ตอนที่ 139 การย้อนเวลา
“เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อน ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือผมทําให้คุณมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่พร้อมกับฟื้นความสามารถพิเศษให้กับคุณ ส่วนเหตุผลเดี๋ยวผมจะอธิบายให้คุณฟังในภายหลัง ดังนั้นในตอนนี้ผมจะส่งคุณกลับไปที่เดิมก่อนที่คุณจะจากมา โดยหลงเหลือความทรงจําเอาไว้” ซู่เจินเดินไปกุมมือของแคลร์เอาไว้พร้อมกับอธิบายขึ้นมาอย่างช้า ๆ ทําให้แก้มของแคลร์แดงขึ้นมา และค่อยๆมองไปที่ซู่เจิน “คุณเชื่อผมไหม ?”
” เชื่อสิ!” แคลร์พูดขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ซู่เจินด้วยสายตาจริงจัง
” ดีมาก เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจะพาคุณไปเปิดโลกใหม่!” ซู่เจินก้มหัวลงพร้อมกับจูบไปที่ปากของแคลร์ หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็แยกออกจากกัน และซู่เจินก็ส่งแคลร์ออกจากสนามประลองไป
“ระบบ ส่งฉันออกจากดันเจี้ยน”
ซู่เจินพูดขึ้นมาด้วยน้ําเสียงนุ่มลึก ผ่านไปไม่นานทิวทัศน์เบื้องหน้าของซู่เจินก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับร่างของเขาที่ปรากฏตัวขึ้นในห้องพักในโรงแรมก่อนที่เขาจะเข้าไปในดันเจี้ยน
และเมื่อเขาลองมองไปยังแผนผังบนกําแพงห้อง เขาก็รู้ได้ในทันทีเลยว่าห้องของเขาในตอนนี้มีคนอื่นเข้ามาอยู่อาศัยแทนเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเขาได้จองห้องนี้เอาไว้เป็นเวลา 7 วัน และตอนนี้มันก็เลย 7 วันไปแล้ว
ซู่เจินไม่ได้รีบร้อนที่จะออกจากห้องไปในตอนนี้ แต่เขาใช้ความสามารถในการหาตําแหน่งของ สกาย บริ้งค์ และคนอื่น ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานตําแหน่งของพวกเธอก็มาอยู่ในหัวของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันช่างเป็นความสามารถที่ดีมากเลยจริง ๆ
มุมปากของซู่เจินยกขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานร่างของซู่เจินก็หายไปในพริบตา
วินาทีต่อมา ซู่เจินก็มาปรากฏตัวขึ้นในห้องของสกาย
ในขณะเดียวกันสกายที่เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกําลังจะหันหลังกลับเพื่อไปพักผ่อน ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่ามีใครบางคนอยู่ในห้องของเธอ และเมื่อเธอเห็นว่าเขาคนนั้นเป็นใคร เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า ” ที่รักฉันตกใจหมดเลย คุณเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทําไมฉันถึงไม่ได้ยินเสียงเลยล่ะ ?”
” ผมเพิ่งเข้ามาเอง ขอโทษนะที่รัก ทั้งที่ผมบอกว่าจะใช้ช่วงเวลา 1 เดือนนี้ในการอยู่กับคุณ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ชอบหายตัวไปอยู่บ่อย ๆ” ซู่เจินเดินเข้าไปกอดเอวของสกายเอาไว้พร้อมกับพูดขอโทษขึ้นมา
สกายส่ายหัวเบา ๆ และพูดว่า “ไม่เป็นไร เพราะฉันรู้ว่าคุณมีธุรอะไรบางอย่างที่จะต้องจัดการ แต่ … คุณรู้ไหมตอนนี้เจมมากลายเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษแล้วนะ ฉันคิดว่าถ้า … ฉันหมายถึงถ้าเกิดว่าฉันมีความสามารถพิเศษแบบนั้น ฉันก็อาจจะช่วยคุณได้มากกว่านี้”
เมื่อซู่เจินได้ยินความปรารถนาอันแรงกล้าภายในหัวใจของสกาย เขาก็มองไปที่สกายด้วยสายตาจริงจัง และพูดว่า” เชื่อผมสิ คุณจะได้รับมันอย่างแน่นอน!”
“เดี๋ยวผมจะหาคุณอีกทีในภายหลัง งั้นผมขอตัวก่อนนะ เพราะว่าตอนนี้ผมยังมีบางอย่างที่จะต้องจัดการอยู่อีกนิดหน่อย”
“อืม” สกายพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ แต่ทันใดนั้นเธอก็พบว่าซู่เจินที่อยู่ตรงหน้าของเธอ จู่ๆก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน
หลังจากนั้นเธอก็ลองเอื้อมมือไปสัมผัสบริเวณโดยรอบด้วยความสงสัย สงสัยว่าซูเจินหายตัวไปได้อย่างไร?
เมื่อเจ็ดเดือนก่อนที่สงครามกลางนิวยอร์ค โควสันถูกโลกแทงเข้าที่หัวใจจนหัวใจของเขาแตกสลาย หลังจากนั้นร่างของเขาก็ถูกส่งกลับไปยังฐานลับที่ถูกเรียกว่า “เกสท์เฮ้าส์” เพื่อรับการรักษา ซึ่งยาที่ใช้สําหรับการรักษาโควสันถูกเรียกว่า GH325 ที่ถูกสกัดมาจากร่างของมนุษย์ต่างดาว
ซึ่งจุดประสงค์ของซู่เจินก็คือยาตัวนี้!
เขากําลังจะย้อนเวลากลับไปในอดีต ก่อนที่โควสันจะถูกยาตัวนี้ฉีดเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเอายาตัวนี้มา โดยเฉพาะอย่างยิ่งศพของมนุษย์ต่างดาว
หลังจากที่ซู่เจินแยกตัวออกมาจากสกาย เขาก็มาปรากฏตัวขึ้นที่นิวยอร์ค
อย่างไรก็ตามที่นี่คือนิวยอร์คเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ถามว่าทําไมเขาถึงได้เลื่อนเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือน นั่นก็เพราะว่าเขาจะได้มั่นใจได้ว่าในตอนนี้โควสันได้อยู่ใน “เกสท์เฮ้าส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทําให้เขาสามารถหาตําแหน่งของโควสันได้ ซึ่งตอนนี้โควสันก็อยู่ที่
“ทําไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ?”
เมื่อซู่เจินเห็นตําแหน่งของโควสันเขาก็รู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย วินาทีต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และเขาก็เห็นว่าโควสันในตอนนี้กําลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง
และเมื่อลองสังเกตไปยังร่างกายหรือหน้าตาของเขา ซู่เจินก็พบว่าเขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บอะไรเลย
” เกิดอะไรขึ้น ? เขาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วหลังจากเกิดสงครามกลางนิวยอร์คอย่างงั้นหรอ ?”
ซู่เจินขมวดคิ้วขึ้นมา ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตไปเห็นคนที่กําลังเดินผ่านเขาไปกําลังถือหนังสือพิมพ์อยู่ ทําให้ซูเจินหยุดเวลาเอาไว้พร้อมกับเดินเข้าไปอ่านหนังสือพิมพ์ ซึ่งภายในหนังสือพิมพ์อันนี้มันก็มีข่าวเกี่ยวกับสงครามกลางนิวยอร์คอยู่ แต่ข่าวอันนั้นมันก็ผ่านมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว
“ดูเหมือนว่าฉันจะกะเวลาพลาดไปนิดหน่อย”
หลังจากรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซู่เจินก็เริ่มใช้ความสามารถของเขาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากนั้น ไม่นานเขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่นิวยอร์คอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งแรกที่เขามาที่นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาลองกําหนดระยะเวลาในการย้อนเวลา และหลังจากที่เขารู้ระยะเวลาจนแน่ชัดแล้ว เขาก็สามารถเริ่มลงมือตามแผนการของเขาได้ในทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เจอตําแหน่งของโควสัน พร้อมกับร่างของเขาที่ปรากฏตัวขึ้นมาข้าง ๆ โควสันอย่างรวดเร็ว
ในห้องผ่าตัดในตอนนี้ค่อนข้างที่จะมืดสลัวเล็กน้อย โดยมีโควสันที่กําลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ ซึ่งหัวของเขาในตอนนี้ถูกผ่าออกจนเผยให้เห็นสมองที่อยู่ภายใน และภายในหัวสมองของโควสันก็มีเครื่องจักรที่กําลังทํางานอยู่ตลอดเวลาเพื่อกระตุ้นสมองของเขา …
และยังมีหมออยู่สองคนที่กําลังยืนมองโควสันอยู่ใกล้ ๆ เพื่อคอยสังเกตอาการของโควสัน
” คุณเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!”
เมื่อเห็นว่าจู่ๆซู่เจินก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทําให้พวกเขาทั้งสองถึงกับตกใจและรีบตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
ซู่เจินถึงกับชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะมองไปยังหมอทั้งสองคนด้วยแววตาที่น่ากลัว และค่อย ๆ เดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างช้า ๆ ด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเหยียดมือออกมาและโบกเบา ๆ เพื่อลบความทรงจําของหมอทั้งสองคนนี้ทิ้งซะ
หลังจากนั้นซูเจินก็หายตัวไปครู่หนึ่ง และค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นมาที่เดิม โดยตอนนี้โควสันและหมอทั้งสองคนได้หายไปแล้ว
เขากลับสู่ช่วงเวลาเดิม
เขารีบเดินไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานยา GH325 ก็ถูกซู่เจินหาเจออย่างรวดเร็ว พร้อมกับเก็บพวกมันเข้าไปในมิติเก็บของ หลังจากนั้นซู่เจินก็เดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาเจอกับภาชนะที่เก็บศพของมนุษย์ต่างดาวเอาไว้
หลังจากเปิดมันออกมา ซู่เจินก็เห็นร่างของมนุษย์ต่างดาวที่เหลือเพียงแค่ร่างกายส่วนบนโดยผิวของมนุษย์ต่างดาวตัวนี้เป็นสีฟ้า และมีท่อหลายอันติดอยู่ตามร่างกายของเขา
“นี่คือ “ครี” อย่างงั้นหรอ ? เขาว่ากันว่า ครี คือผู้สร้างอินฮิวแมนขึ้นมา ดังนั้นยาตัวนี้มันจึงไม่มีผลข้างเคียงสําหรับอินฮิวแมน ตัวเช่น สกาย”
ศพของชาวครีถูกซูเจินนําไปเก็บเอาไว้ในมิติเก็บของ พร้อมกับแฟลชไดร์ฟที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้ หลังจากนั้นร่างของซูเจินก็หายไป และปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในห้องนอนบนยานบินของดาร์คเอลฟ์
“เฮ้อ ………….”
หลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว
เวลาค่อย ๆ ไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ โดยการเดินทางข้ามกาลเวลาของซู่เจินนั้นเป็นอะไรที่ เหนื่อยมาก ๆ มันดูดพลังงานภายในร่างกายของเขาไปอย่างมหาศาล ทําให้ซู่เจินในตอนนี้รู้สึกอ่อนแอเป็นพิเศษ
“ไม่คิดเลยว่าความสามารถของนากามูระมันจะกินพลังงานมากขนาดนี้ ทั้งที่นากามูระสา
ประมาณ 10 นาที เขาก็รู้สึกได้ว่าพลังงานภายในร่างกายในตอนนี้มันฟื้นตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะถึงอย่างไรท้ายที่สุดแล้วสมรรถภาพทางร่างกายของเขาก็แตกต่างกับของนากามูระอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าเขาจะใช้พลังงานไปจํานวนมหาศาล แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถฟื้นฟูมันกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งร่างกายของเขาในตอนนี้มันเหมาะกับความสามารถนี้ยิ่งกว่าของนากามูระเสียอีก