ตอนที่ 78 ความโกรธของเถียนเถียน
ในที่สุดเฉินเฉินก็ฉวยโอกาสที่หลินชวนฮวากําลังเผลอ รีบวิ่งออกจากประตูไปทันที!
แต่เขาไม่กล้าไปที่ประตูหน้าเพราะเกรงว่าจะพบกับหลินชวนฮวา และอาจจะถูกทุบตีแบบไร้เหตุผลอีกครั้ง
เขาจึงวิ่งออกจากประตูหลังไปได้ไม่ไกลก็ชนเข้ากับหยุนเคออย่างแรง หยุนเคอตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อมองดูให้ดีก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
ใบหน้าของเฉินเฉินบวมไปครึ่งซีก มุมปากของเขามีเลือดซึมออก มองแวบแรกก็รู้ว่าถูกทุบตีแต่ในตระกูลเฉินใครจะทุบตีเฉินเฉินได้?
“ลุงหยุน ท่านเห็นพี่สาวข้าไหม?”
หยุนเคอตกตะลึง เฉินเถียนเถียนไม่ได้กลับบ้านหรือ? นางจะไปที่ไหนได้?
“ข้าก็ไม่รู้ แต่เจ้าไปกับข้าก่อนข้าจะตรวจดูอาการบาดเจ็บอื่น ๆ ให้เ”
แม้ว่าปกติแล้วเฉินเฉินจะกลัวลุงหนวดผู้นี้ แต่หลังจากติดตามพี่สาวของตนไปที่บ้านของอีกฝ่ายหลายครั้ง เขาก็รู้สึกคุ้นเคยและไม่หวาดกลัวแล้ว!
หยุนเคอพาเฉินเฉินไปที่ถ้ําระหว่างทางขึ้นภูเขา จากนั้นก็นตู้ที่เขาทําขึ้นเองออกมา ในนั้นมียารักษาแผลสีทองและเหล้าสมุนไพร!
เฉินเฉินตัวน้อยถอดเสื้อผ้าออก หลินชวนฮวาทั้งทุบตีและ ด่าทอเขาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ปรากฏร่องรอยแผลเป็นมากมายบนร่างกายของเขา ร่างเล็ก ๆ สั่นสะท้านเมื่อต้องลมหนาว!
แม้แต่คนเย็นชาอย่างหยุนเคอ ยังรู้สึกโกรธมากเมื่อเห็น รอยแผลเป็นเหล่านี้ ถึงอย่างไรเขาก็คือลูกชายของนาง ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นทําแบบนี้ได้อย่างไร?
“มานี้ ข้าจะทายาตรงรอยฟกช้ําให้ เจ็บนิดหน่อย ต้องอดทนไว้!”
ด้วยเหตุนี้ หยุนเคอจึงลอบใช้พลังอย่างลับ ๆ ดูเหมือนว่าเฉินเฉินจะชินชากับความเจ็บปวดเช่นนี้มานานแล้ว จึงสามารถอดกลั้นได้
ในตอนนี้ เฉินเถียนเถียนก็มาถึงแล้วเช่นกัน
หลังจากทานมื้อเช้าที่บ้านของจีชื่อแล้ว นางงี้ก็มีธุระที่ต้องทํา ดังนั้นเฉินเถียนเถียนจึงถูกทิ้งให้อยู่ตามลําพัง
เฉินเถียนเถียนไปที่ลานบ้านตระกูลเฉิน แต่ก็ไม่มีใครอยู่ที่นั้น!
คนอย่างหลินชวนฮวาจะปล่อยให้เฉินเฉินออกไปได้อย่างไร ต้องถูกขังไว้ในบ้านสิ! การที่เฉินเฉินไม่อยู่ที่นี่เป็นไปได้ว่า เขาต้องแอบวิ่งออกไปเอง!
นอกจากลานบ้านแล้วจะไปที่ไหนได้อีกล่ะ? เฉินเถียนเถียนแทบจะไม่นึกถึงที่อื่นเลย ยกเว้นถ้ำของหยุนเคอ!
ดังนั้นเมื่อเฉินเถียนเถียนเดินเข้าไปในถ้ําก็เห็นภาพนี้
“เฉินเอ๋อ? หลินชวนฮวาตีเจ้าอีกแล้วหรือ? เหตุใดนางถึงทําร้ายเจ้าอีก?”
เมื่ออยู่ต่อหน้าหยุนเคอที่เป็นคนนอก เขายังพอทนได้ แต่เมื่อเห็นพี่สาวอยู่ใกล้ ๆ ก็ไม่สามารถแบกรับความคับข้องใจ อีกต่อไปได้และเริ่มร้องไห้ออกมา
“หลินชวนฮวา นังสารเลว! เจ้าเป็นลูกชายแท้ ๆ ของนางกล้าดีอย่างไรถึงทํากับเจ้าแบบนี้? ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวข้าจะเอาคืนให้สาสม!”
เฉินเถียนเถียนไม่สามารถอดกลั้นกับความโกรธนี้ได้อีกต่อไป นางจึงผละออกไปอย่างฉุนเฉียว!
ในตอนนั้น หยุนเคอที่อยู่ข้าง ๆ ก็กล่าวออกมาอย่างเป็นชา “ในเมื่อรู้ว่านี่คือลูกชายแท้ ๆ ของนาง เจ้าจะจัดการเรื่องนี้ได้หรือ?”
เฉินเถียนเถียนที่ถูกถาม สงบลงราวกับโดนนเย็นสาดนางไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่จะไปลงโทษผู้กระทําผิดได้!
“แต่เจ้าจะปล่อยนางไปหรือ? เด็กเล็กแค่นี้ นางกลับลงมือได้อย่างโหดร้าย! หากไม่ระวังจนเกิดเรื่องร้ายกับเขาจะทําอย่างไร? เฉินผิงอันนั้นเป็นคนโง่งม เขาไม่เคยจะสนใจเรื่องพวกนี้!”
เฉินเฉินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้น ร่างกายผอมบางของเขาสวมเสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าตัวไปหลายขนาด ยิ่งทําให้ดูหลวมโพรก!
“ไม่ต้องกังวล! เฉินเอ๋อ… ข้าคิดว่าเจ้าควรบอกเรื่องนี้ กับเฉินผิงอัน! แม้ว่าเฉินผิงอันจะเป็นคนไร้จิตสํานึก แต่อย่างไรเจ้าก็เป็นลูกชายของเขา ไม่มีทางที่เขาจะละเลยเจ้าได้!”
เฉินเฉินสะอื้นไห้แล้วพูดขึ้น “พูดไปก็ไร้ประโยชน์! ท่านแม่ ท่านแม่เอาแต่บอกว่าข้าซนและอยากแต่จะไปเรียน เท่านั้นนางก็ไม่สนใจข้าแล้ว แต่ถ้านางรู้ว่าข้าฟ้องท่านพ่อ ครั้งหน้าข้าคงโดนหนักกว่านี้!”
นี่ก็เป็นปัญหาเช่นกัน เฉินผิงอันไม่ได้อยู่บ้านตลอดเวลา ตราบใดที่เขาออกไปข้างนอก หลินชวนฮวาก็จะสบโอกาสทําร้ายเฉินเฉินอีก!
“เอาล่ะ ต่อไปถ้าหลินชวนฮวาตีเจ้า ต้องรีบวิ่งหนี รู้หรือ ไม่? อย่ายืนโง่ ๆ แล้วปล่อยให้นางตี! และตราบใดที่เฉินผิงอันไม่อยู่บ้าน เจ้าควรอยู่ต่อหน้าหลินชวนฮวาให้น้อยที่สุด!”
เฉินเฉินพยักหน้าอย่างรู้ความ
“พี่สาว วันนี้ท่านควรสอนข้าอ่านหนังสือต่อ!”
เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ดวงตาอันเฉียบคมของหยุนเคอก็มองไปยังเฉินเถียนเถียนทันที!
จําได้ว่าครั้งล่าสุดหญิงผู้นี้บอกว่านางไม่รู้หนังสือ? ดูเหมือนว่าคําโกหกจะถูกเปิดเผยในตอนนี้?
แม้ว่าเฉินเถียนเถียนจะหน้าแดงเล็กน้อย แต่นางก็หน้าด้านทําที่ไม่มองหยุนเคอและหันไปนั่งลงบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบชุดหนังสือออกมาจากด้านบนของตู้หนังสือ
จากนั้นก็ไม่สนใจการมีตัวตนของหยุนเคอ และเริ่มสอนเฉินเฉินอ่านหนังสือในแบบของตัวเอง!
ความรู้สึกของหยุนเคอค่อย ๆ เปลี่ยนจากความสนใจเป็นความชื่นชม!
แม้ว่าเฉินเฉินจะมีเหตุผล แต่เขาก็ยังคงเป็นเด็ก! เด็กที่สมาธิยังไม่แน่วแน่ เมื่อต้องนั่งนาน ๆ ก็มักจะอยากออกไปวิ่งเล่น!
แต่เรื่องสั้นที่เล่าโดยเฉินเถียนเถียน ไม่เพียงแต่มีความจริงที่เฉียบคมเท่านั้น ยังทําให้เด็ก ๆ ซึมซับไปกับมันและ รู้สึกอัศจรรย์จนไม่อยากหยุดเรียน!
เฉินเถียนเถียนมั่นใจเรื่องการสอนมาก ประสบการณ์พัน ปีของนางจะด้อยไปกว่าความดื้อรั้นของเด็กในยุคนี้ได้อย่างไร?
หญิงสาวที่มีความมั่นใจและเฉลียวฉลาด จึงสามารถดึงดูดใจผู้อื่นได้ เฉินเถียนเถียนพูดคุยและอธิบายอย่างอดทนเมื่อเด็กน้อยไม่เข้าใจ แววตาของหยุนเคออ่อนลงอ ย่างช่วยไม่ได้ เขาแทบจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยซ้ํา!
เฉินเฉินเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ ประกอบกับวิธีการสอนของเฉินเถียนเถียน เขาจึงยิ่งใฝ่เรียนใฝ่รู้
จนช่วงเช้าผ่านไป เฉินเฉินผู้หิวโหยก็ยกศีรษะขึ้นจากทะเลแห่งหนังสือ!
“หิวแล้วหรือ? ข้ารู้ว่าแม่ของเจ้าไม่ให้กินข้าว! แต่วันนี้พี่ สาวจงใจไม่ให้เจ้ากินมื้อเช้าและปล่อยให้เจ้าหิวคราวนี้รู้ หรือยัง? ถ้าเจ้าหิวก็ต้องบอก หากไม่พูดออกมาจะมีผู้ใดรู้ หรือว่าหิว?”
เฉินเฉินมองเฉินเถียนเถียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างจริงจัง เขาคาดไม่ถึงเพราะคิดว่าเฉินเดียนเถียนโกรธจนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
เห็นเด็กน้อยพยักหน้า เฉินเดียนเถียนก็คิดว่าเขาทําอย่างขอไปที่ เมื่อหันไปสบตากับหยุนเคอที่มองมาอย่างมีความหมาย ก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้!
“หยุนเคอ ดูท่าว่าข้าจะต้องยืมสถานที่ของท่านอีกครั้ง ข้าจะเข้าไปทําอาหารในครัว พวกเราจะกินข้าวกันในถ้ำนี้ ท่านไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่?”
หยุนเคอพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัวจากนั้นก็นั่งดูเฉินเฉินฝึกเขียน!
เฉินเถียนเถียนยังเขียนบางคําลงไประหว่างบทเรียนทั้งในแนวตั้งและแนวนอน แต่ดูเหมือนน้ําหนักมือจะยังขาดความหนักแน่น!
หยุนเคอหยิบปากกาในมือของเฉินเฉินและกระดาษข้างบนโต๊ะ ก่อนจะตวัดมือราวกับหงส์บินร่ายรํา เพื่อคัดลอกคําที่เฉินเถียนเถียนเขียนขึ้นมาอีกครั้ง!