ตอนที่ 124 กลืนกินไม่ได้ ?

ซู่เจินพูดขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ ทําให้นากามูระจะต้องใช้เวลาอยู่สักพักหนึ่งจนกว่าเขาจะเข้าใจความหมายของประโยคนี้ทั้งหมด พร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยความเคร่งขรึมว่า “ใช่ ฉันเป็นคนญี่ปุ่น และครอบครัวของฉันทั้งหมดก็เป็นคนญี่ปุ่น!”

เมื่อซู่เจินเห็นว่านากามูระพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง เขาก็เข้าใจได้ในทันทีเลยว่านากามูระจะต้องไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของประโยคนี้อย่างแน่นอน

ซู่เจินส่ายหัวขึ้นมาเบา ๆ และพูดว่า “ฮิโรชิ นากามูระ ผมหาพวกเราไปหาที่คุยกันที่อื่นกันเถอะ”

“คุณรู้จักชื่อของฉันได้ยังไง คุณรู้จักฉันอย่างงั้นหรอ ?”นากามูระถามขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

“ถ้าคุณอยากรู้ คุณก็ตามผมมา”

เมื่อซู่เจินพูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที

โดยที่มีเสียงตะโกนของนากามูระดังขึ้นมาจากทางด้านหลังว่า “เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งไป ทําไมคุณถึงรู้ชื่อของฉันได้ว่า ฉันชื่อฮิโรชิ นากามูระ หยุดก่อน …”

นากามูระตะโกนไล่หลังซูเจนขึ้นมาดังลั่น ทําให้ซู่เจินรู้สึกรําคาญขึ้นมาเล็กน้อย เพราะว่ามันเสียงดังและน่าอายเกินไป

ทําให้ซู่เจินได้แต่เดินไปอย่างเงียบ ๆ เพราะเขากลัวว่าคนอื่น ๆ จะมองว่าเขาเป็นพวกเดียวกับนากามูระคนนี้

“หุบปาก แล้วเดินตามมาเงียบ ๆ!”

แน่นอนว่านากามูระไม่ได้ฟังที่ซ่เงินพูดเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่เขาเดินตามซู่เจินจนทัน เขาก็หันไปพูดกับซู่เจินทันที โดยซู่เจินก็สังเกตเห็นว่าผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขากําลังมองที่เขาด้วยสายตาแปลก ๆ ทําให้ซู่เจินหันไปตะโกนใส่นากามูระพร้อมกับทําท่าทางน่ากลัวออกมา

นากามูระถึงกับผงะเมื่อเห็นท่าทางที่ไม่พอใจของซู่เจิน เขาก็รีบปิดปากเงียบอย่างรวดเร็ว

ซู่เจินส่ายหัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับเร่งความเร็วในการเดินขึ้นมาเล็กน้อย

หลังจากเดินมาได้ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงตรอกที่ห่างไกลจากผู้คน นากามูระหันไปสังเกตรอบ ๆ เขาก็พบว่านอกจากซู่เจินแล้วยังมีผู้ชายผิวสีอีกคนหนึ่งที่กําลังยืนอยู่

“ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม ?” นากามูระหันไปถามกับซู่เจินด้วยความลังเล

ซู่เจินพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ

นากามูระถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรีบพูดขึ้นมาว่า ”คุณเป็นใครกันแน่ ? คุณรู้ชื่อของฉันได้อย่างไร ? คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันมีความสามารถพิเศษ ?”

นากามูระพูดขึ้นมาอย่างติด ๆ ขัด ๆ เพราะว่าเขาไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษมากนัก

“ผมรู้ว่าคุณเป็นใครและมีความสามารถพิเศษอะไร ดังนั้นผมจึงมาหาคุณที่นี้โดยเฉพาะ!” หลังจากนากามูระพูดจบซ่เงินก็พูดขึ้นมาทันที

“คุณมาหาผมทําไม ? เพราะอะไร ?” นากามูระถามขึ้นมาด้วยความมึนงงเล็กน้อย

” เพราะว่าผมต้องการความสามารถของคุณ!”

หลังจากพูดจบซู่เจินก็เอาไว้คว้าจับไปที่ไหล่ของนากามูระอย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้ความส มารถในการกลืนกินของเขาขึ้นมาทันที

“อะไรน่ะ ไม่ ไม่ … อย่านะ … นี่มันคือความสามารถพิเศษของฉัน คุณจะเอามันไปไม่ ได้” นากามูระพยายามที่จะเอามือของซู่เจินออกมา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไหร่มันก็ไม่สําเร็จ

นากามูระกัดฟันของตัวเองอย่างรุนแรง และเตรียมพร้อมที่จะใช้ความสามารถของเขาในการหลบหนี

“ไม่ได้ผล ทําไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ฉัน…ฉันจะต้องลองมันอีกครั้ง!”

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามใช้ความสามารถมากเท่าไหร่มันก็ไม่สําเร็จสักที

ซึ่งซู่เจินก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับนากามูระมากนัก ในเมื่อตอนนี้เขายังมีชาวเฮติยืนอยู่ใกล้ ๆ ดังนั้นความสามารถของนากามูระจึงถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์ และนี่มันก็ยังไม่ได้รวมถึงเรื่องที่ว่าเขาเพิ่งจะได้รับความสามารถมาเมื่อไม่นานมานี้ ทําให้โอกาสที่เขาจะหลบหนีไปได้มันช่างน้อยนิดนัก แต่ถึงอย่างนั้นความสามารถของนากามูระก็กลืนกินได้ยากจริง ๆ

ความสามารถของนากามูระมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าความสามารถของแคลร์ซะอีก

ในตอนที่เขากลืนกินความสามารถของแคลร์มันยังมีความรู้สึกต่อต้านขึ้นมาอย่างรุนแรงและ ยากที่จะกลืนกินมันได้ แต่ในตอนนี้เขากับพบว่าความสามารถของนากามูระมันไม่มีการตอบสนองใด ๆ เลย

ไม่มีการตอบสนองใด ๆ ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ไม่มีความสามารถ

ทําให้ซู่เจินในตอนนี้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอเหตุการณ์แบบนี้

“ได้โปรด ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไป … “

ในเมื่อเขาเห็นว่าไม่สามารถหนีรอดไปได้ ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงแต่ตะโกนขอความเมตตาจากซู่เจินอย่างต่อเนื่อง หลังจากเขาตะโกนไปได้ไม่นาน ซู่เจินก็ปล่อยตัวของเขา

หลังจากที่เขาเป็นอิสระเขาก็หยุดนิ่งไปสักครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหันหลังและวิ่งออกไป แต่หลังจากที่เขาวิ่งไปได้สองสามก้าว เขาก็หันหลังกลับไปและเห็นว่าซู่เจินไม่ได้ตามมา ทําให้เขารู้สึกลังเลใจ

แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจหันหลังวิ่งหนีออกไป

ซึ่งซู่เจินก็ไม่ได้ไล่ตามนากามูระ เพราะว่าการที่เขาจะตามหาตัวของนากามูระมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ .. มันก็คงจะไร้ประโยชน์ก่อนไปถ้าเขาจะไปตามหาตัวของเขาในตอนนี้ ถ้าเกิดว่าเขายังไม่สามารถกลืนกินความสามารถของเขาได้

“ไปหาที่พักกันก่อนเถอะ”

ซู่เจินหันไปพูดกับชาวเฮติ หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินออกมาจากตรอกอย่างรวดเร็ว

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้การที่เขาพาชาวเฮติมาด้วยมันช่างเป็นทางเลือกที่ถูกต้องจริง ๆ เพราะการที่มีชาวเฮติยืนอยู่ข้าง ๆ มันช่างทําให้เขาสามารถทําอะไรต่าง ๆ สะดวกมากขึ้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปทําธุรให้กับเขา หรือการจัดการเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

ซู่เจินเดินเข้าไปเปิดห้องในโรงแรมห้าดาว หลังจากที่เขาเข้าห้องมาเรียบร้อยแล้วเขาก็นั่งลงบนโซฟานุ่ม ๆ พร้อมกับจิบไวน์เบา ๆ และค่อย ๆ มองออกไปยังนอกหน้าต่างเพื่อชมทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอก ในขณะเดียวกันเขาก็พูดคุยกับระบบไปด้วย ..

“ระบบ ทําไมฉันถึงไม่สามารถกลืนกินความสามารถของ ฮิโรชิ นากามูระได้ แถมฉันยังรู้สึกถึงความสามารถของเขาไม่ได้อีกด้วย” ซู่เจินรู้สึกงงงวยขึ้นมาเล็กน้อย โดยหวังว่าระบบจะไขข้อสงสัยให้กับเขาได้

” ความสามารถมีการแบ่งแยกเป็นระดับสูงและต่ําอย่างชัดเจน โดยที่ความสามารถบางอย่างมันจะค่อย ๆ แข็งแกร่งขึ้นตามการฝึกฝน และบางความสามารถมันก็แข็งแกร่งมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งความสามารถของนากามูระก็เป็นอย่างหลัง ส่วนความสามารถในการกลืนกินของโฮสต์มันเป็นอย่างแรก!”

” ความสามารถในการกลืนกินของคุณมันมาจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในร่างกายของโฮสต์ตอนที่โฮสต์ข้ามมายังโลกมาเวล โดยที่ร่างกายของโฮสต์สามารถปรับสมดุลและหลอมรวมเข้ากับความต่าง ๆ ได้อย่างไร้ขีดจํากัด แต่ถึงอย่างนั้นความสามารถในการกลืนกินของโฮสต์ในตอนนี้ก็ยังอ่อนด้อยกว่าความสามารถของนากามุระอยู่มาก ดังนั้นโฮสต์จึงจําเป็นที่จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในการกลืนกินก่อนถึงจะกลืนกินความสามารถของนากามูระได้!”

“ถ้าอย่างนั้นในตอนนี้ฉันก็ยังไม่สามารถกลืนกินมันได้สินะ แล้วฉันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการกลืนกินของฉันได้อย่างรวดเร็วยังไง ?” ซู่เจินถามขึ้นมา

” กลืนกินความสามารถ เพราะยิ่งโฮสต์กลืนกินความสามารถเข้าไปมากเท่าไหร่ ความสามารถของโฮสต์ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น โดยที่โฮสต์จะรู้ได้ด้วยตัวเอง” ระบบพูดขึ้นมา

ซู่เจินพยักหน้าเห็นด้วยขึ้นมาเล็กน้อย เพราะยิ่งเขากลืนกินความสามารถเข้าไปมากเท่าไหร่ ความเร็วในการกลืนกินของเขามันก็เร็วมากขึ้นเท่านั้น แถมมันจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

“แต่ถ้าเกิดว่าฉันกลืนกินมันมากเกินไป ร่างกายของฉันมันก็คงจะไม่สามารถปรับตัวได้ทันอย่างแน่นอน และหลังจากนั้นฉันก็จะเสียการควบคุมของตัวเอง!” ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยความกังวล

“การเสียการควบคุมของตัวเองเป็นเพียงแค่ผลกระทบข้างต้นเท่านั้น เพราะถ้าเกิดว่าโฮสต์กลืนกินมันมากยิ่งกว่านี้อีก ร่างกายของโฮสต์จะไม่สามารถหลอมรวมเข้ากับความสามารถที่มากมายได้อย่างแน่นอน และผลของมันก็คือการล่มสลาย”

” ล่มสลาย ?”

”ร่างกายของโฮสต์ก็จะระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ”

“เป็นโกโก้ครัน!”

คําตอบของระบบทําให้ซูเงินรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า ”นั่นก็เท่ากับตายไม่ใช่หรอ ?”

“ใช่ แต่มันก็มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทําให้โฮสต์สามารถเพิ่มความแข็งแกร็งของความสามารถในการกลืนกินได้อย่างรวดเร็ว”

“ไม่มีทางอื่นแล้วอย่างงั้นหรอ ?”

“การจะเป็นราชามันไม่ใช่เรื่องง่าย!”

ซู่เจินถึงกับเงียบ ใช่ ราชา! นี่คือระบบของราชา และเป้าหมายของเขาก็คือการเป็นราชา ดังนั้นเขาจึงจําเป็นที่จะต้องแข็งแกร่งขึ้น แต่เมื่อไหร่เขาถึงจะได้เป็นราชาล่ะ ?

เห็นความสามารถที่แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้าแต่กับกลืนกินไม่ได้ เพราะความแข็งแกร่งของตัวเองยังมีไม่มากพอ

และนี่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ราชาควรจะเป็น