บทที่ 27 ถูกอาจารย์ไล่ออกจากสำนัก

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 27 ถูกอาจารย์ไล่ออกจากสำนัก

“ท่านสาม ต้องขออภัยด้วย ที่ทำให้คุณรอนาน”

หลิวเจี้ยนหัวสวมชุดสูท ประสานมือทั้งสองข้างเป็นการคำนับท่านสาม

เป็นเพราะเขาขี้ลืม และลืมว่าวันนี้มู่เซิ่งก็มาร่วมงานเลี้ยงด้วยเช่นกัน ตอนแรกเขาแต่งตัวธรรมดา และเตรียมตัวจะออกจากบ้าน แต่หลังจากนึกขึ้นได้ เขาก็ไปซื้อสูทใหม่ที่ร้านทันที สามารถกล่าวได้ว่ามู่เซิ่งเป็นอาจารย์ที่มีพระคุณของตนเอง ดังนั้นต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ โดยไม่เกี่ยวข้องกับอายุ

“มีอะไรหรือเปล่า?”

หลิวเจี้ยนหัวขมวดคิ้ว และรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องโถงผิดปกติ

ทุกคนต่างเงียบ ตอนนี้แม้แต่สีหน้าของท่านสามก็น่าเกลียดเล็กน้อย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่กลุ่มญาติที่ไม่รู้ความ สร้างปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น”

เมื่อเห็นกลุ่มญาติดูถูกลูกชายของตนเอง เฉินเสว่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว เธอจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

“หมอเทวดาหลิว รีบตรวจรักษาคุณพ่อเถอะ”

“อืม การรักษาเป็นเรื่องสำคัญ”

เจียงไห่เชาพยักหน้าซ้ำ ๆ เช่นกัน

เจียงหว่านอยากจะยืนขึ้น เพื่อให้เจียงมู่หลงขอโทษสามีของเธอ เพียงแต่ตอนนี้ เธอไม่สามารถขัดขวางหมอทำการตรวจรักษาคุณปู่ได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงเฝ้ามองเฉินเสว่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเท่านั้น

มู่เซิ่งที่นั่งอยู่ด้านล่าง ยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“หมอเทวดาหลิว คุณช่วยตรวจผมเถอะ” ท่านสามไม่อยากพูดอะไรมาก และกล่าวกับหลิวเจี้ยนหัว

“ได้ครับ”

หลิวเจี้ยนหัวก็ไม่ได้ชักช้า เพราะคราวนี้การที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมาตรวจรักษาท่านสาม เขาหยิบเข็มเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะ จากนั้นยื่นมือขวาออกไปแล้ววางบนข้อมือของท่านสามอย่างช้า ๆ

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย เผยให้เห็นท่าทางที่ครุ่นคิด

ทุกคนกลั้นหายใจและเฝ้ามอง และไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ประมาณครึ่งก้านธูป ทุกคนนั่งเงียบตลอด และไม่กล้าขยับตัว

“เป็นตามที่คาดการณ์ไว้จริง ๆ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าแขนของคุณเคยฝังเข็มผิดจุด ทำให้เส้นเลือดของท่านสามอุดตัน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ร้ายแรง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะรู้สึกแขนชาเล็กน้อย” หลิวเจี้ยนหัวกล่าว

“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ” ท่านสามแสดงสีหน้าเข้าใจทันที

“ไม่เสียแรงที่เป็นหมอเทวดาหลิว แค่ตรวจสักครู่ก็สามารถบอกอาการได้” เจียงไห่เชากล่าวชมอยู่ด้านข้าง

หมอเทวดาหลิวหยิบเข็มออกมา แล้วเอาเข็มลนไฟ ขณะที่เขากำลังจะลงมือ ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่ามู่เซิ่งเคยฝังเข็มให้ท่านสามมาก่อน และเขากลัวว่ามู่เซิ่งจะทิ้งอะไรแอบแฝงไว้ เขาจึงไม่กล้าฝังเข็มทันที ดังนั้นเขาจึงวางเข็มลงและกล่าวว่า “ว่าแต่ มู่เซิ่งอยู่ที่ไหน? เขามาหรือยัง?”

“ใคร?”

ทุกคนต่างตกตะลึง และคิดว่าได้ยินชื่อผิด

“มู่เซิ่ง สามีของคุณ” หมอเทวดาหลิวกล่าวซ้ำอีกครั้ง เขาไม่รู้สถานการณ์การแต่งงานที่แท้จริงระหว่างมู่เซิ่งและเจียงหว่าน และไม่รู้ว่าสถานะของเขาในตระกูลเจียงนั้นต่ำต้อยเพียงใด

“หมอเทวดาหลิว คุณต้องการพบมู่เซิ่งด้วยธุระอะไร?” เจียงไห่เชาถาม

“เขาเคยฝังเข็มที่แขนของท่านสามใช่ไหม?” หมอเทวดาหลิวถาม เทคนิคการฝังเข็มที่แขนของท่านสามนั้นลึกลับมาก มีเพียงมู่เซิ่งเท่านั้นที่สามารถทำได้

ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจ ที่หมอเทวดาหลิวสามารถมองออกว่ามู่เซิ่งเป็นคนฝังเข็มให้ท่านสาม หรือว่าคนไม่เอาถ่านคนนี้มีความสามารถจริง ๆ? ทุกคนรู้สึกสงสัย

“เชี่ย! ผมจำได้แล้ว เรื่องทั้งหมดต้องโทษมู่เซิ่ง!”

ขณะนี้ เจียงมู่หลงตบต้นขาตนเองอย่างแรง

“โทษมู่เซิ่ง? เขาทำอะไรเหรอ?” สีหน้าของหลิวเจี้ยนหัวเต็มไปด้วยความสับสน

“คุณไม่รู้หรอกว่าหลังจากคุณจากไปแล้ว มู่เซิ่งฝังเข็มที่แขนของท่านสามอีกครั้ง เพื่อแย่งความดีความชอบของคุณหมอหลี่! ผมคิดว่าเป็นเพราะมู่เซิ่งฝังเข็มไปเรื่อย จนทำให้เส้นเลือดที่แขนของคุณปู่อุดตัน?” เจียงมู่หลงแสดงสีหน้าโกรธเคือง ราวกับว่ามู่เซิ่งเป็นคนบาปที่ชั่วร้าย

จ้าวหลินยิ้มด้วยความอึดอัดเช่นกัน คนอื่นหยิบยกเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลขึ้นมาพูดตามที่คาดการณ์ไว้จริง ๆ ตอนนั้นเขาถูกเยาะเย้ยเพราะแย่งความดีความชอบ และตอนนี้มีคนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าอายจริง ๆ!

“อาจารย์ มู่เซิ่งแค่ฝังเข็มไปเรื่อยเท่านั้น ตอนนั้นเขาเกือบทำให้ท่านสามเกิดโรคแอบแฝงอยู่ในร่างกาย ถ้าไม่ใช่เพราะผมลงมือรักษา ท่านสามอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้!”

หลี่น่องแอบหัวเราะ ถึงแม้ว่าเขาอยากจะเยาะเย้ยมู่เซิ่ง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์แล้ว เขาไม่สามารถทำมากเกินไปได้ ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นเจ็บใจแทนอาจารย์ และกล่าวด้วยความโกรธ

“อาจารย์ เขาบอกว่าผมฝังเข็มไปเรื่อย แล้วยังบอกว่าอาจารย์รู้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เขาทำให้ผมรู้สึกโกรธมาก!”

“เขาดูถูกผม ไม่เป็นไร! แต่ผมทนไม่ได้ที่คนไม่เอาถ่านคนนี้ทำให้อาจารย์เสียชื่อเสียง!”

หลี่น่องเต็มไปด้วยความโกรธเคือง!

“ใช่! เวลาปกติ ถ้าคนไม่เอาถ่านทำอะไรผิดพลาดก็ช่างมันเถอะ แต่คราวนี้เขาทำผิดพลาดกับคุณปู่ เดิมทีสุขภาพของคุณปู่ก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว จะปล่อยผ่านง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้! ต้องให้เขาขอโทษ!”

เจียงมู่หลงมองมู่เซิ่งด้วยสายตาดุดัน และมีรอยยิ้มหยอกล้ออยู่ที่มุมปาก

เฉินเสว่กล่าวด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง “คนไม่เอาถ่าน รีบขอโทษซะ และต่อไปก็เจียมเนื้อเจียมตัวด้วย”

“ใช่! ต้องขอโทษ!”

“เรื่องนี้มันมากเกินไปจริง ๆ ถ้าหมอเทวดาหลี่รักษาไม่ทันท่วงที ผมไม่กล้าจินตนาการถึงผลที่ตามมา!”

สีหน้าของเจียงไห่เชาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามเช่นกัน “ผมบอกตั้งแต่แรกแล้ว คุณเป็นแค่พ่อบ้านเท่านั้น จะรู้วิธีฝังเข็มได้อย่างไร?”

เดิมทีฝูงชนที่เงียบ เมื่อได้ยินประโยคนี้ ต่างหัวเราะเสียงดัง

“ฮ่า ๆ ๆ คนไม่เอาถ่าน คุณเย่อหยิ่งนักไม่ใช่เหรอ?”

หลี่น่องทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาหัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล คุณยังบอกว่าตนเองเป็นคนที่ฝังเข็มช่วยชีวิตท่านสามเอาไว้? คุณคู่ควรเหรอ! ไม่เจียมตัวจริง ๆ คุกเข่าขอโทษผมเดี๋ยวนี้!”

เสียงของหลี่น่องดังขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายเขาชี้ไปที่มู่เซิ่งและตะโกนเสียงดัง!

เพราะการคุกเข่าให้มู่เซิ่งในโรงพยาบาล เป็นปมในใจที่ทำให้เขายากจะลืมเลือน

ตอนนี้ เมื่อหลี่น่องเห็นโอกาส เขาต้องคว้าไว้อย่างแน่นอน เขาไม่เพียงต้องการให้คนไม่เอาถ่านคุกเข่าเท่านั้น แต่ยังต้องกราบเขาอีกด้วย ถึงจะสามารถระบายความแค้นที่อยู่ในใจของเขาได้

“คนไม่เอาถ่าน ได้ยินไหม ยังไม่รีบคุกเข่าอีก?” เจียงมู่หลงตำหนิด้วยความเย็นชา

อย่างไรก็ตาม วินาทีถัดมา ภาพที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น สีหน้าของหลิวเจี้ยนหัวที่นั่งอยู่ด้านข้างเคร่งขรึมทันที และเขาตบหน้าหลี่น่องอย่างแรงต่อหน้าสาธารณชน!

เพี๊ยะ!

หลิวเจี้ยนหัวใช้กำลังทั้งหมด ทำให้หลี่น่องพลิกตัวและตกจากเวทีลงอยู่บนโต๊ะ จนทำให้แก้วน้ำจานชามที่อยู่บนโต๊ะกระจายอยู่บนพื้น

“นี่มัน……”

ทุกคต่างตกตะลึง ปกติหลิวเจี้ยนหัวเป็นคนสุขุมเยือกเย็น และพวกเขาไม่เคยเห็นเขาโกรธขนาดนี้มาก่อน

“หมอเทวดาหลิว เกิดอะไรขึ้น?” เฉินเสว่ที่ยืนอยู่ด้านข้างกล่าวด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ ๆ หลิวเจี้ยนหัวถึงได้โมโห

หลิวเจี้ยนหัวเดินลงมาจากเวที และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ขออภัยที่ผมไม่มีความสามารถเพียงพอ ผมไม่สามารถรักษาอาการป่วยของท่านสามได้!”

ตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจว่าตระกูลเจียงคิดว่ามู่เซิ่งเป็นคนไม่เอาถ่าน ซึ่งทำให้หลิวเจี้ยนหัวรู้สึกโกรธมาก! คนเหล่านี้สมองพิการเหรอ? เพราะทักษะทางการแพทย์ของมู่เซิ่งนั้นสูงมาก ซึ่งเขาทำได้เพียงแค่แหงนหน้ามองเท่านั้น ไม่รู้ว่ามีหมอชั้นนำกี่คนที่ต้องการเห็นทักษะฝีมือของมู่เซิ่ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็น และขอเพียงแค่เขาพูดประโยคเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้เขากลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของเศรษฐีในเมืองเยียนจิง!

แต่บุคคลดังกล่าว กลับยอมอยู่ในตระกูลเจียงที่เป็นตระกูลเล็ก ๆ และพวกคุณคิดว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ เป็นคนไม่เอาถ่านที่เกาะผู้หญิงกิน? นี่มันเป็นเรื่องที่โง่เขลาสิ้นดี! !

“อาจารย์ ศิษย์พูดอะไรผิด ทำไมอาจารย์ถึงได้ตบหน้าศิษย์?” หลี่น่องรู้สึกอึ้ง

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงตบหน้าเขา

“คุณถามว่าผมตบหน้าคุณทำไมใช่ไหม?”

เมื่อหลิวเจี้ยนหัวเห็นหลี่น่อง ทำให้เขารู้สึกโกรธมาก และตบหน้าเขาอย่างแรงอีกครั้ง

“คุณไม่เข้าใจ? ถ้าเช่นนั้นผมจะบอกคุณเดี๋ยวนี้!”

“คุณมู่บอกว่าคุณฝังเข็มไปเรื่อย มันก็หมายความว่าคุณฝังเข็มไปเรื่อย!”

“คุณมู่บอกว่าผมฝังเข็มเป็นแค่ผิวเผินเท่านั้น สำหรับเขาแล้ว ผมรู้แค่ผิวเผินจริง ๆ!”

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

ตบซ้ายตบขวา!

หลิวเจี้ยนหัวรู้สึกโกรธมาก ตบหน้าหลี่น่องหลายครั้ง จนทำให้หน้าของหลี่น่องเต็มไปด้วยเลือด เขารู้สึกเจ็บปวดจนตัวงอเหมือนกุ้ง กอดศีรษะอยู่บนพื้น และร้องด้วยความเจ็บปวด

“ผมเสียใจจริง ๆ ผมควรจะไล่คุณออกตั้งแต่ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว!”

“ศิษย์ชั่ว นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่ลูกศิษย์ของผมอีกต่อไปแล้ว!”

เสียงคำรามราวกับเสียงสายฟ้า

ทุกคนต่างมองภาพนี้ และยืนอยู่ที่เดิม แค่รู้สึกถึงพลังที่รุนแรงพุ่งตรงไปที่สมอง และรู้สึกว่าสมองว่างเปล่า