ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

“ชี่ ชี่…..” ที่ต้นไม้สูงต้นหนึ่งมีงูขนาดใหญ่รัดพันมันอยู่ ลำตัวของมันหนาเท่าต้นขา ตามเกล็ดเป็นสีเงินยวงและภายในปากมีน้ำลายสีทองไหลย้อยออกมา ดวงตาสีเขียวเปล่งแสงแวววับขณะที่มันจับจ้องอยู่ที่ฉินเทียน
มันคือสัตว์ปีศาจระดับที่สอง อสรพิษเงิน
พลังชีวิต 3,000
ค่าประสบการณ์ 130
ค่าพลังปราณ 58
ค่าการรอดชีวิต 1
“บัดซบ! พลังชีวิตของมันจะสูงไปแล้ว” ฉินเทียนมองดูแถบพลังชีวิตที่ปรากฏอยู่เหนือหัวของอสรพิษเงิน
เขาค่อยๆขยับขาอย่างช้าๆ หลีกเลี่ยงการเหยียบกิ่งไม้เพื่อไม่ให้เกิดเสียง
การเคลื่อนไหวของฉินเทียนไปกระตุ้นอสรพิษเงินขึ้น ลำตัวอันยาวเหยียดของมันที่เลื้อยพันไปตามต้นไม้ทำให้เกล็ดสีเงินส่องสะท้อนกับแสงจันทร์
ร่างของฉินเทียนยังคงเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้า
ในเวลานั้นเอง อสรพิษเงินที่จ้องมองฉินเทียนจากบนต้นไม้พลันร้องออกมา
ลำแสงสีเงินพลังพุ่งตรงไปยังลำคอของฉินเทียน ปากของอสรพิษเงินอ้าขึ้นจนเผยให้เห็นเขี้ยวยาวสองอัน มันหวังพุ่งฉกกัดลำคอฉินเทียนให้ดับดิ้นไป
ฉินเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา สัตว์ปีศาจระดับที่สองช่างมีสติปัญญาที่ต่ำจริงๆ แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ของฉินเทียนย่อมต้องเป็นหลุมพราง
ฉินเทียนถอยหลังครึ่งก้าว ยืมแรงจากขาหลังค้ำยันพื้น การเคลื่อนไหวนี้พอดีกับที่อสรพิษเงินโจมตีเข้ามา
ฉินเทียนใช้เคล็ดมังกรฟ้าห่อหุ้มพลังปราณไปที่ฝ่ามือ โดยไม่แม้แต่จะก้าวไปด้านหน้า ร่างกายของเขามีพลังต้องห้ามของมังกรสวรรค์ไหลซึมออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า หนักแน่นดุจคชสาร แกร่งกล้า ทรงพลัง เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง
“ปัง!” หมัดที่มีพละกำลังเทียบเท่ากับคชสารสิบเชือกพลันระเบิดจนหัวของอสรพิษเงินจนสมองกระจุยกระจาย
“ช่างรู้สึกดีจริงๆ”
ภายใต้การใช้งานเคล็ดมังกรฟ้าแล้ว กระดูกทั่วร่างของเขาดูราวกับถูกพลัดเปลี่ยนร่างใหม่จนสมบูรณ์ ทั่วร่างอัดแน่นไปด้วยพลัง เช่นเดียวกับหมัดที่เขาเพิ่งจะต่อยออกไป พลังของมันเทียบได้กับคชสารนับสิบเชือกอทั้งรวดเร็วและทรงพลังเฉกเช่นสายฟ้าแล่นผ่าน
สัตว์ปีศาจระดับที่สองตกตายในกระบวนท่าเดียว
ฉินเทียนยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกถึงพลังปราณที่เพิ่มขึ้น เขาทำการตัดหัวของอสรพิษเงินออกและเอาใส่ป้ายไม้ จากนั้นจึงหันหลังและเร้นกายหายไปในความมืด
โฮกกกกกก!
สัตว์ปีศาจระดับที่สาม กอลิล่าแขนยาว มันมีพละกำลังมหาศาล ยามที่หยิบจับเอาท่อนไม้ขึ้นมาสะบัดจะดูคล้ายแม่ทัพสวรรค์กำลังกวัดแกว่งกระบี่ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างไป
ฉินเทียนยกยิ้มเย็นก่อนจะกระโจนออกไปพร้อมเรียกใช้พลังปราณ ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาพลันแหลมคมดุจใบมีด เขาสับมือลงไปอย่างรุนแรง ตัดแขนของกอลิล่าแขนยาวออกมา
แม้ว่ากอลิล่าแขนยาวจะได้รับบาดเจ็บหนัก หากแต่มันก็ไม่ได้เลือกที่จะหลบหนี ตรงกันข้าม มันกลับยิ่งคลุ้มคลั่งขึ้นมา มันเหวี่ยงแขนที่เหลือเพียงข้างเดียวออกไปเพื่อต้องการจะทุบร่างของฉินเทียนให้แหลกคามือ
มองไปที่แถบพลังชีวิตของกอลิล่าแขนยาวแล้ว ฉินเทียนก็แค่นเสียงออกมา “จบสิ้นแล้วแต่ก็ยังต้องการจะสู้?”
กอลิล่าแขนยาวเหลือพลังชีวิตอยู่เพียงก้นหลอด ต่อให้ฉินเทียนไม่ลงมือ เมื่อเวลาผ่านไปมันก็ต้องตายอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ฉินเทียนไม่ต้องการจะเสียเวลาให้มากความ ดังนั้นเขาจึงยินดีที่จะรับแขนอีกข้างที่เหลือไปด้วยฝ่ามือคู่ของเขา
หากนับในเรื่องของพละกำลังแล้ว ฉินเทียนไม่เกรงกลัวผู้ใดหรือสิ่งใดอีก ไม่ว่าสัตว์ปีศาจตัวนั้นจะมีพละกำลังมากมายเพียงใด มันยังจะเทียบได้กับเคล็ดวิชาจากคัมภีร์มังกรฟ้าได้หรือ?
ภายในจุดตันเถียนที่เสียหายของเขา เคล็ดมังกรฟ้าได้หมุนเวียนระลอกแล้วระลอกเล่า พลุ่มพล่านปั่นป่วนราวกับมีคชสารนับสิบกำลังห้อตะบึง ทั้งยังเปล่งรัศมีของมังกรออกมา ด้วยพลังสองขุมที่ผสามนเข้าด้วยกันแล้ว เพียงสัตว์ปีศาจระดับต่ำยังจะทำอะไรเขาได้?
“โฮกกก…..” กอลิล่าแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดอีกไม่กี่ครั้งก่อนจะล้มตึงแน่นิ่งไป
แถบพลังชีวิตบนหัวของกอลิล่าก็ค่อยๆหายไป ฉินเทียนลดมือลงและยิ้มออกมา มีเสียงของระบบดังขึ้นภายในจิตใจของเขา
“ของแสดงความยินดีต่อผู้เล่นฉินเทียน ได้รับค่าประสบการณ์ 190 หน่วย ค่าพลังปราณ 73 จุด ค่าการรอดชีวิต 1 จุด”
‘มอนสเตอร์เพียงตัวเดียวกลับให้ค่าประสบการณ์ถึง 150 หน่วย คงไม่ใช่ว่าเราสามารเก็บค่าประสบการณ์ได้ครึ่งหลอดเพียงแค่ล่าพวกมันไปทั้งคืน?’ ฉินเทียนเริ่มนับคำนวณในใจ
ตั้งแต่ตอนที่เขากลายเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่หก ค่าประสบการณ์จากโณงฆ่าสัตว์ก็ไม่นับเป็นอย่างไรอีก เขาเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี ยิ่งระดับของเขาสูงขึ้น ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากมอนสเตอร์ระดับต่ำก็ยิ่งลดน้อยลง แต่ตอนนี้เขาสามารถล่ามอนสเตอร์ระดับสูงเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ได้
โรงฆ่าสัตว์ไม่ได้ช่วยเขาอีกต่อไป หากว่าเขาต้องการจะเพิ่มระดับ เขาก็จำต้องเข้าไปในเทือกเขาคุนหลุน ที่สิบกิโลเมตรแรกเขาสมควรต้องล่าอีกราวครึ่งเดือน สถานที่แห่งนี้ช่างเหมาะสมต่อการเก็บเลเวลอย่างยิ่ง!
หลังจากฉินเทียนตัดหัวของกอลิล่าแขนยาวออกมา เขาก็ใส่มันเข้าไปในป้ายไม้ จากนั้นจึงออกเดินทางต่อ
ก่อนที่เขาจะเข้ามาด้านใน ฉินซานเทียนได้เตือนเขาไม่ให้เข้าไปในส่วนลึกของเทือกเขาคุนหลุนเพราะมันอันตรายอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะอยู่เพียงรอบนอกชายเขตของเทือกเขาก็ตาม ไม่มีผู้ใดสามารถรับรองได้ว่าจะไม่มีสัตว์ปีศาจระดับที่ห้าปรากฏตัวออกมา สัตว์ปีศาจระดับที่ห้าสามารถสร้างแก่นปีศาจขึ้นมาได้ สติปัญญาของวกมันจะเพิ่มขึ้นทั้งยังสามารถใช้พลังปีศาจออกมา
กระทั่งผู้ฝึกตนขั้นรวบรวมวิญญาณก็ยังยากที่จะรับมือกับสัตว์ปีศาจระดับที่ห้า นี่ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของสัตว์ปีศาจที่มีแก่นปีศาจแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ล่าสัตว์ปีศาจเพื่อแก่นปีศาจ ภายในทวีปเทียนหยวน แก่นปีศาจนั้นมีมูลค่าสูงล้ำ กระทั่งเหล่าผู้ฝึกตนระดับสูงก็ยังต้องการมัน ภายในโลกแห่งผู้ฝึกตนแล้ว แก่นปีศาจแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีล้ำค่าย่อมต้องใช้แก่นปีศาจซื้อหามา
สำหรับสัตว์ปีศาจที่จะมาถึงระดับที่ห้า มันจะต้องใช้เวลาบ่มเพาะนานนับสิบปี แต่ว่าหากจะสร้างแก่นปีศาจขึ้นมาแล้วล่ะก็ มันจะต้องใช้ระยะเวลานับร้อยปี
แก่นปีศาจมีวิธีใช้งานที่หลากหลาย
หากใช้หลอมเข้ากับอาวุธ อาวุธก็จะสามารถสำแดงอานุภาพที่เหนือจินตนาการออกมา มันสามารถเปลี่ยนอาวุธทั่วไปให้กลายเป็นอาวุธชั้นยอดได้
แก่นปีศาจยังทำให้นักปรุงยาใฝ่ฝันต้องการครอบครอง แก่นระดับสูงยังสามารถสกัดกลั่นเป็นเม็ดยาที่น่าอัศจรรย์ เป็นเม็ดยาระดับอมตะ
และมันยังสามารถกลืนเข้าไปได้โดยตรง หลังจากที่กลืนเข้าไปแล้ว ร่างกายก็จะดูดซับพลังจากแก่นปีศาจ ผู้ฝึกตนที่กลืนมันเข้าไปโดยตรงรูปลักษณ์ของพวกมันจะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นคล้ายกับสัตว์ปีศาจ ภายในทวีปเทียนหยวน มีผู้ฝึกตนที่ทรงพลังบางคนได้พึ่งพาวิธีนี้บรรลุความแข็งแกร่ง และนั่นทำให้พวกมันมีรูปลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับสัตว์ปีศาจ โชคดีที่นอกจากรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งอื่นๆไม่ได้เปลี่ยนไปอีก
แก่นปีศาจเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างมาก มีผู้ฝึกตนต้องการเสี่ยงโชคได้เข้าไปที่ส่วนลึกของเทือกเขาคุนหลุนเพื่อหวังจะได้รับแก่นปีศาจและใช้มันไขว่คว้าหาความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม มีเพียงหนึ่งในสิบที่เข้าไปแล้วได้กลับออกมา
ในระหว่างทาง ฉินเทียนได้เผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจมากมาย กระนั้นก็ไม่มีแม้แต่ตัวเดียวที่หนีรอดไปได้
ค่าพลังปราณเมื่อรวมเข้ากับที่เขามีอยู่แล้ว มันก็เกินสี่พันจุด เขายังต้องเก็บค่าประสบการณ์อีกราวครึ่งหลอดก็จะสามารถเลื่อนระดับขึ้นเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่เจ็ด
ตอนนี้ฉินเทียนยืนอยู่ที่ชายขอบของอาณาเขต มองดูภูเขาอันใหญ่โตที่ให้บรรยากาศอันน่าขนลุกออกมา ราวกับว่ามันสามารถกลืนกินได้ทุกสิ่ง
สำหรับฉินเทียนแล้ว เทือกเขาคุนหลุนมีความดึงดูดอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม สัตว์ปีศาจภายในภูเขาคุนหลุนยังไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรับมือได้ ตอนนี้เขายังเป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นที่หก เขาสามารถสังหารสัตว์ปีศาจระดับที่สามหรือต่ำกว่าได้ไม่ยาก แต่หากต้องรับมือกับสัตว์ปีศาจระดับที่ห้าแล้วล่ะก็ เขาก็คงมีแต่ต้องตายสถานเดียว
ฉินเทียนไม่ได้เดินลึกเข้าไปอีก แต่อุทานออกมาขณะมองดูภูเขาอันสูงใหญ่ “มันคือสรวงสวรรค์แห่งการเก็บเลเวลจริงๆ อา รอก่อนเถอะ อีกไม่นาบิดาผู้นี้จะต้องกลับมาเยือน!”
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ขณะที่ฉินเทียนกำลังจะจากไปนั้น เสียงคำรามที่สะเทือนสวรรค์และปฐพีก็ดังออกมาจากที่ห่างไกล ทำให้ฝูงนกที่เกิดความแตกตื่นโผบินขึ้นจากต้นไม้จนก่อเป็นฝุ่นผงลอยคละคลุ้งทั่วบริเวณ
ฉินเทียนตกตะลึงขณะที่คิดขึ้นในใจ ‘บอสคลุ้มคลั่ง?’
ฉินเทียนไม่กล้ารั้งอยู่ต่อไปอีก เขาหันหลังออกวิ่งทันที สัตว์ปีศาจระดับที่ห้านั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว เขาไม่โอหังพอจะอยู่เพื่อสู้กับมัน นั่นราวกับการนำไข่ไปกระทบกับหิน
อีกประการหนึ่งก็คือ นี่ไม่ใช่เกม หากว่าเป็นภายในเกมเขาก็ยังจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังจากที่ตกตาย ทว่าที่นี่เขาจะถูกกลบฝังไปตลอดกาล
หากว่าไม่ออกวิ่งแล้ว นั่นก็เท่ากับกำลังรนหาที่จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ไอ้มอนสเตอร์ที่มีขนสีขาวก็กำลังวิ่งตะบึงมายังเขา!