บทที่ 57 ตู้เย่

ถังหลี่ไม่เคยคิดเลยว่านางจะโชคร้ายขนาดนี้! ฆาตกรชั่วผู้นั้นเลือกที่จะขึ้นบ้านของนางเอง! เขาคงจะเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านตั้งแต่เช้า เพียงแต่นางไม่รู้ตัว ถังหลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งเพื่อเรียกสติของตัวเอง

อย่าได้ตระหนกจนเกินไป…นางยังมีเด็ก ๆ อีกถึงสองคนอยู่ในบ้าน…

ถังหลี่สงบสติอารมณ์ของตนเองและหันศีรษะกลับมาอย่างรวดเร็ว นางใช้มือทั้งสองข้างชี้ไปที่ฆาตกรตรงหน้าเป็นสัญญาณว่านางจะไม่ส่งเสียงใด ๆ ชายคนนั้นปล่อยแขนที่กักถังหลี่ไว้แต่ยังไม่ลดปลายมีดสั้นที่ชี้ตรงลำคอของนาง

“ข้าจะไม่ร้อง…เจ้า…จริง ๆ เจ้าปล่อยข้าไปเถิด ข้าเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ ไม่ใช่สู้ต่อสู้ของเจ้าหรอก” ถังหลี่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ นางต้องแสดงท่าที่อ่อนแอให้อีกฝ่ายเห็น เพื่อให้รู้ว่าถังหลี่ไม่ใช่ภัยคุกคามของเขา

“หากเจ้าคิดจะฆ่าข้าย่อมทำได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว …เพียงแต่ข้ายังไม่อยากตาย ข้าจะไม่ร้องให้ใครมาช่วยอย่างแน่นอน” ถังหลี่กล่าวย้ำแสดงความจริงใจ

ไม่นานนักชายคนนั้นก็ปล่อยนางไป เขาเดินไปนั่งเอนหลังบนเตียงและจ้องมองมาที่ถังหลี่สายตาคมราวกับเหยี่ยวที่จ้องเหยื่อของตน ในห้องนั้นมืดสลัวไม่มีแสงสว่างจากเทียนสักเล่ม แต่ยังคงพอเห็นเงาราง ๆ ว่าเป็นบุรุษผู้หนึ่ง เขาเอามือกดหน้าท้องของตนเองเอาไว้ …

กลิ่นคาวเลือดในห้องเริ่มรุนแรงมากขึ้น

ถังหลี่ซุกตัวอยู่ที่มุมห้องโดยก้มศีรษะลง พยายามอยู่เงียบ ๆ เท่าที่จะทำได้ ชายผู้นี้ได้รับบาดเจ็บ มีเลือดออก และเมื่อเขาเสียเลือดมากเกินไป ถึงตอนนั้นเขาจะหมดสติและนั่นจะเป็นโอกาสที่ดีของถังหลี่ที่จะได้หลบหนีไป ถังหลี่เฝ้ารอเวลาด้วยความเงียบเชียบ..

ทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นที่ด้านหน้าของประตูห้องนอน ร่างกายของหญิงสาวเครียดเกร็งและวิตกกังวลจนเห็นได้ชัด เสียงฝีเท้าคู่นั้นหยุดลงที่หน้าประตูห้องก่อนที่จะมีเสียงเล็ก ๆ พูดขึ้นว่า

“ท่านแม่! ท่านนอนหลับหรือยัง? ”

ร่างกายของนางเกร็งขึ้น หญิงสาวจ้องมองไปที่บุรุษที่นั่งอยู่บนเตียง ดวงตาของนางเบิกกว้าง หากหญิงสาวได้แต่กลั้นเสียงเอาไว้ ไม่กล้าปริปากพูดอะไรออกมา

ถ้าซานเป่ารู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นตอนนี้ละก็ เด็กหญิงต้องถูกฆ่าปิดมากแน่

ตัวของถังหลี่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“เจ้าเป็ดน้อย สงสัยท่านแม่หลับแล้วล่ะ” ซานเป่าพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนเบาราวกับพึมพำกับตนเอง

“ข้าอยากนอนกับท่านแม่ แต่ท่านแม่หลับแล้ว งั้นเราไปหาพี่รองกันเถอะ!”

นางได้ยินเสียงฝีเท้าของซานเป่าที่กำลังเดินไป จากนั้นจึงได้ยินเสียงประตูเปิดและปิดอีกครั้ง ถังหลี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกราวกับเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติ หลังจากนั้นผ่านไปอีกไม่นานนักชายตรงหน้าก็ล้มตัวหมดสติลงตามที่คาดไว้

ถังหลี่ดีใจมากก่อนอื่นนางจะต้องมัดตัวชายผู้นี้ไว้ก่อน นางจะได้ไม่ต้องกังวลที่จะทิ้งบุตรทั้งสองไว้ที่บ้านแล้วไปแจ้งข่าวกับเจ้าหน้าที่ได้ ถังหลี่ลุกขึ้นและจุดเทียนให้ความสว่างทันที เมื่อแสงสว่างเข้ามาแทนที่ความมืด หญิงสาวก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

คนผู้นี้เป็นนักบวชหรือ?!

เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามที่ศีรษะโล่งเตียน อายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ใบหน้าคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน แต่สีหน้ากลับดูซีดเซียว ไฝแดงใต้ตาทำให้ใบหน้าของเขาดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย

เดิมทีถังหลี่คิดว่าฆาตกรจะดูดุร้ายไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ หญิงสาวพิจารณาใบหน้าของเขา ดูท่าทางแล้วเขาไม่ใช่คนโหดร้าย นักบวชจากมณฑลชิงเหอที่ถูกทำร้ายและหลบหนี …มีไฝใต้ตา… ปริศนาคำพวกนี้ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ในชั่วพริบตานั้นถังหลี่ก็รู้ว่าคนผู้นี่คือใคร?

ตอนนั้นเองที่ถังหลี่ได้ตัดสินใจแล้วว่าตนจะไม่เเจ้งเจ้าหน้าที่อีกทั้งนางจะช่วยเหลือนักบวชผู้นี้เอง หญิงสาววางเทียนลงบนโต๊ะก่อนจะหันหลังออกจากห้องนอนไป ไม่นานนักนางกลับมาพร้อมกับกล่องยาที่มีอยู่ในบ้าน ภายในกล่องมีทั้งยาแก้ไข้หวัด ยาแก้ท้องร่วง และยาห้ามเลือดจากบาดแผล หมอซูเป็นผู้จัดกล่องยานี้ด้วยตัวเอง

ถังหลี่เข้าไปในห้องหยิบอ่างไม้ใส่น้ำและยาห้ามเลือด หญิงสาวถอดเสื้อผ้าของชายหนุ่มออก รูปร่างของเขาดูแข็งแรงน่าจะเป็นเพราะการฝึกวิทยายุทธ์อย่างเข้มงวด บาดแผลของเขาอยู่ตรงบริเวณเอวถูกพันแผลเอาไว้ด้วยผ้าอย่างลวก ๆ แต่เลือดก็ยังไหลซึมออกมาอย่างไม่หยุด ถังหลี่แกะแถบผ้าพันแผลออก จึงเห็นบาดแผลมีความยาวประมาณหนึ่งฉื่อ[1] หญิงสาวเช็ดทำความสะอาดบาดแผลด้วยผ้าแห้งเนื้อนุ่ม จากนั้นจึงโรยยาสมุนไพรห้ามเลือดลงไป และพันแผลอีกครั้งด้วยผ้าที่สะอาด ถังหลี่เพ่งมองบาดแผลอยู่ครู่ใหญ่จึงเห็นว่าเลือดหยุดไหลแล้ว นี่เป็นเพราะสมุนไพรห้ามเลือดของหมอซูที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ถึงแม้ว่าเลือดจะหยุดไหลแล้ว ในกลางดึกคืนนั้นเขากลับมีอาการไข้ขึ้นสูง ร่างกายร้อนผ่าวราวกับน้ำเดือด หญิงสาวทำได้เพียงเอาผ้าชุบน้ำเย็นวางบนหน้าผากเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายลง เมื่อเทียบกับความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาแล้ว วิธีนี้อาจจะไม่ได้ผลที่ดีนัก แต่โชคดีที่เขาเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง พอฟ้าใกล้สาง ไข้ของเขาก็ลดลง ถังหลี่เหนื่อยล้ามากจนล้มตัวลงนอนข้างเตียงแล้วผล็อยหลับไป

เมื่อชายหนุ่มฟื้นคืนสติขึ้นมา ก็พบว่า ร่างกายของเขาสบายตัวขึ้น เขานอนอยู่บนเตียงมีผ้าห่มคลุมตัวไว้ เมื่อเขายกผ้าห่มขึ้นจึงเห็นว่าบาดแผลได้ถูกรักษาและใส่ยาห้ามเลือดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ชายหนุ่มมองไปที่หญิงสาวข้างเตียง…

นางช่วยข้าหรือ?

แววตาสงสัยใคร่รู้ปรากฏขึ้นในดวงตาที่เย็นชาคู่นั้น

ทั้ง ๆ ที่เขาจะทำร้ายนาง แต่เหตุใดนางถึงยังยื่นมือมาช่วยเขาอีกเล่า?

ถังหลี่รู้สึกตัวขึ้นมาในตอนนั้นเอง นางมองไปที่นักบวช

“หิวไหม ข้าจะไปทำโจ๊กมาให้”

เขาไม่เอ่ยตอบแม้แต่สีหน้าก็ดูเครียดขรึมและเย็นชา แต่ในตอนนั้นเองที่ท้องของเขาก็ร้องครวญครางประท้วงขึ้นมา นักบวชไม่รู้ตัวว่าเขาหิวมานานมากแล้ว เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขายังเจ็บบาดแผลมากกว่า

ถังหลี่เข้าไปในห้องครัว ซาวข้าว ก่อนจะเทใส่ลงในหม้อจุดไฟรอให้มันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนเดือดเสียงดังปุด ๆ เด็กทั้งสองคนตื่นแล้วจากนั้นก็เดินมาหานางที่ในห้องครัว ถังหลี่ไม่อยากให้พวกเขารู้ว่ามีชายแปลกหน้าอยู่ในห้องเพราะกลัวว่าลูกทั้งสองคนจะตกใจ

ดังนั้นนางจึงเกลี้ยกล่อมให้เด็ก ๆ ช่วยกันบดดอกไม้สีฟ้าและสีชมพูที่ซื้อติดมือมาเมื่อวานนี้ เด็ก ๆ มีความสุขที่ได้ช่วยงานมารดา พวกเขากินข้าวเช้าเสร็จก็พากันเข้าไปทำงานที่ในห้อง ถังหลี่ถือชามโจ๊กเข้ามาในห้องจึงเห็นว่านักบวชผู้นั้นลุกขึ้นนั่งเอนหลังอยู่บนเตียง นางส่งชามโจ๊กให้เขา

ชายหนุ่มไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแล้ว ทันทีที่รับชามโจ๊กมาและได้กลิ่นหอมหวนของอาหาร ท้องของเขาก็คำรามขึ้นทันที เขารีบตักกินอย่างหิวโหยไม่ได้สนใจว่าโจ๊กจะร้อนจนทำให้ปากพองหรือไม่? เขากินอย่างรวดเร็วจนหมดชามในเวลาชั่วไม่กี่อึดใจ หลังจากกินหมดแล้ว รสชาติที่อร่อยยังแผ่ซ่านอยู่ทั่วโพรงปาก ท้องของเขายังหิวโหยอยู่ เขายังอยากกินเพิ่มอีกสักหน่อยเป็นเพราะรสชาติที่อร่อยจนหาตัวจับยากนั่นเอง

ถังหลี่เติมโจ๊กให้เขาอีกครึ่งชาม เขารับชามโจ๊กมาไม่รีรอที่จะเทลงท้องของตนเอง

“กินช้า ๆ เถิด เจ้าไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว..หากรีบกินจะไม่ดีกับกระเพาะของเจ้าได้ ” น้ำเสียงใส ๆ ที่เอ่ยเตือนเขา แทบจะทำให้เขาสำลักด้วยความตกใจ หากเขาก็ยังสงวนท่าทีทำเป็นเคร่งขรึมเย็นชาเช่นเดิม แต่ความเร็วในการบริโภคกลับช้าลง

หลังจากกินหมดแล้ว ถังหลี่สงสัยจนต้องถามว่า

“เจ้าไม่กลัวข้าใส่ยาพิษลงในโจ๊กหรือ? ”

เขาหลับตาไม่พูดตอบอะไรนาง

“ข้าชื่อ ‘ถังหลี่’ เจ้าชื่ออะไร? ” ถังหลี่ถามอีกครั้ง

หากนักบวชผู้นั้นยังคงเงียบไม่มีอาการตอบสนองแต่อย่างใด ดวงตาของนางจ้องเขาอย่างครุ่นคิด

“เจ้าเป็นใบ้หรือ? ”

มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อยก่อนจะลืมตาขึ้น

“ตู้เย่”

หลังจากที่เขาเอ่ยชื่อของตน เขาก็มองใบหน้าของถังหลี่ ชื่อที่อยู่บนประกาศหมายจับนั่น…ตู้เย่กำลังรอดูท่าทีของนาง

“ตู้เย่หรือ? เป็นชื่อที่ดี! ” ดูเหมือนว่านางจะยังไม่เห็นประกาศจับสินะ! หากประโยคถัดมาของนางทำให้ตู้เย่ถึงกับตกใจ

“รูปในหมายจับไม่เห็นเหมือนเจ้าเลย ในหมายจับดูหน้าตาน่าเกลียด”

“เจ้าไม่กลัวข้าหรือ? !”

“กลัวเจ้าหรือ? เจ้าคงไม่ใช่คนที่จะเที่ยวไล่ฆ่าคนบริสุทธิ์ไม่เลือกหน้าใช่หรือไม่?

[1] ฉื่อ คือมาตรวัดของจีน โดยที่ 1 ฉื่อ = 10 นิ้วจีน = 22.7 – 23.1 เซนติเมตร