล็กน้อยนี้ย่อมต้องช่วย

เอาเหอะ ชิ่งเฉินยอมรับว่าถึงภายหลังจะไม่มีความร่วมมือ ธุระนี้ก็ยังจะช่วย “วันนี้วันศุกร์ ฉันจะกลับก่อน พวกเราตกลงกันว่า 5 โมง 40 มาเจอกันที่ประตูทางเข้าเขตที่พักเถอะ แน่ใจว่าไม่มีบุคคลน่าสงสัยแล้วค่อยว่ากัน”

ตอนบ่ายตอนที่กำลังจะเลิกเรียน จู่ ๆ หลิวเต๋อจู้หาโอกาสส่งข้อความให้ชิ่งเฉินว่า “บอสใหญ่ ตรงนักเรียนย้ายเข้านี่ผมมีความคืบหน้าทะลุไปอีกขั้นแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องการแลกเปลี่ยนที่เฉพาะเจาะจงอะไร แต่พวกเขาเต็มใจจะจ่ายทองคำแท่งล่วงหน้าเพื่อแสดงความจริงใจ…… คือว่า บอสใหญ่ครับ ทองแท่งนี้ผมก็ไม่อยากแบ่ง จะสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของผมในห้องขังสักหน่อยได้ไหมครับ ผมอยู่ข้างในจนจะเป็นบ้าไปแล้วจริง ๆ นะ”

ชิ่งเฉินหาสถานที่ที่ไม่มีคนอ่านดู เพียงตอบกลับไปว่า “ดูการแสดงออกของคุณ” เก็บอุปกรณ์สื่อสาร โดดเรียนแล้ว

……

ลานหมายเลข 4 ถนนสิงสู่ยังเงียบสงบ ไม่มีคนสัญจรสักเท่าไหร่

ชิ่งเฉินถือผักในมือค่อย ๆ เดินไปบนถนนสายเล็กซึ่งขนาบข้างด้วยต้นไม้ ต้นฤดูใบไม้ร่วงผ่านไปแล้ว ใบอู๋ถงสองข้างถนนเริ่มร่วงหล่น ลานหมายเลข 4 วันนี้คงจะน่ามองที่สุดแล้ว

ผู้ต้องหาเก้าคนในครั้งนี้เหมือนจะไม่ค่อยเหมือนกับทหารแตกทัพสองคนก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายมีแผนการ มีองค์กร เวลาผ่านไปนานตั้งขนาดนี้แล้วก็ยังจับไม่ได้

องค์กรชั่วร้ายอย่างนี้จึงอันตรายที่สุด

ชิ่งเฉินมองตรงไม่ว่อกแว่ก ในใจกลับนับคำนวณคนที่พานพบทั้งหมดเงียบ ๆ ทุก ๆ คนล้วนเป็นเพื่อนบ้านที่เขาเคยเห็นในเขตที่พัก

ไม่มีคนแปลกหน้า

เขาใช้หางตากวาดมองระเบียงบ้านของเจียงเสวี่ยอีกที เครื่องเรือนทั้งหมดล้วนไม่ได้ขยับจากตำแหน่ง แม้แต่รอยพับของผ้าม่านหน้าต่างยังไม่ได้เปลี่ยนจากตอนเช้า

ในบ้านไม่มีการซุ่มโจมตี

ชิ่งเฉินยืนอยู่ในทางเดินส่งข้อความให้หลี่ถงอวิ๋น “เข้ามาเถอะ ประตูฉันปิดอยู่ สามารถเข้ามาได้ตรง ๆ เลย”

ไม่ทันไร เจียงเสวี่ย, หลี่ถงอวิ๋นหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กสองคนค่อย ๆ เปิดประตูนิดเดียว ตะแคงตัวเข้าไปในบ้าน

จนกระทั่งชั่วขณะนี้เอง หลี่ถงอวิ๋นที่อายุน้อยจึงถอยหายใจโล่งอกในที่สุด มองดูน่ารักสุด ๆ

ชิ่งเฉินยิ้มเอ่ยว่า “ผมไม่ใช่นักท่องเวลา อีกฝ่ายถึงคิดจะลักพาตัวนักท่องเวลาก็จะไม่มาหาถึงที่ผมหรอก พวกเขาเป็นนักโทษหลบหนี จะต้องไม่อยากให้เรื่องวุ่นวายใหญ่โต”

หลี่ถงอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ แอบมองเขาแวบหนึ่ง พูดในใจว่าพี่ชิ่งเฉินคนนี้พูดโกหกได้หน้าไม่แดงหัวใจไม่เต้นเลยจริง ๆ พูดได้เป็นธรรมชาติเกินไปแล้ว!

เจียงเสวี่ยยิ้ม ๆ “ครั้งนี้ขอบคุณคุณมากนะ ถึงฉันจะรู้ว่าที่ข้างนอกก็สามารถซ่อนตัวได้ แต่ออกไปข้างนอกรู้สึกใจไม่สงบตลอดเลย คุณกับเสี่ยวอวิ๋นดูทีวีกันไปก่อนนะ ฉันจะไปทำกับข้าวให้พวกคุณ”

ว่าแล้วหญิงสาวก็ม้วนแขนเสื้อเข้าครัว

ชิ่งเฉินตื้นตันใจอยู่บ้าง น้าเจียงเสวี่ยช่างแสนอ่อนโยนตลอดกาล

หลี่ถงอวิ๋นที่อยู่ข้าง ๆ จู่ ๆ กล่าวว่า “แม่หนูใจดีมากเลยใช่ไหมล่ะ”

ชิ่งเฉินลูบศีรษะเธอ ลดเสียงลงถามว่า “เธออยู่ที่โลกภายในได้ยินเรื่องของหลี่ซูถงรึเปล่า พอจะบอก ๆ ฉันได้ไหม กลุ่มการเงินมองเรื่องนี้ยังไง”

“ก็ไม่มีอะไรน่าบอก” หลี่ถงอวิ๋นนั่งบนโซฟา ขาสั้น ๆ แกว่งอยู่นอกโซฟา “หนูได้ยินพี่สาวที่โลกภายในบอกว่าหลี่ซูถงเงียบมาตั้งหลายปีแล้ว ครั้งนี้จู่ ๆ เผยโฉมจะต้องก่อให้เกิดความตื่นตกใจ”

ชิ่งเฉินเอาเบาะนอนออกมาจากในตู้ บ้านหลังนี้ถึงจะมีสองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่น แต่ห้องนอนอีกห้องว่างเปล่าแม้แต่เตียงยังไม่มี แล้วยังกองเต็มไปด้วยข้าวของจิปาถะที่เขากว้านซื้อมาก่อนหน้านี้

เขากล่าวกับหลี่ถงอวิ๋นว่า “ตอนกลางคืนเธอกับแม่เธอนอนที่ห้องนั้นของฉัน เบียดกันบนเตียงเล็ก ๆ ของฉัน ฉันจะนอนห้องนั่งเล่น”

“น่าอายจังเลย” หลี่ถงอวิ๋นปากพูดเกรงใจแต่ไม่ปฏิเสธ ยิ้มตาหยีจนกลายเป็นจันทร์เสี้ยว “จริงสิพี่ชิ่งเฉิน ตอนที่หลี่ซูถงกินข้าวที่ภัตตาคารรื่อกวง พี่อยู่ที่ไหนเหรอ”

“ฉัน?” ชิ่งเฉินมองไปทางเธอ “ฉันอยู่บนรถไฟฟ้า แค่เห็นยานลอยฟ้าบินไปทางอาคารหย่งเหิง”

“เชอะ” หลี่ถงอวิ๋นไม่ถามอะไรมากความอีก “ความเห็นของกลุ่มการเงินต่อเรื่องนี้คลุมเครือมาก เหมือนกับว่าล้วนรอดูว่าตระกูลอื่น ๆ จะมีปฏิกิริยาอะไร ใคร ๆ ก็ไม่อยากจะแบไต๋ก่อน”

ชิ่งเฉินถามว่า “จริงสิ หลี่ซูถงเข้าคุกเพราะอะไร”

หลี่ถงอวิ๋นมองเขาแล้วกล่าวว่า “หนูก็ไม่รู้ หนูเด็กแค่นี้จะไปขอไฟล์ข้อมูลของเขาก็ไม่เหมาะนะ เอาล่ะ หนูก็พูดข้อมูลตั้งเยอะแล้ว พี่ชิ่งเฉินเอาข้อมูลของพี่มาแลกเถอะ”

ชิ่งเฉินเงียบครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่ฉันสามารถแชร์ได้คือข้อมูลโลกภายนอก กลุ่มแชตที่เหอเสี่ยวเสี่ยวพูดฉันรู้สึกว่าจำเป็นต้องเข้าร่วม แต่ก่อนจะเข้าร่วมจะต้องมีโปรแกรมป้อมปราการข้อมูลจากโลกภายใน อย่างนี้จึงจะสามารถหลีกเลี่ยงจากการถูกเขาหาเจอ ตอนนี้ฉันระแวงว่าเหอเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้เป็นคนคนเดียว ทว่าเป็นองค์กรแห่งหนึ่ง พวกเขากำลังมีแผนการรวบรวมนักท่องเวลาทั้งหมด แน่นอนว่าเป็นแค่การคาดเดา”

หลี่ถงอวิ๋นเอียงศีรษะกล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน พี่แค่แชร์ข้อมูลโลกภายนอก เป็นเพราะถ้าพูดข่าวสารของโลกภายในจะชี้ตัวได้ง่ายเกินไป เปิดเผยตัวของพี่เองเหรอคะ”

ชิ่งเฉินยิ้ม “เดาสิ?”

แต่ทว่า ณ ขณะนี้เอง ทั้งสองคนล้วนได้ยิน…… บนเพดานเหนือศีรษะ มีเสียงของเก้าอี้หล่นลงบนพื้น

แต่ปัญหาคือ ชิ่งเฉินและหลี่ถงอวิ๋นล้วนทราบชัดมากว่า ตอนนี้ในห้องชั้นบนไม่ควรจะมีคน

………………………………….

ตอนที่ 71 – เดินทางยามวิกาล