บทที่ 29 ตระกูลกู่มาเยือน

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 29 ตระกูลกู่มาเยือน

งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ของขวัญของทุกคนถูกจัดวางไว้เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าตระกูลเจียงจะเป็นตระกูลชั้นสอง แต่วันนี้ก็ได้เชิญแขกมามากมาย บริษัทใหญ่และเล็ก ก็มาร่วมงานเลี้ยงกันมากมาย

ของขวัญต่าง ๆ วางเต็มโต๊ะ

สิ่งที่น่าโมโหก็คือของขวัญอีกชิ้นที่เจียงหว่านเตรียมไว้ให้มู่เซิ่งมอบให้คุณปู่ ถูกโยนทิ้งอยู่บนพื้น และใช้เป็นที่รองขาโต๊ะ เพราะเจียงมู่หลงบอกว่าโต๊ะไม่มั่นคง ดังนั้นเขาจึงเอาของขวัญของคนไม่เอาถ่านมารองขาโต๊ะ ถือว่าใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์

และการที่เขาพูดเช่นนั้น ทำให้ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง

“มู่เซิ่ง พวกเขาทำเกินไปแล้ว!”

อาหารที่อยู่บนโต๊ะของพวกเขาเป็นอาหารพื้น ๆ ส่วนโต๊ะอื่นเต็มไปด้วยอาหารชั้นเลิศ เจียงหว่านโยนตะเกียบและกล่าวด้วยความโกรธว่า “คุณเป็นคนขอให้หมอเทวดาหลิวช่วยรักษาคุณปู่จนหายเป็นปกติ แต่ตอนนี้ พวกเขาไม่เพียงไม่เห็นความดีของคุณ แต่กลับทำกับพวกเราแบบนี้!”

“ผมคาดการณ์แล้วว่าท่านสามจะต้องเข้ามาแทรกแซงโครงการของคุณ เพียงแต่ผมนึกไม่ถึงว่าเขาจะใช้ข้ออ้างที่ไร้ยางอายเช่นนี้” มู่เซิ่งกล่าวเบา ๆ ราวกับว่าเขาคาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

“เพราะอะไร? ถ้าคุณปู่ต้องการแทรกแซงโครงการของฉัน แล้วทำไมคุณปู่ถึงให้ฉันกลับมาตระกูลเจียงอีก?” เจียงหว่านรู้สึกสงสัย

ตอนที่คุณปู่เชิญเธอกลับมาตระกูลเจียง เธอคิดว่าคุณปู่เริ่มให้ความสำคัญกับเธอแล้ว อย่างน้อยคุณปู่คงไม่กดขี่เธอเหมือนเมื่อก่อน

แต่นึกไม่ถึงว่าคุณปู่จะทำหนักกว่าเดิม!

“เรื่องง่าย ๆ เพราะท่านสามให้ความสำคัญกับการร่วมมือทำงานกับมู่ซื่อ กรุ๊ป ไม่ใช่เพราะเห็นความสำคัญของคุณ การที่เขาเชิญคุณกลับมาตระกูลเจียง เพียงเพื่อง่ายต่อการครอบครองบริษัทของคุณไปทีละเล็กละน้อยเท่านั้น” มู่เซิ่งวิเคราะห์

“แล้วพวกเราควรทำอย่างไร? จะปล่อยให้คุณปู่ทำตามใจชอบเหรอ?” เจียงหว่านรู้สึกไม่เต็มใจ

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ช้าก็เร็วลูกน้องของเธอก็จะถูกเจียงมู่หลงกำจัดออกไป และสุดท้ายเธอจะกลายเป็นผู้บัญชาการที่ไร้ลูกน้อง

“วางใจเถอะ มีผมอยู่ สิ่งที่พวกเขาเอาไปครอบครอง ไม่ช้าก็เร็วผมจะทำให้พวกเขาคายออกมาทั้งหมด” มู่เซิ่งเลิกคิ้วและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“คุณช่วยฉันแบบนี้ทุกครั้ง เพื่อนคนนั้นของคุณจะไม่รู้สึกรำคาญเหรอ?” เจียงหว่านอดไม่ได้ที่จะถาม

“ถ้าคุณรู้สึกผิด ก็ตอบแทนด้วยร่างกายสิ” มู่เซิ่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมนอนคนเดียวทุกคืน หนาวมากเลย”

ตอบแทนด้วยร่างกาย?

แก้มของเจียงหว่านเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เธอหันไปทางอื่น เธอรู้สึกว่าคำพูดนี้กรุ้มกริ่มเล็กน้อย แต่สิ่งที่แปลกก็คือเธอไม่ได้รู้สึกโกรธแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย

นับตั้งแต่มู่เซิ่งเปลี่ยนไป เธอมีคำถามแปลก ๆ อยู่ในใจ ผู้ชายที่เธอติดต่อด้วย แทบไม่มีใครที่ไม่ตกหลุมรักเธอ แต่หลังจากเธอแต่งงานกับมู่เซิ่งแล้ว ตอนอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าเธอจะแต่งตัวเซ็กซี่แค่ไหน หรือแม้แต่แต่งตัวโป๊ มู่เซิ่งก็แสดงสีหน้าสงบ ราวกับว่าเขากำลังดูการ์ตูนอยู่

ตอนนั้นเจียงหว่านยังสงสัยว่ามู่เซิ่งชอบผู้ชายหรือเปล่า มิฉะนั้น ผู้ชายที่ยังหนุ่มยังแน่น จะไม่มีความคิดแบบนั้นกับเธอสักนิดได้อย่างไร? ฮึ่ม! ดูเหมือนว่าเสน่ห์ของตนเองยังไม่เพียงพอ!

“คุณหัวเราะทำไม?”

มู่เซิ่งเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเจียงหว่าน ทำให้เขารู้สึกสงสัย

“ฉันนึกถึงเรื่องที่มีความสุข ไม่ได้เหรอ?” เจียงหว่านเบ้ปาก

มู่เซิ่งส่ายศีรษะและไม่ได้ถามต่อ เขาจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของเจียงหว่าน เพราะสำหรับเจียงหว่านแล้ว ตระกูลเจียงเป็นสถานที่ฝึกฝน ที่จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น มิฉะนั้น ถ้าตอนที่เขาจากไปแล้ว เกรงว่าเจียงหว่านอาจจะไม่สามารถจัดการกับสถานการณ์โดยรวมตามลำพังได้

อาศัยพึ่งพาความแข็งแกร่งของคนอื่น สู้ตนเองแข็งแกร่งไม่ได้ มู่เซิ่งเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าตระกูลมู่เป็นต้นทุนของตนเอง

“ท่านสาม กู่ชิงเสวียน หลานสาวเจ้าของหอเฉียนเป่าจากตระกูลกู่มาแล้ว!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมา จากนั้นทุกคนต่างมองไปที่ประตู

เห็นรถโรลส์รอยซ์ รุ่นลิมิเต็ดสุดหรูแล่นเข้ามาจอด หญิงสาวคนหนึ่งลงมาจากรถทางประตูเบาะหลัง และถือกล่องของขวัญไว้ในมือ เธอสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่สวยงาม

เธอคือกู่ชิงเสวียน!

“ท่านสามมีเกียรติมาก แม้แต่กู่ชิงเสวียนก็มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดด้วย”

“ถูกต้อง นึกไม่ถึงว่าตระกูลเจียงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลกู่”

หอเฉียนเป่าของตระกูลกู่ ถึงแม้จะเป็นเพียงสาขาหนึ่งของเมืองเยียนจิง แต่ก็เพียงพอที่จะถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นหนึ่งในเมืองเจียงหนาน กู่มู่สวีนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงหนาน มีมูลค่าทรัพย์สินหลายพันล้าน นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของท่านสามด้วย?

แล้วทุกคนจะไม่รู้สึกประหลาดใจได้อย่างไร

“คุณหนูกู่!”

สีหน้าของท่านสามเต็มไปด้วยความอึ้งเช่นกัน เกิดอะไรขึ้น กู่ชิงเสวียนมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด? ตนเองไม่ได้เชิญเธอด้วยซ้ำ

“กู่ชิงเสวียนจากตระกูลกู่ มาอวยพรวันเกิดคุณปู่”

กู่ชิงเสวียนถือขวัญไว้ในมือ และกล่าวด้วยน้ำเสียงไพเราะ

“นี่ นี่มัน…….”

ทันใดนั้น เท้าของกู่ชิงเสวียนเตะโดนอะไรบางอย่าง เธอจึงก้มหน้ามอง

เธอเห็นกล่องถูกโยนทิ้งอยู่ด้านข้าง และมีตราราชลัญจกรอยู่ถัดจากกล่อง โดยถูกโยนออกไปราวกับก้อนหิน!

“คุณหนูกู่ มันเป็นขยะ คุณไม่ต้องสนใจหรอก” ท่านสามกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถูกต้อง คุณหนูกู่ เชิญเข้ามาข้างในเถอะ”

ดวงตาของเจียงมู่หลงจับจ้องไปที่กู่ชิงเสวียน

รูปร่างของกู่ชิงเสวียนเซ็กซี่และสวยงามมาก เธอสวมกางเกงยีนรัดรูป ซึ่งเผยให้เห็นรูปร่างที่ดีของเธอ

เจียงมู่หลงไม่เคยเห็นสาวงามระดับนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลกู่ยังเป็นตระกูลชั้นหนึ่งอีกด้วย เขากล่าวอย่างมีไมตรีว่า “คุณหนูกู่ เชิญทางนี้ อย่าไปสนใจขยะประเภทนี้เลย อีกสักครู่คนรับใช้จะมาเก็บกวาดเอง”

หลังจากนั้น เขามองมู่เซิ่งด้วยสายตาดุดันแวบหนึ่ง “คนไม่เอาถ่าน ของขวัญสับปะรังเคที่คุณนำมา มันขวางทางคุณหนูกู่ ยังไม่รีบคุกเข่าขอโทษคุณหนูกู่อีก!”

“ของขวัญสับปะรังเค?”

กู่ชิงเสวียนรู้สึกขำ นี่เป็นของขวัญที่คุณปู่ของเธอมอบให้มู่เซิ่ง เพียงแค่กล่องก็เป็นไม้ของสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงในราชวงศ์ชิง ซึ่งราชสำนักเป็นผู้ทำขึ้นมา มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้าน

แต่ตอนนี้ ตระกูลเจียทำราวกับว่ามันเป็นขยะ?

“นี่เป็นของขวัญที่คุณปู่ของฉันเป็นคนเตรียมไว้ ทำไมคุณถึงบอกว่ามันเป็นขยะ”

ใบหน้าที่สวยงามของกู่ชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา

“อะไรนะ? มันเป็นไปได้ยังไง?” เจียงมู่หลงรู้สึกตกตะลึง และอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “มู่เซิ่งเป็นคนนำหินสับปะรังเคมามอบให้คุณปู่ แล้วจะเป็นของขวัญที่คุณปู่ของคุณเตรียมไว้ได้อย่างไร?”

“ถูกต้อง คุณหนูกู่ คุณจำผิดแน่นอน” เจียงไห่เชาอดไม่ได้ที่จะพูด

มู่เซิ่งเป็นคนนำของขวัญชิ้นนี้มา มันเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลกู่จะเป็นคนมอบให้เขา

“คุณปู่ของฉันเป็นคนมอบของขวัญชิ้นนี้ให้มู่เซิ่ง แล้วมู่เซิ่งนำมา มันแปลกมากเหรอ?”

สีหน้าของกู่ชิงเสวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง หยิบตราราชลัญจกรขึ้นมาจากพื้น และกล่าวเสียงดังว่า “นี่คือตราราชลัญจกรของจักรพรรดิเฉียนหลง คุณปู่ของฉันประมูลมาด้วยราคาห้าสิบแปดล้าน คุณบอกมาสิว่ามันเป็นหินสัปปะรังเคหรือเปล่า?”

“นี่มัน……”

เจียงหว่านมองภาพนี้ด้วยความประหลาดใจ และอ้าปากกว้างจนสามารถใส่แอปเปิลเข้าไปในปากได้

ตราราชลัญจกรนี้มีมูลค่าห้าสิบแปดล้าน!

เมื่อท่านสามเผชิญหน้ากับกู่ชิงเสวียน เขาไม่กล้ามีความคิดที่ว่าอาศัยที่ตนเองมีอายุมากและทำเป็นผู้อาวุโส แล้วดูถูกคนอื่น ดังนั้นเขาจึงรีบเดินลงมาจากเวทีทันที

“คุณหนูกู่ ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรเข้าใจผิดอย่างแน่นอน……”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ กู่ชิงเสวียนก็ขัดจังหวะทันที “ฉันไม่สนว่าคุณจะเข้าใจอะไรผิด? แต่ตระกูลเจียงของพวกคุณโยนของขวัญล้ำค่าของคุณปู่ลงบนพื้น ฉันจะนำเรื่องนี้ไปบอกคุณปู่ พวกเราตระกูลกู่จะไม่ยอมให้คนอื่นเหยียดหยามแน่นอน!”

ท่านสามรู้สึกหัวใจสั่นสะท้าน ถ้ากู่ชิงเสวียนนำเรื่องนี้ไปบอกคุณปู่ของเธอ จะกลายเป็นว่าตระกูลชนชั้นสองอย่างพวกเขา ไปล่วงเกินตระกูลเศรษฐีที่ทรงอำนาจ แบบนี้เท่ากับรนหาความตาย

ท่านสามกลืนน้ำลาย แล้วเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากก็ไหลลงมาทันที