“หุบปากซะ ไอ้ลูกหมา แกรอบิดาผู้นี้ในโลกแห่งความจริงได้เลย อยู่ในเมืองนี้แกเก่งมากใช่ไหม ข้าจะบอกแกว่าแกอย่าเป็นเต่าหดหัวอยู่แกในเมือง อยู่ข้างนอกแกไม่รอดแน่!” ชายหน้าตาดุร้ายได้ยินดังนั้น ทันใดนั้นใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความโกรธเกรี้ยวและจากนั้นเขาก็ตะโกน

“ถุย! ข้าว่าแกคงจะกินอึมากเกินไป ทำไม่ข้าจะอยู่ในลกเอี๋ยงไม่ได้ ที่นี้เป็นที่สำหรับทุกคน โลกนี้กว้างใหญ่มาก ข้าจะไปไหนก็ได้ ไอ้โง่!”หลังจากที่ชายหนุ่มถ่มน้ำลายออกมาเขาก็ด่าตอบชายหน้าตาดุร้ายคนนั้น แล้วจากนั้นเขาก็ยกนิ้วกลางใส่

“บิดา … ” ชายผู้ดุร้ายโกรธทันที และทันทีที่เขาเปิดปากจะพูดต่อเขาก็ถูกขัดขวางโดยบอสหวังคนนั้น

“พอแล้วไปกันเถอะ!”

หลังจากที่บอสหวังพูดจบเขาก็ออกจากโรงเตี๊ยมหยูเหล่ย พร้อมกับกลุ่มลูกน้องของเขา

ผู้เล่นรอบข้างต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็จากไป

ก่อนพวกเขาจะจากไปพวกเขาก็มองไปที่ชายหนุ่มคนนั้นแล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“บ้าเอ้ย! ทำไมสีหน้าของพวกเจ้าเป็นอย่างั้น” ชายหนุ่มถามด้วยความงุนงง

“เด็กน้อย ข้าแนะนำให้เจ้าหนีไปให้ไกลโดยเร็วที่สุดถึงโลกนี้จะใหญ่มาก แต่ที่นี้มีรูปแบบอาคมเทเลพอร์ต!” ผู้เล่นคนหนึ่งทนจากนั้นก็หยุดและกล่าวเตือน

“ข้า … ข้า… ” ใบหน้าของชายหนุ่มเริ่มแข็งค้างและเขาพูดไม่ออกเป็นเวลานานและไม่สามารถพูดอะไรออกมาสักคำ

โรงเตี๊ยมหยูเหล่ย ชั้นสอง ห้องหมายเลขหนึ่ง

เย่เฉินนั่งอยู่ข้างหน้าต่างและเฝ้าดูฉากที่เพิ่งเกิดขึ้นบนถนน ไม่มีผลกระทบใดๆในใจของเขา

บนถนนเป็นเพียงสถานการณ์เล็ก ๆ ของโลกนี้ เกิดการกดขี่และการต่อต้านเป็นธรรมดา

แต่สุดท้ายคนที่สามารถเอาตัวรอดได้และคนที่เก่งมักจะเป็นคนที่มีอำนาจ

บุคคลที่แข็งแกร่งยากที่จะปรากฏตัวในโซนมือใหม่

ผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์และวางแผนได้ดีมักจะเป็นผู้เล่นประเภทลอร์ด

บุคคลเหล่านี้สามารถต่อสู้กับปีศาจ วางแผนการบางอย่างและเคลียร์ภารกิจในพลอตเรื่องได้

อยากจะเป็นคนโดดเด่นหรือแสร้งทำว่ามีความกล้าเหมือนชายหนุ่มก่อนหน้านี้มักจะลงเอยด้วยการถูกทุบตีอย่างช่วยไม่ได้

เย่เฉินไม่สนใจอนาคตของชายหนุ่มคนนั้นและเขาไม่ได้รู้สึกประทับใจกับการประกาศข่าวของการประมูลในช่องแชทโลก

แม้เขาจะไม่โพสต์ข้อความ ก็จะมีคนกระจายข่าวออกไปอยู่ดี ถึงมันจะช้าหน่อยก็ตาม

การกระทำเช่นนั้นบอสหวังจะถูกหลาย ๆ คนเกลียด และถ้าเขาทำให้ตัวเองสะดุดตาเกินไปได้เขาก็จะโดนต่อต้าน

ห้ามคนไม่ให้กระจายข่าวในตอนนี้ ผู้คนก็สามารถกระจายข่าวช่องทางอื่นได้อยู่ดี

ดังนั้นจึงไม่มีทางหยุดการกระจายข่าวของการประมูลได้

หลังจากมองไปบนท้องฟ้าเย่เฉินก็ปิดหน้าต่าง จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝน 9 โคจรศักดิ์สิทธิ์ ความแข็งแกร่งสามารถยกระดับได้ไม่เพียงแต่ “การฆ่ามอนสเตอร์เพื่ออัพเลเวล” แต่ยังรวมถึงการบ่มเพาะทักษะและการกินยาอายุวัฒนะ

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเย่เฉินจึงประกาศซื้อยาอายุวัฒนะ เมื่อเขาเปิดประมูล

มียาอายุวัฒนะไม่มากนักในโซนมือใหม่ แต่มันก็ยังมีอยู่บ้าง

แม้ว่าขุมกำลังโดยทั่วไปจะไม่แข็งแกร่งนักในตอนนี้ แต่ผู้เล่นก็มีอยู่จำนวนมาก

เมื่อมีผู้คนมากขึ้นก็อาจจะมีคนที่โชคดีและได้รับสิ่งดีๆ

สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหลายครั้งในชีวิตก่อนหน้านี้ของเย่เฉิน

และเย่เฉินมุ่งเป้าไปที่คนเหล่านี้ ทุกอย่างยกเว้นสมบัติบางอย่างคือขยะสำหรับเย่เฉิน

ทักษะบ่มเพาะ 9โคจรศักดิ์สิทธิ์ และเทพอัสนีบาต ล้วนเป็นทักษะระดับโกลาหลอันดับต้น ๆ

อาวุธ หอกสังหาร (ไม่สมบูรณ์) เป็นสมบัติที่มีมา แต่กำเนิด!

สิ่งที่เย่เฉินขาดในตอนนี้คือสมบัติบางอย่างและยาอายุวัฒนะทุกชนิด

แน่นอนว่าทันทีที่กบฏโพกผ้าเหลืองเริ่มลุกฮือ เย่เฉินก็มีโอกาสที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างรวดเร็ว

ไม่จำเป็นต้องหาอัพเลเวลด้วยการฆ่าโจรเหมือนตอนนี้อีก

เย่เฉินบ่มเพาะเงียบๆอยู่ในโรงเตี๊ยม แต่เมืองลกเอี๋ยงกลับมีชีวิตชีวาอย่างมาก

ในโซนมือใหม่พลอตเรื่องสามก๊ก ผู้เล่นที่มีความร่ำรวยส่วนใหญ่จะอยู่ในลกเอี๊ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เป้าหมายของพวกเขาคือขยะสองชิ้นของเย่เฉิน ที่ต้องการประมูลคือ ทักษะทะลายภูผา(ระดับราชา, จริง) และ หอกสายฟ้า(ระดับลึกลับ,จริง)

ไม่มีใครรู้ความลับที่ซ่อนอยู่ในคำว่า “จริง” ในขณะนี้

วันหนึ่งในโลกความเป็นจริง ใครบางคนจะชักดาบยาวออกมาโดยไม่ตั้งใจเนื่องจากการต่อสู้ ดาบยาวนั่นคืออาวุธที่มีคำว่า “จริง“ซึ่งมันมีระดับต่ำมาก แต่มันก็ทำให้เปิดเผยความลับของคำว่า “จริง“

ในชีวิตนี้ตั้งแต่เกมเริ่มต้นขึ้นเย่เฉินก็วางแผนที่จะโกงอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อกองกำลังของเขาพัฒนาขึ้นเย่เฉินก็สูญเสียเป้าหมายนั้นไป

ด้วยความพยายามนี้เป็นการดีกว่าที่จะโจมตีเมืองและปล้นแผ่นดินในโลกแห่งความเป็นจริง

ยิ่งพลังแข็งแกร่งมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งได้รับรายได้จากการต่อสู้มากขึ้นเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าเย่เฉินจะเป็นต้องการโกง แต่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับไอเทม “จริง” ขั้นสูงเช่นนี้

แม้ว่าจะมี แต่เย่เฉินก็ต้องสร้างมันด้วยตัวเอง

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นโกงและเปิดเผยข้อมูลความลับโดยตรงซึ่งเหมาะกับเย่เฉินในตอนนี้มากกว่า

เมื่อเวลาผ่านไปเย่เฉินก็ลืมตาขึ้นเมื่อดวงจันทร์สว่างลอยอยู่บนท้องฟ้า

ได้เวลาแล้ว……

เย่เฉินหายใจออกเป็นเวลานาน แล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมผ้า หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็มาที่หน้าต่างทางทิศเหนือเปิดหน้าต่างออกแล้วกระโดดลงมา

นี่เป็นซอยที่อยู่อาศัยไม่ใช่ถนนหลักและตอนนี้ก็เป็นเวลากลางคืนจึงไม่มีใครมาแถวนี้

เย่เฉินลงสู่พื้นอย่างเงียบ ๆ ออกจาซอยไปอย่างเงียบๆจากนั้นก็เดินไปที่คฤหาสน์เตียวในความทรงจำของเขา

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเย่เฉินเดินออกจากคฤหาสน์เตียวด้วยมุมปากที่ยกขึ้นจากนั้นกลับไปที่โรงเตี๊ยม

คฤหาสน์เตียว

มหาขันทีเตียวเหยียงผู้ยิ่งใหญ่กำลังนอนอยู่บนเบาะโดยในมือถือไข่มุกราตรีขนาดเท่ากำปั้นเด็กทารกการแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

บนโต๊ะข้างๆเขามีจานที่มีไข่มุกราตรีขนาดเท่ากันสามสิบห้าเม็ด

ห้องนอนที่ควรจะมืดสลัวกลับกลายเป็นสว่างไสวเหมือนตอนกลางวัน

“ พ่อบุญทำ เย่เฉินมอบสมบัติหายากนี้ให้ เขาอาจจะวางแผนอย่างอื่นหรือไม่?” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาและมองไปที่ในมือของเตียวเหยียงและกล่าวด้วยท่าทางสงสัย

มันเป็นเพียงต้องการเกียรติยศอันสูงส่งหาได้มีการวางแผนใด ๆ มันเพียงต้องการตำแหน่งอย่างเป็นทางการเท่านั้น ” เตียวเหยียงกล่าวออกมา

“ แต่ข้าได้ยินมาจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าเย่เฉินคนนี้ ในช่วงกลางวันที่ผ่านมา เขาฆ่าทหารม้าห้าร้อยนายของโฮจิ๋น พ่อบุญธรรมจะแก่ต่างเรื่องนี้ให้เขาหรือ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วและถาม

“เจ้าโง่!” เตียวเหยียงกรีดร้องจากนั้นยืนขึ้นและมองไปที่ชายหนุ่มจากนั้นกล่าวว่า:

“ เขาจะสามารถสังหารทหารม้าห้าร้อยนายได้อย่างไร ตระกูลของมันเป็นคนธรรมดาใครจะสามารถปกป้องมันได้ นอกจากนี้เจ้าคิดว่าหากมันมีตระกูลหนุนหลังแล้วมันจะถูกโฮจิ๋นล้อมได้หรือ? อย่าลืมข่าวที่ว่า มันมาที่ลกเอี๋ยงเพื่อมอบสมบัติให้กับฮ่องเต้ ทุกคนต่างทราบเรื่องนี้ดี! “

**เตียวเหยียง เป็นตัวละคนในเรื่องสามก๊ก ขันทีในยุคราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย เป็นหัวหน้าของคณะสิบขันที และเป็นขันทีที่พระเจ้าเลนเต้ไว้วางพระทัยมากถึงขนาดที่พระองค์ทรงเรียกเตียวเหยียงว่าเป็นพ่อบุญธรรม