ตอนที่ 133 อย่าได้ล่วงเกินนักพรตเต๋า ตอนที่ 134

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 133 อย่าได้ล่วงเกินนักพรตเต๋า / ตอนที่ 134 นางคืออาจารย์ปู้ฉิวเชียวนะ
Ink Stone_Romance
ตอนที่ 133 อย่าได้ล่วงเกินนักพรตเต๋า
“อาจารย์ ขอบคุณท่านมากที่ช่วยบุตรสาวของเราไว้” อวี๋ชิวไฉรินน้ำชาให้ฉินหลิวซีด้วยตัวเองเพื่อเป็นการขอบคุณ
ฮูหยินอวี๋เพียงแค่โค้งคารวะเล็กน้อยด้วยท่าทีขอบคุณ
ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “ไม่ต้องขอบคุณ แค่ให้สิ่งตอบแทนอย่างเพียงพอก็พอแล้ว”
อวี๋ชิวไฉกับฮูหยินอวี๋ “!”
พวกเขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้สติกลับมา เอ่ยว่า “อาจารย์วางใจได้ ค่าตอบแทนไม่น้อยอย่างแน่นอน”
ฉินหลิวซีจิบชาแล้วหยิบใบสั่งยาออกมา นี่เป็นยาเพื่อบำรุงสงบจิตของคุณหนูอวี๋ แล้วหยิบใบสั่งยาอีกใบยื่นให้ฮูหยินอวี๋ “ช่วงนี่ฮูหยินเหนื่อยล้าทางกายและจิตใจทำให้ครรภ์ไม่เสถียร ตอนนี้ความกังวลหมดไปแล้วแต่ก็ยังต้องดูแลอย่างดี ยานี้มีไว้เพื่อสงบจิตและส่งเสริมให้ครรภ์แข็งแรง ฮูหยินทานแล้วจะดีขึ้น”
นางไม่พูดถึงก็แล้วไป ทันทีที่นางพูดอวี๋ฮูหยินก็รู้สึกเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก สีหน้าซีดเซียว อวี๋ชิวไฉรีบพยุงนางนั่งลง ถามด้วยความกังวลว่า “เป็นอะไรหรือไม่
ฮูหยินอวี๋ส่ายหน้ารับใบสั่งยาบำรุงครรภ์ของฉินหลิวซีมา ลูบที่หน้าท้องพลางถามว่า “อาจารย์เป็นคนเสวียนเหมิน ข้าเห็นว่าท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม บุตรสาวของข้าก็ดีขึ้น เห็นได้ว่าทักษะวิชาแพทย์ของท่านน่าทึ่งเป็นอย่างมาก ซ้ำยังรู้ด้วยว่าข้าเคยแท้งมาก่อน ช่วยบอกข้าทีว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้จะยากลำบากหรือไม่”
ฉินหลิวซียิ้มมุมปากพลางเอ่ยว่า “ฮูหยินอวี๋กับใต้เท้า ทั้งคู่มีดวงอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผิวพรรณเรียบเนียนแดงระเรื่อ หางตาของฮูหยินไม่มีรอยเหี่ยวย่น งานแต่งสุขสมดังปรารถนา ทั้งสองท่านวางใจได้ พวกเจ้ามีดวงที่จะมีบุตรคู่ชายหญิง”
เมื่อทั้งสองคนได้ฟังก็ดีใจขึ้นมาทันที
สามีภรรยารักใคร่ปรองดอง ในเรือนสงบสุข สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือหลังจากที่ฮูหยินแท้งบุตร หลายปีมานี้ก็มีบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่ตอนนี้ฉินหลิวซีทำนายว่าพวกเขาจะมีบุตรคู่ชายหญิง หรือว่าครรภ์ครั้งนี้ของฮูหยินอวี๋จะเป็นบุตรชาย
ฮูหยินอวี๋ยิ่งตื่นเต้นมากกว่าเดิม เอ่ยว่า “อาจารย์หมายความว่าข้าจะได้บุตรชายหรือ”
“เมื่อคลอดออกมาเจ้าจะรู้เอง”
ปุ่มที่ 4 ใน 4 ตอนถัดไป
ปุ่มที่ 3 ใน 4 ตอนก่อนหน้า
ปุ่มที่ 2 ใน 4 ความคิดเห็น
ปุ่มที่ 1 ใน 4 สารบัญ
4
“เมื่อคลอดออกมาเจ้าจะรู้เอง”
อวี๋ชิวไฉหัวเราะอย่างไร้เดียงสา “ไม่เป็นไร หากครั้งนี้ไม่ใช่ พวกเราก็ยังมีอีกได้ อาจารย์บอกแล้วว่าพวกเรามีดวงได้ทั้งบุตรชายและบุตรสาว จะต้องมีบุตรชายอย่างแน่นอน ฮูหยินวางใจเถิด แล้วก็ไม่ต้องหาสาวใช้อุ่นเตียงมาปรนนิบัติข้าแล้ว”
“ท่าน! อยู่ต่อหน้าท่านอาจารย์ก็ยังปิดปากตัวเองไม่อยู่นะเจ้าคะ” ฮูหยินอวี๋ตำหนิเขาทางสายตา แต่หางตากลับแดงก่ำ หลายปีมานี้นางมีบุตรสาวเพียงคนเดียว ในใจก็เป็นกังวล แม้ว่าสามีจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจนางกลับไม่มีความสุข มีความคิดที่จะรับอนุให้สามีแต่เขาไม่ยินยอม คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมีข่าวดี
ฉินหลิวซีเอ่ยว่า “ใต้เท้า ยังมีอีกเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากใต้เท้า”
อวี๋ชิวไฉรีบเอ่ยว่า “อาจารย์อย่าได้เกรงใจข้าเด็ดขาด ท่านมีเรื่องอะไรหรือ”
“ความจริงแล้วมีหลายคนในเมืองนี้ที่ดวงจิตหล่นหายหรือสลบไปเหมือนกับคุณหนูอวี๋ ข้าสงสัยว่ามีนักพรตสายดำกำลังทำเรื่องไม่ดี จึงอยากจะสืบดูสักหน่อยเพื่อขจัดให้หมดจด” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อว่า “หากข้าบุ่มบ่ามไปเอง เกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อถือข้าเหมือนเช่นใต้เท้า จะทำให้เสียเวลา จึงอยากให้ใต้เท้าพาข้าไป อย่างไรเสียสถานะของท่านก็ง่ายต่อการทำเช่นนี้”
อวี๋ชิวไฉตกตะลึง “นี่เป็นเพราะนักพรตสายดำกำลังทำสิ่งไม่ดีหรือ นักพรตเต๋ามีเช่นนี้ด้วยหรือ”
“ความดีและความชั่วไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ก็เหมือนคนที่มีทั้งดีและชั่ว เสวียนเหมินก็มีทั้งสายขาวและสายดำ สายดำสามารถทำได้หลายอย่าง ทำร้ายชีวิตคน แม้กระทั่งสามารถทำร้ายลูกหลานของของท่านได้ หากเก่งกว่านั้นก็จะทำลายชาวบ้าน สายดำเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สายขาวอย่างพวกข้าต้องเผชิญหน้าอย่างจริงจัง”
อวี๋ชิวไฉกับฮูหยินอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นสายขาวหรือสายดำก็ไม่ควรไปล่วงเกินนักพรตเต๋า มิเช่นนั้นหากถูกเขาจัดการขึ้นมาก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น!
“อา อาจารย์ ท่านดูสิ ฮูหยินของข้ากำลังมีครรภ์จะทำให้ตกใจไม่ได้ ท่านช่วยมอบยันต์ป้องกันให้พวกข้าทั้งสองได้หรือไม่” อวี๋ชิวไฉเอ่ยพลางกลืนน้ำลาย
ฉินหลิวซีหยิบยันต์แคล้วคลาดสองใบส่งให้เขา “ถือว่าเป็นของตอบแทนที่ใต้เท้าให้ความช่วยเหลือแล้ว”
ตอนที่ 134 นางคืออาจารย์ปู้ฉิวเชียวนะ
ทำลายความชั่วเดินในทางที่ดี ช่วยคนเหมือนช่วยดับไฟ ฉินหลิวซีไม่รอช้า ถือธงใหญ่อย่างอวี๋ชิวไฉเข้าไปในเรือนของหลายครอบครัวที่ตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายกับคุณหนูอวี๋ได้อย่างราบรื่น แก้ไขไปทีละเรือน และได้รับข่าวสารมาบ้าง
หนึ่งในนั้นมีเด็กคนหนึ่งเดินตามเสียงขลุ่ยออกจากเมืองหลีไปแล้ว เขามาถึงสถานที่ที่เรียกว่าเขาปากั้ว เพียงแต่ว่าเด็กคนนี้อายุไม่มากนักจึงไม่ค่อยรู้อะไร ได้ยินเพียงวิญญาณเร่ร่อนบอกว่าเป็นเขาปากั้ว
แต่ว่านั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับฉินหลิวซี
หลังจากออกมาจากบ้านหลังสุดท้าย อวี๋ชิวไฉก็ลองถามนางว่า “ท่านอาจารย์รู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้ต่างก็สูญเสียจิตทั้งๆ ที่ไม่ได้มีข่าวลือออกมา”
ฉินหลิวซีเหลือบมองเขา “คิดเสียว่าข้าทำนายเอาก็แล้วกัน”
แต่อวี๋ชิวไฉกลับเชื่อ เขาเชื่อมั่นในความน่าเกรงขามของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ เอ่ยว่า “อาจารย์ช่างมีจิตใจที่เป็นห่วงราษฎรจริงๆ”
“ก็ไม่ใช่เช่นนั้นหรอก แค่กลัวว่าหากเป็นเรื่องใหญ่จะส่งผลกระทบต่อข้า” นางไม่สามารถเลี่ยงได้หากมันส่งผลกระทบต่อตนเอง ดังนั้นจึงอาศัยตอนที่เจ้าหมอนั่นยังทำไม่สำเร็จ ให้นักพรตสายขาวคนอื่นๆ เข้ามาขจัดภัยคุกคามออกไป
หึ นางช่างเป็นคนที่ฉลาดเสียจริง!
อวี๋ชิวไฉนึกถึงบุตรสาว เอ่ยถามว่า “คือว่า ท่านอาจารย์ นักพรตเต๋าอย่างพวกท่านก็นับว่าออกบวชใช่หรือไม่”
“หืม?”
“คือว่าพวกท่านเหมือนกับชาวพุทธที่ออกบวชเพื่อปล่อยวางทางโลกใช่หรือไม่”
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อว่า “เสวียนเหมินถูกแบ่งออกเป็นนิกาย บางนิกายไม่แต่งงาน แต่บางนิกายก็ไม่ได้เคร่งครัด สามารถแต่งงานกับผู้ที่นับถือเต๋าเช่นกันได้”
บำเพ็ญคู่ เป็นสิ่งที่พูดขึ้นมาลอยๆ เท่านั้นหรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่!
อวี๋ชิวไฉจ้องหน้านาง ลองถามว่า “แล้วท่านอาจารย์เล่า”
ฉินหลิวซีเบือนหน้าหนี เอ่ยว่า “แน่นอนว่าข้าไม่ได้เคร่งครัด”
“เช่นนั้น…”
“ข้าจะไม่เป็นลูกเขยของใครทั้งนั้น” ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยรอยยิ้ม นางเป็นหญิงจะทำอะไรได้
เมื่ออวี๋ชิวไฉได้ยินเช่นนั้นก็อธิบายไม่ถูกว่าในใจรู้สึกผิดหวังหรือโล่งใจกันแน่ ทำได้เพียงยิ้มเจื่อนๆ
ฉินหลิวซีบอกลาแล้วจากไป
หลังจากอวี๋ชิวไฉส่งอีกฝ่ายไปแล้วก็กลับจวนเช่นกัน ระหว่างทางได้แวะไปที่ตำหนักอายุวัฒนะเพื่อนำหมอกลับไปตรวจชีพจรให้ฮูหยิน เป็นอย่างที่ฉินหลิวซีบอก ฮูหยินอวี๋ตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าแล้ว เพียงแต่ว่าครรภ์ยังไม่ค่อยเสถียร
หลังจากที่ทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก นำใบสั่งยาที่ฉินหลิวซีมอบให้ยื่นไป “เช่นนั้นท่านหมอซ่งช่วยดูให้หน่อยว่าใบสั่งยาบำรุงครรภ์นี้ใช้ได้หรือไม่”
หมอซ่งรับมาดู เหตุใดลายมือช่างคล้ายกับคนผู้นั้นเช่นนี้
“ใบสั่งยานี้คือ? ”
“นี่คือใบสั่งยาที่นักพรตเต๋าจากอารามชิงผิงเขียนให้” อวี๋ชิวไฉไม่ได้ปิดบัง
หมอซ่งอุทานออกมา “มิน่าข้าจึงได้รู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก” เขาดันใบสั่งยากลับคืนไป
อวี๋ชิวไฉสงสัยขึ้นมา เอ่ยว่า “ท่านหมอซ่ง หรือว่านี่ยังไม่เหมาะสม”
“เหมาะสม เหมาะสมเป็นอย่างมาก!” ท่านหมอซ่งลุกขึ้น เก็บกระเป๋ายา เอ่ยว่า “ในใต้หล้านี้หากใบสั่งยาของเขาไม่เหมาะสม เช่นนั้นก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว”
อวี๋ชิวไฉกับฮูหยินอวี๋มองหน้ากัน เอ่ยว่า “ขอท่านหมอซ่ง โปรดไขข้อข้องใจด้วยเถิด”
หมอซ่งมองพวกเขาอย่างแปลกๆ ถามว่า “พวกท่านไม่รู้หรือว่าเขาคือใคร”
“เป็นนักพรตเต๋าไม่ใช่หรือ”
ท่านหมอซ่งหัวเราะ “ใช่ แต่เขามีนามแฝงว่าหมอลัทธิเต๋าปู้ฉิว รักษาคนตายให้ฟื้นคืน รักษาโรคได้ทุกชนิดด้วยเข็มวิเศษ ตราบใดที่เขาเป็นคนออกโรงเอง ไม่มีทางเกิดเรื่องผิดพลาดกับคนไข้”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อว่า “แน่นอนว่าต้องให้เงินตอบแทนที่เพียงพอ มิเช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง”
หัวใจของอวี๋ชิวไฉเต้นรัว พวกเขาให้ค่ารักษาไปห้าร้อยตำลึง นี่มันน้อยเกินไปหรือไม่
“ในเมื่อมีใบสั่งยาของอาจารย์ปู้ฉิว ข้าก็จะไม่ขออวดความน่าละอายของตัวเองแล้ว ฮูหยินทำตามใบสั่งยาบำรุงครรภ์ก็พอแล้ว สามารถคลอดบุตรได้อย่างราบรื่นแน่นอน เมื่อฮูหยินคลอดแล้วค่อยไปที่อารามชิงผิงเพื่อจุดธูปบูชาและเติมน้ำมันตะเกียงก็พอแล้ว” ท่านหมอซ่งเก็บของเสร็จแล้วจากไป
อวี๋ชิวไฉส่งหมอซ่งกลับไปแล้วก็มานั่งที่โต๊ะมองหน้ากันกับภรรยา เงียบอยู่นานก่อนจะเอ่ยว่า “ฮูหยิน พรุ่งนี้ข้าจะเอาเงินค่าน้ำมันตะเกียงไปเพิ่มให้อีกดีหรือไม่”
ฮูหยินอวี๋พยักหน้า “เพิ่มอีกห้าร้อยไปเลยเจ้าค่ะ!”