ตอนที่ 34 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (34)

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 34 เริ่มเลย มาถ่ายทอดสดกินปลาหมึกกันเถอะ (34) 

เหล่าทหารที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอยู่ จู่ ๆ บางคนก็ได้รับการเลื่อนขั้นอย่างกะทันหัน ทว่าพวกเขากลับโดนทหารคนอื่นไล่ออกไปในทันที เพราะเกรงว่าการเลื่อนขั้นจะส่งผลกระทบต่ออาหารอันแสนอร่อย!

สวี่หลิงอวิ๋นผู้ชั่วร้าย!

ผู้ชมมีความปรารถนาอยากจะลิ้มรสอาหารเหล่านั้น ทว่าสวี่หลิงอวิ๋นกลับไม่ยอมแชร์รสชาติอาหาร แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรได้?

ทำได้เพียงจ้องมองเท่านั้น!

ในช่วงท้าย สวี่หลิงอวิ๋นเกิดความคิดที่จะขายเครื่องปรุงรส อืม…ดังนั้นปุ่มแชร์รสชาติอาหารจึงถูกเปิดใช้งาน!

และแล้วผู้ชมก็ได้ลิ้มลองรสชาติอันแสนวิเศษนี้

“อร่อยมาก! ฉันจะตายแล้ว! ฉันจะตายแล้ว!”

“ฮือ ๆๆ! ฉันอยากจะบอกว่านิสัยขององค์หญิงสามไม่เป็นปัญหาสำหรับฉันเลย องค์หญิงสาม! ฉันรักท่าน!”

“องค์หญิงสาม ฝ่าบาท ท่านอย่าโกรธเคืองคนโง่เขลาพวกนั้นที่ทำให้พวกเราเดือดร้อนได้ไหมคะ?! พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์!”

……..

ผู้คนจำนวนมากออกมาร้องขอความเมตตา!

สำหรับคนที่พูดล่วงเกินสวี่หลิงอวิ๋นไปก่อนหน้านี้ พวกเขาทำได้เพียงหุบปากและทำตัวสงบเสงี่ยมให้ได้มากที่สุดในเวลานี้

ว่ากันว่าปากที่กินอาหารของผู้อื่นอ่อนลง มือที่ยึดทรัพย์ของผู้อื่นนั้นสั้นลง

ทันทีที่พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติอาหารของสวี่หลิงอวิ๋น พวกเขาก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก

เพียงแต่รู้สึกอับอาย

แน่นอนว่าผู้คนไร้ยางอายที่ด่าทอสวี่หลิงอวิ๋นก่อนหน้านี้กำลังก้มหน้าก้มตากินอาหาร ดังนั้นอย่าต่อว่าสวี่หลิงอวิ๋นว่าเธอเป็นคนไร้มารยาทหากเธอจะขึ้นบัญชีดำคนเหล่านั้น

บัดซบ! ต่อให้เธอจะเป็นคนดีขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะมาชี้นิ้วสั่งก็ได้ ถ้าคุณทำตัวแย่ใส่คนอื่น คุณคาดหวังจะได้คำชมกลับคืนหรือไง?!

คนพวกนั้นถึงกับตกตะลึง!

เมื่อมองดูชาวเน็ตคนอื่นบรรยายรสชาติบาร์บีคิว รสชาติซุป รสชาติผัดผักเนื้อว่าเป็นอย่างไรบนช่องแสดงความคิดเห็นหรือกระทู้ พวกเขาก็ถึงกับรู้สึกหิวโหย!

น่าเสียดายที่ไร้ยาใจ!

โธ่เอ๊ย!

ช่างมัน ไม่กินก็ได้!

จากนั้นคำด่าทอก็เริ่มรุนแรงยิ่งขึ้น!

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขณะที่เขากำลังพิมพ์ด่าทอ

ทันทีที่ประตูเปิดออก ตำรวจในเครื่องแบบก็ปรากฏกายต่อหน้าเขา พร้อมกับหมายเรียก “การล่วงละเมิดผู้อื่นอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะถือเป็นอาชญากรรมด้านความปลอดภัยทางโลกไซเบอร์! รับไปซะ!”

รู้เรื่อง!

เมื่อคนเหล่านี้ถูกพาออกไป พวกเขาถึงกับหน้าเสียทันทีที่เดินเข้าไปในสถานีตำรวจ

พระราชาให้การสนับสนุนลูกสาวของเขาเป็นอย่างดี ฮึ่ม! พอประชาชนไม่พูดอะไร ก็คิดจะรังแกคนไม่มีทางสู้แบบนี้ใช่ไหม?

แต่พวกคุณกินอาหารที่องค์หญิงสามเป็นคนทำแล้วยังกล้าด่าทอเธออยู่อีกหรือ? อย่าถามว่าพ่อของเธอเห็นด้วยหรือไม่!

ทันทีที่พระราชาเคลื่อนไหว เหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดทั้งหลายก็หยุดนิ่ง

โลกอินเทอร์เน็ตกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

แม้แต่ต้าไป๋ก็ยังได้กลิ่นหอมโชยมา และนี่เป็นครั้งแรกที่มันได้ลิ้มลองรสชาติอันเอร็ดอร่อยเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้มแซ่บปลาผักดอง

ว้าว! มันหอมมาก!

ราวกับลูกน้อยของมันกำลังได้โบยบินไปยังสรวงสวรรค์ น่าเสียดายที่มันกินเนื้อปลาหมึกยักษ์และแป้งต้มไปก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้มันจึงกินอาหารเข้าไปไม่ได้เยอะมากนัก

โธ่เอ๊ย…แย่จัง!

น่าเสียดายที่ต้องทนมองทหารทั้งหลายกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยจนจำนวนอาหารลดลงไปเล็กน้อย มันหันไปมองสวี่หลิงอวิ๋นก่อนจะตัดสินใจครั้งใหญ่!

มันจะติดตามผู้หญิงคนนี้ไปด้วย!

ติดตามเธอเพื่อกินอาหารแสนอร่อย!

หลังจากต้าไป๋ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว มันตัดสินใจว่าในอนาคตมันจะพยายามเข้ากันได้ดีกับคนตักอึ

“ทำไม? ยังไม่อิ่มอีกเหรอ? อ๊ะ ฉันยังมีอาหารอยู่อีกนะ ถ้าแกยังอยากกินอีก หลังจากการสู้รบในคืนนี้จบสิ้น ฉันจะทำให้แกตัวเดียว” สวี่หลิงอวิ๋นลูบหัวของมันและยกยิ้ม

ต้าไป๋เอียงศีรษะ เอ๋? ใช่ของอร่อยหรือเปล่า? อาจจะใช่!

ลืมมันไปเสียเถอะ เจ้าคนตักอึ ไว้คืนนี้ค่อยมาคุยกัน!

ต้าไป๋สะบัดหางของมันด้วยท่าทางสมจริง และจากไป

และสวี่หลิงอวิ๋นไม่ได้รู้เลยว่าเธอพลาดโอกาสสร้างความประทับใจให้แก่ต้าไป๋ไปเสียแล้ว

ผู้ชมยังคงปรารถนาที่จะทานอาหารต่อไปอีก ทว่าไม่มีงานเลี้ยงใดในโลกไม่เลิกรา นอกจากนี้องค์หญิงสาม ฝ่าบาทยังมีเมตตาไว้หน้าพวกเขา และให้ได้ลองลิ้มรสชาติ

โอ้ ไม่อย่างนั้นบุคคลประเภทนี้จะมีทั้งคนรักและคนเกลียดเหรอ?!

คุณต้องยอมเขาเลย!

“องค์หญิงสาม ฝ่าบาท ได้โปรดหยิกท้องของฉัน สมองของฉัน ปากของฉันด้วยเถอะค่ะ หากในอนาคตพวกคุณค้นพบเรื่องราวอันมืดมนของเธออีก ไม่ต้องมาบอกฉัน ฉันจะไม่รับรู้!”

“ใช่ ๆๆ! อาหารสำคัญกว่าสิ่งใดในตอนนี้!”

“ฉันก็ด้วย! เฮือก องค์หญิงสามเป็นองค์หญิง นอกจากนี้เธอไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเป็นพิเศษ มันไม่ใช่เพราะว่าเธออารมณ์ร้อนเพราะความเป็นเด็กของเธอเหรอ? พวกคุณไม่เคยอารมณ์ร้อนกันหรือไง?”

“พวกคุณมันคนอัปยศ! เจ้าคนทรยศพูดตะกุกตะกักเพื่อผลประโยชน์! นับฉันรวมไปด้วยคนสิ!”

“ใช่ ฉันคือคนทรยศ! องค์หญิงสาม ท่านช่วยส่งสำเนาตอนที่ท่านทำอาหารให้ฉันได้ไหมคะ? ฉันเต็มใจจะเป็นโคลนที่ภักดีภายใต้เท้าของท่าน!”

………

สำหรับพวกที่พูดตะกุกตะกักเพื่อผลประโยชน์ กลายเป็นกลุ่มกบฏที่ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด! จริง ๆ!

สำหรับอาหารที่เหลือ…คุณพูดว่าอย่างไรนะ มันเป็นแบบนั้นไปได้อย่างไร?! กล่องข้าวของเหล่าทหารนูนขึ้นเป็นตะปุ่มตะป่ำ แต่อาจจะไม่มีอะไรก็ได้!

มันอาจจะกลายเป็นอาหารว่างยามดึก!

หลังจากที่ทุกคนกินและดื่มด่ำกับอาหารจนเพียงพอแล้ว พลทหารฝ่ายเทคนิคก็ตรวจจับสัญญาณของปลาหมึกยักษ์ในระยะรัศมียี่สิบกิโลเมตรได้

มองดูเวลาตอนนี้ เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว

ตราบใดที่ทุกคนอดทนรอคอยถึงหกโมงเย็น กองทัพทหารก็จะมาถึง!

สวี่หลิงอวิ๋นเข้าไปในเครื่องจักรกล โอคาซีก็เข้าไปในเครื่องจักรกลเช่นกัน เหล่าทหารที่มีระดับพละกำลังมากกว่าหกดาวออกเดินทางไปพร้อมกับพวกเขา

ส่วนคนที่เหลือรออยู่ที่จุดศูนย์กลาง

ทหารทุกคนติดตั้งอาวุธตามสัญชาตญาณ พวกเขาเป็นจุดศูนย์กลางที่ได้รับการปกป้องมากที่สุด แม้ว่าเหล่าทหารจะเตรียมพร้อมการสู้รบแล้วก็ตาม

พวกเขาสามารถออกไปสู้รบได้ทุกช่วงเวลา!

สวี่หลิงอวิ๋นกับโอคาซีแยกกันไปคนละทิศทาง แม้ว่าจะต้องแยกจากกัน ก็ยังไม่วายหยิบอุปกรณ์สู้รบติดตัวไปด้วย

ทั้งผงพริกป่น ลำโพง เอ่อ…อึ และอื่น ๆ และนี่คือสิ่งของที่พวกเขาต้องพกติดตัว ซึ่งมันช่วยบรรเทาความกดดันได้นิดหน่อย!

ปราศจากคำสั่งจากจักรวรรดิ ปลาหมึกยักษ์พวกนี้ค่อนข้างโง่ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะหลอกพวกมัน

โรยผงพริกป่นพวกนี้ออกไปหนึ่งกำมือ ฮึ! ตัวที่โดนผงพริกเข้าไปเต็ม ๆ เริ่มน้ำตาไหลพรากและแกว่งไปแกว่งมาอย่างบ้าคลั่ง เกิดอะไรขึ้น? เป็นไปได้ไหมว่าเมล็ดพันธุ์พวกนั้นทำให้มันเป็นบ้า?

ชาวเน็ตกำลังส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง!

สวี่หลิงอวิ๋นคนนี้ฉลาดกว่ามาก เสียงร้องเพลงของเธอทำให้ปลาหมึกยักษ์ตกใจเป็นอย่างมาก มันรีบเอาชนะด้วยการโจมตีเธอด้วยหนวดอย่างโกรธเคือง

ทว่านั่นยังไม่พอ! สวี่หลิงอวิ๋นโรยผงพริกป่นใส่พวกมันอีกครั้ง จากนั้นจึงโยนก้อนอึลงไปให้พวกมันเป็นครั้งคราว!

โอ้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ปลาหมึกยักษ์ทั้งหมดล้มลงอย่างพ่ายแพ้ ปลาหมึกยักษ์บางตัวเปลี่ยนจากเป้าหมายหลักมาวิ่งไล่สวี่หลิงอวิ๋นแทน

“ได้เลย! แกจะแข่งกับฉันใช่ไหม? ตกลง! ถ้าอย่างนั้นพี่สาวคนนี้จะจัดเตรียมการแข่งขันโอลิมปิกให้เอง!” เมื่อสวี่หลิงอวิ๋นเห็นว่าตนเองสามารถหลอกล่อปลาหมึกยักษ์ได้แล้ว จึงรู้สึกว่าตนเองกำลังมีแฟนคลับตัวยง แถมพวกมันยังมีความสุขด้วย หญิงสาวรีบวิ่งไปข้างหน้า ตามด้วยกลุ่มปลาหมึกยักษ์หลายตัว

ตัวไหนก็ตามที่กล้าหันหลังกลับ มันจะถูกลูกธนูเลเซอร์ของสวี่หลิงอวิ๋นฆ่าตายโดยทันที

ไม่เลว! เธอคิดว่าการใช้ดาบเลเซอร์ของทุกคนนั้นยังมีลักษณะพิเศษโดดเด่นไม่เพียงพอ ดังนั้นเธอจึงออกแบบมันตามลักษณะที่ตนเองต้องการ

ครั้งหนึ่งตัวเธอเคยชื่นชอบเจ้าชายเอลฟ์เป็นอย่างมาก และมักจินตนาการว่าตนเองเป็นเจ้าหญิงเอลฟ์บ่อย ๆ โดยถือคันธนูและลูกธนูไว้ในมือ ‘ฉึก’ แล้วก็ยิงออกไปเป็นพวงในคราวเดียว

แสงเลเซอร์เผยให้เห็นว่าเธอสังหารศัตรูไปทั้งหมู่

ในที่สุดความปรารถนานี้ก็เป็นจริง!