ตอนที่ 68 บทสนทนาสุดท้ายที่โรงประมูลเอ่ยก่อนปิดฉากล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

“บางทีทุกท่านอาจจะกำลังสงสัยว่าทำไมสินค้าชิ้นสุดท้ายถึงเป็นแผนที่และยังเปิดโชว์เนื้อหาข้างในอีกด้วยใช่มั้ยขอรับ?…..”

 

ลุงยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนส่วนใหญ่พยักหน้า แกพูดต่อโดยไม่สนใจคนส่วนน้อยที่ยังคงขมวดคิ้วคิด “ทุกๆท่านฟังคำพูดต่อจากนี้ของกระผมก็จะค่อยเข้าใจเอง!”

 

ลุงเอามือจับคริสตัลบนโต๊ะ ทำให้ภาพแผนที่ขยายใหญ่กว่าเดิม ราวกับกลัวว่าจะมีคนมองไม่เห็น จากนั้นเดินลงจากเวทีไปหลายก้าว และพูดต่อหน้าผู้มาประมูลว่า “อย่างแรก กระผมขอพูดเลยว่าถึงแม้แผนที่แผ่นนี้จะอยู่ชิ้นสุดท้ายของการประมูล แต่ทางเราก็ไม่ได้คิดจะเปิดให้ประมูลเลย!”

 

ผู้เข้าประมูลทุกคนที่กำลังนิ่งฟังลุงพูดเงียบๆ แต่หลังจากได้ยินที่ลุงพูด พวกเขาก็เอ่ยปากคุยกันเสียงดัง มีเพียงแค่คนฉลาดบางคนที่ยิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปกว่าเดิม

 

ส่ายหัวเล็กน้อย ครั้งนี้ลุงไม่ได้ห้ามให้ทุกคนคุยกัน พูดต่อว่า “ทุกท่านอย่าพึ่งสงสัยอะไร ให้กระผมอธิบายแผนที่นี้ก่อน!”

 

ลุงเอามือไขว้ไว้ข้างหลังทั้งสองข้าง ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วแผ่ออร่าที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นถึงจะมีได้ออกมา!

 

ตอนนี้เองทุกคนก็จำได้ว่า ตาลุงนี่เป็นนักรบแรงค์7!

 

คราวนี้เสียงพูดของลุงดังก้องขึ้นข้างหูของทุกคนราวกับว่ากำลังยืนพูดอยู่ใกล้ๆ “น่าจะมีใครหลายๆคนเดาได้แล้วว่าแผนที่นี้อีกอะไร ถูกแล้ว แผนที่นี้ก็คือแผนที่ขุมทรัพย์ยังไงล่ะ!”

 

โดยไม่รอให้ทุกคนได้เวลาตั้งตัว ลุงพูดต่อด้วยน้ำเสียงต่ำว่า “กระผมเชื่อว่าทุกท่านคงสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมโรงประมูลของเราถึงได้แชร์แผนที่ให้ เอาจริงๆแล้วทางเราก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน……”

 

ทุกคนตั้งใจฟังอย่างตั้งใจ โดยไม่มีใครกล้าปริปากพูด ในสถานที่นี้สามารถได้ยินแต่เสียงของลุง

 

เป็นเพราะตอนนี้ตรงหน้ามีนักรบแรงค์7ที่ทรงพลังพูดว่า ‘ตนก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน’ !

 

ตอนนี้แม้แต่คนโง่ ก็คิดออกว่าเรื่องมันชักทะแม่งๆแล้ว

 

ลุงถอนหายใจ และพูดต่อ “ทุกท่านคงยังจำต้นกำเนิดของคริสตัลสีขาวลึกลับก่อนหน้านี้ได้…..”

 

เมื่อลุงพูดถึงตรงนี้ ก็ทำให้วู่หยานจากตอนแรกแค่ใคร่รู้นิดๆหน่อยๆกลายเป็นสนใจขึ้นมา ยกเว้นก็แต่สามสาวก็ยังคงไม่สนเหมือนเดิม

 

“ที่คนของเราเอามาจากนักรบแรงค์9ที่ตายไป ทุกท่านคงรู้กันแล้ว!”

 

“แต่….” สีหน้าลุงเปลี่ยน “กระผมยังไม่ได้บอกว่านอกจากได้คริสสีขาวมาแล้ว ก็ยังได้แผนที่นี้จากนักรบแรงค์9ด้วย!”

 

ได้แผนที่นี้จากนักรบแรงค์9งั้นเหรอ?

 

คำพูดของลุงไม่ได้ทำให้ทุกคนหายสงสัย กลับกันยิ่งทำให้สงสัยหนักกว่าเดิม

 

“และนี่ก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราเปิดเผยแผนที่นี้ออกสู่สาธารณะ!” พูดถึงตรงนี้ในแววตาลุงก็เป็นกระกายโทสะขึ้นมาชั่ววูบก่อนตะรีบซ่อนมันลงไป

 

“พวกเราได้ส่งคนไปตามที่อยู่ในแผนที่แล้ว แต่กลับไม่มีใครสักคนกลับออกมาเลย!!”

 

สิ้นเสียงลุง ก็เกิดเสียงร้องขึ้น แทบทุกคนมีสีหน้าช็อค

 

มองดูผู้คนที่ทำสีหน้าช็อค และบางคนที่ยังมีทำสีหน้าสงสัย ลุงพูดต่อด้วยสีหน้าขมขื่น “ทุกท่านไม่จำเป็นต้องสงสัยเพราะนี่เป็นเรื่องจริง ถ้าท่านใดพอมีเส้นสายก็จะทราบเอง กระผมไม่จำเป็นหลอกหลวง!”

 

ลุงพูดต่อ “เมื่อไม่เห็นใครกลับออกมา ทางเราก็ได้ส่งกลุ่มคนเข้าไปอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่าผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ไม่มีใครกลับออกมาได้สักคน! ดังนั้นทางเราจึงเริ่มสงสัยว่า…..”

 

“บางทีนักรบแรงค์9ท่านนี้ คงจะเข้าหาสมบัติตามแผนที่ และเจอบางสิ่งบางอย่างจึงบาดเจ็บสาหัส หลังจากหนีออกมาได้ ก็ตกตายทักที!”

 

ทันใดนั้น ในห้องประมูลก็เกิดเสียงกลินน้ำลายดังขึ้นไปทั่ว

 

สวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญแรงค์9 ที่เป็นขุมพลังระดับแนวหน้าของโลกซิลวาเรียกลับตกตายเพราะเรื่องแบบนี้

 

คิดถึงตรงนี้ สายตาที่ทุกคนมองภาพแผนที่ก็ยิ่งซับซ้อน มีทั้งโลภ หวาดกลัว ระมัดระวัง และมีทั้งไม่แน่ใจ

 

ลุงกวาดตามองผู้คน เมื่อเห็นว่าเสียงเริ่มเงียบลงไปบ้างแล้ว จึงพูดต่อว่า “ดังนั้น เจ้าแผนที่นี่ พูดตรงๆทางโรงประมูลของเราไม่มีความสามารถพอที่จะเก็บเอาไว้คนเดียวได้…..”

 

คำพูดของลุงออกจะสุภาพเกินหน่อย ถ้าพูดกันจริงๆแล้ว อะไรก็ตามที่รออยู่ในขุมทรัพย์นี่และยังสามารถทำให้นักรบแรงค์9ตายได้ พูดได้เลยว่าแผนที่นี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

 

ลุงยิ้มแล้วหัวเราะออกมา ทำให้บรรยากาศเครียดๆเบาลงไปไม่น้อย “ดังนั้นเราจึงวางแผนว่า สามวันหลังจากนี้ ทางเราจะก่อตั้งกลุ่มคนกลุ่มใหญ่บุกโจมตีขุมทรัพย์นี้อีกครั้ง แต่ทว่าแค่พวกเราเกรงว่าจะไม่พอ……”

 

“ด้วยเหตุนี้ วันนี้ที่นี่ทางเราจึงขอกล่าวเชิญท่านผู้แข็งแกร่งทั้งหลายที่สนใจไปกับพวกเราในอีกสามวันหลังจากนี้ ให้ไปรวมกันที่ลานกว้างที่อยู่ ณ ประตูทางทิศใต้ของเมืองท่า ไปขุดสมบัติกับพวกเรา!”

 

ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจจุดประสงค์ของลุงที่พูดเกร่นยาวมา หวังรวมกลุ่มคนโดยใช้จำนวนเข้าว่า บุกเข้าไปปล้นสมบัติ!

 

ลุงโบกมือ ก่อนจะโค้งต่ำอย่างเคารพต่อหน้าทุกคน “ทุกท่านสามารถนำข่าวนี้ไปบอกคนอื่นได้ ให้ผู้เชี่ยวชาญไปกับพวกเรา และยังไม่มีเงื่อนใขขั้นต่ำอะไร ตราบใดที่ท่านสู้ได้พวกเรารับหมด! ยิ่งคนมากก็ยิ่งมีโอกาสได้สมบัติ!”

 

พูดจบ ลุงก็ตบมือ “เอาล่ะ การประมูลครั้งนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ไม่กี่วันหลังจากนี้ทางเราจะสร้างกลุ่มคนเข้าไปใหม่ และเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ดังนั้นสองสามวันหลังจากนี้ทางเราจะไปรับสินค้าขึ้นประมูลในทุกกรณี กระผมขออภัยทุกท่านไว้ณที่นี้ด้วย!”

 

ลุงหันหลังเดินกลับเข้าไปข้างใน ส่วนผู้คนก็ค่อยๆเดินออกไปจากโรงประมูลด้วยสีหน้ากังวล…..

 

ควรพูดว่า…..โชคดีหรือโครตซวยดีวะ? แค่คิดว่าการเข้าร่วมงานประมูลครั้งแรกก็เจอแจ็คพอตแบบนี้แล้ว เอาซะตูตบมุขไม่ถูกเลย…

 

ยกมือตบแก้มตัวเอง วู่หยานลูไหล่ลง รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย

 

“หยาน ฉันรู้สึกว่าออกจะแปลกๆไปหน่อยอ่ะ…..” มิโคโตะเดินมายืนข้างๆวู่หยาน แล้วกระซิบด้วยเสียงนุ่มๆตรงหูเขา ด้วยท่าทางราวกับว่ากลัวใครจะได้ยิน ทำให้วู่หยานอยากพูดตบมุขเธอไปมากๆ

 

และ ลมหายใจหอมๆของมิโคโตะก็รดหน้าและหูเขา ทำให้วู่หยานรู้สึกจั๊กจี้ตรงหูและหัวใจมาก

 

เหลือบตามองใบห้าจิ้มลิ่มน่ารักของมิโคโตะที่อยู่ห่างเพียงแค่เซน(ติเมตร)เดียว ทำให้วู่หยานอยากจะหันหน้าไปหอมแก้มเธอสักฟอด

 

“หยาน นายสังเกตเห็นอะไรมั้ย?” ตอนนี้เองหูอีกข้างของวู่หยาน ก็ได้มีกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์และลมหายใจหอมๆรดต้นคอเขา ทำให้ความคิดหื่นๆของวู่หยานดับมอดลงทันที

 

หันหน้าไป เขามองเห็นฮินางิคุที่ยืนกระซิปอยู่ข้างๆหูเขาเหมือนกัน

 

ในใจวู่หยานอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเมื่อกี้โครตโชคดีเลยที่มีเสียงสวรรค์ดึงสติเขาขึ้นมา ไม่งั้นเมื่อกี้เขาคงเผลอจูบมิโคโตะไปจริงๆแน่ และผลลัพธ์คงไม่สวยเท่าไหร่ สำหรับคุณหนูเรลกันเขาไม่รู้ แต่ที่แน่ๆฮินางิคุต้องงัดเอาชิโระซากุระขึ้นมาไล่ฟันเขาแน่นอน….

 

“พวกเธอ…..” ด้วยคอแห้งผาก วู่หยานแกล้งทำสีหน้าเป็นปกติ และทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงหมดแรง “ไม่มีใครแอบฟังอยู่หรอกน่า ไม่เห็นจำเป็นต้องเข้ามาใกล้ขนาดนี้เลย…..”

 

ได้ยินคำพูดวู่หยาน ฮินางิคุกับมิโคโตะก็ตกใจ ก่อนจะสังเกตว่าตนแทบจะนาบหน้าใส่วู่หยานอยู่แล้ว สองแก้มก็ขึ้นสีแดงระรื่อทันที สองสาวรีบถอยหลังกรูด ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ

 

สัมผัสได้ว่ากลิ่นหอมๆหายไป วู่หยานก็ส่ายหัวเล็กน้อย ในใจรู้สึกเสียดายมาก

 

สองสาวหันมองตากันและกัน ด้วยแววตาที่เข้าใจอะไรบางอย่างเหมือนกันเมื่อมองไปทางวู่หยาน ก่อนจะรีบหลบสายตาหนี และเมื่อเห็นสายตาสงสัยของลิลิน พวกเธอก็หัวเราะแห้งๆ