บทที่ 66 คุกเข่าลง

คิงดราก้อน

เย่หยุนซูเพิ่งรู้ว่า หลังจากที่ตัวเองตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัว

ราวกับว่าบริเวณท้องน้อยมีเปลวไฟเล็ก ๆ ที่ลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ เผาไหม้ไปตามแขนขาและอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายไม่หยุด

ถึงขั้นถ้ามีการเสียดสีเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้เธอรู้สึกสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นก่อน

ร่างกายของเธอไวต่อความรู้สึกมากผิดปกติ!

“ถังเทียนหวา คุณ……คุณทำอะไรกับฉันกันแน่?”

เย่หยุนซูอยากจะยันตัวเองให้ลุกขึ้น แต่กลับพบว่าไม่มีแรงไปทั้งตัว สองมือก็ไม่ยอมเชื่อฟังจะเอาแต่ลูบไล้ไปตามเรือนร่าง

“เหอะเหอะ อย่าวิตกไปเลย เพียงแค่ใส่ยาลงไปในไวน์ของคุณนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะวางยา! คุณวางยาอะไรฉันกันแน่?” เย่หยุนซูโวยวายเสียงสั่นเครือ

ถังเทียนหวาตอบกลับอย่างได้ใจ “ยานี่เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศชนิดรุนแรงที่ผมเอามาจากประเทศไทยโดยเฉพาะเลย ว่ากันว่าใช้สำหรับเพาะพันธุ์ช้าง!”

อะไรนะ ใช้สำหรับช้าง……ไอสารเลวนี่ ถึงขั้นใช้ยาแบบนี้กับตัวเอง!

“ ไร้ยางอาย!”

“ไอชั่ว!”

เย่หยุนซูโกรธจนตัวสั่น แต่การสั่นไหวจากกระแสน้ำที่ซัดมาเป็นระลอก ๆ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกเวียนหัวมากขึ้น

เธอกัดลิ้นของตัวเองแรง ๆ เพื่อครองสติเอาไว้

“ถังเทียนหวา ต่อให้ฉันตายก็ไม่มีทางยอมให้แกได้สมใจหวังหรอก แกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า ถึงได้ใช้วิธีสกปรกชั้นต่ำแบบนี้ รังแกผู้หญิงอย่างฉัน

“ฮึ ยังจะโทษฉันอีกเหรอ? เพราะเธอนั่นแหละไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ฉันถังเทียนหวามีทั้งเงิน มีทั้งอำนาจ ตระกูลถังของฉันก็นับว่ามีชื่อเสียงติดอันดับในจีน!”

“แต่เธอล่ะ นังแพศยาอย่างเธอกลับไปแต่งงานกับไอเศษสวะคนหนึ่งลับหลังฉัน เอาถังเทียนหวาคนนี้ไปไว้ตรงไหน?”

“ถังเทียนหวา ฉันแต่งงานกับใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย ฉันเพียงแค่ไม่อยากอยู่กับนาย ฝืนใจกันไปมันก็ไม่มีความสุขหรอกนะ ทำไมนายต้องบีบบังคับฉันตลอดด้วย!” เย่หยุนซูพูดด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้ความเป็นธรรม

สองมือของถังเทียนหวากำหมัดจนแน่น แล้วค่อย ๆ เริ่มขาดสติ

“ฝืนใจกันไปจะมีความสุขหรือไม่ งั้นก็ต้องลองดูถึงจะรู้ ผู้หญิงที่ฉันถังเทียนหวาต้องตาต้องใจ ไม่มีใครสามารถหลุดพ้นเงื้อมมือฉันไปได้สักคน!”

เย่หยุนซูรู้สึกกลัวอย่างมาก คิดอยากหนีตามสัญชาตญาณ แต่ร่างกายกลับไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แม้แต่ลงจากเตียงก็ทำไม่ไหว

ฤทธิ์ยาปลุกอารมณ์ทางเพศนี้น่ากลัวเหลือเกิน เย่หยุนซูได้แต่ยอมให้เขาข่มเหงรังแก ไม่มีทางที่จะต่อต้านขัดขืนได้เลยสักนิด!

หรือว่าร่างกายอันบริสุทธิ์ของฉัน ต้องมาแปดเปื้อนเพราะไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่งั้นเหรอ?

น้ำตาแห่งความเจ็บใจได้รินไหลออกจากหางตาของเธอ ในหัวของเธอ ผุดภาพใบหน้าที่มักมีรอยยิ้มเล็กน้อยใบนั้นขึ้นมา

เซียวหยาง!

ทำไมนายยังไม่โผล่มาอีกล่ะ นายเคยบอกว่าจะเป็นคนที่คอยปกป้องคนรัก นายรีบออกมาสิ มาอัดไอ้บ้านี่ให้น่วมไปเลย

แต่เซียวหยางก็ไม่ปรากฏตัวขึ้น สิ่งที่รอกลับมีเพียงการเยาะเย้ยของถังเทียนหวาแทน

“เหอะเหอะ เย่หยุนซู เธอคงไม่ได้ตั้งตารอไอเซียวหยางนั่นหรอกใช่ไหม ฮ่าฮ่าฮ่า ไอหนุ่มนั่นจะมาแน่นอน ฉันจะให้มันคุกเข่าต่อหน้าฉัน เพื่อตั้งใจดูการแสดงสดของเราสองคน!”

“หลังจากนั้น ฉันจะเฉือนร่างกายของมันด้วยมีดเล่มหนึ่งในขณะที่มันกำลังโกรธแค้นอยู่ ชำแหละร่างกายมันออกเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำให้เป็นอาหารปลา!”

เย่หยุนซูตกใจกลัวเป็นอย่างมาก ไอ้โรคจิตคนนี้ คิดจะทำถึงขนาดนี้เลย!

“เซียวหยางล่ะ แกทำอะไรกับเซียวหยาง?”

“อย่าใจร้อนสิ อีกเดี๋ยวเธอก็ได้รู้เอง ตอนนี้ให้ฉันได้ดูอาการตกมันของเธอก่อนแล้วกัน”

ถังเทียนหวาเอากล้องถ่ายรูป Full HD ออกมาตั้ง วางไว้ข้างเตียง เลนส์กล้องหันไปที่เย่หยุนซูพอดี

“จิ๊จิ๊ ไม่เลวนี่ รูปร่างแบบนี้นี่สุดยอดจริง ๆ หยุนซู ยั่วยวนกว่านี้หน่อยสิ แรดกว่านี้หน่อยสิ อย่าหวงตัวนักเลย”

“ถังเทียนหวา ไอ้สัตว์นรก ไอ้สารเลว!”

“เหอเหอ ใช่ ด่าต่อสิ ยิ่งเธอด่าหยาบฉันก็ยิ่งเร้าใจ! เดี๋ยวแส้ของฉันฟาดเข้าไปจะยิ่งสะใจกว่านี้ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

“ในที่สุดก็มาสักที ละครสนุกเริ่มแล้ว!”

ถังเทียนหวาถูมือไปมา ไปเปิดประตูด้วยความตื่นเต้นดีใจ เขารู้ว่า ต้องเป็นคุณเฟิงจับตัวเซียวหยางมาได้แล้วแน่นอน

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด คุณเฟิงและเซียวหยางเดินตามกันเข้ามา

เซียวหยางยืนอยู่ด้านหลังคุณเฟิง สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ

ถังเทียนหวาคิดว่าไอหนุ่มนี่ตกใจในพละกำลังของคุณเฟิงไปแล้ว ไม่กล้าแม้แต่จะคิดต่อต้าน จึงอดไม่ได้ที่จะดูถูกเหยียดหยาม

มึงอวดดีนักไม่ใช่หรือไง คิดว่าเจ๋งนักที่จัดการกับพวกอันธพาลได้ พอเจอยอดฝีมือทำไมถึงยอมเสียล่ะ

แม่งเอ้ย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ก็ควรโดนยอดฝีมือสั่งสอนมึง!

ถังเทียนหวามองเซียวหยางด้วยความสนใจ แล้วยิ้มเยาะพลางพูดว่า

“พี่เซียว ที่จริงแกก็มีฝีมืออยู่บ้าง เอางี้ดีไหม แกยกหยุนซูให้ฉัน ฉันจะให้แกมาทำงานที่บริษัทตระกูลถังกรุ๊ป รายได้ต่อปีหลักล้านเป็นไง?”

สามารถทำให้เย่หยุนซูยอมศิโรราบได้ และยังสามารถให้เซียวหยางมาทำงานให้ตัวเอง ถ้ามาที่บริษัท แล้วให้เสิร์ฟชารินน้ำล้างห้องน้ำ เซียวหยางก็จะเหมือนสุนัขที่คอยปรนนิบัติรับใช้ตัวเอง

แค่คิดก็รู้สึกสะใจแล้ว

“เซียว……เซียวหยาง!”

เย่หยุนซูมองเห็นร่างที่คุ้นเคย เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเซียวหยาง ก็รู้สึกดีใจอย่างคาดไม่ถึง แต่ก็กังวลขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

ถังเทียนหวาโรคจิตวิปริตขนาดนี้ ต้องเตรียมการไว้อย่างดีแน่นอน ไม่มีทางที่จะให้เซียวหยางตอบโต้ได้หรอก

เซียวหยางมองไปที่เย่หยุนซู เห็นว่าเสื้อผ้ายังสวมใส่ดีอยู่ เพียงแต่ถูกวางยาปลุกอารมณ์ทางเพศไป จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาชั่วขณะ

“ยกหยุนซูให้แก แกคู่ควรเหรอ?” เซียวหยางเอ่ยพูดอย่างเย็นชา

รอยยิ้มของถังเทียนหวาหายไปทันที แล้วพูดอย่างร้ายลึกว่า

“เซียวหยาง อุตส่าห์ไว้หน้ามึงแล้วก็อย่าอวดดีนัก ก่อนหน้านี้ยอมให้มึงทำตัวจองหองถึงสองครั้ง แต่วันนี้ มึงไม่มีสิทธิ์มาจองหองกับกูอีกแล้ว!”

เซียวหยางแสยะยิ้มออกมา “ถังเทียนหวา แกคิดว่าตัวเองมีอำนาจสามารถทำอะไรก็ได้ในเมืองหยินโจว แต่จากที่ฉันเซียวหยางคนนี้เห็น แกมันก็แค่แมลงตัวหนึ่งเท่านั้น!”

“ไอโง่ จะตายอยู่รอมร่อยังกล้าคุยโวโอ้อวดอีก!” ถังเทียนหวาโวยวายด้วยความโมโห

ไอหนุ่มนี่สมองมันมีปัญหาหรือเปล่า เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วยังกล้ามาวางท่ากับตัวเองอีก

“จะตายอยู่รอมร่อ? ที่พูดนั่นหมายถึงตัวแกเองสินะ!”

เซียวหยางพูดประชดประชันเสียดสี เผยรังสีอำมหิตอย่างแท้จริงออกมา

ถังเทียนหวาตกใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนจะตกใจกลัวเพราะสายตาของเซียวหยาง เหมือนกับดาบคมสองเล่มที่สามารถแทงทะลุหัวใจคนได้

ราวกับว่าตอนนี้ทั้งสองคนได้สลับตำแหน่งกันแล้ว เซียวหยางต่างหากที่เป็นคนคุมเกมเอาไว้

แต่ว่าตอนที่ถังเทียนหวาเห็นคุณเฟิง ก็รู้สึกวางใจทันที มีคุณเฟิงอยู่ด้วย เขาจะต้องกลัวอะไรอีก!

ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลถัง คุณพ่อได้มอบหมายให้คุณเฟิงมาคอยติดตามตัวเอง ไม่ว่าอยู่ที่ต่างประเทศ หรืออยู่ในประเทศ คุณเฟิงก็คอยช่วยเขาจัดการปัญหาไปไม่น้อย

คนมีฝีมือดี ๆ ที่ตายในเงื้อมมือของคุณเฟิง ถึงมีไม่ถึงร้อยคน แต่ก็มีถึงห้าสิบคนแหละ!

เขารู้ดีว่ามีคนที่มีความสามารถแปลกประหลาดอยู่บนโลกใบนี้ และคุณเฟิงก็เป็นหนึ่งในนั้น

มีคุณเฟิงอยู่ทั้งคน ก็สามารถต้านทานคนเป็นพันคนได้!

สาเหตุที่ตระกูลถังสามารถยืนหยัดในเมืองหยินโจวได้อย่างไม่สั่นคลอน ที่จริงเบื้องหลังก็มีคนประเภทเดียวกับคุณเฟิงคอยให้พึ่งพาและคุ้มครองอยู่

ส่วนเซียวหยาง นอกจากจะเสแสร้งวางท่าไปวัน ๆ ก็ไร้ความสามารถเหมือนแมวสามขาที่แม้แต่หนูก็จับไม่ได้

“เซียวหยาง อย่ามาขู่คนอื่นให้กลัวอยู่เลย ในเมื่อมึงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง งั้นกูก็จะให้มึงดูอะไรเด็ด ๆ!”

พูดถึงตรงนี้ ถังเทียนหวาก็เผยสีหน้าตื่นเต้นเร้าใจออกมา

“คุณเฟิง ให้มันคุกเข่าให้ผมเดี๋ยวนี้!”