ตอนที่ 75 ติฉินนินทา
เมื่อจวินอู๋เสียกลับมาจากตำหนักของมั่วเฉี่ยนยวน นางไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะเป็นคลื่นลูกใหญ่เพียงใด
ในเวลาเพียงครึ่งวัน ข่าวซุบซิบเรื่องใหม่ก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง
ไม่นานหลังจากถูกองค์ชายรองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยทอดทิ้ง นางโจรแห่งจวนหลินอ๋องก็ได้คบหากับองค์รัชทายาทในคืนงานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ เช้าตรู่ของวันนี้ องค์รัชทายาทก็ได้ทูลขอให้ฮ่องเต้อนุญาตให้จวินอู๋เสียมาที่ตำหนักหลินยวน ชายหญิงคู่หนึ่งไม่เพียงแต่อาศัยอยู่ร่วมกันในห้องเป็นเวลากว่าครึ่งค่อนวัน ก่อนจากกันองค์รัชทายาทยังมอบยอดสุราธาราหยกที่หวงแหนหนักหนาให้แก่จวินอู๋เสีย และส่งจวินอู๋เสียถึงหน้าประตูตำหนักด้วยพระองค์เอง มิหนำซ้ำยังมองตามหลังนางเป็นเวลานาน…
เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป มันก็ลุกลามไปทั่วเมืองหลวงราวกับไฟป่า
ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมีพระโอรสทั้งสิ้นสองพระองค์ โอรสองค์โตคือมั่วเฉี่ยนยวนซึ่งเป็นองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบัน ส่วนโอรสองค์รองก็คือมั่วเซวี่ยนเฝ่ย
เมื่อก่อนชื่อเสียงขององค์รัชทายาทนั้นเหนือกว่าองค์ชายรองมาก แต่หลังจากฮองเฮาสิ้นพระชนม์ องค์รัชทายาทผู้เฉลียวฉลาดก็เปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่มีนิสัยประหลาด ทั้งยังไร้มารยาทสิ้นดี ชื่อเสียงขององค์รัชทายาทจึงค่อนข้างย่ำแย่มากในใจของทุกคน เทียบกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแทบไม่ได้เลย
ในแง่ของรูปลักษณ์ มั่วเฉี่ยนยวนไม่เป็นรองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากอุปนิสัยที่แปลกประหลาดของมั่วเฉี่ยนยวน ผู้คนจึงถอยห่างจากเขา ตรงกันข้ามกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่มักจะเดินเข้าออกเมืองหลวงบ่อยครั้งและช่วยเหลือผู้คนที่ทุกข์ยากซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงชนะใจประชาชนและได้รับชื่อเสียงดีงามมากมาย
แม้กระทั่งในวันนั้น พฤติกรรมที่ไม่ดีของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่มีความรักครั้งใหม่และทรยศต่อสัญญาการหมั้นหมายระหว่างจวินอู๋เสีย ในใจของประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังคิดว่าเป็นเรื่องที่ชาญฉลาดมาก และไม่ได้กระทบต่อภาพลักษณ์ของเขาเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ องค์รัชทายาทที่โง่เขลาไร้ความสามารถได้คบหากับนางโจรผู้โด่งดังแห่งเมืองหลวง ได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก
จวินอู๋เสียผู้นี้เข้าวังแค่สองครั้งเท่านั้น ซึ่งทั้งสองครั้งล้วนไปเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์รัชทายาท
ครั้งแรก นางถูกใจองค์ชายรองมั่วเซวี่ยนเฝ่ย เพราะอำนาจของจวนหลินอ๋องนางจึงได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ย
แต่ครั้งที่สอง หลังจากที่นางเพิ่งยกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยได้ไม่นาน นางก็คบหากับองค์รัชทายาทเสียแล้ว
ทันใดนั้น ข่าวลือที่ว่าจวินอู๋เสียจิตใจรวนเรก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และแม้แต่มั่วเฉี่ยนยวนก็ถูกเย้ยหยันจากผู้คนมากมาย ว่าเขาเก็บรองเท้าเก่าที่น้องชายไม่เอาแล้ว
บางคนหัวเราะเยาะว่ามั่วเฉี่ยนยวนมีตาหามีแววไม่ และบางคนก็แอบหัวเราะลับหลังว่าคนเลวสองคนจับคู่กันช่างเหมาะสมยิ่งนัก
ภายในครึ่งวัน เรื่องราวของจวินอู๋เสียและมั่วเฉี่ยนยวนก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากตามท้องถนนและตรอกซอกซอย
เมื่อจวินเสี่ยนเห็นจวินอู๋เสียถือยอดสุราธาราหยกกลับจวน สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมทันที
จู่ๆ มั่วเฉี่ยนยวนก็เชิญจวินอู๋เสียไปที่ตำหนักหลินยวน แค่นี้ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่เหมาะสมแล้ว ตอนนี้ เขายังมอบยอดสุราธาราหยกที่ฮองเฮาเหลือทิ้งไว้ให้แก่จวินอู๋เสียอีก นี่มันเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ
ต้องรู้ก่อนว่ายอดสุราธาราหยกนั้นสำคัญสำหรับมั่วเฉียนหยวนมากเพียงใด แม้ว่าฮ่องเต้ต้องการจะดื่ม เขาก็ยังไม่ยอม มั่วเซวี่ยนเฝ่ยเคยขอยอดสุราธาราหยกหนึ่งจอกในงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของมั่วเฉี่ยนยวน แต่ก็ถูกมั่วเฉี่ยนยวนด่ากลับไปอย่างไร้ความปรานี
ตั้งแต่นั้นมา ทุกคนจึงรู้ดีว่ามีเพียงมั่วเฉี่ยนยวนเท่านั้นที่สามารถดื่มสุราชั้นดีนี้ได้
แต่ยอดสุราธาราหยกที่แม้แต่องค์ชายรองก็ยังไม่มีสิทธิ์ดื่มแม้แต่จอกเดียว มั่วเฉี่ยนยวนกลับมอบให้จวินอู๋เสียถึงหนึ่งไห จะให้ผู้คนเข้าใจสิ่งนี้ว่าอย่างไร
จวินเสี่ยนลังเลใจอยู่นาน อยากกล่าวถามจวินอู๋เสีย แต่หลังจากเห็นดวงตาใสบริสุทธิ์ของหลานสาวแล้ว เขาก็กลืนสิ่งที่เขาจะถามลงไปทันที
อู๋เสียเพิ่งถูกไอ้สารเลวมั่วเซวี่ยนเฝ่ยทำร้ายจิตใจมา และตอนนี้มันคงจะดีกว่าถ้าหากคนอื่นสามารถดึงดูดความสนใจของนางได้
…………….
ตอนที่ 76 พลัง
เพื่อให้จวินอู๋เสียลืมมั่วเซวี่ยนเฝ่ยโดยเร็วที่สุด จวินเสี่ยนจึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป
จวินอู๋เสียไม่รู้ความคิดของคนรอบข้างเลย นางจะรู้หรือไม่ว่ายอดสุราธาราหยกนี้ทำให้ทุกคนคิดว่านางกำลังคบหากับมั่วเฉี่ยนยวนอยู่
ยกยอดสุราธาราหยกกลับมาให้อย่างง่ายดาย จวินอู๋เสียก็ไม่เสียเวลารีบกลับไปที่เรือนพักและเรียกเจ้าดอกบัวขาวออกมาทันที
เด็กชายตัวเล็กที่มีผิวขาวเนียนยืนเหยียบพื้นด้วยเท้าเปล่า รีบกระโดดไปที่โต๊ะ จ้องมองไปที่ไหที่ใส่ยอดสุราธาราหยกไว้ และอยากจะดื่มมันจนน้ำลายสอ
“กลิ่นหอมมาก” ดอกบัวขาวสูดกลิ่นหอมของสุราที่ฟุ้งออกมาจากไหและกลืนน้ำลายตัวเอง
จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว จ้องมองไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของเจ้าดอกบัวขาวแล้วกล่าวว่า “เจ้าสามารถใช้มันเพื่อเติบโตได้หรือไม่”
ดอกบัวขาวน้อยหยุดชะงัก เขากลืนน้ำลายและส่ายหัว
จวินอู๋เสียเหลือบมองไปที่เขา เจ้าดอกบัวขาวก็รีบดึงมือที่ยืดออกมากลับไปอย่างเงียบๆ
นอกจากเมล็ดบัวที่ให้มั่วเฉี่ยนยวนไปแล้ว ในมือของจวินอู๋เสียเหลือเมล็ดบัวอีกเพียงแค่หนึ่งเมล็ดเท่านั้น นางหยิบอ่างบัวขนาดเท่าฝ่ามือออกมาอย่างไม่รีบร้อน แล้วเทยอดสุราธาราหยกลงในอ่าง กลิ่นหอมของสุราลอยฟุ้งไปทั่วห้องทันที แค่ดมกลิ่นก็ทำให้คนมึนเมาได้แล้ว สีของสุราที่ไหลลงในอ่างสีเขียวคล้ายหยกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามกระแสน้ำ
เจ้าดอกบัวขาวอ้าปากค้าง นางสามารถเห็นน้ำลายค่อยๆ ไหลลงมาจากมุมปากของเขาได้เลย
แมวดำนอนอยู่บนโต๊ะ พิงติดกับอ่างบัว มันเลียอุ้งเท้าอย่างช้าๆ เผยให้เห็นกรงเล็บที่แหลมคมและดวงตาของมันก็จ้องไปที่เจ้าดอกบัวขาว
เจ้าดอกบัวขาวหดคอของตัวเองกลับและรีบเช็ดน้ำลายที่มุมปากอย่างรวดเร็ว
ในตำราได้บันทึกไว้ว่าถ้าต้องการปลูกดอกบัวขาว ต้องทำให้ยอดสุราธาราหยกเย็นเสียก่อน ทว่าสุรานี้ไม่ได้ร้อน จวินอู๋เสียจิ้มสุราด้วยปลายนิ้วอย่างระมัดระวังและเมื่อแน่ใจแล้วว่าปลายนิ้วของนางเย็น นางจึงตัดสินใจใส่เมล็ดบัวลงไปในอ่างบัว
เมล็ดบัวสีเขียวถูกโยนลงไปในสุราสีใส ฉับพลันนั้นเองกลิ่นหอมของดอกบัวผสมกับกลิ่นหอมของสุราก็ลอยฟุ้งไปทั่วห้อง
ดอกบัวขาวน้อยแค่ได้กลิ่นใบหน้าของเขาก็แดงระเรื่อแล้ว
จวินอู๋เสียจ้องไปที่เมล็ดบัวในอ่างบัวเป็นเวลานาน และไม่เห็นปฏิกิริยาใดๆ มีเพียงกลิ่นหอมในห้องที่แรงขึ้นเรื่อยๆ ปกตินางไวต่อกลิ่นและนางก็ไม่ชอบกลิ่นของสุรามาก แต่การผสมผสานของกลิ่นหอมของดอกบัวกับกลิ่นสุรานี้ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกไม่ชอบ แต่ทำให้นางรู้สึกสดชื่นไปทั้งตัว กลิ่นหอมพุ่งเข้าจมูกของนางราวกับน้ำพุร้อนที่ไหลเข้าสู่อวัยวะภายในของนาง ทำให้ร่างกายของนางอบอุ่นราวกับแช่น้ำพุร้อน
จวินอู๋เสียที่ไม่ค่อยเชื่อในการฝึกพลังแปลกๆ นั้นในตอนแรกก็รู้สึกวางใจในทันที
แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าอะไรคือพลัง แต่ภายใต้กลิ่นหอมอันอบอุ่นนี้ นางสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าคลื่นอากาศอันอบอุ่นค่อยๆ ไหลเข้าสู่เส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดเส้นของนาง
บางทีนี่อาจเป็นพลังของโลกนี้
ดวงตาของจวินอู๋เสียเป็นประกายเล็กน้อย นางนั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะ และเพลิดเพลินกับความสบายที่ได้รับจากกลิ่นหอมนี้
แม้ว่าน้ำสำหรับการเพาะปลูกนี้จะหาได้ยาก แต่ผลที่ได้ก็น่าทึ่งมาก
แต่ไม่รู้ว่ายอดสุราธาราหยกไหเล็กๆ นี้จะสามารถปลูกเมล็ดบัวนี้ได้หรือไม่ ที่มั่วเฉี่ยนยวนเหลือยอดสุราธาราหยกไหใหญ่ๆ เพียงไม่กี่ไหเท่านั้น หากใช้หมดเร็วเกินไป นางก็ไม่รู้ว่าจะไปหาสิ่งทดแทนได้จากที่ไหนแล้วจริงๆ
คิดว่าทั่วทั้งรัฐชีน่าจะมีแค่นั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่าพลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายตัวเอง จวินอู๋เสียไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนั้นได้ มันร้อนเล็กน้อย แต่ก็นุ่มนวลมาก มันค่อยๆ แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของนางทีละเล็กทีละน้อยและค่อยๆ รวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของนางอย่างช้าๆ
……………..