บทที่ 42 เด็กขี้หวง

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 42 เด็กขี้หวง[รีไรท์]

หวงลี่ลี่อยากทักทายฉู่เหิน แต่ทันใดนั้นเธอก็เห็นเสี่ยวชิงที่เดินตามเข้ามาติด ๆ เมื่อเห็นแบบนั้นแววตาของเธอก็เปลี่ยนไปทันที ตาที่โตด้วยความตื่นเต้น ของเธอก็หรี่ลง เธอไม่แน่ใจว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่ ปากของเธอยิ้มกว้าง แต่แววตายังแสดงถึงความกังขา

“ลี่ลี่ เธอตื่นแล้วนี่ หิวไหม เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้ทาน อ้อ ลี่ลี่ ฉันจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือ…” ฉู่เหินยังพูดไม่จบ หวงลี่ลี่ก็พูดแทรกขึ้นมา

“พี่ออกไปก่อนเถอะ หนูอยู่กับพี่สาวคนนี้ได้”

เมื่อฉู่เหินได้ยินเช่นนั้นก็มองหวงลี่ลี่อย่างสงสัย แล้วยิ้มออกมา “อย่าเล่นอะไรแผลง ๆ ล่ะ ไม่อย่างนั้นเธอโดนดีแน่”

หวงลี่ลี่ชำเลืองมองพี่ชายแล้วแลบลิ้นใส่

“หนูชื่อลี่ลี่ใช่ไหม น่ารักจังเลย พี่ชายของหนูชมให้ฟังบ่อย ๆ ว่าหนูเป็นเด็กมีเหตุผล เขาบอกพี่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอไม่เลว และก็ไม่เคยทะเลาะกันเลย อะไรที่พี่เขาไม่ชอบ หนูก็ไม่ทำ”

ทันทีที่เสี่ยวชิงเข้ามาในห้อง เธอรู้ทันทีว่าหวงลี่ลี่ต้องมีปัญหากับเธอแน่ เธอรีบหยิบหมวกมาใส่ให้แล้วพูดข้างเบา ๆ ว่า “นี่สาวน้อย จะทะเลาะกับฉันเหรอ หนูยังเด็กอยู่เลยนะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิง หวงลี่ลี่ถึงกับอ้าปากค้าง เธอไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ อีกฝ่ายเอาหมวกใบโตมาใส่หัวให้เธอ ในอนาคตพวกเธอจะทะเลาะกันเรื่องอะไรอีก หวงลี่ลี่คิดว่าพี่สะใภ้ในอนาคตของเธอต้องฉลาดมากแน่ ๆ

“หนูรู้ว่าพี่เป็นแฟนพี่ชายหนู แต่การจะเป็นพี่สะใภ้หนูมันไม่ง่ายหรอกนะ ก่อนอื่นเลย หุ่นพี่ต้องดีกว่าหนู ตรงนี้ต้องใหญ่กว่าหนู ตรงนั้นก็ต้องคอดกว่าหนู ตอนนี้เราสองคนมาวัดกัน ถ้าของพี่ใหญ่กว่าหนู หนูถึงจะยอมให้พี่เป็นพี่สะใภ้หนูก็ได้” หญิงสาวแอ่นหน้าอกขึ้นอย่างไม่ยอมใครแล้วมองเสี่ยวชิงด้วยสายตาที่ท้าทาย

เสี่ยวชิงมองหน้าอกของหวงลี่ลี่แล้วก็อดกล่าวไม่ได้ว่า “สาวน้อย นี่ล้อเล่นรึเปล่า เธอนี่โง่รึไงถึงมาเปรียบเทียบอะไรแบบนี้ มันไม่ใช่ว่าใครใหญ่กว่าของใคร มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน”

เสี่ยวชิงพยายามนับเลขอยู่ในใจเพื่อให้ตัวเองสงบลง เธอเหลียวซ้ายแลขวาแล้วกล่าวว่า “ลี่ลี่ จะทำแบบนี้อีกนานแค่ไหน หนูก็รู้ว่าโลกข้างนอกมันโหดร้ายแค่ไหน วันนี้หนูตกอยู่ในอันตราย โชคดีแค่ไหนแล้วที่พี่ชายโผล่ไปตอนนั้น มันอันตรายมากเลยนะ แต่คนเลวพวกนั้นก็ต้องให้รับผลกรรม วันไหนที่ฉันจับมันได้ ฉันจะฉีกมันเป็นชิ้น ๆ เพื่อแก้แค้นให้เธอ”

เสี่ยวชิงพูดพึมพำระหว่างช่วยลี่ลี่จัดห้อง ดูเหมือนเสี่ยวชิงจะไม่สะทกสะท้านอะไรกับการเปรียบเทียบของลี่ลี่ เธอทำเหมือนเมื่อครู่ไม่ได้ยินอะไรสักอย่าง เสี่ยวชิงได้แค่ขำและบ่นเบา ๆ ว่า “สาวน้อย หนูนี่มันเหลี่ยมจัดจริง ๆ ฉันไม่เล่นด้วยหรอกนะ”

หวงลี่ลี่รู้สึกแปลกใจ เมื่อก่อนเธอคิดว่าพี่สะใภ้น่าจะเป็นคนไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ แล้วนี่มันอะไรกัน แค่ให้โอกาสกับตัวเองสักนิดก็ไม่มี คือต้องเข้าใจว่าเมื่อนานมากแล้ว ลี่ลี่นึกภาพเหตุการณ์แบบนี้หลายต่อหลายครั้งในหัว แต่วันนี้เรื่องราวกลับไม่เป็นเหมือนที่เธอวางบทไว้เลย!

ไม่นะ ตามบทมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นี่นา หวงลี่ลี่บ่นในใจ จากนั้นจึงกล่าวว่า “ถ้าอยากให้หนูยอมรับ พี่ก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางเสียล่ะ”

เมื่อพูดจบ หวงลี่ลี่ก็เงยหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ ถ้าอีกฝ่ายกล้า หวงลี่ลี่ก็มีด่านให้เธอวัดใจอีกหลายด่าน

“ลี่ลี่ แล้วตอนนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง ห้องไม่ชื้นไปใช่ไหม อย่าลืมเอาผ้าห่มมาตากบ่อย ๆ นะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นหวัดเอาได้ แล้วพวกเด็กสาวที่ไม่ยอมกินข้าวปลาเพื่อลดน้ำหนัก มันไม่ดีเลยนะ หนูต้องทานให้มากกว่านี้ เด็กกำลังโตแท้ ๆ” เสี่ยวชิงพูดต่อด้วยความห่วงใยหวงลี่ลี่

ถึงตอนนี้ ตาของหวงลี่ลี่เบิกโพลงหนักกว่าเก่า เธอไม่อยากจะเชื่อว่าเธอแพ้เสี่ยวชิง เธอไม่นึกว่าเสี่ยวชิงจะเป็นคนดีขนาดนี้ แถมยังเป็นห่วงเป็นใยทั้งที่เธอพูดจาแรงขนาดนั้น มันทำให้หวงลี่ลี่รู้สึกชื่นชมอยู่ในใจ

“พี่สะใภ้ พี่เป็นพี่สะใภ้ของหนูได้จริง ๆ หนูยอมพี่แล้วก็ได้ ทำไมน้ำเสียงของพี่ถึงเหมือนพี่ชายหนูเลยนะ มิน่าถึงเป็นแฟนกันได้เป็นคู่ที่เยี่ยมไปเลย!”

“นี่สิค่อยเป็นเด็กดีหน่อย! ไหนลองเรียกว่าพี่สะใภ้อีกทีสิ นี้ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นเด็กดี คราวหลังอย่าลืมเรียกเสียล่ะ”

หวงลี่ลี่ที่เดิมทีไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะสนใจอะไรเธอนัก แต่ไม่คิดว่าแค่เธอพูดว่าพี่สะใภ้สองคำนี้จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามยิ้มหัวเราะยอมรับถึงเพียงนี้ หวงลี่ลี่ไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไรออกมาดี

แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว หวงลี่ลี่รู้สึกดีใจแทนพี่ชาย การได้แต่งงานกับผู้หญิงแสนฉลาดถือเป็นความโชคดีมาก

“หนูไม่ได้มารบกวนวันนี้เพราะเรื่องอื่น พี่กับพี่ชายหนูคบกันมานานกว่าสามปีแล้ว ทำไมวันนี้ถึงมาบ้านหนูวันนี้ ถึงแม้พี่จะไม่ได้พูดอะไร หนูก็รู้ว่าเขาคิดถึงพี่มาก” หวงลี่ลี่ที่มีปัญหากับเสี่ยวชิงตั้งแต่เข้าบ้านมาคุยเปิดใจเรื่องความยุติธรรมของฉู่เหินช่วงสามปีที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่เธอดันจำคนผิด

“ยัยเด็กโง่ นี่หนูจำคนผิดรึเปล่า คนที่หนูพูดถึงคือเจี่ยถงถง ผู้หญิงที่ชื่อเจี่ยถงถงกำลังจะแต่งงานกับชายอีกคนเดือนหน้า เมื่อวันก่อน เธอกับแฟนมาแจกการ์ดให้พี่ชายหนู ฉันก็อยู่ด้วย”

เมื่อเสี่ยวชิงพูดจบ ห้องก็เงียบกริบ ทั้งสองคนไม่พูดอะไรกันอีก

ทันใดนั้นเอง หวงลี่ลี่ก็หลั่งน้ำตาออกมา เธอนึกถึงวินาทีที่พี่ชายของเธอได้รับการ์ดเชิญของเจี่ยถงถง เขาคงจะเศร้าใจมาก แต่อย่างน้อยก็โชคดี …โชคดีที่มีพี่สาวที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ ไม่อย่างนั้นพี่ชายของเธอคงไม่หายเจ็บเร็วขนาดนี้

“เธอไม่เลือกพี่ชายของหนู ก็ถือว่าเธอโชคไม่ดีเอง คนที่มีความสุขที่สุดเท่านั้นแหละที่จะได้แต่งงานกับพี่ชายหนู” ลี่ลี่น้ำตาคลอ เธอสะอึกสะอื้นเมื่อพูดจบ

เสี่ยวชิงเข้าไปกอดหวงลี่ลี่ไว้ในอ้อมแขน เธอคิดในใจว่า “ในที่สุดเด็กน้อยคนนี้ก็เข้าใจเสียที” เรื่องนี้ทำให้เธอรู้ว่าพี่ชายและน้องสาวคู่นี้สนิทกันมาก

เดิมทีฉู่เหินตั้งใจเล่าเรื่องหวงเจี้ยนหมิงให้ลี่ลี่ฟังหลังเตรียมอาหารเย็นเสร็จ แต่เด็กคนนี้หัวไว ไม่นานเธอก็รู้ความจริง เธอซักไซ้ฉู่เหินจนเขาไม่สามารถปิดเรื่องนี้ไว้ได้

เธอจะกังวลเรื่องพ่อของเธอ แต่ฉู่เหินบอกว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย อีกไม่นานพ่อของเธอก็ออกจากโรงพยาบาล ก่อนสัญญาว่าจะพาเธอไปหาพ่อแม่ที่โรงพยาบาลตอนที่พาเธอไปส่งกลับโรงเรียน

เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จ พวกเขาก็ไปเดินเล่นรอบบ่อปลา ตอนนี้ปัญหาที่ทำให้ฉู่เหินปวดหัวคือเขาไม่รู้ว่าปลาเกล็ดขาวกินอะไร ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ปลาคงไม่โตแน่ ๆ หลังจากเดินเตร็ดเตร่กันอยู่สักพัก ฉู่เหินก็พาทั้งสองสาวไปชมวิวที่ทะเล

“เสี่ยวชิง คืนนี้ค้างที่นี่เถอะ” เมื่อได้ยินคำขอของฉู่เหิน เสี่ยวชิงก็หน้าแดง แต่เมื่อเธอเห็นความบริสุทธิ์ใจของฉู่เหิน เธอก็รู้ทันทีว่าตัวเองคิดมากไป

“ลี่ลี่กลับมาอยู่ที่บ้านเพราะมีเรื่องเกิดขึ้นหลายอย่าง ฉันว่าถ้าเธออยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนน้อง”

Next