บทที่ 83 – ความหวัง ความรักและเป้าหมาย
“ห้ะ..”
คนที่ตกใจไม่แพ้กันก็คือตัวของคุโระเช่นเดียวกัน.. เขาเคยเห็นเทพีแห่งมนุษยชาติครั้งเดียว คือตอนที่นางออกมาช่วยเขาเอาไว้
และเพราะเหตุนั้น.. นางก็ได้อธิบายถึงความจริงของโลกว่าเมื่อหลุดพ้นออกมาแล้วทุกอย่างจะกลับคืนสู่ความเป็นจริง
สำหรับเรื่องที่นางเป็นคนรักของคุโระนั้น.. มันทึกทักไปเองจากข้อมูลที่มันมีเช่นว่า คนที่มีพลังแบบเขาในโลกของเทพีก็มีตั้งเยอะตั้งแยะ
แต่นางก็ไม่ยักจะลงมาหาแบบเขา แต่การที่นางลงมาหาและชี้ทางสว่างให้กับเขานั่นหมายความว่านางต้องการที่จะอยู่กับเขา
สีหน้าของเทพีแห่งมนุษยชาติบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัด ความงดงามของนางนั้นไม่แปลกใจเลยที่คนแบบคุโระจะหลงรัก
คำพูดของนางที่อยู่ในความทรงจำของเขาถึงกับลอยกลับคืนมาหาคุโระ
“คุโระ.. การตัดสินใจของเจ้าอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก แต่ข้าเชื่อว่าสักวันพวกเราต้องได้เจอกันจริงๆ”
“ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องมาหาข้าได้แน่.. พลังที่แท้จริงของข้า เจ้าต้องเข้าถึงมันได้แน่ๆ อย่ายอมแพ้โดยเด็ดขาด”
“อย่าโดนของปลอมบนโลกใบนี้ลวงหลอกเด็ดขาด โลกด้านบน.. สถานที่ด้านบนซึ่งเป็นสถานที่ของเจ้ากำลังรอต้อนรับเจ้าอยู่”
คำพูดของนางพูดกับมันด้วยความอ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามหรือน้ำเสียง นั่นก็ง่ายมากที่จะทำให้หัวใจที่เหี่ยวเฉาของคุโระกลับมาสดใส
มีครอบครัวแล้ว?มีภรรยาแล้ว? มีลูกแล้ว? …เรื่องแบบนั้นต่างปลิวหายไปพร้อมกับการปรากฏตัวที่แสนอ่อนโยนและงดงาม
“ไม่ต้องห่วง.. เมื่อเจ้าหลุดออกมาจากโลกที่กักขังเจ้าเอาไว้.. เจ้าจะหลุดพ้น ภาระที่ซึ่งเป็นของปลอมทั้งหมดทิ้งมันไว้แล้วก็มาหาข้า”
“ฉัน..สัญญาว่าจะไปพบกับคุณให้ได้ ทีน่า”
คุโระกล่าวพร้อมกับหันหลังให้ทุกอย่างที่ซึ่งเป็นของปลอม.. ไม่เคยคิดสงสัยในคำกล่าวของเทพีแห่งมนุษยชาติเลยแม้แต่น้อย
สีหน้าของคุโระที่เห็นการปรากฏตัวของเทพีแห่งมนุษยชาติหรือ ‘ทีน่า’ ในตอนแรกก็เต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนที่จะกลายเป็นรอยยิ้มที่โหยหา
“ทีน่า..!!!”
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดังขึ้น ซึ่งทำให้ทีน่าเทพีแห่งมนุษยชาติหันกลับไปเจอคุโระ..
ทว่าเธอไม่ได้มีเวลามาคิดมากนัก หัวของเธอถูกมิวจับเอาไว้แน่นแทบจะบีบแตกคามือของมิวอยู่แล้ว สีหน้าเธอจึงดูไม่ได้
แม้จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์แต่ทีน่าก็รีบตอบโต้โดยการปล่อยลำแสงสีทองออกจากมือโจมตีใส่แขนมิวให้ขาดออกจากกันเพื่อหลุดออกจากการจับกุม
แต่ทว่ามันกลับแตกสลายไปเมื่อปะทะเข้ากับผิวหนัง.. ไม่สิ ก่อนจะโดนผิวหนังของมิวมันมีชั้นพลังบางๆ กั้นไว้อยู่
และพลังของเธอก็ถูกทำลายก่อนหน้านั้น.. ดวงตาเทพีถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ ท่าเมื่อกี้ต่อให้เป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกของเธอก็ไม่สามารถทนได้เลยนะ
มิวเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้.. เธอปล่อยมือออกจากหัวของเทพีทีน่า.. ทำให้เจ้าหล่อนดีดตัวถอยกลับไปแทบจะทันที
เจ้าตัวถอยห่างยิ่งกว่าคุโระเสียอีก.. ความกลัวภายในสายตาของเจ้าหล่อนนั้นแสดงชัดเจน
มิวยกมือขึ้น.. เงาร่างที่เธออัญเชิญออกมาเมื่อกี้เองก็สลายหายไป แต่ทว่าร่างของเทพีแห่งมนุษยชาติอย่างทีน่ากลับไม่ได้หายไปแต่อย่างใด
“ทีน่า.. ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น.. คุณมาช่วยฉันเหมือนตอนนั้นงั้นเหรอ .. ถ้างั้นก็รีบจัดการมันที ถ้าจัดการมันได้ฉันก็จะสามารถเข้าไปอยู่ในโลกจริงได้แล้ว เหลืออีกแค่ขั้นตอนเดียวจริงๆ”
คุโระไม่ได้อ่านสถานการณ์ออกมากนัก เขาไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าคนที่ดึงเทพีทีน่าออกมาก็คือตัวมิว มันคิดแค่ว่าเธอมาช่วยมันเหมือนรอบนั้น
อีกอย่างมันก็คงไม่คิดเช่นกันว่าเทพีที่เปรียบดั่งเทพเจ้าอย่างทีน่าจะถูกคนในโลกปลอมนี้ดึงออกมาได้
เพราะสำหรับเขาแล้วพลังของเทพีทีน่ามันอยู่เหนือกว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้อย่างแท้จริง ดังนั้นหากเธอปรากฏตัวขึ้นทุกคนในที่แห่งนี้ก็เตรียมตัวตาย
สีหน้าของมันเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและเป็นฝ่ายชนะออกมา
ตรงกันข้ามกับคุโระ.. เทพีทีน่าเหงื่อไหลจนไม่รู้จะไหลยังไงแล้ว.. ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในการต้านการโจมตีของอีกฝ่าย
แค่อีกฝ่ายดึงเธอจากอีกโลกผ่านความทรงจำในอดีตของคนอื่น.. มันก็มากพอที่จะทำให้เธอหวาดกลัวแล้ว
เพราะเมื่อได้ไตร่ตรองสถานการณ์หลังจากหลบออกมาได้.. เทพีทีน่ามั่นใจว่าเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้เหมาะกับคำว่าเป็นเทพยิ่งกว่าเธอเสียอีก
“เจ้า… เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไรกับข้า.. พาข้ามาที่นี่ได้ยังไง ไม่สิ พาข้ามาที่นี่ทำไม”
ทีน่าเมินคุโระแล้วก็ถามมิวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นกลัวเล็กน้อย แน่นอนว่าการกระทำของนางทำให้คุโระตะลึง
“ก็..เห็นเจ้านั่นมันหวังพึ่งเธออยู่ ก็เลยพาเธอมาช่วยมัน.. ละมั้ง”
“ห๊า…?”
คุโระสับสนยิ่งกว่าเดิมเขารีบพูดขึ้น
“ทีน่า พูดอะไรของคุณ.. เจ้านี่มันจะไปมีพลังพาคุณมาที่นี่ได้ยังไง คุณมาเองเพื่อช่วยฉันไม่ใช่เหรอ รีบกำจัดมันได้แล้ว ถ้าเป็นพลังของคุณก็คงกำจัดมันได้ง่ายๆ ใช่ไหม?”
“มันเป็นคนปกป้องเด็กนั่นจากฉัน ขอแค่ให้เด็กนั้นผสมเลือดเข้ากับเลือดของรินนะ ทุกอย่างก็สำเร็จแล้ว ถึงจะรู้สึกผิดที่พึ่งคุณ.. แต่ว่าอีกไม่นานฉันก็จะไปหาคุณแล้วนะ”
เมื่อมันกล่าวแบบนั้น มิวก็ยักไหล่ให้กับเทพีทีน่าพร้อมกับพูดเสริมว่า
“เขาว่างั้นแหละ?”
ไม่รู้ว่าควรจะชมมิวว่าวางแผนให้สถานการณ์มันเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้
แต่ถ้าทุกอย่างเป็นแผนของมิวแสดงว่าเธอคงเข้าใจสถานการณ์ได้ดียิ่งกว่าใคร นั่นหมายความว่าจากคำบอกเล่าของคุโระ
เธอสามารถรู้ทุกอย่างและคาดเดาสถานการณ์ได้.. แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงหมายความว่าเธอฉลาดมาก
หรือจริงๆ แล้ว เธอไม่ได้วางแผนอะไรไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญทั้งหมดนั้น
เรื่องนั้นไม่มีใครรู้ นอกจากมิวเอง.. แต่สิ่งหนึ่งที่รู้อย่างแท้จริงคือ มิวกำลังจะทำให้มัน ทำให้คุโระตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับที่รินนะต้องรู้สึกได้จริงๆ
เพราะว่า.. ดวงตาของทีน่าหดเกร็งลงพร้อมกับตะคอกใส่คุโระด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง
“หุบปาก!!!”
“ข้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน เพราะงั้น.. ปล่อยข้าไปเถอะ ข้าไม่ใช่คนบนโลกนี้ด้วยซ้ำ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมคนแบบท่านถึงโกรธมันขนาดนี้”
“แต่ข้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมันจริงๆ”
เมื่อนางกล่าวแบบนั้นออกมาก็รีบก้มหัว.. ใบหน้าที่แสนสวยก็ดี น้ำเสียงที่อ่อนโยนก็ช่าง นางไม่กล้าที่จะแสดงความเหนือกว่าต่อหน้ามิวด้วยซ้ำ
“ห..ห้ะ.. นี่..คุณ.. พูดอะไรของคุณ… คุณก้มหัวให้กับมนุษย์ทำไม.. คุณเป็นเทพี..เทพีแห่งมนุษยชาติไม่ใช่เหรอ”
ไม่ว่ายังไงเขาก็นึกภาพไม่ออก.. ทำไมเทพีแห่งมนุษยชาติถึงต้องก้มหัวให้กับมนุษย์เองล่ะ อีกอย่างทำไม.. ท่าทางของนางถึงต่างไปจากตอนนั้น
ตอนที่ช่วยเขาเอาไว้.. นางไม่ได้แสดงท่าทางแบบนี้ นางดูสูงส่งเหนือใคร นางดูแข็งแกร่งกว่าผู้ใด
ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือลักษณะของคนขี้ขลาด ..มิวไม่ได้ตอบคำขอร้องของเทพีทีน่า เพียงแต่ยืนมองสถานการณ์เท่านั้น
“หุบปาก แกเอาตาไหนมองมาว่านางคือมังกร.. เพราะแกแท้ๆ เพราะแกแท้ ไอ้บัดซบเอ้ย ไปตายซะ”
ความโกรธก็ดี ความเกลียดก็ช่าง นางไม่ต้องการเอาชีวิตมาทิ้งในที่แห่งนี้ ได้แต่สบถด่า หากมานึกดูหากไม่ใช่เพราะนางอยู่ในความทรงจำไอ้เจ้านี่
นางก็คงไม่ถูกดึงออกมา ทุกอย่างมันเป็นเพราะมันแท้ๆ.. เป็นเพราะมันความโกรธของนางที่ไม่สามารถลงใส่มิวได้จึงพุ่งเป้าใส่คุโระ
“…เดี๋ยว…สิ เรา..เป็นคนรักกัน..ไม่ใช่เหรอ..?”
“ห๊า นี่แกหลอนบ้าอะไรของแก เดี๋ยวท่านคนนั้นก็เข้าใจผิดไม่ใช่หรือไงวะ”
นางตะโกนใส่มันอีกครั้งพร้อมกับหันหน้ามาหามิวเสริมว่า
“มันคิดไปเองนะ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าจริงๆ”
คุโระที่ฟังทุกอย่างอยู่ก็ได้แต่แสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก คิ้วกระตุกหัวใจเริ่มกระสับกระส่ายอย่างช่วยไม่ได้
มิวที่มองทุกอย่างอยู่ก็ยังไม่ตอบสนองอะไร.. ซึ่งเทพีทีน่าก็ไม่ใช่คนโง่ เพราะเห็นมิวไม่ตอบสนองอะไรมาสักพักแล้ว
นางควรจะรู้ความจริงหลายระดับแล้ว.. เอาเข้าจริงมานึกดูอีกฝ่ายถึงขั้นดึงเธอออกมาจากความทรงจำมันแล้ว จะบ่ายเบี่ยงไปมากกว่านี้ก็ไม่ช่วยอะไร
เธอจึงรีบเปลี่ยนคำพูดทันทีเพื่อหาทางบอกว่าตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องกับชายคนนี้จริงๆ
เพราะอย่างน้อยก็ทำให้นางรู้ว่า เธอไม่ได้เป็นพันธมิตรมันก็พอแล้ว
ทว่าในขณะที่นางกำลังจะพูดอะไรนั้นเอง มิวไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น..
ร่างของมิวหายวับไปอีกครั้งพร้อมกับปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเทพีทีน่า.. และคมดาบนั้นก็สะบั้นใส่แขนและขาของนาง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดาบหรือเปล่า แต่ทว่าทันทีที่มันตัดออกนั้นความเจ็บปวดที่ราวกับเข็มนับพันเล่มกำลังทิ่มแทงใส่เส้นประสาทก็พุ่งเข้ามาพร้อมกัน
มันเป็นความเจ็บปวดที่ยากเกินจะสามารถทนได้ เสียงร้องกรีดร้องโหยหวนที่นางไม่เคยกรีดร้องแบบนี้มากี่ร้อยปีแล้วไม่รู้ก็เปล่งออกมา
เลือดสีแดงสาดกระจายสาดใส่หน้าของคุโระที่เบิกตากว้างพร้อมกับ.. จังหวะต่อมาที่คมดาบนั้นสะบั้นใส่คอของนางจนขาด
มิวยื่นมือไปจับหัวของอีกฝ่ายเอาไว้ พร้อมกับยื่นไปหาคุโระ…
พลังของดาบที่เหมือนจะฆ่าได้ทุกอย่างนั้น ทว่าครั้งนี้เทพีทีน่าเหมือนจะไม่ตายดวงตาเธอยังเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวด
เสียงกรีดร้องไม่อาจเปล่งออกมาได้ราวกับปากไม่สามารถเปิดได้..
“ความหวัง ความรัก เป้าหมายทุกอย่างที่ว่ามา..มันหายไปแล้ว ?”
“เอาไง?”
ทุกครั้งที่มิวพูดเหมือนกับมีระลอกความโกรธที่ชัดเจน เหมือนกับเธอกำลังดึงเอาภาพเหตุการณ์เดียวกับที่รินนะต้องเจอกลับคืนมาหาเขา
ความรักก็ดี.. ความหวังก็ดี.. เป็นแม้กระทั่งเป้าหมายของเขา
แม้จะถูกอีกฝ่ายพูดเหมือนไม่เกี่ยวข้องจนหัวใจของมันเหมือนจะพังทลายลง จนกระทั่งการสะบั้นหัวของคนที่ตัวเองปรารถนาที่จะย่างไปถึง
เขาไม่มีเวลามากพอที่จะปรับความคิดว่าทีน่าทำไมถึงพูดแบบนั้นกับตัวเขา
ทว่า..นาง ความรักของเขากลับถูกตัดคออยู่ตรงหน้าเขา
เป็นความโหดร้ายที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด
มือของคุโระเอื้อมมาหาใบหน้าของทีน่าราวกับต้องการจะคว้าจับนางเอาไว้…