ตอนที่ 66 สินค้าสามชิ้นสุดท้ายมาแล้ว!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

เมื่อเสียงเคาะค้อนครั้งที่สามดังขึ้น หัวใจที่เต้นโครมครามของวู่หยานก็เริ่มสงบลง

 

ถึงแม้จะเสียไปหนึ่งแสนเหรียญทองจากสองแสน แต่เขาก็ไม่ได้เสียดายเลย

 

ตราบใดที่คริสตัลสีขาวนั่นสามารถแลกเปลี่ยนเป็นแต้มอัญเชิญได้สักหนึ่งพันแต้มก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว!

 

แต่วู่หยานไม่เชื่อว่ามันจะได้แค่หนึ่งพัน เพราะระบบมันถึงกับใช้คำว่า ‘มหาศาล’ เลยเชียวนะ!

 

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าไอ้มหาศาลนี่ จะมากขนาดไหนก็เถอะ…..

 

วู่หยานสวดอ้อนวอนในใจเงียบๆ หวังว่าจะแต้มมากพอที่จะอัญเชิญเธอคนนั้นได้!

 

เขาได้คิดไว้แล้วว่าจะอัญเชิญใครเป็นคนต่อไป!

 

มองฮินางิคุกับมิโคโตะที่กำลังเจอระเบิดคำถามของลิลินเป็นชุด ‘ระบบคืออะไรเหรอ แต้มอัญเชิญคืออะไรเหรอคะ?’ด้วยท่าทางเงอะๆงะๆด้วยรอยยิ้มมีความสุขในโชคร้ายของคนอื่น

 

คริสตัลสีขาวบริสุทธิ์เป็นได้ออเดิฟเบาๆก่อนที่ของจริงจะมา ไม่นานก็มีพนักงานนำคริสตัลมาส่งให้ถึงห้องVIP

 

ถึงจะมีหลายๆคนเสียดายที่ตนประมูลไม่ได้ แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะถึงจะประมูลได้จริงๆถ้าไม่รู้วิธีใช้มันก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้น แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของโณงประมูลยังไม่รู้ พวกเค้าก็ไม่คิดว่าตนเองจะรู้เหมือนกัน

 

ดังนั้นเรื่องคริสตัลจึงถูกโยนออกจากหัวผู้คนอย่างรวดเร็ว

 

ส่วนวู่หยานก็ไม่ได้สนเลยว่ามันใช้ยังไง แม้คริสตัลมันจะเทพแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าแต้มอัญเชิญหรอก! ในระบบตราบใดที่เขามีแต้มมากพอ ยังจะกลัวขาดไอเท็มเทพๆอีกเหรอ?

 

ดังนั้น เมื่อคริสตัลตกลงสู้มือวู่หยาน เขาก็ได้ตันสินใจแล้วว่าจะใช้มันยังไง!

 

หลังจากนั้น ลุงก็เริ่มพูดสาธยายไอเท็มอีกหลายชิ้น มีบางอันที่ประมูลได้ราคาสูงกว่าคริสตัลสีขาวนี่อีก

 

ส่วนวู่หยานก็หมดความสนใจ โยนกระดานคริสตัลให้ลิลินเล่นต่อกับ ‘เกมประมูลของเธอ’

 

ไม่รู้นานเท่าใด แสงตรงกลางโรงประมูลก็เปลี่ยนสีอีกครั้ง

 

ถ้าแสงก่อนหน้านี้ที่ฉายมาตั้งแต่เริ่มประมูลให้ความรู้สึกสบายๆแก่ผู้คน งั้นแสงตอนนี้ก็ให้ความรู้สึกตื้นเต้น! ปลุกเร้าอารมณ์ผู้คน!

 

เมื่อแสงเปลี่ยนลุงแกก็ยืนตัวตรงกว่าเดิม สีหน้าก็เปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นจริงจัง

 

กวาดตามองทั่วทั้งห้องประมูล ลุงยกมือทั้งสองขึ้น แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้ว! สินค้าชิ้นสุดท้ายของการประมูลครั้งนี้!”

 

“สินค้าสามชิ้นสุดท้ายต่อจากนี้ สามารถพูดได้เลยว่าล้ำค่าที่สุด และยิ่งชิ้นหลังๆยิ่งล้ำค่า! โดยเฉพาะชิ้นสุดท้าย!”

 

นี่เป็นเรื่องจริง ของก่อนหน้านี้ก็มีหลายชิ้นที่ราคาสูงเกินกว่าหนึ่งแสนเหรียญทอง ราคาขนาดนี้ก็ยังไม่ใช่ของชิ้นสุดท้าย งั้นของชิ้นสุดท้ายนี้ย่อมต้องล้ำค่ามากกว่าแน่นอนที่สุด!

 

ผลจากคำพูดของลุง ทำให้บรรยากาศตึงเครียดขึ้น ถึงกับทำให้บางคนเหงื่อไหลเลยทีเดียว

 

ภาพบนลูกแก้วคริสตัลขยายตัวขึ้นหลายเท่าย่างรวดเร็ว ก่อนจะมีคัมภีร์ปรากฏขึ้นมาซึ่งมันกินเนื้อที่ไปถึงสามในสี่ของภาพเลยทีเดียว บนคัมภีร์มีอักษรสีทองอร่ามสลักไว้ว่า ‘วิถีแห่งการฉีกกระชากวายุ’

 

“นี่คือหนึ่งในคัมภีร์ที่บันทึกวิชาขั้นสูงของนักรบ! มีชื่อว่า วิถีแห่งการฉีกกระชากวายุ เป็นวิชาที่นักรบแรงค์7สร้างขึ้น อานุภาพของมันสูงส่งเกินบรรยาย ตราบใดที่ฝึกฝนสำเร็จ ในแรงค์ระดับเดียวกันท่านสามารถเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย! แม้แต่แรงค์ระดับสูงกว่า ก็ยังสามารถสร้างบาดแผลไม่น้อยให้อีกฝ่ายได้!”

 

ผู้ชมแทบทุกคนเบิกตากว้างมอง ก่อนที่จะเอนตัวไปด้านหน้าด้วยลมหายใจถี่ยิบ ราวกับว่าอยากจะขยับเข้าไปใกล้คัมภีร์ให้มากที่สุด

 

วิชาขั้นสูง! ในแรงค์ระดับเดียวกันแข็งแกร่งที่สุด! และสามารถสู้ข้ามแรงค์ได้!!

 

คำพูดนี้ดึงดูดทุกคนได้อย่างแท้จริง บางคนถึงกับตะโกนบอกว่า ‘รีบๆเริ่มประมูลได้แล้ว’ อีกด้วย

 

วู่หยานที่นั่งอยู่ในห้องVIP ได้ยินคำพูดลุง เขาก็หัวเราะเยาะเย้ยออกมาตรงๆอย่างไม่คิดปิดเลยแม้แต่นิดเดียว

 

มันเป็นวิชาขั้นสูงนั้นไม่ผิด แต่ไอ้ขั้นสูงนี้แหละยิ่งหมายความว่าฝึกยากสุดๆ!

 

วิชานี้เป็นนักรบแรงค์7คิดค้นขึ้น อย่างน้อยๆถ้าคิดจะฝึกก็ต้องเป็นแรงค์5เป็นอย่างต่ำ ถึงจะเข้าเงื่อนไข

 

ส่วนไอ้คำพูดที่ว่าแข็งแกร่งที่สุดในระดับเดียวกันนี่ก็ออกจะเวอร์ไปหน่อย เอ็งมีวิชาขั้นสูงแล้วคิดว่าคนอื่นมีไม่ได้รึไง? ไม่ต้องพูดถึงพวกคุณหนูในตระกูลชั้นสูงเลย รายนั้นมีวิชาแบบนี้ไม่ต่ำกว่าสองให้ฝึกด้วยซ้ำ!

 

แล้วอะไรนะ? สู้ข้ามแรงค์ได้? พ่อเอ็งเถอะ! โครตตลก!

 

มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรก็แค่วิชาที่นักรบแรงค์7คิดขึ้น อย่างมากสุดก็แค่มีผลสำหรับพวกต่ำกว่าแรงค์7เท่านั้นแหละ ถ้ามากกว่านั้นก็เป็นได้แค่วิชาปาหี่แล้ว!

 

แน่นอนว่าถึงวู่หยานจะดูถูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะคิดแบบเขา……….

 

อบิลิตี้ของวู่หยานได้มาจากระบบ ซึ่งตอนซื้อมาเขาก็จะถูกสลักข้อมูลต่างๆของอบิลิตี้ที่ซื้อลงในสมองโดยตรงเลย ดังนั้นเมื่อเขาซื้อแล้วจึงสามารถใช้ได้ทันที!

 

ดังนั้นในสายตาวู่หยานวิชาพวกนี้ถือว่าไร้ค่า มันไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเขาได้แม้แต่เสี้ยวเดียว แต่ว่าคนอื่นไม่ได้มี ‘สิทธิพิเศษ’ แบบวู่หยาน เพราะงั้นโดยไม่ต้อวพูดถึงวิชาขั้นสูเลย ต่อให้เป็นวิชาระดับต่ำพวกเขาก็ต้องการ!

 

และตอนนี้มีวิชาระดับสูงมาอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยมันไปว่ายๆแน่

 

ไม่นานนักราคาคัมภีร์ก็พุ่งทะยานไปกว่าหนึ่งแสนเหรียญ!

 

พวกวู่หยานมองดูฉากนี้อย่างเบื่อหน่าย ราคาขึ้นไปแตะสองแสนแล้ว แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด นี่จึงเริ่มทำให้ วู่หยาน ฮินางิคุ และมิโคโตะหันมองกันและกันอย่างอึ้งๆ

 

สุดท้ายราคาก็ไปหยุดอยู่ที่สามแสนห้าหมื่นเหรียญทอง

 

เมื่อลุงประกาศประมูลสำเร็จ ก็ทำให้หลายๆคนถอนหายใจด้วยความเสียใจและผิดหวังที่พลาด ‘วิชามหัศจรรย์’ ไป ทำให้วู่หยานและคนอื่นๆหัวเราะก๊าก

 

ลุงยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก ก่อนจะยกมือส่งสัยญาณให้ทุกคนเงียบลง แล้วพูดต่อว่า “ทุกท่านได้โปรดอย่าเสียใจไป สินค้าต่อจากนี้ กระผมเชื่อว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน!”

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลายคนก็รีบนั่งตัวตรงทันที สายตาเปล่งกายจ้องมองไปที่ลุง ทำให้ลุงแกหนาวสันหลังวาบ

 

ภาพเหนือลูกคริสตัลหมุนวนอีกครั้ง ก่อนที่จะปรากฏภาพดาบคาตะนะเล็กๆขึ้นภายใต้สายตาของทุกคน ข้างตัวดาบมีฝักดาบอยู่ ถึงแม้จะเป็นแค่ภาพแต่กลับทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงความแหลมคมของมันได้อย่างชัดเจน

 

เมื่ออาสุธชิ้นนี้ปรากฏขึ้น ลุงก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับว่าตนเป็นเจ้าเองก็ไม่ปาน “ทุกท่าน สินค้าชิ้นที่สองรองจากชิ้นสุดท้ายก็คือสิ่งนี้!”

 

ผู้เข้าประมูลมองภาพอย่างฉงนสงสัย ก่อนจะย้ายสายตาลงมามองลุง

 

ถึงตัวดาบจะให้ความรู้สึกแหลมคม แต่นอกจากคนสายตาเหยี่ยวที่มีน้อย คนอื่นๆก็มองไม่ออกว่ามันดียังไง เพราะนี่ก็เป็นแค่ภาพจำลองไม่ใช่ของจริง

 

ลุงหัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดคำพูดที่ทำให้ทุกคนตื่นตกใจ

 

“ทุกท่านอย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกหลอกเอาเด็ดขาดนะขอรับ เพราะนี่คือ…ยุทธภัณฑ์หลักยังไงล่ะ!”

 

 ห้องสมุดคนรักนิยายแปล กลุ่มลับถึงตอน 281 ครับ กลุ่ม2ลดเหลือ90บาท!