ตอนที่ 63 ผู้ชนะประเภทรุก

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

63 การแข่งขันศิลปะป้องกันตัวปีที่แล้ว ผู้ชนะประเภทดาบ

 

“ก่อนอื่นเลย ที่ทำอยู่นี่คืออะไร? พฤติกรรมที่เข้ามาล้อมเด็กผู้หญิงพร้อมอาวุธแบบนี้คืออะไร?”

 

ตอนนี้ฉันก้าวขึ้นหน้าแล้ว ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้เรื่องนี้จบลงไปเฉย ๆ

 

“ฉันจะโกรธหรือไม่ขึ้นอยู่กับคำตอบของคุณ ดังนั้นจงตอบอย่างระมัดระวัง”

 

――ขึ้นอยู่กับคำตอบของพวกเขา ว่าฉันต้องสั่งสอนเพื่อช่วยดัดสันดานที่บิดเบี้ยวให้ หรือจะแค่เอ็นดูสักเล็กน้อยกัน

 

“มะ มาเพื่อประลองด้วยไงล่ะ!”

 

ลูซินดูจะสับสน เป็นเพราะฉันที่ยืนดูเงียบ ๆ มาตลอดจู่ ๆ ก็ออกหน้างั้นเหรอ หรือว่าจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากฉันที่เป็นแค่เด็ก ――เด็กนี้มีสัญชาตญาณการต่อสู้ที่ดูดีเลย ดูเหมือนว่าถ้าฝึกฝนจริงจังจะแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน

 

“ประลอง? หมายถึงอะไร?”

 

“………..”

 

พวกเด็กชายดูอึดอัดและไม่ตอบ ดังนั้นฉันจึงหันมาถามเรเลียเรดแทน

 

“――มาเพื่อล้างอายกับฉันน่ะ ตอนแรกก็สองคนตรงนั้นก็มาก่อน หลังจากนั้นก็เริ่มเพิ่มขึ้นทีละคน”

 

เห๊

 

“เรเลียแข็งแกร่งสินะ”

 

หากเด็กอายุเพียงหกขวบ บอกว่าสามารถเอาชนะเด็กผู้ชายหลายคนที่มีอาวุธแถมอายุมากกว่าได้ นั่นไม่ใช่ว่ามีอนาคตที่สดใสหรอกหรือ

เพราะในวัยเพียงเท่านี้ มักจะได้รับอิทธิผลอย่างมากจากจำนวนคนและรูปลักษณ์อุปกรณ์มากกว่าจากตัวศิลปะการต่อสู้เอง

 

“ก็นะ! ตอนนี้เธออาจจะแข็งแกร่งกว่าฉัน แต่ว่า! แต่สักวันฉันจะเอาชนะเธอได้แน่นอน……จะหัวเราะทำไมกันย๊า!”

 

“ไม่ได้หัวเราะสักหน่อย แค่คิดว่าน่ารักดีเท่านั้นเอง”

 

“ยังไงก็หัวเราะอยู่ดีไม่ใช่รึไงย๊า!?”

 

พูดอย่างกว้าง ๆ ก็ประมาณนั้นแหละ แต่สำหรับฉันมีความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง

 

“ม๊า ฉันก็เข้าใจเรื่องบางส่วนแล้ว”

 

ฉันปล่อยเรเลียเรดที่โกรธเกรี้ยวไว้คนเดียว แล้วหันไปหาพวกเด็กผู้ชาย

 

“คุณน่ะ เมื่อกี้พูดว่า『แข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยอาวุธ』สินะ? ช่วยถือขึ้นมาหน่อยได้ไหม?”

 

“เอ๊ะ?”

 

ท้ายที่สุด ลูซินก็ไม่สามารถซ่อนความสับสนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฉัน――

 

“――โม๊ว ไม่ต้องถือขึ้นมาแล้วก็ได้”

 

ก่อนที่เขาจะทันตอบสนองต่อคำพูดและการเคลื่อนไหวของฉัน ดาบไม้ที่ถืออยู่ในมือขวาของเขาก็แหวกอากาศบินออกไปไกล

 

โม๊ว ไม่จำเป็นต้องตั้งท่าแล้วก็ได้

หลังจากที่ฉันเตะไปแล้วเรียบร้อย

 

เป็นเพียงการเตะด้านหน้าธรรมดา ๆ เป็นต่อหน้าแถมค่อนข้างช้าด้วย

 

――แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของพวกเขาแล้วดูเหมือนจะมองไม่เห็นกันสินะ ฉันไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วขนาดนั้นสักหน่อย

 

“แล้ว? คุณผู้ที่แข็งแกร่งขึ้นด้วยอาวุธ ตอนนี้คุณจะทำยังไงเมื่อเสียอาวุธไปแล้ว?”

 

ในเวลาปกติ ฉันก็คงเทศนาต่อจากนี้ทันที

ฉันจะพูดด้วยคำพูดทั้งหมดทั้งสิ้นให้ได้รับรู้ว่า มือเปล่าแข็งแกร่งยังไง ยอดเยี่ยมยังไง ศักยภาพการต่อสู้ที่ยืดหยุ่นและไร้ความกลัวยังไง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือดาด ๆ อย่างอาวุธ ไม่ว่าจะเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์หรือดาบเวทมนตร์ ต่างก็แตกหักง่าย อย่าไปยึดติดกับของไร้ค่าพวกนั้น กล้ามเนื้อไม่ทรยศคุณ มีแค่คุณที่ทรยศกล้ามเนื้อ 

 

แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาแล้วจริง ๆ เพราะอย่างงั้นฉันจะยกโทษให้

 

ถ้าเขาเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะซัดเขาสักสองสามหมัด แต่การลงมือกับเด็กไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะทำร้ายความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของฉัน

นอกจากนี้ พวกเขายังไม่มีความเป็นศัตรู หรือจิตมุ่งร้าย ดังนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก

 

นอกจากนี้ ผมสีขาวของฉันยังโดดเด่นแม้จะมองจากระยะไกล

แถมถ้าอยู่ในที่ที่เห็นได้ชัดขนาดนี้นาน ๆ ริโนกิสจะเจอฉันในไม่ช้า ดังนั้นอย่างน้อยฉันก็อยากไปที่โรงฝึกของทลายสวรรค์ให้เร็วที่สุด

 

ฉันปล่อยให้พวกเขาที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไว้ และจับมือของเรเลียเรดซึ่งก็กำลังตะลึงอยู่เช่นกัน และเริ่มเดิน ……ตอนที่ฉันจับมือเธอ เธอก็สะดุ้งสุดตัว อาจเป็นเพราะเธอยังจำความรู้สึกเจ็บปวดที่เคยโดนจากฉันได้ ขอโทษ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว

 

――ทว่า

 

“ได้โปรดช่วยรอสักเดี๋ยวสิ”

 

 

 

“รุ่นพี่ซาโนะ!?”

 

ผู้ชายในชุดเครื่องแบบที่เดินเข้ามานั้นตัวค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับเด็ก ๆ รวมถึงตัวฉันด้วย น่าจะเป็นนักเรียนมัธยมต้น

 

และการที่ลูซินและเด็กชายคนอื่น ๆ เรียกชื่อของเขา น่าจะเป็นคนรู้จักของพวกเขา……หรือบางอาจเป็นเพื่อนร่วมสำนัก

เพราะเขาเองก็พกดาบไม้เช่นกัน

 

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าซาโนะที่ยังคงมีโครงหน้าแบบเด็ก ๆ แต่หล่อเหลา ไม่แม้แต่จะมองไปที่พวกเด็กผู้ชาย แต่มองตรงมาที่ฉัน ม๊า ก็หล่อล่ะ แต่ก็ยังแพ้พี่ชายอยู่ดี

 

“ผม ซาโนวิล・บาดร์ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้นที่กำลังช่วยสอนเด็ก ๆ พวกนี้ที่โรงฝึกครับ”

 

ฟูอืม ซาโนวิลสินะ

 

ฉันสงสัยแค่ว่าเป็นชื่อที่ควรค่าแก่การจดจำหรือไม่

 

” ――ผมได้เห็นการเตะเมื่อกี้แล้ว ได้โปรดช่วยสู้กับผมที”

 

…………

 

ดีจัง

ความรู้สึกที่ฉันเห็นมีเพียงความอ่อนประสบการณ์ และน่าสงสาร แต่ว่าฉันก็คิดว่าเขาเป็นนักสู้เช่นกัน

 

ยังไงก็ตาม ความบ้าบิ่นนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการวางมาดด้วยหรือเปล่า

 

ความปราถนาในใจของนักสู้คือ การได้เผชิญหน้าและท้าทายอย่างสง่าผ่าเผย หลังได้เห็นลูกเตะนั้นแล้ว การจะท้าทายต้องคิดมากยิ่งขึ้น

 

ฉันไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แม้ว่าจะเห็นผลลัพธ์ก่อนที่เริ่มแล้วก็ตาม

ฉันยังไงก็ได้

 

” ―― เนีย แย่แล้วล่ะ”

 

เรเลียเรดเข้ามากระซิบที่หูฉัน

 

” ――ซาโนวิล・บาดร์เป็นผู้ชนะประเภทวิชาดาบของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ปีที่แล้ว ต่อให้เป็นเธอก็ชนะไม่ได้หรอก”

 

โห๊

แค่นี้ก็ชนะเลิสได้แล้วเหรอ

ระดับแค่นี้

……อืม……อื~ม

 

ม๊า ก็ไม่เป็นไร แม้ว่าระดับของการแข่งขันต่อสู้จะต่ำก็ตาม

 

ทว่า ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่แย่มาก

 

“ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ฉันไม่มีเวลาแล้ว ฉันไม่สามารถเปลี่ยนสถานที่ได้ และไม่สามารถรอได้”

 

” ―― เดี๋ยวเถอะ! ไม่ได้นะ! ทางนั้นก็หยุดได้แล้ว!”

 

เรเลียเรดเปล่งเสียงอย่างสิ้นหวัง บางทีครั้งนี้เพื่อปกป้องฉันจริง ๆ น่าร๊าก ฉันจะให้เงินค่าขนมของฉันในภายหลัง

 

แต่ฉันจะไม่หยุด

 

หากมีนักสู้ยื่นคำท้า ก็เป็นหน้าที่ของนักสู้ที่จะต้องตอบสนองเช่นกัน

ถ้าไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ก็ควรยอมรับ

 

“หากคุณพร้อมที่จะแพ้ต่อหน้ารุ่นน้องแล้ว ก็เข้ามาที่นี่ตอนนี้ได้เลย”

 

ซาโนวิลไม่พูดอะไร และตอบโดยถือดาบไม้ของเขา

 

 

 

เปรี๊ยะ บรรยากาศกำลังตึงเครียด

บรรยากาศอันอบอุ่นจนถึงเมื่อกี้ ตอนนี้กำลังถูกแต่งแต้มด้วยความรู้สึกตึงเครียดอย่างหนัก

 

อย่างที่เรเลียเรดคิดไว้ เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปิดปากเมื่อเรื่องกลายเป็นแบบนี้

 

――ม๊า ก็แค่ไม่กี่วินาทีเอง

 

“แบบนี้ไม่เป็นไรใช่ไหมน่ะ?”

 

” ――っ!?”

 

คราวนี้ฉันพยายามเคลื่อนที่เร็วขึ้นเล็กน้อย

 

ฉันก้าวเพียงหนึ่งก้าวเพื่อย่นระยะช่องว่าง ฟันดาบมือเล็งไปที่ดาบไม้ของซาโนวิลที่ถืออยู่จนขาดกลาง

 

บางทีสำหรับเขาแล้ว ทั้งหมดที่เขาเห็นคือ จู่ ๆ ฉันก็ไปปรากฎตัวอยู่ต่อหน้า

เขากระโดดถอยหลังด้วยความตื่นตระหนกเพื่อรักษาระยะห่างจากฉันที่ลดดาบมือลงแล้ว――ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าสายเกินไปแล้วสำหรับอาวุธของเขา

 

เขาจ้องมองดาบไม้ที่ถูกตัดอย่างตกตะลึง

 

“นี่ค่ะ”

 

ฉันโยนอีกครึ่งที่ตกพื้นกลับไปให้

 

“แค่นี้พอแล้วสินะ? ขอตัวค่ะ”

 

“”………..””

 

ไม่มีใครพูดอะไร

พวกเขาคงไม่สามารถกลืน ย่อย หรือเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในช่วงเวลาสั้น ๆ ตอนนี้ได้

 

ม๊า ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องไปสนใจล่ะนะ

 

ฉันจับมือเรเลียเรดซึ่งยังคงสะดุ้งเมื่อถูกฉันจับมือ ครั้งนี้ได้เวลามุ่งหน้าที่โรงฝึกได้ซะที