ตอนที่ 125 ความเร็วที่น่าตกตะลึง

ขอเปลี่ยนจาก โจวฉิงยู เป็น โจวยู่นิ่ง แทนนะครับ ดูเหมือนผู้แปลอิงแกจะแปลผิด

ถ้าสองคนแรกรุกเหมือนเสือโคร่งสองตัว

โจวยู่ฉิงก็เป็นเหมือนแมวมากกว่า

เริ่มแรกคุณจะไม่รู้สึกว่าแมวจะก้าวร้าว แต่ถ้าคุณถูกมันโจมตีคุณจะต้องตกตะลึง

โจวยู่ฉิงต่อยเข้าที่หน้าของซูฟ่านโดยที่ไม่มีใครทันตอบสนอง

แม้ว่าซูฟ่านจะตอบโต้ทันและหลบได้

แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน

เพราะหมัดของโจวยู่นิ่งเฉียดเขาแบบระยะเผาขน

หากซูฟ่านไม่หลบทันเวลาหมัดนี้คงจะเข้าเต็มเบ้าหน้า

โจวยู่นิ่งไม่ได้ให้โอกาสซูฟ่านหายใจแม้แต่น้อย และก่อนที่เธอจะดึงหมัดกลับเธอก็ใช้เท้าเตะออกไปอย่างแรง

หมัดที่ยื่นออกไปถูกแรงเฉื่อยดึงกลับและซูฟานก็ได้พบกับน่องเรียวยาวของเธอ

ซูฟ่านเอนตัวลง ขาของโจวยู่ฉิงผ่านปลายจมูกของซูฟ่านไป

จากนั้นโจวยู่ฉิงก็ยกเข่าขึ้นและแทงไปที่จุดศูนย์กลางของซูฟาน!

โชคดีที่ซูฟ่านบล็อกมันด้วยมือของเขาทันเวลา!

เขาผลักกลับอย่างแรงจนโซวยู่ฉิงถอยกลับไปสองก้าว

อีกแค่ก้าวเดียวเอง!

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นตกใจยิ่งกว่าเดิม

โดยเฉพาะหวังหลิง เธอไม่เคยได้ยินชื่อโจวยู่ฉิงมาก่อน แล้วทําไมปรมาจารย์เช่นนี้จึงปรากฏตัวขึ้นได้

ถ้าเธอต้องต่อสู้กับโจวยู่ฉิงก็น่ากลัวว่าเธอจะนอนกับพื้นในเวลาไม่กี่วินาที!

ซูฟ่านเริ่มสนใจโจวยู่ฉิงคนนี้

หญิงสาวดูเย็นชา มัดผมหางม้าที่พริ้วไหวไปมาและเธอมีความดุร้ายและก้าวร้าวมาก

เมื่อเทียบกับผู้หญิงคนอื่น ๆ เธอยังมีความแข็งแกร่งอีกด้วย หากเธอต้องการต่อยใครสักคนจริงๆมันคงหนักกว่านี้หลายเท่าแน่นอน

ซูฟ่านไขว้มือทั้งสองข้างไว้ข้างหลังเขา

เขาเลิกคิ้วไปทางโจวยู่ฉิง ครั้งนี้มันทําให้ซูฟ่านตื่นเต้นมากเช่นกัน

บังเอิญจริง ๆ ที่เขาได้พบกับสาวสวยที่แข็งแกร่ง เขาต้องการเรียนรู้การต่อสู้จากกันและกัน

แต่อีกฝ่ายยังคงไร้การแสดงออกบนใบหน้าของโจวยู่ฉิง

เธอมองไปที่ซูฟ่านอย่างเย็นชา เธอพุ่งไปเบื้องหน้าซูฟ่านด้วยความเร็วมากกว่าเดิมและต่อยออกไป!

ซูฟ่านหันศีรษะแล้วเหวี่ยงมือไปทางซี่โครงของโจวยู่ฉิง

โจวยู่ฉิงขัดจังหวะการโจมตีของซูฟ่านด้วยศอกของเธอ!

ยิ่งสู้กันยิ่งบอกผู้ชนะยาก!

หลังจากสู้มานานจนเกิน 5 กระบวนท่า ทั้งสองได้ผ่านไปแล้ว 12 กระบวนท่า!

แน่นอนว่าซูฟ่านไม่ได้ใช้กําลังทั้งหมดของเขา แต่เก็บโจวยู่ฉิงก็รับมือได้ทุกกระบวนท่า

เหตุผลที่เขาต้องการต่อสู้หลังจากผ่านไปห้ากระบวนท่านั้นเป็นเพียงเพราะเขาคิดว่าโจวยู่ฉิงเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี เขาต้องการเล่นให้นานขึ้นอีกนิด

ในที่สุดหลังจากผ่านไปเกือบ 20 กระบวนท่า ซูฟ่านก็พบจุดอ่อนของโจวยู่นิ่งและปล่อยหมัดไปที่หัวใจของเธอ

ด้วยหมัดนี้โจวยู่ฉิงจะต้องตายอย่างไม่อาจขัดขืน

ซูฟ่านยังคงชนะแต่โจวยู่ฉิงก็ผ่านการสัมภาษณ์ได้สําเร็จ

ต้องบอกว่าระหว่างการต่อสู้กับโจวยู่ฉิง ซูฟ่านเองก็ได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนัง

เพียงแต่ว่าตําแหน่งของอาการบาดเจ็บไม่ชัดเจนและความสามารถในการฟื้นฟูของเขาเองนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกอะไรมาก

หลินจูและหวังหลิงที่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ก็ตะลึงงัน

การต่อสู้ครั้งนี้น่าตื่นเต้นมาก!

จนกระทั่งซูฟ่านและโจวยู่ฉิงจับมือกัน ทั้งสองคนจึงมีปฏิกิริยาตอบสนองและปรบมือให้ทั้งคู่อย่างจริงจัง

“มันน่าตื่นเต้นมาก!”

หลินจูเดิมคิดว่าโจวยู่นิ่งดูเข้าหาได้ยากและไม่ต้องได้เธอ แต่เมื่อเห็นทักษะที่ดีของโจวยู่ฉิงเธอก็เปลี่ยนใจทันที

ถ้าพี่สาวยั่วจิงยังอยู่ โจวยู่ฉิงกับเธอใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน?

แน่นอนหลินจูก็รู้สึกเศร้าไปชั่ววูบ เธอรู้ว่าเธอไม่ควรอยู่กับอดีตตลอดไป

ซูฟ่านมองไปที่โจวยู่นิ่งด้วยความชื่นชม

“ยอดเยี่ยมมาก”

“อืม ขอบคุณนะ นายก็เหมือนกัน”

โจวยู่ชิงตอบกลับ

“คุณไม่ได้ใช้กําลังที่แท้จริงของคุณใช่ไหม”

ซูฟ่านจับมือโจวยู่ฉิงแล้วถามไป

“นายก็เหมือนกัน”

โจวยู่ฉิงยังคงให้ความรู้สึกที่เท่มาก

ซูฟ่านรู้สึกติดเชื้อจากพลังความเท่ของโจวยู่ฉิง

อดไม่ได้ที่จะคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริง ๆ

ถ้ามีโอกาสก็อยากจะสู้กับผู้หญิงคนนี้ด้วยกําลังของตัวเองจริง ๆ จัง ๆ

ซูฟ่านพาทุกคนกลับไปที่ห้องสัมภาษณ์

เพราะหวังหลิงสัมภาษณ์ไม่ผ่านเธอจึงบอกลาทุกคนและจากไป

มีเพียงซูฟ่าน หลินจู และโจวยู่ฉิงเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในสํานักงาน

ซูฟานพลิกดูข้อมูลของโจวยู่ฉิงอีกครั้ง

“ไม่มีประสบการณ์ในฐานะบอดี้การ์ด ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันใด ๆ สามารถขับรถได้ สามารถใช้ปืนได้”

ซูฟ่านตรวจสอบข้อมูลของโจวยู่ฉิงทุกบรรทัด

จากนั้นเขาก็มองไปที่หลินจู

หลินจูเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อ ท้ายที่สุดบอดี้การ์ดที่ได้รับเลือกก็จะมาดูแลเธอและเธอก็ต้องตัดสินใจเอง

ถ้าเธอโอเคก็จ้างคนนี้แต่ถ้าไม่ก็หาคนต่อไป!

แต่สําหรับโจวยู่ฉิงที่เท่แบบนี้ หลินจูรู้สึกโอเค

“เอาเธอ”

หลินจูพูดขึ้น

ซูฟ่านพยักหน้า

จากนั้นซูฟ่านก็บอกโจวยู่ฉิงเกี่ยวกับเอกสารที่จําเป็นสําหรับการเข้างานและขอให้โจวยู่ฉิงมารายงานตัวในเช้าวันพรุ่งนี้

ซูฟ่านและหลินจูกลับไปที่สํานักงานของฉินเสี่ยวหยุนหลังจากส่งโจวยู่ฉิงกลับไป

ฉินเสี่ยวหยุนกลับมาที่สํานักงานของเธอในอีกไม่ถึงสิบนาทีหลังจากโจวยู่ฉิงกลับไป

หลังจากเห็นซูฟ่านและหลินจูใบหน้าของพวกเขาดูเหนื่อยล้านิดหน่อย

“เป็นไง?”

ฉินเสี่ยวหยุนถาม

“เสร็จแล้ว!”

“โอ้? แล้วคนไหน?”

“คนที่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับบอดี้การ์ด…”

หลินจูและฉินเสี่ยวหยุนพูดคุยกัน

หลินจูยังบอกฉินเสี่ยวหยืนเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ผ่านมาและเอาวิดีโอที่เธอบันทึกไว้ออกมาโชว์

หลังจากดูวิดีโอและพบว่ากังฟูของโจวยู่ฉิงนั้นดีมาก ฉินเสี่ยวหยุนก็ขมวดคิ้ว

เธอรู้สึกแปลกเล็กน้อยที่พูดถึงคน ๆ นี้

ถ้าเธอไปหาจ้างมาเองเธอคงกังวลมาก

แต่นี่เธอเรียกใช้ผู้แนะนํา

ผู้แนะนําคนนี้เชี่ยวชาญในการแนะนําผู้คุ้มกันให้กับนายจ้าง และเขาสร้างความแตกต่างในราคาค่าจ้างสูงมาก

อย่างโจวยู่นิ่งที่ได้เงินเดือนประจําปีที่ 900,000 หยวน เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้เพิ่ม อีก 90,000 หยวน

ความสัมพันธ์นี้ทําให้เงินเดือนประจําปีของเขาสูงถึงหลายล้าน

ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของเขา แต่ทุกคนเรียกเขาว่าพี่บิน

หลังจากที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้ง พี่บินก็รับสาย

“คุณฉิน เป็นอะไรไปบอดี้การ์ดที่แนะนําให้คุณรู้จัสึกไม่พอใจงั้นหรือ?”

“ฉันรู้ข้อมูลมากกว่านี้

หลังจากพูดแล้วฉินเสี่ยวหยุนก็ได้พูดคุยกับพี่บินเกี่ยวกับเรื่องการไร้ประสบการณ์ในการทํางานของโจวยู่นิ่ง

ไม่มีเหตุผลเลยที่คน ๆ นี้จะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้

พี่บินยิ้มหลังจากฟัง

“ประธานฉิน ไม่ต้องกังวล คุณรู้จักหวังเพิ่งผู้คุ้มกันระดับเหรียญทองที่อยู่ข้างคุณชูไหม”

“ท่านประธานชู? ชูเทียนฉี?!”

ฉินเสี่ยวหยุนอุทาน

เมื่อเธอพูดถึงจูเทียนฉีนั่นก็กระตุ้นความสนใจของซูฟ่าน

เขาขอให้ฉินเสี่ยวหยุนวางโทรศัพท์ที่โต๊ะ

“ใช่ คุณรู้ไหมว่าหวังเพิ่งที่อยู่ข้างตัวประธานชูนั้นทรงพลังมาก เหมือนกับสัตว์ประหลาด”

“โจวยู่ฉิง หวังเพิ่ง และชิวหมิงหยุนล้วนได้รับการสอนมาจากปรมาจารย์”

“อย่างไรก็ตามโจวยู่ฉิงนั้นกําลังศึกษาและไม่เคยทํางานมาก่อน เธอเป็นคนที่ไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขัน

“แต่เธอก็นับเป็นปรมาจารย์ที่หายากจริง ๆ ประธานฉินขอให้ฉันแนะนําใครซักคนให้ ฉันก็ไม่สามารถหลอกคุณได้หรอกใช่มั้ย!”

พี่บินอธิบาย