แสงแดดส่องลงมาจากหน้าต่างในห้องที่ซึ่งมีชายหนุ่มนอนอยู่
‘ห๊ะ? นี่เราเผลอหลับไปงั้นเหรอ?’
ผมตื่นขึ้นมาและเห็นว่าตัวเองยังคงนอนหนุนตักแม่อยู่ ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าแม่นอนตะแคงอยู่เหมือนกัน ในตอนที่เห็นเธอผมก็อดไม่ได้ที่จะเคลิ้มไป
แสงแดดส่องลงมาจากหน้าต่างกระทบลงใบหน้าของเธอ ผมของเธอถูกเสยไปด้านข้างทำให้ผมสามารถมองเห็นคอของเธอได้อย่างชัดเจน แม้ในยามที่เธอนอนหลับอยู่ เธอก็ยังคงดูสดใสและสง่างาม ภาพที่สวยงามถูกสร้างขึ้น ทำให้ผมละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย
‘ดูเหมือนว่าในที่สุดเราก็สามารถผ่อนคลายได้เล็กน้อยแล้ว’
ปีที่ผ่านมาของผมนั้นไม่ค่อยดีนัก ทั้งต้องย้ายไปๆ มาๆ แถมยังถูกสั่งให้จีบเป้าหมายทั้งหมดหรือตายอีกเลยไม่ใช่โอกาสที่ดีในการผ่อนคลายซักเท่าไหร่
บวกกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการที่ผมต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองพร้อมกับอันตรายทั้งหมดในโลกนี้ไม่ได้ทำให้ผมผ่อนคลายเลย ผมต้องวิ่งเต้นไปมาอยู่หลายปีเลย
มันทำให้ผมกดดันตลอดเวลา ตอนนี้ผมพอจะผ่อนคลายได้บ้างแล้ว ผมทำเต็มที่แล้ว ตอนนี้ได้เวลาเก็บเกี่ยวผลตอบแทนทั้งหมดแล้ว
ผมยิ้มอย่างช้าๆ ขณะลุกขึ้นจากตักของแม่และดูเหมือนว่าแม่เองก็จะตื่นขึ้นมาจากการกระทำของผมเช่นกัน ผมที่นั่งอยู่เห็นว่าแม่ค่อยๆ จะลืมตาขึ้นมาก่อนเธอจะค่อยๆ ยืดร่างกายจนทำให้ผมสามารถมองเห็นหน้าอกของเธอที่ชูชันอยู่ภายในชุดของเธอได้
“อ๊ะ? ตื่นแล้วเหรอออสตี้?”
“ผมพึ่งตื่นครับแม่ ต้นขาของแม่คือหมอนที่สมบูรณ์แบบ มันนอนหลับสบายมากเลยครับ”
“ฮี่…ฮี่ ดูเหมือนว่าลูกจะปากหวานขึ้นมากเลยนะ แม่หล่ะสงสารสาวๆ ที่ตกอยู่ใต้คารมของลูกจริงๆ”
ผมได้แต่เกาหัวด้วยความ ‘เขินอาย’ เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ
เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของผม เกรซก็ยิ้มขึ้นมา
“หืมมม∼ เป็นไปได้ไหมว่าลูกชายของแม่ไม่ได้พบใครเลยในระหว่างการเดินทางของเขา?”
“อย่าแกล้งผมสิครับแม่ ผู้หญิงเหล่านั้นที่ผมพบจะมาเทียบกับแม่ของผมได้ยังไงกันหล่ะครับ?”
“เอ๋∼∼เอ๋ ที่ลูกมาปากหวานกับแม่แบบนี้ เป็นไปได้ไหมว่าลูกต้องการอะไรซักอย่าง?”
“ผมไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับแม่ แค่ได้อยู่กับแม่ที่บ้านก็เกินพอแล้วครับ แถมผมยังมีของขวัญมาให้แม่ด้วยนะครับ”
เมื่อเกรซได้ยินว่าผมมีของขวัญจะให้เธอ เกรซก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เมื่อเห็นท่าทางของเธอเช่นนั้นผมก็ดึงสร้อยคอออกมาจากแหวนมิติ
ในมือของผมมีสร้อยคอสีทองซึ่งมีหินสีแดงฝั่งอยู่ตรงกลางซึ่งให้ความรู้สึกสงบและสวยงามปรากฏอยู่ การออกแบบที่สวยงามรอบๆ นั้นทำให้มันดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้นไปอีก
ทันทีที่สร้อยคอถูกหยิบออกมา มานาในห้องก็มีพลังมากขึ้น ทั้งผมและเกรซเองก็เริ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่เกรซกำลังจดจ่ออยู่กับแหวนมิติของผมก็มีเสียงประหลาดใจดังขึ้นมา
“ห๊ะ! นั่นมันสร้อยคออันเงียบสงบของท้องทะเลนิฟทีลเหรอ?”
คำพูดของเกรซเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เนื่องจากสร้อยคอในมือของผมนั้นถูกระบุว่าหายสาปสูญไปนานแล้ว นิฟทีลเป็นสร้อยคอของราชินีแม่ค้าผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวกันว่ามันเป็นของประทานจากราชาแห่งท้องทะเล
ว่ากันว่าสร้อยคอนี้จะทำให้ผู้สวมใส่ผ่อนคลายและสุขภาพดีขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น นอกจากนี้มันยังช่วยให้ผู้สวมใส่ดูดซับมานาที่บริสุทธิ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะเติมมานาที่หายไปของคุณอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ราวกับว่าเพิ่มไอซิ่งให้กับเค้ก สร้อยคอนี้ยังมีผลทำให้ผู้สวมใส่สวยขึ้นอีกด้วย ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนในโลกต้องการ แต่ว่ากันว่าสร้อยคอเส้นนี้หายสาปสูญไปในทะเลในตอนที่ราชินีแม่ค้าเสียชีวิตในท้องทะเล
“มันคือของจริงครับแม่”
“ห๊ะ-? ได้ยังไงกัน??”
การได้เห็นท่าทางสับสนที่น่ารักบนใบหน้าของแม่ช่างเป็นบุญของผมเสียจริง
เมื่อเธอมีคำถามมากขึ้นผมเลยวางนิ้วลงบนริมฝีปากของเธอ
“ชู่ววว์ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมได้รับมันมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายครับ ส่วนวิธีการที่ได้มันมานั้นเป็นความลับครับ”
เมื่อเห็นผมทำลับๆ ล่อๆ แม่ก็ทำหน้ามุ่ย
‘บ้าเอ้ย! ทำไมแม่ถึงทำตัวน่ารักได้ขนาดนี้กันนะ?’
ผมเกือบจะเผลอพุ่งเข้าใส่ริมฝีปากของเธอตามแรงกระตุ้นแล้วถ้าผมไม่ได้ควบคุมตัวเองเอาไว้ซะก่อน
ผมวางสร้อยลงบนมือของแม่ก่อนจะพูด
“รับมันไปสิครับแม่”
“ไม่ได้หรอกจ๊ะ! แม่จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน นี่เป็นของที่ลูกเจอมา ลูกเก็บมันไว้เถอะจ๊ะ บางทีลูกอาจจะแลกมันเป็นเงินหรือให้แฟนในอนาคตของลูกก็ได้”
พูดจบเธอก็พยายามดันสร้อยคืนให้ผม
ผมส่ายหน้าแล้วส่งมันคืนให้เธอก่อนจะตอบกลับเสียงแข็ง
“ไม่ครับแม่ มันเป็นของขวัญจากผมให้แม่ครับ แม่ไม่เต็มใจที่จะรับของขวัญจากผมเหรอครับ?”
“แต่นี่มันมากเกินไปนะ”
ผมส่ายหัวก่อนจะแนบมือเข้ากับใบหน้าของเธอ ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองผม
ผมค่อยๆ ลูบใบหน้าของเธอด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะพูดขึ้นมา
“แม่ไม่สมควรได้รับความสุขเหรอครับ?”
“ลูกหมายความว่ายังไง!?”
“เห้อออ…แม่ครับ ตั้งแต่พ่อตายไปแม่ก็ดูแลพวกเรามาตลอด ก่อนที่แม่จะนึกเสียใจที่น้ำหนักมหาศาลของดยุควางอยู่บนบ่าของแม่ซะอีก”
“แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็ไม่ย่อท้อ แม่ดูแลพวกเราอย่างสุดหัวใจ แม่แบกความลำบากและเสียสละความสุขของตัวเองเพื่อพวกเรา”
สิ่งที่ผมพูดนั้นไม่ใช่เพียงแค่บทละครเท่านั้น ผมพูดแบบนี้เพราะเห็นว่าผู้หญิงคนนี้นั้นทำทุกอย่างในขณะที่เธอยังคงเจ็บปวดจากการเสียคนรักไปอยู่ สำหรับผู้หญิงซึ่งเคยเป็นเจ้าหญิงที่แก้ไขทุกอย่างด้วยความเข้มแข็งและอำนาจ หน้าที่ของดยุคไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะรับมือไหว
ผมยังจำตอนที่เธอทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยได้ดี บางทีเธอก็ลืมข้าว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยิ้มและเล่นกับเรา ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง
“แม่ครับ ในโลกนี้ผมคิดว่าแม่คือคนที่จำเป็นที่สุดที่ต้องมีความสุข พวกเราต่างก็โตกันแล้วครับ แม่ไม่ต้องเผชิญกับมันเพียงลำพังแล้วครับ ผม-ไม่สิ เราทุกคนจะอยู่ข้างๆ แม่ครับ”
“ดังนั้นขอให้มีความสุขนะครับ แม่”
เกรซมีสีหน้าตกใจก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา
“อ๊ะ? -ได้ยังไงกัน? ทำไมน้ำตาถึง-”
เกรซตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดและนั่นก็ทำให้เธอร้องไห้ออกมา ผมจึงค่อยๆ ลูบหลังเธอเพื่อปลอบโยนก่อนจะจูบไปที่หน้าผากของเธอเบาๆ
“แม่ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาอีกต่อไปแล้วครับ อย่างน้อยตอนอยู่กับผม แม่สามารถแสดงด้านที่อ่อนแอของแม่ออกมาได้เสมอนะครับ”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต