ตอนที่ 66 ขอความช่วยเหลือ
หลินชวนฮวาพาแขกเข้าบ้าน แม้ว่าเฉินผิงอันจะกังวล เรื่องการไปโรงเรียนของลูกชายคนสุดท้อง แต่ก็ไม่เหมาะสม ที่จะเถียงกันต่อหน้าแขก แน่นอนว่าหลินชวน
ฮวาจงใจลืมเรื่องนี้ไป
“ผิงอัน ท่านก็เห็นว่าเถียนเถียนโตแล้ว นางควรจะหาสามีได้แล้ว และตอนนี้
สิ่งที่คนพูดนั้นสร้างปัญหามาก ผู้หญิงปากยาวพวกนั้นกําลังนินทาเถียนเถียน
ให้นางแต่งงาน ออกไปโดยเร็วน่าจะดีที่สุด”
เฉินผิงอันพยักหน้า “แต่นางต้องตกลงยินยอมแต่งงานด้วยตัวเอง ตาเฒ่าหนังเหนียวพวกนั้นให้สัญญากับนางเอาไว้”
หลินชวนฮวาเอนซบลงบนไหล่ของเฉินผิงอันเบา ๆ
การออดอ้อนของภรรยาตัวเล็ก ๆ แสนน่ารัก ทําให้เฉินผิงอันรู้สึกสบายใจ!
“ผู้เฒ่าพวกนั้นช่างไม่รู้อะไรเลย พวกเขาเอาแต่สั่งว่าเรา ต้องทําอะไร เถียนเถียนตัวน้อยเติบโตมาจากที่ไหนกัน? การหาบ้านสามีของนาง พวกเราเป็นพ่อแม่ย่อมต้องเป็นคนตัดสินใจ แม้ว่าในตอนนั้น ข้าจะไม่เคยพบพี่สาวหยุนมาก่อนแต่ข้าก็เคยได้ยินเรื่องราวของนางมาโดยตลอด!”
เมื่อกล่าวถึงแม่นางหยุนในตอนนั้นเฉินผิงอันก็จําได้ทันที่ว่าถูกอีกฝ่ายกดข่มอยู่เป็นเวลาหลายปี ผู้คนจากทั่วทุกที่ต่างบอกว่าน่าเสียดายที่นางแต่งงานกับชายไร้ความสามารถในชนบทเช่นเขา!
ดังนั้น เฉินผิงอันจึงรู้สึกขยะแขยงในใจและพูดออกไป อย่างเหลืออด
”นังเด็กเหลือขอคนนี้จะหาตระกูลดี ๆ มา แต่งด้วยได้หรือ? ข้าหวังเพียงแค่ให้นางแต่งออกไปเร็ว ๆ แค่นี้ข้าก็ไม่ต้องอับอายแล้ว!”
เป็นไปตามที่คาดไว้ หลินชวนฮวายิ้มอย่างมีชัย “แถวนี้ หาตระกูลที่เหมาะสมกับนางไม่ได้แล้ว แต่หลานชายของข้า ท่านเองก็น่าจะเห็น แม้ว่าหลานชายของข้าจะมาจากตระ กูลที่ไม่ได้ดีนักแต่เขาก็เป็นลูกชายคนเดียว ถ้าเถียนเดียนแต่งงานกับเขา…”
หลินชวนฮวาฉลาดอยู่เสมอ นางรู้ว่าเฉินผิงอันไม่สามารถ อดทนต่อความคิดของผู้อื่นได้ ดังนั้นนางจึงทําได้แค่ชักจูง และเกลี้ยกล่อมเขาเท่านั้น
ในอดีตนั้นนางหยุนทั้งหยิ่งผยองและไม่เคยสนใจเขา แต่ ตอนนี้มีหลินชวนฮวาที่แสนน่ารักช่างเอาใจ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างทั้งสอง แม้ว่าหลินชวนฮวาจะไม่ดีเท่านางหยุน แต่ก็มีน้ำหนักในใจของเขาอย่างชัดเจน
ยิ่งเฉินผิงอันเกลียดนางหยุนที่หยิ่งผยองมากเท่าไหร่ เขา ก็ยิ่งเกลียดเฉินเถียน
เถียนมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นนาง ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของเขาและเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นลูกของนาง หยุนกับใคร ทนเลี้ยงดูมาตั้งหลายปีถือว่ามากพอแล้ว
เฉินผิงอันในตอนนี้มีแต่ความเกลียดชังต่อนางหยุน และความเกลียดชังนี้ได้ถูกส่งต่อให้เฉินเถียนเถียนลูกสาวขอ งนางต่อ
มีเพียงการทําลายชีวิตของเฉินเถียนเถียนเท่านั้น ที่จะทํา ให้ปีศาจในใจของเฉินผิงอันพอใจได้! และสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด สําหรับเฉินเดียนเถียนคือชีวิตการแต่งงานของนางอยู่ในกํา มือของเขา ปล่อยให้นางแต่งงานกับคนโง่งั้นหรือ? ย่อมทําได้!
“ข้าว่าไม่เป็นไรหรอก อย่างไรเสียนังเด็กขี้ครอกนี่ก็ดื้อรั้นสิ้นดี แต่ตอนนี้นังเด็กนี่พูดด้วยไม่ง่ายนัก หากเจ้าต้องการให้ นางแต่งงานกับหลานชายอย่างเต็มใจ
ต้องคิดหาวิธี ไม่อย่างนั้นนางอาจจะโวยวายได้”
หลินชวนฮวาพอใจเป็นอย่างมาก นางจึงแนบริมฝีปากจุมพิตลงไปที่ใบหน้าของเฉินผิงอัน
ตัวนางนั้นแสนอิจฉาริษยา ยิ่งได้ยินนางหยุนถูกผู้ คนกล่าวขวัญถึงซ้ําแล้วซ้ําเล่าตอนนี้ลูกสาวของมันกําลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองก็อย่าภูมิใจให้มากนัก!
สําหรับวิธีจัดการกับนางเด็กเหลือขอนั้น ไม่นับว่าเป็น งานถนัดของตนหรือ? ตราบใดที่จับได้ว่าเจ้าหลานชายคนโง่ อยู่ในห้องกับนาง แม้ว่าจะไม่อยากแต่งก็คงต้องแต่ง!
หลินชวนฮวายังแสร้งทําเป็นใจดีชวนให้นางร่วมทานมื้อ เย็นด้วยทุกคืน และปฏิบัติต่อนางค่อนข้างดี ในขณะที่ร่วมโต๊ะอาหาร แต่นั่นยิ่งทําให้ในใจของ เฉินเถียนเถียนระแวงมากยิ่งขึ้น!
ความระมัดระวังของเฉินเถียนเถียนนั้นไม่ผิด นางคิดเสมอว่าหลินชวนฮวาต้องหาวิธีที่ลึกล้ํากว่านั้น เช่น การใช้ยาที่ ทําให้ไม่สามารถคุมสติได้!
แต่คาดไม่ถึงว่าหญิงสาวชาวบ้านจะคิดได้ขนาดนี้
วิธีที่ง่ายและหยาบคายที่สุดคือการทุบนางให้หมดสติ
ก่อนจะหมดสติไป นางเห็นหลินชวนฮวายืนภาคภูมิใจอยู่ ข้างหลัง จึงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง นี่นางยังจะพ่าย แพ้ให้แก่คนโบราณนี้อีกหรือ?
ในตอนนั้น เฉินเฉินที่เฝ้าสังเกตสถานการณ์ผ่านรอยร้าว ของประตู รีบย่องออกจากประตูหลังและวิ่งไปหาหยุนเคอ!
ก่อนหน้านี้หยุนเคอไม่ได้ทําอะไรเลย เขาเพิ่งสับไม้ไผ่
บนเนินเขาด้านหลังตระกูลเฉินขณะรอฟังข่าว
การสร้างบ้านและมุงหลังคาจําเป็นต้องมีแท่งไม้ไผ่ จึงไม่ มีใครสนใจการกระทําเล็ก ๆ น้อย ๆ ของหยุนเคอ!
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หยุนเคอกลับไปทานอาหาร เย็นที่บ้านแล้วกลับมาซ่อนตัวในตระกูลเฉิน ส่วนเฉินเฉินวิ่ง หอบหายใจไปตลอดทาง
“ลุงหยุน รีบไปหาพี่สาวข้า นางถูกท่านแม่ตีจนสลบไป แล้ว!”
หัวใจของหยุนเคอบีบรัดขึ้นในทันใด แต่ก่อนจะสอบถาม เรื่องราวใด เขาก็สับขาวิ่งออกไปแล้ว!
สื่อโถวถูกหลินชวนฮวาพาเข้าไปในโรงเก็บไม้ของตระกูล เฉินอย่างเงียบ ๆ
เดิมที่สื่อโถวเป็นคนโง่ แม้จะถูกขังไว้แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทําอย่างไร
หลินชวนฮวาทําได้เพียงนําทางอย่างอดทน นางนํา ทางฉือโถวไปที่โรงเก็บไม้และปล่อยให้เขานอนลงข้าง เฉินเถียนเถียน
ห้องนี้เป็นเพียงโรงเก็บไม้ธรรมดา เตียงนอนจึงไม่นุ่มเห มือนเตียงใหญ่ในห้องพัก สื่อโถวจึงโวยวายทันทีเพราะเขาไม่ อยากนอนที่นี่
“ไม่เอา! ข้าจะกลับบ้านไปฟ้องท่านแม่ว่าท่านรังแกข้า และไม่ให้ข้านอนในที่ดี ๆ!”
หลินชวนฮวากล่าวด้วยรอยยิ้ม “สื่อโถว หลานไม่อยาก แต่งภรรยาหรือ? ดูสิ พี่สาวคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไร? พานาง กลับไปเป็นภรรยาดีหรือไม่?”
เมื่อได้ยินว่าตนจะไม่ต้องกังวลเรื่องการแต่งภรรยา สื่อ โถวก็สงบลงและหันไปมองหน้าเฉินเดียนเถียน คราแรกฉื่อ โถวยังไม่ค่อยพอใจนัก แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามของ เฉินเดียนเถียน น้ําลายของเขาก็ไหลยืด…
“สวยจัง! นี่คือภรรยาของสื่อโถว!”
เมื่อมองเจ้าโง่ที่น้ำลายยืดกับนังเด็กเหลือขอที่อยู่ตรงหน้า หลินชวนฮวามีความสุขอย่างมาก ไม่ว่าจะงดงามสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับคนโง่
“ถ้าอยากให้นางเป็นภรรยา เจ้าต้องทนลําบากสักหน่อย นอนที่นี่กับนางหนึ่งคืนและรอจนวันรุ่งขึ้น นางก็จะได้เป็นก รรยาของเจ้า”
สื่อโถวมองไปรอบ ๆ ที่มีกองฟืนอยู่บ้างอย่างไม่ชอบใจนัก จึงเบะปากด้วยความรังเกียจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามข องเฉินเถียนเถียน เขาก็ยิ้มออกทันที
“ฉือโถวจะนอน… นอนและเชื่อฟัง จะได้แต่งงาน”
เจ้าคนโง่น้ำลายไหลย้อยปืนขึ้นไปนอนข้าง ๆ เฉินเถียนเถียน จากนั้นก็ใช้มือของเขาค่อย ๆ สัมผัสใบหน้าด้านข้างของนาง
หลินชวนฮวายิ้มอย่างภาคภูมิใจออกจากโรงเก็บไม้ไป เงียบ ๆ และลงกลอนประตูจากด้านนอก จากนั้น ก็กลับไปที่ห้องอย่างมีความสุข ตราบใดที่นางรอจนถึงพรุ่งนี้ เสียงกรีดร้องของนางก็จะเรียกความสนใจจากทุกคนใน หมู่บ้าน เมื่อถึงตอนนั้นเฉินเดียนเถียนจะต้องแต่งงาน แม้ว่าจะไม่อยากแต่งก็ตาม!