เป็นธรรมดาที่เย่เฉินสังเกตเห็นท่าทางแปลก ๆ ของเหล่าขุนนาง ไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้ว่าพวกเขาคิดอะไร

เป็นไปไม่ได้ที่จะปราบกบฏภายในเวลาสามเดือน!

แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของเหล่าขุนนางทั้งฝ่ายพลเรือนและฝ่ายทหาร

แต่สำหรับเย่เฉินการปราบกบฏนั้นง่ายดายมาก

เย่เฉินไม่ใช่คนของโลกใบนี้ และยังเป็นคนที่กลับมาเกิดใหม่

ในขณะนี้เขามีทหารเกือบ 50,000 นาย ซึ่งยังมีกองทัพพิเศษเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถรุกคืบได้อย่างไร้ขีดจำกัด นั่นคือกองทัพหลุนฮุยที่มีม้าศึกจำนวนมาก

สำหรับผู้บัญชาการทหารยังมีขุนพลในประวัติศาสตร์ระดับพิเศษอย่างเตียนอุย

ที่ปรึกษากุนซือทางทหารกุยแกที่เป็นข้าราชการระดับพิเศษในประวัติศาสตร์อีก

ที่สำคัญในเมืองหลุนฮุยยังมีหน้าไม้ขนาดใหญ่อีก 15,000 คัน ไม่ว่าจะเป็นการล้อมเมืองแย่งชิงแผ่นดินสิ่งนี้มีอนุภาพมากกว่าเครื่องยิงหิน

แม้ว่าจะไม่มีสิ่งนี้เย่เฉินก็ยังคงมีหนทางที่จะยึดครองเมืองและทำให้การปราบกบฏเป็นไปอย่างราบรื่น

สามเดือนมีเวลาเพียงพอ

นอกจากนี้ยังเป็นข้อจำกัด ในการได้รับตำแหน่งแม่ทัพผิงเป่ย หากเย่เฉินทำไม่สำเร็จตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะถูกยึดคืนและเขาอาจถูกลงโทษหรือแม้แต่ถูกส่งเข้าคุกเพราะความผิดอีกด้วย

เย่เฉินรู้เรื่องนี้ดี แต่เย่เฉินไม่ได้กลัว

“ตามแต่ท่านประสงค์!” เย่เฉินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมจากนั้นก็โค้งคำนับตอบ

“ดี! ตามคาดข้าไม่ได้มองคนผิด!” จักรพรรดิฮั่นเลนเต้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เมื่อเห็นเย่เฉินไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเงื่อนไขของเขา

“ ฝ่าบาทข้าน้อยยังต้องใช้ปราบกบฏเวลาใกล้หมดแล้วดังนั้นข้าน้อยจึงขอตัวต้อน” เย่เฉินโค้งคำนับอีกครั้งแล้วพูด

“ไปเถอะ แม่ทัพผิงเป่ยจำไว้ว่าในอีกสามเดือนข้าจะรอฟังข่าวดี” จักรพรรดิฮั่นเลนเต้พยักหน้าแล้วพูด

ขันทีเตียวเหยียงที่ยืนอยู่ข้างๆพระเจ้าฮั่นเลนเต้ดูร้อนรนในขณะนี้ เดิมทีเขาคิดว่าเขาสามารถเอาชนะสมาชิกคนหนึ่งของฝั่งทหารได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาอาจจะยกก้อนหินและกระแทกเท้าตัวเอง

สามเดือน เว้นแต่พระเจ้าจะเสด็จมา จะสามารถปราบกบฏภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้อย่างไร

เย่เฉินสังเกตเห็นสีหน้ายุ่งเหยิงของขันทีเตียวเหยียง แต่เย่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไร สำหรับขันทีเตียวเหยียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ที่อยู่ในศาลเขาไม่แม้แต่จะสบตาด้วยซ้ำ

มิฉะนั้นทุกสิ่งที่เย่เฉินทำก่อนหน้านี้จะสูญเปล่าหากมีคนสังเกตเห็น

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เย่เฉินก็โค้งคำนับให้แก่จักรพรรดิฮั่นเลนเต้แล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยขอตัวลา“

หลังจากเย่เฉินพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องโถงไป

ในตอนนี้ขุนนางต่างๆก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

แม้แต่นายพลในประวัติศาสตร์เช่นโลติด ก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเย่เฉิน

การปราบกบฏในอิวจิ๋วในสามเดือนนั้นยากที่จะเป็นไปได้!

ลกเอี๋ยง โรงเตี๊ยมหยูเล่ย

ถนนเต็มไปด้วยผู้คน ผู้นำของกองกำลังขนาดเล็กต่างๆและผู้เล่นจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยากรู้อยากเห็นรอคอยด้วยความตื่นเต้น

ท้ายที่สุดแล้วการประมูลกำลังจะจัดขึ้นที่นี่ และการประมูลเป็นเทคนิคระดับราชาเช่นเดียวกับอาวุธระดับลึกลับ

ในขณะนี้ ผู้มีอำนาจของกองกำลังต่างๆ กำลังนั่งรอคอยอยู่ในห้องโถงอย่างเงียบ ๆ รอให้ NPC ที่อยู่ในห้องหมายเลขหนึ่งออกมาเปิดการประมูล

เพียงแค่ว่าการสนทนาในหัวข้อนี้สอดคล้องกันอย่างน่าประหลาดใจ

เนื้อหานั้นสร้างความประทับใจให้กับเย่เฉิน

“ ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้เย่เฉินอยู่ที่ไหน ไม่มีใครพบเห็นเขาแม้ว่าเราจะเจอกับเขาเราก็ไม่อาจรู้ว่านั้นคือเขา”

“ อย่าคิดอะไรเกี่ยวกับเย่เฉิน ฐานหยานหวงของพวกเราต้องการตัวเขา!”

“หยุดเลย เจ้ายังรู้สึกภูมิใจกับตัวตนก่อนหน้านี้ของเจ้าอยู่อีกหรอ? ข้าจะบอกอะไรให้ อย่าแม้แต่จะคิดถึงเรื่องนี้ ในโลกตอนนี้ใครก็ตามที่มีหมัดใหญ่ที่สุดจึงจะสามารถพูดได้!”

เมื่อผู้นำของกองกำลังเหล่านี้พูดเกี่ยวกับเย่เฉินอยู่ ก็มีเสียงร้องอุทานดังขึ้น

“นั่นคือ NPC! ทำไมเขาถึงมาจากข้างนอกล่ะ?”

ทันทีที่คำพูดคนคนนั้นจับลง ทุกคนก็หันมองไปที่เย่เฉินจากนั้นก็ก้าวหลบไปทีละคนเพื่อให้เย่เฉินเดินผ่าน

เย่เฉินเพิกเฉยต่อสายตาของทุกคน และเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ของโรงเตี๊ยมจากนั้นก็โยนเหรียญทองให้เซียวเออร์และยืมใช้เคาน์เตอร์

“ก่อนการประมูล ข้าอยากถามว่าพวกเจ้ามียาอายุวัฒนะขายไหม” เย่เฉินเหลือบมองไปที่ผู้นำของเหล่าผู้เล่นในห้องโถงจากนั้นก็ถามออกไปนอกประตู

“ยาอายุวัฒนะข้ามีอยู่อย่างหนึ่ง ท่านจะจ่ายในราคาเท่าไหร่ สามารถพูดคุยกันก่อน ข้าจะไม่ขายมันถ้าไม่ได้ราคาดีพอ” คนคนนั้นมองไปที่เย่เฉินและถาม

“เริ่มต้นที่หนึ่งแสนทองขึ้นอยู่กับคุณภาพของยาอายุวัฒนะของเจ้า” ดวงตาของเย่เฉินเป็นประกายแล้วเขาก็พูดออกไป

“ เอาล่ะงั้นดูหน่อยว่ามันมีมูลค่าเท่าไร?”

“ สองแสนเหรียญทอง” เย่เฉินเหลือบมองมันแล้วกล่าว

“ดี ข้าจะขายให้ท่าน!” หลังจากชายคนนั้นพูดแล้วเขาก็ถอยห่างจากฝูงชนและยื่นยาอายุวัฒนะให้

เย่เฉิน เย่เฉินคว้างมาเหมือนไม่สนใจและจากนั้นก็หยิบเหรียญทองม่วงยี่สิบเหรียญวางไว้บนโต๊ะ

ดวงตาของชายคนนั้นสว่างขึ้นจากนั้นเขาก็หยิบเหรียญทองสีม่วงยี่สิบเหรียญไว้ในมือ

เขาเป็นผู้นำของกองกำลังเล็ก ๆ และยาอายุวัฒนะนี้ได้มาโดยบังเอิญ เขาสามารถได้รับ 200,000 ทองโดยง่ายดายดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะมีความสุข

เย่เฉินขี้เกียจจะยุ่งเกี่ยวกับวิธีที่เขาได้รับยาอายุวัฒนะ หลังจากที่ผู้คนค้นพบประโยชน์ของยาอายุวัฒนะราคาของมันก็จะพุ่งสูงขึ้น

ตอนนี้ยาอายุวัฒนะที่เย่เฉินเสนอในราคา 200,000 ทองและในไม่ช้ามันจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านทอง!

“เชี่ย! ยาอายุวัฒนะมีค่าสองแสนหรือนี่เขารวยมาก!”

“ข้าละเสียใจจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าเห็นสมุนไพรบางอย่าบนหน้าผา มันต้องเป็นยาอายุวัฒนะแน่ๆ!”

“ข้ามี ข้ามี ราคาเท่าไหร่ขอรับ” คนคนหนึ่งเบียดฝูงชนเข้ามาหาเย่เฉินและหยิบยาออกมาแล้วมอบให้เย่เฉิน

หลังจากที่เย่เฉินหยิบมันขึ้นมาเขาก็ดูและพูดว่า “ห้าแสนทอง“

หลังจากที่เย่เฉินพูดจบเขาก็หยิบเหรียญทองม่วงห้าสิบเหรียญออกมาและวางไว้บนโต๊ะ

“ข้า! ข้าก็มีแบบนี้เหมือนกัน!” คนผู้หนึ่งพูดด้วยแววตาที่สดใสจากนั้นก็รีบไปที่เย่เฉิน จากนั้นหยิบยาอายุวัฒนะออกมาและส่งให้เย่เฉิน

“ หนึ่งล้านทอง” เย่เฉินเลิกคิ้วแล้วพูด หลังจากพูดจบเขาก็หยิบเหรียญทองม่วงออกมาหนึ่งร้อยเหรียญและวางไว้บนเคาน์เตอร์

“ ข้าก็มี!”

“ ข้าก็มีก็มีแบบนี้เหมือนกัน!”

เหล่าผู้สังเกตการณ์ต่างก็ถูกกระตุ้นในทันที และพวกเขาต่างขายยาอายุวัฒนะที่มีอยู่ให้เย่เฉิน

เย่เฉินไม่ได้ปฏิเสธ จะมาจนกว่าจะใช้เงินไป 20 ล้านทอง ไม่มีใครพูดอะไรเมื่อเย่เฉินก็หยุดการซื้อ

การเก็บเกี่ยวนี้มีไม่มากนักเพียง 32 ต้น แต่มูลค่าที่ซ่อนอยู่ในนี้สูงเกินกว่าหนึ่งพันล้านทอง!

ยิ่งไปกว่านั้นยาอายุวัฒนะทั้งสามสิบสองต้อนนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้เย่เฉินก้าวผ่านระดับราชาไปสู่ระดับราชวงศ์!

และนี่คือจุดประสงค์ของการได้มาซึ่งสมุนไพรวิเศษของเย่เฉิน เพื่อที่จะเพิ่มพลังของเขาอย่างรวดเร็ว!