บทที่ 80 – ความโกลาหล
เมื่อผู้กล้าเอริเนียให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีออกจากจักรวาลจำลองให้มิว .. โดยใช้พลังปะทะกับพลังจนทำให้จักรวาลสั่นสะเทือน
จนพังทลายลง.. นั่นเป็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่ แต่ในขณะเดียวกันในโลกด้านนอกผู้กล้าเอริเนียก็ขมวดคิ้วและเงยหน้าขึ้น
เธอจ้องมองไปที่แอเรียนที่เหมือนกำลังจะเคลื่อนไหว โดยมีเป้าหมายเป็นเอวานที่อยู่ด้านข้าง
เอวานเองก็สัมผัสถึงสายตานั้นได้เหมือนกัน ทำให้เธอต้องจ้องมองกลับไป.. สิ่งที่แอเรียนต้องทำเขาจำได้ยังมีอีกหนึ่งอย่าง
นั่นก็คือการเอาอิออนกลับมา.. เจ้าปีศาจแห่งการคำนวณนี้ไม่ควรตกอยู่ในมือของคนนอกโดยเด็ดขาด
แม้จะแช่แข็งมันไว้ อย่างมากก็แค่ทำให้มันไม่สามารถกลับคืนไปยังดาวได้เท่านั้น แต่ตัวมันก็มาอยู่ในมือถือของคนนอกแล้ว
ดังนั้นหากจะต้องการผนึกมันไว้ต้องเอาตัวมันที่อยู่ที่นี่กลับไปด้วยเท่านั้น ถึงจะเป็นการผนึกโดยสมบูรณ์
ทว่าอิออนที่อยู่ในมือถือของเอวานก็พูดบางอย่างกับเอวาน ทำให้เอวานค่อยๆ ยกมือถือขึ้น
“แอเรียน ฉันจะบอกอะไรดีๆ ให้สักอย่างเอาไหม?”
“……”
แอเรียนไม่ได้ตอบอิออน แต่คนที่ตกใจก็คือเทรต้าที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้กำลังบ่นให้แอเรียนทุกอย่างเท่าที่จะทำได้
“อิออน…เหรอ?”
“อืม ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเทรต้า?”
“คุณออกมาด้านนอกได้ไง.. อย่าบอกนะว่าฝีมือแอเรียนอีกแล้ว?”
“ก็คง..ประมาณนั้นแหละนะ แต่เทรต้าเธอไม่ต้องห่วงคนคนนั้นหรอก”
“เอ้ะ หมายความว่าไง?”
“ก็นะ.. อีกเดี๋ยวเธอคงออกมาจากจักรวาลจำลองได้เอง”
ทันทีที่แอเรียนได้ยินแบบนั้นดวงตาเขาก็หดเกร็งแทบจะทันที เขาหันหน้าไปทางอิออนพร้อมกับก้าวขาเข้าไปใกล้อิออนกับเอวาน
แต่ทันทีที่แอเรียนเคลื่อนไหว ผู้กล้าเอริเนียก็เหมือนกับพร้อมจะเคลื่อนไหวทันทีเหมือนกัน ทำให้แอเรียนต้องหยุดชะงัก
เขาในตอนนี้ไม่สามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้แน่นอน ถึงเขาจะทำเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ทว่าการที่ถูกสัตว์ประหลาดนั่นเตะมันแทบจะทำเขาตายไปแล้ว
หากไม่ใช่เพราะชุดนาโนเมทริกซ์ เขาคงตายไปเป็นสิบรอบได้ในการเตะครั้งเดียว เพราะงั้นเขาจึงไม่กล้าหืออือกับเอริเนียในตอนนี้
หากอีกฝ่ายไม่โจมตีมาก็ถือเป็นโชคของเขา.. ดังนั้นเมื่อเห็นผู้กล้าเอริเนียขยับตัวเขาจึงจำเป็นต้องหยุดชะงักลง
“อิออน.. ที่แกพูดหมายความว่าไง แกบอกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดเจ้านั่นได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ก็หยุดได้ไง.. แต่ฉันเคยบอกที่นี่ว่ามันจะหยุดได้ตลอด ครบครึ่งชั่วโมงแล้วก็น่าจะพอแล้วเปล่า?”
“นี่แก….!!”
แอเรียนเส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้า ถ้าหากอิออนกล่าว..มันที่เห็นอนาคตคงไม่ใช่เรื่องโกหกเป็นแน่แท้
แล้วสิ่งที่เขาควรจะทำในตอนนี้คืออะไรกันแน่ล่ะ ต่อสู้กับมันเหรอ.. อย่ามาพูดบ้าๆ นะตอนนี้เขาไม่มีทั้งอิออน
หรือไอออนก็ไม่สามารถคำนวณเกี่ยวกับเจ้าสัตว์ประหลาดได้ เขาจะเอาอะไรไปสู้กับมันได้. หนีเหรอ หนีได้ก็บ้าแล้ว
ลูกน้องเขายังนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่เลย.. ในสถานการณ์แบบนี้ต้องทำอย่างไรเพื่อผลประโยชน์ต่อดวงดาว ต่อประเทศ….
แอเรียนเหงื่อไหลอย่างช่วยไม่ได้..
“อย่างน้อยก็แค่องค์หญิง องค์หญิงแค่คนเดียวก็ได้ที่ต้องหนีไป”
“นี่นายพูดบ้าอะไรเนี่ย ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย”
“นี่มันไม่ใช่เวลาจะมาพูดอะไรงี่เง่าอย่างการตามหาคนที่ไม่มีอยู่จริงแล้วองค์หญิง เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นออกมาทุกคนจะตายกันหมด”
“นี่แกพูดถึงมิวอยู่ใช่ไหม? ก็เพราะแกไปหาเรื่องเธอก่อนไม่ใช่หรือไง ก็รู้หรอกว่าเป็นห่วงฉันแต่ว่าเธอไม่ใช่คนไม่ดีสักหน่อย แถมยังหาทางช่วยฉันตามหาคนด้วย”
“ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย เจ้านั่นคือสัตว์ประหลาดที่สามารถทำให้ไอออนคลุ้มคลั่งได้ องค์หญิงก็น่าจะรู้แล้วไม่ใช่หรือไง เลิกทำตัวเป็นเด็กแล้วหนีไปได้แล้ว”
สติของแอเรียนเริ่มจำไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วจริงๆ ซึ่งนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าการเตะของมิวทำให้เขาเจ็บเจียนตายขนาดไหน
และเขาก็กลัวมิวมาก ไม่ว่าจะเป็นในแง่ที่ทำให้ไอออนคลุ้มคลั่งหรือความแข็งแกร่งของมัน และแน่นอนเขาที่ไม่เคยรู้คุยกับมิวดีๆ ด้วยซ้ำแบบเขา
ก็ไม่สามารถมองในแง่ดีว่ามิวเป็นคนที่คุยรู้เรื่องได้แน่ๆ อีกอย่างทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็เลวร้ายในระดับสูง
ต่อให้คุยกันได้.. ก็ไม่ใช่ว่าจะคุยกันรู้เรื่องอีกต่อไป เพราะในตอนนี้มันแตกหักไปแล้ว ดังนั้นอย่างน้อยก็ขอแค่ให้องค์หญิงหนีไปก็พอ
“นี่แก…แอเรียน แกยังขี้ขลาดแบบนั้นอีกงั้นสินะ บางทีถ้าอาจารย์แกมาเห็นแกตอนนี้ เธอคงผิดหวังน่าดูเลยล่ะ”
คนที่เยาะเย้ยถากถางแอเรียนก็คืออิออน.. ทันทีที่คำพูดของอิออนดังขึ้นดวงตาของแอเรียนก็หดเกร็งลง
ภาพในอดีตหวนย้อนคืนกลับมา.. ในอดีตเขาไม่ใช่นักรบ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง และเขาก็เป็นคนที่เคยช่วยเหลือทุกคนไว้
มันเป็นเรื่องก่อนที่พวกเขาจะไปอาศัยอยู่ในดาว Moon 2T EdgeLands ด้วยซ้ำ
การมาเยือนของสิ่งมีชีวิตต่างดาว.. ทำลายล้างอารยธรรมทุกอย่างในโลกเขา เขาจึงหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่รู้จัก
สิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้.. และอาจารย์ของเขาก็ปรากฏขึ้นช่วยเหลือเขาและบอกเขาว่าถ้ากลัวในสิ่งที่ไม่รู้จักก็แค่ต้องรู้จักทุกอย่างก็พอแล้ว
และแน่นอนนักวิทยาศาสตร์ที่แทบจะสติเฟื่องแบบเขาไม่ได้มองคำพูดอย่างที่ควรจะเป็น แทนที่จะทุ่มเททุกอย่างให้กับการศึกษา
เขากลับเลือกที่จะกำจัดทุกอย่างที่เขาไม่รู้จักมากกว่า.. ใช่ มันง่ายกว่าและโง่กว่ามาก แต่ก็เป็นอย่างที่อิออนว่า
มันคือวิธีของคนขี้ขลาด.. แทนที่จะทำความเข้าใจแต่กลับเลือกที่จะลบออกไปแทน.. และเมื่อมาอยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่งที่แท้จริง
ความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้..
ความกลัวครั้งเก่าก็จะมาเยือนเขา
“หุบปาก แอเรียน หุบปาก.. ไอ้ตัวทรยศแบบแกไม่มีสิทธิ์มามองอดีตของฉัน”
ความโกรธที่ยากจะพบแสดงออกผ่านสีหน้าของแอเรียน เขาที่ไม่ชอบอิออนไอ้ปรสิตที่รู้ทุกอย่างแบบนั้น เมื่อถูกตอกย้ำซ้ำเติมจากตัวตนที่ตนเองดูถูก
ไม่มีอะไรที่จะน่าดูถูกไปกว่านี้อีกแล้ว เขาคำรามออกมา ก้อนพลังงานปริศนายิงออกไปทางที่มือถือของเอวาน
เพื่อที่จะกำจัดอิออนออกไปจากสายตาด้วยความโกรธ เทรต้าที่เห็นภาพนี้ถึงกับเบิกตากว้าง
“แอเรียน หยุดนะ!”
เพราะหากยิงไปแบบนั้น.. คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเอวานต้องโดนไปเต็มๆ แน่ แม้เทรต้าจะไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้มากนัก
แต่เธอรู้ว่า.. เอวานคือคนนอกอย่างแท้จริง และไม่ได้มีพลังพิเศษอะไรเลย แม้จะสัมผัสได้ว่าต่างจากมนุษย์ธรรมดาอยู่บ้างแต่นั่นก็แค่เสี้ยวเดียว
การ..กำจัดคนนอกมันผิดสัญญา…!
เธอพยายามดึงมือของอแอเรียน ทว่ามันก็สายไปจริงๆ พลังนั้นพุ่งไปที่เอวานด้วยความเร็วเหนือกว่าที่เอวานจะตอบสนองได้
ทุกอย่างราวกับหยุดนิ่งลง ก้อนพลังงานนั้นถูกตัดขาดออกเป็นสองส่วนพุ่งผ่านเอวานออกไปทั้งแบบนั้น และตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ผู้กล้าเอริเนียกำลังยืนอยู่ด้านหน้าเอวานพร้อมกับประหลาดในมือของเธอ
“หน้าที่ของฉันคือปกป้องสองคนนี้น่ะนะ?”
ผู้กล้าเอริเนียพูดขึ้นพร้อมกับจังหวะที่ดาบหายไป.. ดวงตาของแอเรียนพลันเบิกกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน
ตั้งแต่ไหล่ซ้ายของเขาลากจนไปถึงเอวขวา.. จู่ๆ ก็มีเลือดสีแดงฉานพุ่งพรวดออกมา ชุดนาโนก็ดีหรืออะไรก็ช่าง
ทุกอย่างถูกตัดขาดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จริงอยู่ที่ผู้กล้าเอริเนียเธอไม่ถนัดฆ่าคนอื่น แม้เจ้าตัวจะมีนิสัยที่ต่างจากในอดีตมามาก
และพูดว่าอยากฟันคน.. แต่เดิมทีเธอก็ไม่ได้อยู่ใต้ดาวแห่งการฆ่าอยู่แล้ว ดังนั้นคมดาบที่ฟาดฟันใส่แอเรียนจึงไม่ได้พรากเอาชีวิตเขา
แม้มันจะสามารถพรากได้อย่างง่ายดายก็ตามที
“แอเรียน!”
เทรต้าตกใจ เพราะเธอก็ตามการเคลื่อนไหวไม่ทัน เอาเข้าจริงทุกคนในที่แห่งนี้ไม่มีใครตามความเร็วของผู้กล้าเอริเนียทันสักคน
แอเรียนทรุดลงกับพื้นเลือดไหลทะลักอาบไปทั่วพื้น.. ผู้กล้าเอริเนียรู้ว่าการโจมตีนั้นไม่ถึงตายแต่เธอกลับเลือกที่จะหันไปมองอิออน
อิออนก็เหมือนจะมองมาที่ผู้กล้าเอริเนียเหมือนกัน
“เจ้าสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต.. นี่แกใช้ประโยชน์จากฉันกับนายท่านงั้นเหรอ?”
“คิดงั้นเหรอ?”
อิออนตอบด้วยโทนเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่มันจะทำได้..
ทว่าในตอนนั้นเอง
“มันอยู่ตรงนั้น! ”
เสียงร้องปริศนาก็ดังขึ้น ผู้กล้าเอริเนียถึงได้หันหน้ากลับมา เป็นจังหวะที่ของบางสิ่งบางอย่างลอยข้ามหัวทุกคนในที่แห่งนี้ไป
แน่นอนว่าสิ่งที่ลอยมานั้นคือหัวของคน..และเมื่อสายตาของผู้กล้าเอริเนียจับสังเกตเห็นใบหน้านั้นได้ดวงตาของเธอก็หดเกร็งลง
เพราะหัวนั้นคือหัวของเพื่อน..นายท่านของเธอ หัวของรินนะ!
ทว่าตามมาด้วยเสียงหัวเราะร่า.. เดิมทีการจะกลายเป็นผู้ใช้อารยธรรมนั้นไม่ได้ง่ายเพียงแค่นี้ แต่รินนะคือสายเลือดของคุโระ
และพลังของมันก็เกี่ยวกับการควบคุมเลือด.. เมื่อโยนออกไปหัวของรินนะก็ระเบิดกระจุยกระจายออก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นสายเลือดของเธอ..
ทั้งสายเลือด ทั้งตัวตน หรือแม้แต่ความทรงจำอันแสนเจ็บปวด ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิดกระจายออกพร้อมกับพุ่งดิ่งไปยังร่างของเอริเนีย.. เด็กที่อายุน้อยที่สุดในที่แห่งนี้!
ผู้กล้าเอริเนียแทบจะเคลื่อนไหวนั้นเอง… รอยร้าวก็พลันปรากฏขึ้น
ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายลง
และ…..ก็มีคนหนึ่งเดินออกมาจากรอยร้าวนั้น
ดวงตาของเธอเผยสีหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัว
มันน่าเกลียดยิ่งกว่าตอนที่แอเรียนพุ่งเป้ามาที่เอริเนียเสียอีก
“รินนะ.. ถ้าเธอเคียดแค้นไม่ได้.. ฉันจะเป็นคนที่เคียดแค้นให้เธอเอง”
ดาบที่เคยอยู่ในมือของผู้กล้าเอริเนีย
บัดนี้มันปรากฏอยู่ในมือของเธอคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
มิวที่เต็มไปด้วยความโกรธเหยียบย่างกลับคืนมายังโลกใบนี้