บทที่ 47 คุ้มค่าที่จะลงทุน

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 47 คุ้มค่าที่จะลงทุน

บทที่ 47 คุ้มค่าที่จะลงทุน

โจวอี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าตลาดรถยนต์แห่งนี้เป็นกิจการของหวงไห่เทา

ระหว่างทางมาที่นี่ หยางจื่อต้งก็คุยให้ชายหนุ่มฟังเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ ทำให้เขาเข้าใจว่าเจ้าของร้านรถนี้คงต้องรวยมาก

แต่หวงไห่เทาก็เป็นคนร่ำรวยอย่างแท้จริง!

โจวอี้หันไปมองหยางจื่อต้งซึ่งกำลังตกตะลึงเช่นกัน

จากนั้นเขาก็ยกนิ้วโป้งให้หวงไห่เทา และอุทานว่า “มันเป็นโชคใหญ่จริง ๆ เขารวยและมีทรัพย์สินอยู่ทั่วเมืองจินหลิง ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ ผมจะขอให้คุณส่งรถมาให้ผม!”

“แค่นั้นยังไม่พออีกเหรอ?” หวงไห่เทากลอกตา “ผมไม่ใช่พ่อของคุณนะ แล้วผมต้องให้รถคุณเพียงเพราะว่าคุณต้องการมันเหรอ?!”

“ถ้าตอนนี้ผมหันไปซื้อรถที่อื่น แล้วคุณจะไม่หน้าแตกเหรอ” โจวอี้ยิ้ม เขาชี้ไปที่หยางจื่อต้งและกล่าวว่า “นี่คือเพื่อนของผม เขาอาศัยอยู่ละแวกเดียวกันกับผม”

“ใช่ คุณหยางเป็นลูกค้าที่มีชื่อเสียงในร้านผมเลยล่ะ” หวงไห่เทายิ้ม

“สวัสดีครับ คุณหวง” หยางจื่อต้งพยักหน้าทักทาย

เขาแอบตกใจ ไม่คิดมาก่อนว่าโจวอี้จะรู้จักผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลหวงในจินหลิง ฟังจากการสนทนาและน้ำเสียงของการสนทนาระหว่างทั้งสองคนนั้นแล้ว ราวกับว่าพวกเขาสนิทกันมากทีเดียว

หวงไห่เทาได้แลกเปลี่ยนคำทักทายกับหยางจื่อต้ง จากนั้นก็หันไปหาโจวอี้และถามว่า “คุณว่างไหมเย็นนี้ เราไปดื่มกันไหม?”

“ผมไม่มีเวลา ผมอยากไปกับลูกสาวผม” โจวอี้ปฏิเสธทันที

“โอเค งั้นเราไปดูรถต่อก็ได้ ถ้าพอใจก็ขับรถออกไปได้เลย” หวงไห่เทาพยักหน้า เขามองไปยังที่ปรึกษาฝ่ายขายและสั่งว่า “บอกคุณเฉิง ให้ไปทำธุรกรรมนี้ให้น้องชายของผมด้วยตัวเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย!”

เขาพูดจบก็หันหลังเดินจากไป

โจวอี้มองตามแผ่นหลังของหวงไห่เทา และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

เขามาเพื่อซื้อรถ ไม่ได้มาเพื่อเอาเปรียบ แม้หวงไห่เทาต้องการให้รถแก่เขามาฟรี ๆ แต่เขาก็ไม่อาจยอมรับมันได้เช่นกัน

“โจวอี้ ผมได้ยินถูกไหม คุณหวงให้รถคุณฟรีเหรอ?” หยางจื่อต้งถามด้วยความตกตะลึง

“คุณได้ยินถูกต้องแล้ว” โจวอี้กล่าว

“คุณสองคนเป็นญาติกันเหรอ?”

“นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร หรือหากจะสืบสายเลือดมาแปดชั่วโคตรก็ไม่ใช่” โจวอี้ตอบ

“…”

หยางจื่อต้งเริ่มสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างโจวอี้และหวงไห่เทามากขึ้น

มีรถยนต์หรูหรามากมายในร้านรถเป่าซุน ซึ่งจำนวนรถยนต์หรูหราที่มีราคามากกว่าสิบล้านหยวนนั้นมีมากจนไม่อาจนับด้วยมือสองข้างได้

หวงไห่เทาขอให้โจวอี้เลือกรถไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ถ้าโจวอี้เลือกรถหรูราคาสิบล้านหยวน หวงไห่เทาจะให้ฟรีไหม?

หกโมงเย็น

หลายคนเดินผ่านไปมานอกห้องกระจก

“พ่อจ๋า! หนูอยากได้รถคันนี้!” ถังเหมียวเหมี่ยวตะโกนขึ้นพลางชี้ไปที่รถคันเดียวในห้องกระจก

“นี่…”

โจวอี้ตกตะลึง ในขณะที่หยางจื่อต้งและที่ปรึกษาฝ่ายขายนั้นถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

ภายในห้องกระจกมีรถออฟโรดขนาดใหญ่พิเศษ รูปลักษณ์ของมันดูแข็งแกร่งมาก ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถฝ่าวงล้อมทุกสิ่งไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ต่างไปจากรถหุ้มเกราะเหล็กที่สง่างามและทรงพลัง

“ลูกหนูเป็นผู้หญิงนะลูก หนูชอบมันจริง ๆ เหรอ?” โจวอี้ถามพลางลอบกลืนน้ำลาย

“ใช่! หนูชอบจริง ๆ!” ถังเหมียวเหมี่ยวพิงตัวอยู่ที่ผนังกระจก จ้องรถคันดังกล่าวตาเป็นประกาย

“บอกพ่อได้ไหมว่าชอบตรงไหน?” โจวอี้ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

“มันใหญ่! มันดูทรงพลังที่สุด” ถังเหมียวเหมี่ยวหันหน้ามองไปยังรถคันอื่น จากนั้นหนูน้อยก็เบ้ปาก คว้าเสื้อของโจวอี้แล้วพูดว่า “พ่อ หนูอยากได้ หนูอยากได้ค่ะ”

“งั้นก็ซื้อกันเถอะ” โจวอี้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยิ้มอย่างขมขื่น

รถคันนี้แวววาวและดูเท่มาก แม้ว่าเขาจะไม่อยากเป็นไฮโซ แต่เพราะลูกสาวของเขาชอบ เขาจะซื้อมันกลับไปก่อน แต่ถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่เขาก็จะซื้อรถเพิ่มอีกสองสามคันแล้วใช้สลับวนกันไป

“คุณต้องการซื้อรถคันนี้จริง ๆ เหรอ?” หยางจื่อต้งถามด้วยความสงสัย

“อืม ลูกสาวของผมชอบมัน ดังนั้นก็ซื้อมันเถอะ” โจวอี้พยักหน้า

“นี่คือรถรุ่น Knight XV และคนทั่วไปก็ควบคุมมันได้ยาก” หยางจื่อต้งยิ้มอย่างมีเลิศนัย

“ผมเคยขี่เสือบนภูเขาได้ แค่บังคับรถ ทำไมจะทำไม่ได้?” โจวอี้ แสดงออกถึงความเย่อหยิ่ง เขาหันไปหาที่ปรึกษาฝ่ายขายและถามว่า “รถคันนี้ราคาเท่าไหร่? ผมจะซื้อ!”

“คุณโจว รถคันนี้คุณเฉิงสั่งไว้แล้ว และเขาจะมารับวันนี้” ที่ปรึกษาฝ่ายขายหัวเราะแห้ง ๆ

“ร้านของคุณมีรถรุ่นนี้แค่คันเดียวเหรอ?” โจวอี้สงสัย

“ไม่เพียงแต่ร้านของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั้งเมืองจินหลิงด้วย” ที่ปรึกษาฝ่ายขายกล่าว

แววตาของโจวอี้เป็นประกาย เขายกนิ้วโป้งให้ลูกสาวและกล่าวชม “ผมไม่ได้คิดว่าลูกสาวของผมจะมีรสนิยมที่ไม่เหมือนใครตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นเรื่องที่ดี เธอสมควรที่จะเป็นลูกสาวสุดฉลาดของโจวอี้คนนี้!”

“คุณโจว…”

“ไปถามหวงไห่เทาว่ารถคันนี้สามารถโอนให้ผมได้ไหม?” โจวอี้หันไปบอกที่ปรึกษาฝ่ายขาย

“ได้ครับ รอสักครู่”

พื้นที่พักผ่อนบนชั้นสอง

หวงไห่เทาและเฉิงห่าวกำลังคุยกันอยู่

เฉิงห่าวพบว่าหวงไห่เทาได้ลงไปชั้นล่างเพื่อทักทายคนรู้จัก แต่เมื่อกลับมาก็ดูเหม่อลอยเล็กน้อย

เฉิงห่าวถามถึงตัวตนของชายคนนั้น แต่หวงไห่เทาเพียงพูดคำหยาบออกมาไม่กี่คำ และยังบอกว่าอีกฝ่ายเป็นหมอ

แต่ยิ่งเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เขาก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

“บอสครับ คุณเฉิง” ที่ปรึกษาฝ่ายขายมาที่ชั้นสองและเรียกพวกเขา

“เป็นยังไงบ้าง โจวอี้เลือกรถแล้วเหรอ?” หวงไห่เทาถาม

“ครับ แต่เขาเลือกรถที่คุณเฉิงสั่ง” ที่ปรึกษาฝ่ายขายยิ้มอย่างขมขื่น

“บ้าเอ๊ย!!! ไอ้สารเลวนั่นมันบ้าเหรอ?!! เขาไม่ยอมเลือกรถหลายร้อยคันพวกนั้น แต่เขาเลือก Knight XV แทน?!”

หวงไห่เทาเกือบจะกระโดดขึ้นจากโซฟาและตะโกนอย่างโกรธเคือง “ไปบอกเขาว่ารถมีเจ้าของ และไม่สามารถขายให้เขาได้!”

“ครับ ผมจะรีบบอกเขา” เมื่อที่ปรึกษาฝ่ายขายตอบรับและกำลังจะหันกลับไป

“เดี๋ยว!”

ทว่าหวงไห่เทายืนขึ้นและร้องเรียกไว้เสียก่อน เขาลังเลและมองไปยังเฉิงห่าวอย่างลังเล

“พี่หวง นั่นคือรถที่ผมสั่ง ผมจ่ายไปแล้วด้วย” เฉิงห่าวพูดขึ้น

“น้องเฉิง นี่…อะแฮ่ม…!” หวงไห่เทาลูบพูดด้วยรอยยิ้มแห้ง “ทำไมไม่รอหน่อยล่ะ สาม ไม่ ไม่ ไม่ สองเดือน สัญญาว่าจะเอารถอีกคันมาให้ในอีกสองเดือน แล้วจะคืนเงินให้ครึ่งหนึ่งเลย!”

เฉิงห่าวหรี่ตา

ไม่ว่าชายหนุ่มที่ชื่อโจวจะชอบรถคันไหน หวงไห่เทาจะมอบให้อีกฝ่ายฟรี ๆ

“เขาเป็นใครกันแน่?” เฉิงห่าวถาม

“เขาชื่อโจวอี้ เป็นหมอของปู่ผม” หวงไห่เทาลังเล แต่สุดท้ายก็พูดขึ้น

“แล้วไงต่อ?”

“ไอ้สารเลวนั่นลงมาจากภูเขา เขาเพิ่งมาที่จินหลิง เขาเป็นหมอที่มีทักษะการแพทย์สูงมาก และยังเป็นลูกศิษย์ของหมอผีฉู่เทียนฮุ่ย ส่วนเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ เขาคือถังเหมียวเหมี่ยว ลูกสาวของเขากับถังหว่าน”

หวงไห่เทาพูดอย่างช่วยไม่ได้ และยังบอกเขาอีกว่า “สิ่งที่ผมบอกคุณต้องเก็บเป็นความลับ…”

ใบหน้าของเฉิงห่าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างโจวอี้กับถังหว่าน ดาราดังคนนั้น แต่โจวอี้ที่เป็นศิษย์ของหมอผีฉู่เทียนฮุ่ยต่างหาก ที่ทำให้เขาสนใจเรื่องนี้

หมอผี!

ประเทศจีนมีหมอผีกี่คน?

ฉู่เทียนฮุ่ย คือหมอผีที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศเมื่อสี่สิบหรือห้าสิบปีที่แล้ว!

เฉิงห่าวครุ่นคิดอยู่ครึ่งนาที จู่ ๆ ก็ถามขึ้นว่า “บุคลิกของเขาเป็นยังไง?”

“บางครั้งเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอก บางคราวก็ดูโง่เขลา เขา…” คำพูดของ หวงไห่เทาหยุดลงทันใด

ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักถึงความคิดของเฉิงห่าว และการสนทนาก็เปลี่ยนไป “เขาหมกมุ่นอยู่กับเงิน แต่เขาเป็นคนรักษาสัญญา และยังเป็นทาสลูกสาว”

“นับว่าเพียงพอ”

เฉิงห่าวยืนขึ้นและยิ้มอย่างผ่อนคลาย “Knight XV คันนั้นสามารถให้เขาได้เลย แต่คุณต้องแนะนำผมให้เขารู้จัก”

หวงไห่เทาพยักหน้า

เขาคิดว่าเฉิงห่าวคงต้องการผูกมิตรกับโจวอี้ แต่ใคร ๆ ก็ต้องการเป็นเพื่อนกับโจวอี้ทั้งนั้น

อันที่จริงพวกเขาไม่สนใจเรื่องเงินมากนัก แต่รถยนต์หรูหราก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับพวกเขาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขาสามารถผูกมิตรกับแพทย์ที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และมีหมอผีเป็นผู้สนับสนุน ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะลงทุนและผูกมิตรกับเพื่อนใหม่

เฉิงห่าวแค่อยากรู้ว่าโจวอี้ให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรมหรือไม่? และเขาเห็นคุณค่าของความมุ่งมั่นหรือเปล่า?

จากนั้น เขาจะชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย และตัดสินใจว่าจะเป็นเพื่อนกับชายคนนั้นหรือไม่?