บทที่ 68 ยาออกฤทธิ์แล้ว

คิงดราก้อน

เพี๊ยะ!

เซียวหยางตบไปที่แก้มขวาของเขาอีกฉาดหนึ่ง

ทันใดนั้น ใบหน้าทั้งสองด้านของถังเทียนหวาก็บวมปูดขึ้นมาเหมือนหัวหมูยังไงยังงั้น

“ตบสองครั้งนี้ เป็นการสั่งสอนแกที่วางยาฉัน สั่งให้คุณเฟิงจัดการฉัน!”

“แต่แกไม่ควรเลย ไม่ควรเลยจริง ๆ ที่ไปลงมือกับเย่หยุนซู ฉะนั้น แกต้องตาย!”

เซียวหยางพูดอย่างเฉยชา แล้วยื่นมือออกมา ตบลงไปกลางกะโหลกศีรษะของถังเทียนหวา

“อย่านะ!”

เย่หยุนซูพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีร้องตะโกนออกมา “อย่าฆ่าเขา อย่านะ!”

เซียวหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก้มหน้าพูดกับเย่หยุนซูว่า“คนอย่างนี้ ตายเป็นร้อยครั้งก็ไม่ถือว่ามากไปหรอก ทำไมต้องอ้อนวอนแทนมันด้วย?”

“เซียวหยาง อย่าโง่นักเลย ถ้าฆ่าเขา พวกเราก็จะมีปัญหา นายเข้าใจไหม?” เย่หยุนซูหอบเฮือกใหญ่ พูดออกมาด้วยความยากลำบาก

เซียวหยางอึ้งไปเล็กน้อย เขารู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าฆ่าถังเทียนหวา ตระกูลถังไม่มีทางยุติเรื่องราวแน่นอน แต่จะให้ปล่อยไอ้สารเลวนี้ไป มันไม่ใช่นิสัยเซียวหยางเลยสักนิด

เมื่อเห็นเซียวหยางลังเล ถังเทียนหวาก็รีบเข้าไปกอดขาเซียวหยางไว้ แล้วร้องขอความเมตตา“พี่หยาง ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่กล้าทำอีกแล้ว ขอแค่คุณปล่อยผมไป จะให้ผมทำอะไรก็ยอม”

เซียวหยางพูดอย่างเย็นชาว่า“ในเมื่อหยุนซูพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็จะไว้ชีวิตแก โทษตายละเว้นได้ แต่ยังไงแกก็ต้องได้รับการลงโทษ”

พูดจบ เซียวหยางก็ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมา เตะเข้าตรงกลางเป้าของถังเทียนหวาอย่างจัง

ปัก!

อ๊า!

ถังเทียนหวากรีดร้องออกมา ขาทั้งสองขาหุบเข้าหากัน หน้าซีดไปทันที ลูกตาแทบจะถลนออกมา

เขางอตัวดิ้นไปมาอยู่บนพื้นจนสลบไป

“คุณเซียว งั้นผม……ผมไปได้หรือยังครับ?”

คุณเฟิงเหงื่อผุดเต็มหน้า เมื่อเห็นจุดจบที่น่าเวทนาของถังเทียนหวา ก็ต้องการจะหนีไป

“อยากจะไปก็ได้ ฉันจะส่งแกไปเดี๋ยวนี้” เซียวหยางพูดอย่างเย็นชา

“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง ผมไปเองได้ครับ”

คุณเฟิงดีใจอย่างคาดไม่ถึง หมุนตัวเตรียมจะออกไปจากห้อง

และในขณะนั้นเอง เซียวหยางได้หยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วเขวี้ยงออกไปดังฟิ้ว

เมื่อรับรู้ถึงเสียงที่ลอยผ่านอากาศมาจากด้านหลัง คุณเฟิงก็ตกใจแล้วกำลังจะหันตัวกลับมา มีดก็ปักเข้ากลางหลังพอดี

ฉึก!

อ๊า!

คุณเฟิงร้องโหยหวน หันหน้ากลับมาอย่างทื่อ ๆ แล้วพูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า“คุณ……คุณบอกให้ผมไปได้นี่!”

เสียงที่เฉยเมยของเซียวหยางดังขึ้น“ให้แกไป หมายความว่าให้แกไปจากโลกนี้ซะ”

คุณเฟิงมีสีหน้าเจ็บใจ ลมหายใจค่อย ๆ ขาดหายไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นแล้วสิ้นใจ

ไม่ใช่เพราะเซียวหยางโหดเหี้ยมอำมหิต แต่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ ถังเทียนหวาก็ถือว่าแล้วไป ยังไงก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่คุณเฟิงเป็นคนจอมยุทธคนหนึ่ง

ปล่อยเอาไว้ก็มีแต่จะสร้างความเดือดร้อน เขาไม่อยากให้เย่หยุนซูตกอยู่ในอันตรายอีก

เซียวหยางอุ้มเย่หยุนซูไว้ในอ้อมกอด แล้วรีบเดินออกไปจากห้องทันที

เย่หยุนซูในตอนนี้หมดสติไปแล้ว จำเป็นต้องหาสถานที่สักแห่งช่วยเอาพิษออกให้เย่หยุนซู ไม่อย่างนั้นร่างกายเธอจะรับไม่ไหว

ปัง!

เซียวหยางรีบหาทางออกโดยไม่คิดอะไรมากแล้ว ออกแรงชกไปหนึ่งหมัดจนกระจกแตกกระจาย แล้วกระโดดออกจากหน้าต่าง โผล่มายังดาดฟ้า

บอดี้การ์ดหลายคนกำลังร่วมสนุกอยู่ในงาน ฟังเสียงดนตรีที่คึกคักดังมาจากห้องโถง เหล่มองสาวสวยแต่ละคน แล้ววิพากษ์วิจารณ์กันไปเรื่อย

“ใคร?”

ทันใดนั้นเอง บอดี้การ์ดคนหนึ่งเหมือนได้ยินเสียงอะไรเคลื่อนไหว

เพียงไม่กี่อึดใจเซียวหยางก็มาถึงขอบดาดฟ้า เรือยอชต์ Queen Anna จอดเทียบอยู่ที่ท่าเรือตลอด เซียวหยางพุ่งตัวกระโดดออกไป เสียงดังฟิ้ว กระโดดลงมาที่บนฝั่ง แล้วเดินหายไปจากท่าเรืออย่างรวดเร็ว

บอดี้การ์ดแต่ละคนมองหน้ากันไปมา

“เมื่อกี้ได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า?”

“เหมือนมีอะไรลอยผ่านไป”

“ชิ คงมีแขกดื่มมากไปล่ะมั้ง อย่าสนเลย”

เซียวหยางมาถึงที่จอดรถของท่าเรือทิงเฟิง ก็วางเย่หยุนซูไว้ในรถ จากนั้นก็สตาร์ทรถ เหยียบคันเร่ง เสียงบรื้นดังขึ้น รถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

“อือ ร้อนจังเลย!”

ขับรถไปได้ครึ่งทาง เย่หยุนซูก็ตัวสั่นเทา หายใจหอบ ๆ มือเริ่มอยู่ไม่นิ่ง

เซียวหยางชำเลืองมอง แล้วขมวดคิ้วขึ้นมา ท่าไม่ดีแล้วล่ะ ยาออกฤทธิ์แล้ว

ตอนนี้มีเพียงสองวิธี คือหาผู้ชายสักคนระบายอารมณ์ หรือรีบถอนพิษอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นร่างกายของเธอต้องถูกเผาไหม้จนตายแน่นอน

เซียวหยางขับรถไปพลางคิดหาวิธีกำจัดพิษไปพลาง แต่ดูเหมือนในพื้นที่ส่วนตัวแบบนี้เย่หยุนซูจะได้กลิ่นตัวของผู้ชายขึ้นมา มือสวยดั่งหยกนั้นยื่นออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่

เธอยื่นปากเข้าหาร่างกายของเซียวหยาง

อึก!

เซียวหยางกลืนน้ำลายลงคอไปหนึ่งอึกอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่งงานมาสามปี เขาไม่เคยได้รับอะไรแบบนี้เลยนี่นา

ทั้งลูบคลำทั้งจูบเป็นฝ่ายเข้าหาตัวเองก่อนแบบนี้ เคยมีแต่ในความฝันเท่านั้น

เซียวหยางเริ่มใจเต้นรัวขึ้น

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นผู้ชายทั่วไป คงจอดรถในที่ที่ไม่มีคนไปนานแล้ว จากนั้นก็เอนเบาะไปด้านหลัง แล้วคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นคือเย่หยุนซูเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเซียวหยาง ทำเรื่องแบบนี้กับภรรยาตัวเอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องไม่ได้ทำผิดตรงไหน

แต่ว่า ความคิดนี้ก็ถูกเซียวหยางยับยั้งไว้จนหายวับไปทันที

เขายังคงให้เกียรติเย่หยุนซู หากผู้หญิงคนนี้ยังไม่ได้รักเขาหมดหัวใจ เซียวหยางไม่มีทางใช้วิธีสกปรกครอบครองร่างกายของเธออย่างเด็ดขาด

ไม่อย่างนั้น เซียวหยางกับคนสารเลวแบบถังเทียนหวาจะต่างกันตรงไหน

ในตอนนี้ มือเล็ก ๆ คู่นั้นเริ่มลูบคลำบริเวณเอวของเซียวหยาง แล้วจับเข็มขัดไว้

“อย่านะ ตรงนี้ไม่ได้”

เซียวหยางใช้มือข้างหนึ่งกดมือสวย ๆ ของเย่หยุนซูเอาไว้

“ช่างเถอะ กลับบ้านไม่ทันแล้ว”

เซียวหยางส่ายหน้า แล้วประคองหัวของเย่หยุนซูให้ตรง ด้านหน้ามีโรงแรมอยู่แห่งหนึ่งพอดี เซียวหยางจึงจอดรถไว้ข้างโรงแรม

ไม่นาน เขาก็เปิดห้องพักหนึ่งห้อง เป็นห้องแบบสองเตียง

เมื่อขึ้นลิฟต์มาแล้ว เซียวหยางก็ใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้อง

เพิ่งผ่านประตูเข้ามา เย่หยุนซูก็กระโจนเข้าหาอีกแล้ว เซียวหยางที่กำลังเปิดไฟอยู่ ก็ถูกเธอกระโจนเข้าหาจนล้มลงบนเตียง

“เซียวหยาง ฉัน……ฉันร้อนจังเลย”

ข้างหู มีไอร้อนแผ่ซ่านออกมา ปากเรียวบางของเย่หยุนซูกำลังพ่นลมร้อนอยู่ ทำเอาเขาหน้าแดงใจเต้นรัวไปเลย

“หยุนซู เธอสงบสติอารมณ์หน่อยนะ ฉันจะรักษาเธอเดี๋ยวนี้แหละ”

เย่หยุนซูบิดตัวไปมา เรอออกมาเป็นกลิ่นกล้วยไม้ “ไม่เอาสิ ตาบ้า ฉันทรมานจังเลย……ช่วยฉันหน่อย รีบถอดออกเดี๋ยวนี้!”

วิ้ง สมองของเซียวหยางว่างเปล่าไปชั่วขณะ ในตอนนี้ เขาสูญเสียสมาธิไปจนหมดสิ้น

เขาลุกพรวดขึ้นมา แล้วกดเย่หยุนซูลงบนเตียง