ตอนที่ 73 ผู้กล้าคนก่อนกับงานประลอง 3

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ โอ้วววววว !! ]

[ ย๊ากกกกกก !! ]

หมัดและหมัด ต่างฝ่ายต่างปะทะซึ่งกันและกัน และ *ตู้ม* เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น และทันใดนั้น เสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง

กำปั้นทั้ง คู่ ยังคงปะทะกันอยู่โดยตลอด ถ้าหากนี่เป็นการกระทำของคนธรรมดา กระดูกของพวกเขาคงหักไปแล้วและคงไม่สามารถเหวี่ยงหมัดต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม พวกเรา ผู้ซึ่งอยู่เหนือคนทั่วไปๆ ยังคงปะทะกันด้วยหมัดอย่างต่อเนื่อง

เสียงที่ร้องออกมาไม่ได้จางหายไปไหน ต่างฝ่ายต่างตะโกนออกมาราวกับคำรามอย่างบ้าคลั่ง 

และทันทีที่เสียงอันดังสนั่นจากพวกเราดังขึ้น พวกเขาก็ต่างตีวงออกห่างจากพวกเราทั้ง 2

ทันใดนั้น นักบวชอูลแกนตระหนักถึงบางสิ่งราวกับเขากำลังมั่นใจอะไรบางอย่าง

[ ข้ารู้แล้ว . . . ]

[ ? อะไร ? แกรู้อะไร ? ]

เมื่อผมถามออกไป เจ้านักบวชที่อยู่ตรงหน้าผมก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

[ ถึงการปะทะด้วยหมัดจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ . . . ทำไมแกไม่ใช้อาวุธที่แกถนัดล่ะ ? ]

[ อ่า นายรู้เรื่องนั้นด้วย ? ]

[ แน่นอน ข้าควรที่จะรู้ นั้นเพราะ ตอนนี้ พวกเรากำลังเปิดใจคุยกันด้วยหมัดของพวกเราไง ]

[ มันไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะเอาจริงอะไรแต่ว่า . . .ผมเข้าใจแล้ว ผมจะขอใช้พลังทั้งหมดที่มีล่ะนะ ]

มันคงจะเป็นของใครสักคนที่เข้าแข่งขันในงานแสดงศิลปะการต่อสู้เวทย์มนตร์แห่งนี้ ผมได้ดึงมันออกมา มันเป็นดาบที่มีความยาวซัก 90 cm ได้ มันปักอยู่บนพื้นดินใกล้ๆ

[ ฟุฟุ อย่างที่ข้าคิดว่า เป็นดาบสินะ ]

[ เยี่ยมๆ อย่างที่ผมคิดไว้ ไอ้ของมาตรฐานนี่แหละดีที่สุด ]

บิดร่างส่วนบนของผมจนมันทำให้ดูราวกับหลังของผมมาอยู่ที่ด้านหน้าของคู่ต่อสู้ ผมอยู่ในท่ายืนที่ดูราวกับว่ากำลังพยายามซ่อมดาบของตนเองไว้

[ ท่ายืนของแก ? มันไม่ใช่ท่าพื้นฐานนี่ ? ]

[ ฮีฮี มันเป็นท่าที่ผมคิดขึ้นเองน่ะ ]

[ อืม ดี ถ้าเพื่อความก้าวหน้าแล้ว ถ้าผลลัพมันออกมาดีก็ทำไปเถอะ ] 

สำหรับสิ่งที่ถูกกล่าวออกมาจากปากของนักบวชนี้มันเป็ยสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา

ผมกำด้ามจับแน่นขึ้นและเผยรอยยิ้มออกมาเล็กๆ

[ มาลองกันอีกซักตั้ง นี่คือการโจมตีของข้า ! ]

[ ผมจะตอบโต้ให้ดู ไอ้การโจมตีนั้น ]

ในวินาทีถัดไปหลังจากที่พวกเราแลกเปลี่ยนวาจาต่อกัน กำปั้นอันทรงพลังที่สามารถทำลายได้แม้กระทั้งหินผากำลังพุ่งเข้ามาที่ผม

*โอ้วววว!!*

กำปั้นที่งทรงพลังนั้นเฉียดผ่านใบหน้าด้านของของผมไปพร้อมกับเสียงคำราม

[ เห้ย ! ? ]

[ เสร็จข้าล่ะ !! ]

กำปั้นที่ควรจะหยุดลงกับต่อยกวาดขวางมาที่ผม

ก่อนที่กำปั้นนั้นจะมาถึงตัวผม ผมใช้เท้าซ้ายของผมยันไปที่ไหล่ของเขาเพื่อดีดตัวขึ้น แต่ว่าในจังหวะนั้นก็มีอีกกำปั้นที่พุ่งเข้ามา ผมจึงใช้ขาอีกข้างยันตัวออกเพื่อหลบการโจมตีนั้น

ในระหว่างที่ผมยังอยู่ในจุดที่เสี่ยงอันตราย ผมจึงหมายที่จะฟันไปยังแขนที่กางออกมาของเขา ผมจึงยกดาบขึ้นเหนือหัว

แต่

「 ย๊ากก, อึกก!?」

สิ่งที่ทำให้ผมต้องขยับไปในทันทีนั้นมันไม่ใช่ดาบ แต่เป็นโล่ นั้นก็เพื่อป้องกันหมัดซ้ายที่โจมตีเข้ามาจากทางด้านข้าง

ไม่สิ ผมไม่ได้ป้องกัน ผมแค่พยายามที่จะป้องกันมัน แต่

「อัก!?」

โล่นั้นได้แตกเป็นเสี่ยงๆ และในตอนกระดูกแขนขวาของผมถูกทำลาย หมอนั้นก็ซ้ำมาที่ร่างของผมอย่างรุนแรงจนผมปลิวออกไป

เพราะความเจ็บปวดทำให้สติของผมดับวูบไปชั่วขณะหนึ่ง และเมื่อฟื้นคืนกลับมา ผมก็พบว่าผมกำลังปลิวออกไปจากเวที

(ต้องดีด-……!)

เร็วเท่าที่ผมคิดว่า “ต้องดีดตัว” ผมเตะไปยังกำแพงที่อยู่นอกสนามประลอง มันคือกำแพงของที่นั่งคนดู และดีดตัวกลับไปยังอูลแกน

[ ข้าจะน็อคแกเดียวนี้แหละ !! ]

เขาบิดร่างส่วนบนของเขา และนักบวชจอมทำลายล้างนั้นก็ปล่อยการโจมตีออกมา

มันคือการโจมตีที่สามารถทำให้คุณถูกซัดปลิวออกไปเพียงแค่แรงดันลมที่ระเบิดออกมาในตอนที่การโจมตีนั้นถูกปลดปล่อย

[ เห้ย !!! ]

ขึ้นไปบนกำปั้นนั้น และวิ่งไปตามท่อนแขน ผมปล่อยลูกเตะความเร็วแสงไปที่เขา รึก็คือหัวของอูลแกน มันดูราวกับว่าผมอยากจะเตะลูกบอลให้ปลิวออกไปอย่างไงอย่างงั้น

「……!」

อาจเพราะเขาล่วงเพียงเพราะการโจมตีเดียว ร่างขนาดนักที่น่าจะสูงทะลุ 2 เมตรได้ล้มลงพร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น

[ ชิ โลกนี้ช่างกว้างใหญ่เสียจริง ]

ถ้าหากด้านพลังโจมตีด้วยมือเปล่านั้น ไม่ผิดแน่ นักบวชนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในระดับของมนุษย์ชาติ

ผมตกใจมากที่ว่ายังมีคนที่เก่งขนาดนักบวชนี้อีกมากมายบนเวทีนี้

[ เอาเหอะ ผมล่ะสงสัยว่าเบอร์นาเดสจัดการเรียบร้อยยังนะ– ? . . ]

หลังจากพักหายใจอยู่ชั่วครู่ ผมจึงหันเหความสนใจของผมไปยังจุดที่เบอร์นาเดสอยู่ แต่ว่า . . ในที่สุดผมก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกปละหลาดรอบๆตัวผม

ใช่แล้ว บนเวทีแห่งนี้ มีเพียงกล่มเดียวที่ยังคงต่อสู้อยู่

นั้นคือเบอร์นาเดส และนายจิ้งจอกหน้าตาน่ารักนั้น

ก็ จำนวนคนที่ยังคงเหลืออยู่บนเวทีนี้รวมถึงผมด้วยนั้นเหลืออยู่ 4 คน

[ ตกใจจริงๆ . . . คุณลุง คุณจัดการพวกที่เหลือด้วยตัวคนเดียวเลยรึครับ ? ]

ที่บนเวทีแห่งนี้ ในจุดที่ห่างจากจุดที่เบอร์นาเดสและนายจิ้งจอกยังคงต่อสู่กันอยู่ เขาอยู่ในท่าที่พักมือของเขาบนดาบจับของดาบที่ถูกปักลงบนพื้นสนาม  เขาคือชายคนหนึ่งที่ดูราวกับว่ากำลังรอผมอยู่

ชายคนนั้น เขาสวมอยู่ในชุดอัศวินและหมวกเหล็ก มันแสดงให้เห็นถึงเกียรติที่เขาได้สั่งสมมาในอดีต เขาดูมีอายุราวๆวัยกลางคน พร้อมกับรอยยิ้มนั้น ดวงตาที่เฉียบคมราวกับเหยี่ยวกำลังจับจ้องมาที่ตัวผม

[ ไม่ ฮ่าฮ่าฮ่า พวกมันครึ่งหนึ่ง โดนลูกหลงจากการต่อสู้ของพวกนาย 2 คนน่ะ ]

เขาไม่ได้กระโดดเข้ามาขัดจังหวะ ตาลุงอัศวินรอคอยการต่อสู้ของผมและนักบวชจนจบ

รูปลักษณ์ที่แสดงออกมานั้นทำให้คุณรู้สึกได้ความมีอายุของเขา แต่ไม่เพียงแค่นั้น เขายังไม่พยายามที่จะซ่อน “ความกระหายการต่อสู้” ที่มากจนขนของผมลุกซู่ มันดูตรงข้ามกับภาพลักษณ์ที่ดูมีอายุของเขา

ไม่ต้องสงสัยเลย ตาลุงนี้คือพวกคลั่งการต่อสู่เช่นเดียวกับพวกเรา

รักในการต่อสู้และดูเหมือนว่าเขาอยากที่จะสู้กับใครก็ได้ที่เก่งกว่าตนเอง เขาคือชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่งในสนามประลองแห่งนี้

[ หรือก็คือ อีกครึ่งหนึ่งถูกจัดการโดยลุง สินะ ? ]

ผมในตอนนี้ได้เผยรอยยิ้มแห่งความดีใจออกมาที่ปกตินั้นผมไม่เคยเผยออกมา

ก็ ผมไม่สามารถสงบใจได้เลย ไอ้การต่อสู้นี้กับเหล่าศัตรูที่น่าเกรงขาม นี่มันน่าตื่นเต้นมาก !! ถ้าหากคุณเป็นผู้ชาย ไม่มีทางเลยที่คุณจะสงบใจได้หรอก !! 

[ จริงที่ข้ามาเข้าประลองนั้น ข้าไม่ได้มีความสนใจที่จะไปเข้าร่วมการแข่งขันหลักอะไรนั้นหรอก มันก็แค่ ข้าอยากจะลองวัดฝีมือตัวเองดู แต่ . . . ในตอนนั้น การต่อสู้ของพวกนายที่แสดงออกมาต่อหน้าข้า มันเร้าร้อนจนทำให้ข้าอยากจะลองปลดปล่อยตัวออกดูเหมือนกันด้วย ]

ดังนั้น เขาจึงปลดปล่อยตัวเองโดยการจัดการอีกครึ่งหนึ่งของผู้เข้าแข่งขันสินะ

ถึงมันจะไม่เรื่องอะไรที่ผมจะมาพูดแบบนี้ แต่ว่า คนๆนี้เป็นพวกแปลกประหลาดมากทีเดียว

[ ข้ารู้ นายคงไม่สะดวกเท่าไรเพราะคงใช้ได้แค่แขนเดียว . . . อย่างไรก็ตาม นี้คือ ฟาลฮาร์ท เอ็นฮาร์น !!  แม้ว่านายจะว่าร้ายมาขี้ขลาดขนาดนไหน แต่ข้าก็จะยังคงน็อคแกเหมือนเดิม ! ]

[ ผมก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน !! ]

ถือดาบยาวด้วยมือทั้ง 2 ข้าง และอยู่ในท่ายืนของอัศวิน ฟาลฮาร์ดคำรามออกมาและผมเองก็ตะโกนออกมาราวกับตอบรับต่อการกระทำนั้น

[ รับไปซะ !! ]

*ปั้ง!* เตะไปยังที่พื้น อัศวินนั้นยกดาบสีเงินของตนขึ้นเหนือหัว

[ ตาลุงคนนี้ . . . ดาบเวทย์มนตร์รึ? ]

ดาบสีเงินแปลกๆที่กำลังถูกฟันลงมา ผมรับรู้ได้ทันทีว่ามันคือดาบเวทย์มนตร์

*แคล่ง!!*

ผมป้องกันดาบเวทย์มนตร์ที่ถูกฟันลงมาด้วยท่าทางที่ดูราวกับผมฟันดาบในมือซ้ายของผมสวนกลับไป

และพร้อมกับเสียงแหลมสูงที่ดังขึ้น แรงปะทะถูกส่งมาถึงที่แขนของผม และในเวลาเดียวกัน ผมก็เข้าใจถึงความสามารถของดาบเวทย์มนตร์นี้

[ ชิ ลดแรงต้านงั้นรึ ไม่สิ ไม่ใช่แค่นี้ . . . ความรู้สึกนี้ เพิ่มพลังปะทะด้วย !! ]

[ ฮ่าฮ่า ดูเหมือนนายจะอ่านมันได้ทะลุปุโปร่งเลยนะ  ]

มันเป็นเพียงดาบที่ดูธรรมดาไม่มีแม้กระทั้งเครื่องประดับใดๆ แต่พลังที่ถูกซ่อนอยู่ภายในตัวดาบนั้นคือความสามารถในการลดน้ำหนักแรงปะทะให้แก่ผู้ครอบครอง และ ยังเพิ่มแรงประทะให้กับฝั่งศัตรู 

ด้วย 2 ความสามารถที่ทำงานประสานซึ่งกันและกัน แรงปะทะมหาศาลถูกถ่ายโอนมายังผม

แม้ว่า ถ้าหากแรงปะทะในระดับนี้ ตอนที่ผมรับแรงปะทะจากเทราคิโอ้จะยังคงสู้กว่า . . . อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมจะสามารถรับการโจมตีนี้ไหว แต่ดาบด้อยคุณภาพที่ผมใช้อยู่นี้มันเกิดเสียง *คลิ๊กๆ* ราวกับว่ากำลังกรี๊ดร้องและได้หักลง

[ ดาบเวทย์มนตร์ [ Sherazard ] มันคือดาบเวทย์มนตร์ที่นักตีดาบผู้โด่งดังสร้างมันขึ้นมาให้ใครก็ตามที่นำไปใช้เพื่อความสงบสุขของประชาชน มันคือดาบล้ำค่าของตระกูลข้า ]

ทันทีที่ตัวดาบของผมถูกทำลาย ผมถูกซัดปลิวออกไป และ อัศวินนั้น ไม่ได้เข้ามาซ้ำที่ผม เขาทำเพียงปักดาบเวทย์มนตร์ที่ดูธรรมดาๆนั้นลงในพื้นดิน

มันดูราวกับเขาที่กำลังรอคอยผมในตอนแรกเริ่ม อัศวินคนนั้นวางมือของเขาลงบนด้าบจับและมองมาที่ผม

[ นายก็คงมีเหมือนกันสักเล่มใช่รึปล่าว ? ไม่ว่าดาบนั้นจะเหนือกว่าหรือด้อยกว่าดาบนี้ . . .  ไม่สิ ด้วยความสามารถขนาดนี้ และเป็นผู้ใช้ดาบ ไม่มีทางที่นายจะไม่มีมันไว้ครอบครองซักเล่ม ]

ในคำพูด ผมรับรู้ได้ถึงความมั่นใจในคำพูดนั้น

อัศวินนี้ “รู้”ว่าผมนั้นครอบครองดาบเวทย์มนตร์เช่นกันแน่ๆ 

[ ข้าอยากจะให้มันเป็นการประลองที่ยอดเยี่ยม ]

จากคำพูดนั้น ความกลัวเล็กๆภายในจิตใจของผมก็ถูก “ปัดเป่า”ไป

[ ดาบคริสตัล [ Crystal Venom ] . . .  มันคือดาบเวทย์มนตร์ของผม ]

ปักดาบที่ดูราวกับอัญมณีสีฟ้าและเขียวลงบนพื้นดิน ผมแสดงดาบคู่ของผมต่อหน้าของ อัศวิน ฟาลฮาร์ท เช่นกัน