มุมมองของเอเลนอร์ :
แสงแดดส่องลงมายังพื้นดิน นกร้องบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ในขณะที่ผู้คนต่างตื่นจากการหลับไหลเพื่อใช้ชีวิตกันตามปกติ ภายในกระท่อมบนเนินเขามีคนสองคนกำลังหลับไหลอยู่
เอเลนอร์ค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะขยี้ตา สิ่งแรกที่เธอเห็นคือใบหน้าที่หล่อเหลาของลูกศิษย์ตัวเองที่กำลังนอนหลับอย่างสงบอยู่
ตอนแรกฉันสับสนมากก่อนที่ความทรงจำของวันก่อนจะไหลทะลักเข้ามาจนทำให้ฉันตื่นขึ้นจากความงัวเงีย ฉันยิ้มขึ้นมาก่อนจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนหน้าอกของออสตินที่เปลือยเปล่าอยู่ ฉันรู้สึกได้ถึงมือของออสตินที่กอดเอวฉันไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยได้เลย
ร่างกายของฉันเหนื่อยนิดหน่อยและส่วนล่างของฉันก็เจ็บด้วย เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ฉันก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อยก่อนจะสัมผัสก้นของตัวเองและคิดขึ้นมา
‘ใครจะคิดว่าเขาจะซุกซนขนาดนี้’
เมื่อนึกถึงคำพูดของออสตินและสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ฉันก็อดไม่ได้ที่จะลดอายใจเล็กน้อย เนื่องจากฉันเป็นผู้หญิงที่มีตระกูลสูงศักดิ์ การทำสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อย แต่ฉันก็รู้สึกยินดีกับมัน
ฉันยกแขนขึ้นก่อนจะจิ้มแก้มของออสตินเล็กน้อย
ตอนนี้เขากำลังนอนอยู่กับฉันอย่างสงบ ใครจะไปคิดกันว่าความสัมพันธ์กับศิษย์ของตัวเองจะลงเอยเช่นนี้ แต่ฉันก็ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นฉันก็เริ่มนึกถึงเรื่องราวในอดีต ช่วงเวลาที่ฉันพบกับธนูเป็นครั้งแรกและถือมัน ช่วงเวลาที่ฉันถูกรายล้อมไปด้วยคำเยาะเย้ยของคนอื่นที่ด่าฉันว่าไม่มีพรสวรรค์ด้านดาบ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันปิดผนึกมันเอาไว้เนื่องจากไม่ต้องการความเห็นใจจากผู้อื่น สำหรับแม่นั้นฉันเป็นเพียงเครื่องมือที่เธอใช้ไม่ได้ สำหรับพ่อนั้นฉันเป็นเพียงเครื่องมือที่เขาสามารถใช้เพื่อเพิ่มอิทธิพลจากการแต่งงานเท่านั้น
จนกระทั่งในที่สุดฉันก็หนีจากครอบครัวและถูกตามล่า ตอนนั้นฉันรู้สึกเป็นอิสระ
แต่ถึงอย่างนั้นภัยพิบัติก็ตามมา ความงามที่ปราศจากพลังหรือเบื้องหลังเป็นบาปอย่างแท้จริง ฉันเคยเผชิญกับการทรยศและการโกหก ดังนั้นหัวใจของฉันจึงถูกปิดเอาไว้
ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังปรารถนา ‘ความรัก’ ที่แท้จริงอยู่ดี ฉันต้องการ ‘ความรัก’ ที่ไม่มีการหักหลังใดๆ แต่ฉันไม่เคยพบมันตลอดการเดินทางเลย เมื่อพลังของฉันเพิ่มขึ้น ใจฉันก็ถูกปิดมากยิ่งขึ้น
จนในที่สุดฉันก็มาถึงอาณาจักรแห่งจักรพรรดิในตำนานและฉันก็ได้ตอบแทนความทุกข์ยากของตัวเองในอดีตเป็นร้อยครั้ง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว ฉันถูกบิดเบี้ยวไปแล้ว ฉันยังจำความสุขใจจากเสียงกรีดร้องของความสิ้นหวังของครอบครัวตัวเองได้อยู่เลย
ฉันก็รู้ว่าบางทีตัวเองอาจจะมาไกลเกินไปแล้วก็ได้?
แต่ฉันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันคิดว่าบางที…บางทีฉันอาจจะได้พบกับ ‘ความรัก’ ของตัวเอง หลายปีผ่านไปเรื่องราวและพลังของฉันก็แผ่ขยายออกไป ฉันสวมภาพลักษณ์ที่ ‘สง่างาม’ และใช้ชีวิตต่อไป
ตอนนั้นเองที่ฉันปรารถนาอยากจะมีลูกศิษย์ซักคนหนึ่ง ในตอนแรกการแข่งขันกับเพื่อนคนอื่นๆ ของฉันที่เอาแต่โอ้อวดเกี่ยวกับลุกศิษย์ของพวกเขาก็เป็นเช่นนั้น ฉันอยากได้ใครซักคนที่จะมาเดิมตามรอยเท้าของฉันได้
ในขณะเดียวกันความคิดที่จะต้องสอนใครซักคนก็หายไปจากฉัน ฉันคิดว่าบางทีฉันสามารถแบ่งปัน ‘ความรัก’ กับเขาได้
ตอนแรกฉันหาคนที่ตรงกับใจของตัวเองไม่เจอเลย จนกระทั่งฉันเจอเขา…ออสตินของฉัน ฉันยังจำรูปร่างอ้วนท้วมที่เดินเข้ามาในร้านของฉันพร้อมกับพวกทหารนั่นได้อยู่เลย เขาน่ารักมากเลยในตอนนั้น
ฉันสามารถเห็นประกายแวววาวในดวงตาของเขาทุกครั้งที่เขามองไปที่ธนูได้เลยและมันทำให้ฉันสนใจเขา ตอนแรกฉันคิดว่าเขาอาจจะเป็นขุนนางทั่วๆ ไปที่คิดจะเล่นสนุกเท่านั้น
ใครจะไปคิดว่าเขาคือพรหมลิขิตของฉัน ยิ่งฉันโต้ตอบกับเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งดึงฉันเข้าไปหามากเท่านั้น ฉันเห็นภาพตัวเองในตัวเขา อ่อนแอและไร้พลัง
เมื่อใดก็ตามที่เขาพูดถึงการปกป้องฉันหรือครอบครัวของเขา มันมักจะทำให้ฉันโมโหเสมอ แม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะทำให้ฉันประหลาดใจอยู่บ้างก็เถอะ จนฉันได้รู้ว่าพ่อของเขาเสียชีวิตเพื่อปกป้องเขา ดังนั้นเขาเลยมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องคนอื่น
เขาค่อยๆ เข้ามาในใจฉันช้าๆ และลงเอยด้วยการที่ฉันมอบ ‘ความรัก’ ให้เขา ฉันเปิดใจให้เขาและเราก็สนิทกันมากขึ้นในฐานะ ‘ครอบครัว’ หลายปีที่ฉันไม่ได้เจอเขาและนั่นเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของฉันเลย
แค่คิดว่าเขาจะบาดเจ็บฉันก็กลัวจนบางครั้วฉันก็คิดที่จะตามหาเขาและทำให้เขาอยู่ข้างๆ ตัวเองเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัย แต่ใครจะคิดว่าเขาจะเป็นคนที่ปกป้องฉันแทนกันหล่ะ
เป็นครั้งแรกเลยที่มีใครซักคนมาไกลขนาดนี้เพื่อฉันและเมื่อได้ยินคำบอกรักของเขาก็เหมือนน้ำทิพย์สำหรับฉันเลย ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวฉันก็ตกหลุมรักเขาอย่างหนักไปซะแล้ว
ออกมาจากความคิดของตัวเอง ฉันกำลังมองไปที่ออสตินอย่างเป็นกังวลเล็กน้อย เขาจะทิ้งฉันไปไหมถ้าเขารู้เรื่องอีกด้านหนึ่งของฉัน? คนที่ซึ่งมีความสุขกับการได้ยินเสียงอันเจ็บปวดของผู้อื่น? ด้านที่บิดเบี้ยวของฉัน?
ฉันส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดเหล่านั้นทิ้งไปก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้เขาเพื่อจูบลงที่หน้าผากของเขา ฉันเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาปรากฏขึ้นมาหลังจากฉันทำแบบนั้น
ฉันขยับออกจากร่างกายของเขาอย่างระมัดระวังและยืนขึ้นโดยไม่รบกวนเขา ความเจ็บปวดยังคงลงเหลืออยู่และในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไหลออกมาจากหว่างขาขงตัวเอง ซักพักฉันก็กังวล
‘ฉันจะท้องไหมนะ?’
แม้ว่ามันจะยากที่คุณจะตั้งครรภ์ในตอนที่คุณมีระดับพลังที่สูง แต่ลองคิดดูสิว่าออสตินเสร็จข้างในฉันไปกี่ครั้ง ฉันเลยไม่มั่นใจว่าจะปลอดภัยรึเปล่า
แต่ความคิดที่จะมีลูกกับเขามีแต่จะทำให้ฉันมีความสุขมากขึ้น ฉันนึกถึงภาพของออสตินกับลูกของเราที่เล่นอยู่ในบ้านซึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความคิดนั้นมีแต่จะทำให้ความสุขของฉันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
สละความคิดพวกนั้นไปฉันก็เข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดตัวเองก่อนจะออกจากกระท่อมมา เมื่อออกมาฉันก็พบกับดวงอาทิตย์ขึ้นจากระหว่างเนินเขา มันช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
ขณะที่ฉันกำลังดูภาพเบื้องหน้าอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงการปรากฏตัวจากด้านหลัง ฉันยิ้มก่อนจะถูกมือที่แข็งแรง 2 ข้างรวบเอวอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังฉัน
“โอ้? นี่มัน? แฟนของผมกำลังดูพระอาทิตย์ขึ้นโดยที่ไม่มีผมอยู่งั้นเหรอครับ?”
ลมหายใจร้อนของเขาและการได้ยินที่ออสตินเรียกฉันว่าแฟนของเขานั้นทำให้ร่างกายของฉันร้อนขึ้นมา
“ฉันก็แค่ไม่อยากรบกวนเธอเท่านั้นเง”
“หืมมมงั้นผมคงต้องตอบแทนน้ำใจนี้สินะครับ”
ว่าแล้วเขาก็อุ้มฉันขึ้นด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิงก่นจะพาฉันไปที่ต้นไม้ใกล้ๆ เขานั่งลงพิงมันขณะที่วางฉันไว้บนตักของเขา
เมื่อได้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาใกล้ๆ พรัอมกับร้อยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าของเขาก็ทำเอาฉันยิ้มไปด้วย
“นี่ออสตี้…เธอจะเกลียดฉันไหมถ้าเธอรู้ว่าฉันมีด้านที่แย่อยู่ด้วย?”
เมื่อออสตินได้ยินคำถามของฉัน เขาก็แสดงสีหน้าสับสน ฉันค่อนข้างกลัวที่จะบอกเรื่องนั้นกับเขา แต่ฉันก็ยังทำ
“ถ -ถ้าฉันไม่ใช่ครูผู้สง่างามแบบที่เธอดิดว่าฉันเป็นหล่ะ? ถ้าฉันไม่ใช่คนดีหล่ะ?”
คำถามของฉันมีแต่จะทำให้เขาสับสนมากยิ่งขึ้น ฉันกำลังจะยักไหล่ให้กับคำถามของตัวเอง
แต่ก่อนที่ฉันจะทำแบบนั้นเขาก็เอามือมาจับหน้าฉันไว้ขณะมองลึกเข้าไปในตัวฉัน
“เอเลนอร์เคยฆ่าคนที่ไม่สมควรฆ่าไหมครับ?”
เมื่อได้ยินคำถามของเขา ฉันก็ส่ายหัว ตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นนักเรียนและเขาเป็นอาจารย์
“คุณเคยคิดที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์รึเปล่าครับ?”
ฉันก็ยังคงส่ายหัวให้กับคำถามนั้นเหมือนเดิม เมื่อเห็นคำตอบของฉันออสตินก็ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มขงเขาในตอนนี้ดูอ่อนโยนมาก เขาดึงฉันเข้าไปใกล้ก่อนจะเอาหน้าผากมาชนฉัน
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่สนใจหรอกครับ พวกเราไม่ได้สมบูรณ์แบบกันทุกคน ความรักของผมที่มีต่อคุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ภายในใจของผม คุณจะสมบูรณ์แบบเสมอครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบของเขา ฉันก็ดึงเขามาจูบ เราประกบปากกันอย่างหิวกระหายราวกับไม่อยากผละออกจากกัน
‘ทำยังไงดี? ฉันควรทำยังไงดี?’
‘ความรักของฉันเหมือนจะล้นออกมาเลย’
เราจูบกันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะผละออกจากกัน ฉันแนบหัวของตัวเองไว้ที่อกของเขา หัวใจของฉันดูเหมืนจะเต้นเร็วเกินไป
เราทั้งสองนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ขณะที่ลมพัดผ่าน ใบไม้ปลิวว่อน ท้องฟ้าที่โผล่ขึ้นมาทำให้โลกสดใสไปชั่วขณะหนึ่งเหมือนโลกนี้มีเพียงเราสองคนเท่านั้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต