“ไม่ ไม่ได้ ถ้าเขารู้ฉันต้องตายแน่นอน……” เหตุผลที่เปราะบางของเฉินจื่อโร่วยังคงต่อสู้กับความรู้สึกที่อยากแก้แค้น
“คุณไม่พูด ผมไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก” ชุยซื่อฮว๋าพูดจบก็อุ้มเธอแล้วเดินผ่านบาร์แห่งเสียงสีเสียง ไปทางโรงแรมหลังบาร์
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ……” เฉินจื่อโร่วยังคงดิ้น แต่เสียงของเธอแผ่วเบาลงมากแล้ว
“อย่าลืมว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ยอมให้สือเพ่ยหลินปล่อยเธอไปเด็ดขาด” สายตาหึงหวงของชุยซื่อฮว๋าประกายแวววับขึ้น “คุณคิดถึงเขามันจะมีประโยชน์อะไร บางที พวกเขาอาจจะกำลังบรรเลงรักกันอยู่ก็ได้ ในร่างกายผู้หญิงคนนั้นมีน้ำเชื้อของเขา……”
เฉินจื่อโร่วตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด แต่เธอก็ยอมรับว่าเธอถูกล่อลวง
เธอไม่ขัดขืนอีกต่อไป เธอเข้าไปนัวเนียกับผู้ชายอย่างบ้าคลั่ง
เช้าวันรุ่งขึ้นเฉินจื่อโร่วรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว หลังจากหายจากอาการเมาค้าง สมองของเธอยังมีอาการเบลออยู่บ้าง
มีชายที่หน้าตาธรรมดานอนอยู่ข้างๆ เธอ เขาพูดกับเธอว่า “ตื่นแล้วเหรอ?”
ความทรงจำเกี่ยวกับการจมดิ่งของเมื่อคืนเริ่มกลับมา เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวได้เธอจึงตะโกนใส่เขา “แก”
“จื่อโร่ว ไม่เอาแบบนี้สิ เรื่องเมื่อคืนพวกเราต่างก็ยินยอมกันทั้งสองฝ่าย” ชุยซื่อฮว๋าพูดพร้อมกับขยับตัวเข้าไปใกล้เธอ “หรือจะให้ผมช่วยคุณรื้อฟื้นความทรงจำเมื่อคืน”
เธอมองใบหน้าธรรมดาของเขาด้วยความรังเกียจและเสียใจทีหลัง “ออกไป เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ถึงซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น!”
“จื่อโร่ว สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ชุยซื่อฮว๋าพูดด้วยอาการเมาค้างเล็กน้อย “นอกจากนี้ เมื่อคืนผมยังรู้สึกมีความสุขมาก!”
“ชุยซื่อฮว๋า คุณอย่าทำตัวน่ารังเกียจมากไปกว่านี้หน่อยเลย!” เฉินจื่อโร่วคว้าผ้าปูที่นอนมาห่อตัวเองไว้ “คุณไม่ไปใช่ไหม งั้นฉันไป!”
ชุยซื่อฮว๋ามองดูเธอสวมเสื้อผ้าอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเฉินจื่อโร่วหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของเธอเพื่อเตรียมตัวเดินออกไป เขาพูดช้าๆ ตามหลังเธอว่า “รูปคู่ของเราเมื่อคืนนี้มันดีมาก มันดูดีมาก!”
เฉินจื่อโร่วหยุดกะทันหันและหันกลับมา น้ำเสียงของเธอตื่นตระหนก “รูปคู่อะไรนะ?!”
“ลืมไปเลย ทำไมผมถึงลืมส่งให้คุณเก็บมันไว้” ชุยซื่อฮว๋ากดโทรศัพท์ของเขาสองสามครั้งเฉินจื่อโร่วก็รู้สึกว่าโทรศัพท์ของเธอสั่น
เปิดมาแทบเป็นลม!
ในรูปเป็นเธอกับชุยซื่อฮว๋ากำลังนัวเนียกันในสภาพเปลือยเปล่า!
ยังมีอีกสองสามรูปซึ่งทั้งหมดเป็นรูปเดี่ยวของเธอที่มีผิวขาวอมชมพูและสายตาที่ชวนหลงใหล
ชุยซื่อฮว๋ามองดูเธอที่กำลังจะอกแตกตาย เขายิ้มแล้วพูดว่า“หึ ยังมีวิดีโออีกนะ คุณอยากจะดูไหม? เมื่อวานเราทำกันสี่ครั้งและทั้งหมดถูกบันทึกไว้แล้ว!”
เฉินจื่อโร่วมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา อยากจะเข้าไปบีบคอชุยซื่อฮว๋าด้วยความรังเกียจ แต่เธอเข้าใจอำนาจระหว่างคนทั้งสอง เธอตัวสั่นแล้วพูดว่า “ชุยซื่อฮว๋า แกต้องการอะไร”
“ผมแค่หวังว่าเรื่องเมื่อคืนจะไม่ใช่คืนสุดท้ายของเรา” ชุยซื่อฮว๋าเงยหน้าขึ้นมองเธอ“คำขอของผมไม่ได้มากเกินไปใช่ไหม?”
“แก แกฝันไปเถอะ!” เฉินจื่อโร่วตัวสั่นด้วยความโกรธ “เรื่องเมื่อวานเพียงเพราะฉันดื่มมากเกินไป……”
“งั้นเหรอ?” ชุยซื่อฮว๋ายิ้ม “แต่ผมคิดว่าสือเพ่ยหลินจะไม่สนใจตรงที่คุณดื่มมากเกินไปแล้วมานอนกับผม คุณคิดว่าไง?”
“แก” หัวใจเฉินจื่อโร่วเต้นตึกตัก พยายามเก็บสีหน้าที่ดุดันและร้องไห้ออกมา “ชุยซื่อฮว๋า คุณอย่าทำแบบนี้กับฉันได้ไหม รู้ไหมว่าฉันอยากแต่งงานเข้าบ้านตระกูลสือมาโดยตลอด คุณทำแบบนี้เท่ากับทำลายฉัน! คุณบอกว่าคุณชอบฉันที่สุดไม่ใช่เหรอ? คุณจะทำลายฉันแบบนี้ได้อย่างไร?”
ชุยซื่อฮว๋าลงมาจากเตียงแล้วเดินไปหาเฉินจื่อโร่วด้วยตัวเปลือยเปล่า เขายกคางของเธอขึ้น “ใช่ ผมชอบคุณมากที่สุด แน่นอนว่าผมต้องการช่วยให้ความฝันของคุณเป็นจริงและช่วยให้คุณได้แต่งงานกับสือเพ่ยหลิน……”
ในขณะที่เธอกำลังตกตะลึง ชุยซื่อฮว๋าได้พูดต่อ“ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องการก็ง่ายมากเช่นกัน เพียงแค่คุณมาหาผมเมื่อผมต้องการคุณก็พอ”
เฉินจื่อโร่วเข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร เธอตัวสั่น “ทำไม?”
“เพราะผมรู้ว่าคุณจะไม่ยอมทิ้งเขา แม้ว่าผมจะใช้รูปภาพและวิดีโอเพื่อบังคับคุณ คุณก็จะดิ้นรนที่จะเอาตัวรอดได้ในที่สุด” เขาก้มศีรษะลงจูบเธออย่างไร้ยางอาย ฝ่ามือของเขาเลื่อนผ่านผิวหนังของเธอด้วยความรัก“ดังนั้นแบบนี้มันก็ดีมากแล้ว คุณไม่ต่อต้านแถมยังพูดกับผมดีๆ ”
“คุณคือปีศาจร้ายจริงๆ……” เฉินจื่อโร่วรู้สึกขยะแขยง แต่เธอต้องยอมรับตามที่เขาพูด
“ปีศาจร้ายงั้นเหรอ?” เขาปลดกระดุมเสื้อของเธอ“นั่นก็เป็นเพราะผมถูกคุณบังคับให้เป็นเช่นนี้! ผมตามจีบคุณมาเจ็ดปี! ในโรงเรียนมัธยมสามปีและมหาวิทยาลัยสี่ปี! แต่คุณไม่เคยมองมาที่ผมเลย!”
ในขณะที่เขาพูดได้มีเคลื่อนไหวร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง กระดุมเสื้อทุกเม็ดของเธอถูกดึงจนขาด เฉินจื่อโร่วถูกชุยซื่อฮว๋าอุ้มขึ้นไปบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมร่างของเธอ
*
ปกติแล้วสือมูเฉินจะออกกำลังกายตลอดทั้งปี ไข้จึงหายดีอย่างรวดเร็ว ในเช้าวันจันทร์ ขาของเขาก็ไม่มีอาการเจ็บแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบออกไปจากบ้านพักพร้อมหลานเสี่ยวถาง
ทันทีที่เขากลับถึงบ้านหลานเสี่ยวถางก็ได้รับโทรศัพท์จากคนแปลกหน้า เธอกดรับสายแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะ”
“เสี่ยวถาง ฉันเอง!” เสียงผู้หญิงที่ปลายโทรศัพท์พูดด้วยน้ำงัวเงียเล็กน้อย “ฉันกลับมาแล้ว”
“โยวโยว?!” ดวงตาของหลานเสี่ยวถางเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ “เธอกลับมาเมื่อไหร่? เธอไม่ใช่บอกว่าต้องรอให้วิทยานิพนธ์ตีพิมพ์ก่อนถึงกลับมาไม่ใช่เหรอ?”
“เสร็จแล้ว ฉันเพิ่งเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ฉันไม่ต้องกลับไปแล้ว” เฉียวโยวโยวพูด “ฉันมาถึงเมื่อคืนของวันก่อน ฉันพยายามติดต่อเธอแต่ติดต่อไม่ได้ เมื่อวานฉันยุ่งกับหาห้องเช่าทั้งวัน ฉันเพิ่งทำงานบ้านเสร็จทุกอย่าง ออกมาคุยกันหน่อยไหม”
“แน่นอน ไม่มีปัญหา!” หลานเสี่ยวถางมองดูเวลา “ห้าโมงเย็นได้ไหม?”
เฉียวโยวโยวตอบรับ “โอเค! เจอกันที่จินหยานสแควร์ ไม่ต้องเอาผู้ชายมาด้วยนะ!”
“ไม่มีปัญหา!” หลานเสี่ยวถางวางสายแล้วพูดกับสือมูเฉิน “มูเฉิน คืนนี้ขอลาหยุดได้ไหม? เพื่อนรักของเพิ่งมาจากการเรียนจบปริญญาโท พวกเราเลยจะ……”
“เสี่ยวถาง คุณควรมีชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องถามผมทุกเรื่องก็ได้ ขอเพียงแค่คนที่นัดไปไม่ใช่ผู้ชายก็พอ”
หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ถ้าไปทานข้าวกับผู้ชายก็ไม่ได้เหรอ?”
“ไปทานข้าวสองต่อสองไม่ได้ เว้นแต่ผมจะไปด้วย” สือมูเฉินเลิกคิ้ว“สามีของคุณค่อนข้างแสดงความเป็นเจ้าของมากนะว่าไหม”
“รับทราบค่ะ” หลานเสี่ยวถางไปเปลี่ยนเสื้อผ้า“โยวโยวเป็นเพื่อนนั่งข้างกับฉันสมัยเรียนมัธยมปลาย เธอบอกว่าครั้งนี้ไม่อนุญาตให้พาผู้ชายมาด้วย ไว้ครั้งหน้าฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักนะคะ”
หนึ่งชั่วโมงต่อมาหลานเสี่ยวถางก็มาถึงที่จินหยานสแควร์
เมื่อชำเลืองมอง เธอเห็นหญิงสาวสวมเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์และกางเกงยีนส์ขาดๆ ยืนอยู่ตรงลานน้ำพุ
สไตล์การแต่งตัวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลานเสี่ยวถางยิ้มและเดินเข้าไปทักทาย “โยวโยว!”
เฉียวโยวโยวโผล่เข้ากอดเธอแน่น แล้วมองดูเธอ “ว้าว เธอดูดีขึ้นกว่าตอนที่ฉันกลับมาช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเมื่อปีที่แล้วซะอีก”
หลานเสี่ยวถางยิ้ม “ไปที่เดิมใช่ไหม?”
“แน่นอน”
ทั้งสองไปที่ร้านกาแฟตรงหัวมุม สั่งกาแฟสองแก้วใส่นมไม่ใส่น้ำตาล
“โยวโยว เจียนปอดูแลเอาใจใส่เธอดีไหม?”หลานเสี่ยวถางถาม
“เขากล้าไม่ดูแลเอาใจใส่ฉันได้เหรอ?!” เฉียวโยวโยวเลิกคิ้ว ดวงตาเป็นประกาย “ครั้งนี้ฉันกลับก่อน เขาจบช้ากว่าฉันครึ่งปี หลังจากนั้นจะแต่งงานกันเมื่อเขากลับมา“
เรื่องราวของเฉียวโยวโยวและฟู้เจียนปอต้องย้อนกลับไปในสมัยอนุบาลจริงๆ จนถึงตอนนี้ทั้งสองจบปริญญาโทพร้อมกัน ในยุคแห่งความปรารถนาทางวัตถุ ความรักในวัยเรียนจึงเป็นเรื่องยากที่รักษาความสัมพันธ์ไว้
เมื่อเห็นสีหน้าของหลานเสี่ยวถางนิ่งเงียบเฉียวโยวโยวก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เสี่ยวถางแล้วเธอล่ะ สือเพ่ยหลินดูแลเธอดีไหม?”
หลานเสี่ยวถางจิบกาแฟแล้วมองไปที่เฉียวโยวโยว” โยวโยว ฉันหย่ากับเขาเมื่อเดือนที่แล้ว”
“เสี่ยวถาง เธอกำลังพูดว่าอะไรนะ?!” เฉียวโยวโยววางแก้วกาแฟลงอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกเห็นใจหลานเสี่ยวถาง
“ฉันจับได้ว่าเขานอกใจฉัน เห็นเต็มสองตาตอนเขากำลังพลอดรักกับชู้ เขาไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับผิด แต่ยังบังคับให้ฉันหย่ากับเขา” หลานเสี่ยวถางพูดน้ำเสียงที่ไม่แยแส
แม้จะยังมีความเกลียดชัง ความขุ่นเคือง ความไม่เต็มใจ แต่ไม่มีความเจ็บปวดรวดร้าวแล้ว
“ผู้ชายกากๆ!” เฉียวโยวโยวจำได้อย่างชัดเจนเมื่อตอนหลานเสี่ยวถางพูดด้วยความตื่นเต้นว่าสือเพ่ยหลินสามารถยืนขึ้นด้วยตัวเองได้แล้ว
น่าเสียดายที่เธอทำดีกับเขา เขากลับตอบแทนแบบเลวร้ายและน่ารังเกียจกับเธอ
เฉียวโยวโยวจับมือหลานเสี่ยวถาง “เสี่ยวถาง ไม่ต้องเศร้านะ ไม่มีเขาเราก็ไม่ตาย อยู่เป็นโสดไปสวยๆ !”
หลานเสี่ยวถางพยักหน้า หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “โยวโยว อันที่จริงมีอีกอย่างที่ฉันยังไม่ได้พูด คือหลังการหย่าร้างของฉัน ฉันแต่งงานใหม่อีกครั้งกับสือมูเฉินอาของสือเพ่ยหลิน”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?!” เฉียวโยวโยวตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งหลานเสี่ยวถางพูด “เขาไม่ใช่เคยเป็นคู่หมั้นกับพี่สาวเธอมาก่อนเหรอ? ดูเหมือนว่าเธอกับเขาไม่เคยสนิทสนมกันมาก่อนหรือเปล่า?”
“เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน วันที่ฉันหย่ากับสือเพ่ยหลินเขาขอให้ฉันแต่งงานกับเขา ฉันโดนล่อลวงเพราะเงื่อนไขที่เขาเสนอจะช่วยฉันแก้แค้นสือเพ่ยหลิน พอดีฉันไม่รู้จะพึ่งพาใครจึงรีบตอบตกลงไป”
ขณะที่เธอพูดแก้มของเธอมีรอยยิ้มเผยออกมาเล็กน้อย และก็มีอาการเขินอาย“ด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่หลังจากแต่งงานแล้ว เขาดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้ชีวิตราบรื่นมาก……”
เมื่อเห็นสีหน้าของหลานเสี่ยวถาง เฉียวโยวโยวก็ถอนหายใจ “เสี่ยวถาง อย่าบอกนะว่าเธอตกหลุมรักเขาแล้ว?”
หลานเสี่ยวถางส่ายหัว “ไม่ใช่ ฉันแค่คิดว่าเขาดีกับฉันมาก รู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่กับเขา”
“รู้ไหมมีคำพูดที่ว่า ดื่มเหล้าอย่าให้เมาจนเกินไป กินอย่าให้อิ่มจนเกินไป และความรักก็อย่ารักมากจนเกินไป” เฉียวโยวโยวจิบกาแฟ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเผยให้วความรู้สึกที่เป็นห่วง “เสี่ยวถาง เธอก็เหมือนกัน เชื่อใจคนอื่นง่ายๆ ดังนั้นมันง่ายที่จะเสียเปรียบ”
“โอเค โยวโยว ฉันรู้ว่าเธอเป็นห่วงฉัน ฉันเคยเสียเปรียบมาแล้วจะระวังให้ดี!” หลานเสี่ยวถางกระพริบตาและยื่นมือออกไป“ โยวโยว เธอไม่ใช่บอกว่ามีของขวัญมาให้ฉันเหรอ? ไหนล่ะ? ”
เฉียวโยวโยวหยิบห่อสองห่อออกจากถุงแล้วยื่นหนึ่งห่อให้หลานเสี่ยวถาง “นี่คือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ฉันนำมาให้เธอ”
หลังจากนั้นเธอลังเลที่จะยื่นกล่องสี่เหลี่ยมอีกกล่อง “เสี่ยวถาง นี่ืคือหันจื่ออี้ฝากมาให้เธอ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เจอเธอมาหลายปีแล้ว เขาคิดถึงเธอมาก”